Share

บทที่ 291

Author: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นเบิกตาอย่างดุดัน สีหน้าตึงเครียด

“กองทัพธงเหลืองมีความเป็นมาอย่างไร?”

มั่วฝานหยิบม้วนเอกสารลับออกมาจากอกเสื้อ แล้วส่งให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือ

จ้านเฉิงอิ้นดึงกระดาษสีขาวในกระบอกไม้ไผ่ออกมา

เขาเปิดเอกสารลับนั้นอย่างระมัดระวัง

ข้อความเขียนโดยหน่วยกล้าตาย พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงบุคคลสำคัญในระดับสูงได้ สมาชิกทั้งหมดในตอนนี้ กินโจ๊กที่ทำจากข้าวฟ่าง

ข้าวฟ่างสะอาดมาก ไม่มีกรวดปะปน ไม่มีการผสมเปลือกข้าวและรำข้าว

ข้าวฟ่าง หรืออีกชื่อคือข้าวเม็ดเล็ก เป็นสิ่งที่ท่านเทพประทานมาให้จำนวนมาก

ชาวบ้านในด่านเจิ้นกวนกลับชอบกินข้าวขาวและแป้งสาลีมากกว่า ข้าวขาวนำมาทำเป็นโจ๊ก ส่วนแป้งสาลีนำมาทำเป็นแป้งเหลวหรือก้อนแป้ง

ข้าวเม็ดเล็กกลับไม่มีใครเต็มใจจะแลก ดังนั้นจึงถูกกองไว้ในคลังเสบียง

ปัจจุบันนี้ ความอดอยากเกิดขึ้นมาหนึ่งปีแล้ว ธัญพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ แม้จะมีข้าวเก็บ ก็ไม่อาจเพียงพอเลี้ยงคนจำนวนมากขนาดนี้ได้

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังกองทัพธงเหลือง เกรงว่าคงมาจากโลกเดียวกับเทพเจ้า

ใต้กระดาษสีขาวนั้น มีภาพวาดของอาวุธที่กองทัพธงเหลืองใช้งาน

ส่วนใหญ่เป็นดาบและกระบี่ รวมถึงอาวุธทหารรูป
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 292

    เธอค้นหาหนังสือจากในตู้หนังสือแถมหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “อุดมการณ์และแนวคิดของมาร์กซิสต์-เลนินนิสต์”เธอถอดม้วนกระดาษบทกวีที่มีชื่อว่า “วสันต์สวนชิ่น : หิมะ” ที่แขวนอยู่บนผนังลงมาเธออุ้มหนังสือที่ซ้อนทับ พร้อมเขียนข้อความลงบนกระดาษ ส่งหนังสือที่ล้ำค่า รวมถึงม้วนบทกวีเหล่านี้ขอให้เขาอ่านให้จบก่อนส่วนเรื่องการบริหารจัดการชาวบ้านในชายแดนด่านเจิ้นกวนอย่างไรในอนาคต เธอจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างไรก็ตาม หากมีการก่อกบฏทุกพื้นที่ หากต้องการดึงกองกำลังก่อกบฏอื่น ๆ มาเข้าพวก จะต้องพิจารณาปัญหาจากจุดยืนของพวกเขาต้องทำให้ชาวบ้านจำนวนมากมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ส่วนแคว้นต้าฉี่ในตอนนี้ เธอยังไม่แน่ใจว่าระบบที่ใช้อยู่คือระบบทาสหรือระบบศักดินาเย่มู่มู่โยนแท็บเล็ตและกระดาษข้อความลงไปจากนั้นก็ใส่หนังสือจำนวนหนึ่งกับม้วนภาพม้วนหนึ่งลงในแจกันในตอนนั้น คนหวงโทรศัพท์หาเธอ แจ้งว่าขบวนรถห้าคันของพวกเขาเดินทางมาถึงโกดังที่ตีนเขาแล้ว เถ้าแก่ชียังส่งรถบรรทุกปลายข้าวมาอีกหนึ่งคัน ตอนนี้กำลังจอดรถเพื่อขนถ่ายสินค้าอยู่ที่ตีนเขา เย่มู่มู่กอดแจกันไว้แน่นก่อนจะขับรถกระบะลงจากภูเขา *จ้านเฉิงอิ้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 293

    หลังจากรถขุดถูกส่งลงมา จ้านเฉิงอิ้นสั่งให้เฉินขุยไปหาคนมาเรียนรู้วิธีการใช้งานรถขุดในชั่วพริบตา เหล่าทหารผ่านศึกพากันล้อมเฉินขุยแน่นขนัด ต่างแย่งกันอยากเรียนวิธีขับรถขุดผู้ที่ได้ขับเครื่องจักรยักษ์ใหญ่เช่นนี้ คงจะดูสง่างามและทรงอำนาจนี่จึงถือเป็นทักษะชั้นเลิศที่ทุกคนล้วนอยากได้ในค่ายทหาร ผู้ที่ขับรถบรรทุกใหญ่ได้ จะได้รับอาหารทุกมื้อเทียบเท่ากับเหล่าแม่ทัพแถมยังมีสิ่งของพิเศษ เช่น สบู่ ผ้าขนหนู และผงซักฟอกปริมาณเสบียงที่ได้รับก็เป็นสองเท่าของทหารผ่านศึก...มีแม่สื่อไม่น้อยที่แย่งกันมาทาบทามให้เขาแต่งงาน จนธรณีประตูแทบพังยิ่งไปกว่านั้น ชายเช่นนี้เพียงแค่ก้าวออกจากบ้าน ก็สามารถเก็บผ้าเช็ดหน้าได้เป็นสิบผืน ในอกเต็มไปด้วยขนมของว่างถึงขั้นมีสาวแรกรุ่นหลายคนมาเยือนถึงหน้าประตูบ้าน แย่งกันประกาศตัวอยากแต่งงานกับเขาเหล่าทหารหนุ่มโสดในค่าย ต่างอิจฉาตาร้อน!เฉินขุยถูกทหารผ่านศึกรุมล้อมจนก้าวเดินไปอย่างยากลำบาก สุดท้าย มั่วฝานจึงต้องเข้ามาช่วยลากเขาออกมาได้สำเร็จ!หลังจากนั้น มั่วฝานก็กลายเป็นบุรุษคนแรกที่ได้ขับรถขุดในค่ายทหาร!*ที่ด่านเจิ้นกวน ในคืนที่จันทร์กระจ่างดาราริบหร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 294

    นี่คือสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในสายเลือดของพวกเขา หยุดพักแค่วันเดียวก็รู้สึกผิดแล้วชาวบ้านที่ด่านเจิ้นกวนที่เห็นชาวแคว้นฉู่ขยันขันแข็งถึงเพียงนี้ ก็ยิ่งทุ่มเททำงานหนักขึ้นกว่าเดิมจ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่งให้ติดประกาศไว้ที่ประตูเมืองทั้งสี่ทิศ“ประชาชนในเมือง ผู้ใดทำการเพาะปลูกที่ดินหนึ่งหมู่ จะได้รับรางวัลข้าวปลายหนึ่งชั่ง”“เพาะปลูกที่ดินห้าหมู่ จะได้รับแป้งสาลีหรือข้าวฟ่างหนึ่งชั่ง”“เพาะปลูกที่ดินสิบหมู่ จะได้รับผักสดห้าชั่ง และเกลือหนึ่งถุง”“เพาะปลูกที่ดินยี่สิบหมู่ จะได้รับเนื้อสองชั่ง และผ้าหนึ่งม้วน”“เพาะปลูกที่ดินสามสิบหมู่ จะได้รับเครื่องมือเกษตรที่ใช้แล้วหนึ่งชุด สบู่กำมะถันหนึ่งก้อน ผ้าขนหนูหนึ่งผืน และชุดเครื่องใช้สแตนเลสหนึ่งชุด...”“เพาะปลูกที่ดินห้าสิบหมู่ขึ้นไป จะได้รับที่ดิน และกองทัพตระกูลจ้านจะช่วยสร้างบ้านให้ พร้อมทั้งจดทะเบียนกลายเป็นประชาชนของแคว้นต้าฉีถาวร!!”“รางวัลทั้งหมดนี้สามารถสะสมได้ ระหว่างช่วงเพาะปลูก จะมีข้าวต้มขาวสองมื้อทุกวัน โดยมีไข่และหมูสับรวมอยู่ด้วย...”เมื่อประกาศถูกเผยแพร่ออกไปเหล่าชาวบ้านผู้อพยพใหม่ที่เข้ามาในด่านเจิ้นกวน รวมถึงชาวแคว้นฉู่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 295

    เย่มู่มู่บินต่อเนื่องมาครึ่งเดือนเต็ม และในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองร้านขายของโบราณได้รับการตกแต่งจนเสร็จเรียบร้อย พร้อมสำหรับการเปิดร้านในวันเปิดร้านและตัดริบบิ้น เธอนำไม้เนื้อดีล้ำค่าที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมา ถูกนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ครึ่งสำเร็จรูป แล้วนำมาวางขายในร้าน!ทั้งหมดนี้เป็นของที่แม่ทัพเฉินขุยส่งมาจากสำนักช่างไม้ ส่งเก้าอี้หวงหลีฮวาที่อยู่ในขั้นตอนทำเสร็จครึ่งเดียว...เปลไม้ขนาดเล็กและดาบไม้เล็กที่ทำจากไม้หนานมู่เนื้อทองชามไม้ใบเล็กและตัวต่อหลู่ปันที่ทำจากไม้ยินเฉิน...รวมทั้งหมดสิบกว่าชิ้นเธอขับรถกระบะเข้าไปในถนนสายของโบราณ ทั้งถนนประดับไปด้วยตะกร้าดอกไม้ตะกร้าดอกไม้เหล่านี้เป็นของขวัญแสดงความยินดีที่ส่งมาจากประธานสมาคมการค้าใหญ่ และนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลเย่มู่มู่ขณะเดียวกันก็ยังพึมพำในใจนี่เป็นร้านของใครกัน ถึงกับเปิดในวันเดียวกับร้านของเธอแต่เมื่อเธอจอดรถตรงหน้าร้านของตัวเอง ก็เห็นตะกร้าดอกไม้นับไม่ถ้วนเรียงรายอยู่ยังไม่รวมบอดีการ์ดในชุดดำที่ยืนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบอยู่สองฝั่งข้างร้าน กีดขวางหน้าประตูร้านอื่นจนหมด!แต่ไม่มีใครออกมาพูดอะไรสักคำ!เย่มู่มู่เห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 296

    เย่มู่มู่เปิดท้ายรถ หยิบเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งที่ยังไม่ได้ลงสีออกมา“ไม้หวงฮวาหลีท่านลองดูสิว่าใช่หรือเปล่า?”ผู้อาวุโสจางรับมาชั่งน้ำหนักในมือก่อนจะพิจารณาดูเนื้อไม้ใกล้ ๆ“มันคือไม้หวงฮวาหลีจริง ๆ!”“เก้าอี้ตัวนี้ผมเอา!”ผู้อาวุโสมู่พึ่งก้าวออกมาจากหน้าร้าน เห็นสองคนที่หน้าด้านแย่งกันซื้อของโบราณ เขาตะโกนเสียงดังลั่น “วางลง วางของลงเดี๋ยวนี้!”“ตอนนี้ ทุกคนถอยไป! ซ่งจือเซี่ยน ลู่เทา...ยังไม่รีบออกมาขนของอีก?”บรรดาผู้มีอิทธิพลต่างถอยกรูดทันทีหลังผู้อาวุโสมู่ตวาดลั่นเวินลี่ สวีหยาง ซ่งจือเซี่ยน และลู่เทารีบออกมาจากในร้านทันที พวกเขาช่วยกันยกของโบราณออกจากท้ายรถอย่างระมัดระวังวันนี้ ผู้อำนวยการหลี่เจิ้งชิงและรองผู้อำนวยการจางต่างก็มาแล้วเมื่อได้ยินเสียงเอะอะ พวกเขารีบเดินออกมาจากหน้าร้านทันทีที่เห็นเฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณอายุกว่าสองพันปี ทั้งคู่ต่างรีบวิ่งกรูลงมาผู้อำนวยการหลี่มือสั่นเทา เมื่อรับชามไม้ที่ยังไม่ได้เคลือบ ใต้ก้นชามมีอักษรรูปภาพโบราณ เขาหัวเราะจนปากแทบหุบไม่ลง“มาถูกที่แล้ว มาคราวนี้คุ้มจริง ๆ!”จางหลินช่วยยกเก้าอี้อย่างระมัดระวัง เก้าอี้ตัวนั้นมีรูปทรงค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 297

    เย่มู่มู่เห็นคนงานในไซต์ก่อสร้างทำงานจนเหงื่อท่วมตัว เธอจึงเหมาซื้อน้ำและเครื่องดื่มทั้งหมดในตู้แช่ริมถนนคนงานแต่ละคนได้รับน้ำคนละขวด และไอศกรีมแท่งคนละแท่งในตู้เย็นยังมีของเหลือพอสำหรับรอบที่สองให้พวกเขาดื่มกินอีกหัวหน้าผู้รับเหมาเห็นว่าเย่มู่มู่เป็นคนพูดคุยง่าย จึงถามขึ้น“คุณหนูเย่ครับ แผนกบริหารตลาดการค้าเกษตร ท่านคิดจะให้ใครมาดูแลครับ? ได้คนแล้วหรือยัง?”“ถ้าท่านไม่ได้มาคอยดูเองบ่อย ๆ ก็ต้องหาคนที่ไว้ใจได้มาทำแทนนะครับ!”เย่มู่มู่ยิ้มแล้วตอบว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ในเมื่อผู้ใหญ่บ้านแนะนำคุณมาให้ฉันได้ ฉันก็ไว้ใจคนที่เขาแนะนำได้เหมือนกัน!”หัวหน้าผู้รับเหมาหัวเราะเจื่อน ๆ “ช่วงสองสามปีนี้งานก่อสร้างไม่ค่อยดีเลยครับ อสังหาริมทรัพย์กำลังตกต่ำ งานหลายที่ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ผมเองก็คิดอยากเปลี่ยนสายงานเหมือนกัน” เย่มู่มู่ไม่ได้ไม่เชื่อใจหัวหน้าผู้รับเหมา เพียงแค่ยังรู้จักเขาไม่มากพอ“พวกเรามาช่วยกันสร้างตลาดให้เสร็จก่อนนะคะ ท่านอยู่แถวนี้รู้จักคนเยอะ...”เย่มู่มู่ไม่ได้พูดต่อแต่หัวหน้าผู้รับเหมาเองก็ไม่ใช่คนซื่อจนไม่เข้าใจ เขาเข้าใจความหมายที่เย่มู่มู่ต้องการสื่อถ้าเขาทำงา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 298

    “ว้าว~”“ทองคำและเงินสมบัติกว่าหนึ่งร้อยสามสิบหีบ!”เย่มู่มู่แทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าขายออกทั้งหมดจะได้เงินเท่าไร!และยิ่งไปกว่านั้น คฤหาสน์หลังนี้ก็ใกล้จะไม่มีที่เก็บแล้วจริง ๆถ้าส่งสมบัติเหล่านี้มาจริง ๆ คงต้องจัดการห้องโฮมเธียเตอร์ในชั้นใต้ดินชั้นสองออกไปก่อน“สมบัติชุดนี้ฝากไว้ที่เจ้าก่อนนะ ทางข้าไม่มีที่จะวางแล้ว”จากนั้น จ้านเฉิงอิ้นก็ส่งข้อความตอบกลับมาอีก“อืม เดือนหน้า จะมีร้านค้าจากอีกหลายสิบแห่งย้ายเข้ามาที่ด่านเจิ้นกวน พวกเขาก็จะมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เหมือนกัน ตอนนั้นคงมีสมบัติอีกมากเพิ่มเข้ามา!”“ท่านเทพ ข้าจะช่วยท่านเก็บสมบัติไว้ก่อน ท่านจะใช้เมื่อได้ก็ได้!”เย่มู่มู่อ่านข้อความบนกระดาษแล้วหัวเราะออกมาดูสิ~สมกับเป็นแม่ทัพใหญ่ที่เธอเลี้ยงดูมาจริง ๆ! ยอมมอบเงินให้โดยสมัครใจ!ทันใดนั้น เย่มู่มู่ก็นึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้จ้านเฉิงอิ้นเคยฝากหยกเนื้อดีที่ทำจากหยกไขมันแกะไว้กับเธอที่นี่คงถึงเวลาที่ต้องคืนเขาแล้วเธอเดินขึ้นไปหยิบกล่องผ้าที่เก็บไว้ในห้อง ภายในนั้นบรรจุหยกแขวนของจ้านเฉิงอิ้นไว้ระหว่างนั้น ก็ยังนึกถึงของขวัญที่ได้รับวันนี้ในงานเปิดร้านให

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 299

    ผู้ที่ลงมือวางยาคงคาดไม่ถึงว่า ทะเลสาบเก็บน้ำแห่งนี้มีทหารคอยเฝ้ารักษาการอยู่ตลอดเวลาเส้นทางขึ้นเขาทุกสายล้วนติดตั้งกล้องวงจรปิด หากมีผู้ใดขึ้นเขามา ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ระบบสัญญาณเตือนภัยที่ติดตั้งไว้จะถูกเปิดใช้งานในทันที เพื่อแจ้งเตือนทหารที่เฝ้าทะเลสาบเสียงของจ้านเฉิงอิ้นเย็นชา “ง้างปากพวกมันให้ได้ ยืนยันให้ได้ว่าคนของเสนาบดีซูเป็นผู้ลงมือวางยา!”“รับทราบ ท่านแม่ทัพ!” เทียนฉินขานรับ ก่อนจะรีบออกจากกระโจมไปในขณะนั้นเอง เหล่าทหารหลายนายเดินเข้ามายังกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะยกมือทำความเคารพเฉินขุยเอ่ยขึ้นก่อนใคร “ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยไม่อาจทนกับพวกสามคนนั้นได้อีกแล้ว หากท่านอนุญาต ข้าน้อยขอจัดการพวกมันด้วยดาบ!”จ้านเฉิงอิ้นเงยหน้าขึ้น กวาดมองทุกคนพบว่าหลายคนมีสีหน้าขุ่นเคือง โดยเฉพาะเฉินขุย ที่ดูเหมือนจะโกรธจนหน้าแดงก่ำคิ้วคมของจ้านเฉิงอิ้นขมวดเล็กน้อย ถามเขาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลี่หยวนจงรีบก้าวขึ้นมารายงานก่อน “ท่านแม่ทัพ ขุนนางผู้ตรวจการซ่งจิ้น เพิ่งจะออกไปเดินหาโรงเตี๊ยมตามท้องถนน หวังจะเที่ยวหอนางโลม แต่ที่ด่านเจิ้นกวนของพวกเราจะมีหอนางโลมได้อย

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status