แชร์

บทที่ 340

ผู้เขียน: มู่โร่ว
เฉินขุยเกาศีรษะอย่างอิหลักอิเหลื่อ “ก็ตอนนี้ข้าเข้าใจเขาแล้วไม่ใช่หรือ?”

“กองทัพตระกูลจ้านเราถูกเผ่าหมานปิดล้อมร่วมหนึ่งปี ทำศึกทหารตายไปมากมาย ข้าคิดว่าพวกเราก็น่าเวทนาพอแล้ว”

“เมื่อเทียบจุดนี้กับเซี่ยเวย เขาถูกคนของตัวเองกินทหารไปครึ่งหนึ่ง ทว่าจนปัญญา ภายในใจยิ่งรู้สึกหดหู่ใจ”

“คิด ๆ ดูแล้วเขายากลำบากยิ่งนัก ต่อไปดึงเข้ามาเป็นพวกแล้ว ก็ทำดีกับเขาหน่อยแล้วกัน!”

มั่วฝานชำเลืองมองเฉินขุยทีหนึ่ง ทว่าไม่ได้พูดอะไรอีก

ทัพใหญ่หนึ่งแสนกว่าคนของจ้านเฉิงอิ้น รวมตัวกันอยู่เบื้องหลังเครื่องหมายเขตแดน

เขาตะโกนเสียงดัง “ทหาร เปิดไฟดวงใหญ่!”

รถออฟโรดสิบคันเปิดไฟดวงใหญ่ ส่องจนคนตรงหน้าลืมตาไม่ขึ้น

จ้านเฉิงอิ้นยกมือขึ้น พร้อมเอ่ยกับหน่วยหน้าไม้ที่อยู่เบื้องหลังว่า “ง้างธนู เตรียมตัวยิง!”

หน้าไม้ราชวงศ์ฉินนับไม่ถ้วนถูกง้างขึ้นมาทั้งหมด

เยี่ยนซวี่ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนได้ยินพลังของหน้าไม้มานานแล้ว ระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินไกลเป็นอย่างมาก มากกว่าหกร้อยหมี่!

หากทัพใหญ่หนึ่งแสนกว่านายเข้ามาในเขตระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ไม่มีใครหนีรอดไปได้แน่!

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พวกเขาไม่ขาดหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 341

    กว่างอิงเซิ่งเชื่อว่า เงินทองอยู่ตรงหน้า จ้านเฉิงอิ้นไม่คุ้มที่จะเป็นปฏิปักษ์ต่อแคว้นเยี่ยนเพื่อเซี่ยเวยไม่คาดคิดเลยว่า จ้านเฉิงอิ้นจะประกาศคำสั่ง “ยิงธนู!”สวบ…เสียงลูกธนูทะลุกลางอากาศดังขึ้นในค่ำคืนอันมืดมิดทหารแคว้นเยี่ยนที่ยกกล่องข้ามสัญลักษณ์เขตแดนมีสามสิบคน ล้วนถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงและล้มตรงหน้ากองทัพหลายแสนคนของแคว้นเยี่ยน!การเสียชีวิตของพวกเขาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบจะเพียงเอื้อมมือเยี่ยนซวี่คิดไม่ถึง จ้านเฉิงอิ้นจะกล้ายิงสังหารทหารแคว้นเยี่ยนต่อหน้าเขา!เขาพลันยืนขึ้นบนเกี้ยว ความโกรธโหมทะลักจ้านเฉิงอิ้นไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เป็นแค่นายทหารพิทักษ์เมืองคนหนึ่ง กลับกล้ามองข้ามเขาถึงเพียงนี้เขาประกาศคำสั่งใต้ความโกรธ “มีใครอยู่ตรงนั้น บุกทะลวงเมืองให้ข้าซะ…”กว่างอิงเซิ่งรีบเร่งกล่าวห้าม “ฝ่าบาท ไม่ควรบุกเมืองบุ่มบ่ามนะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ลืมจุดประสงค์ของการมาด่านเจิ้นกวนแล้วหรือ?”ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น สามพันธมิตรพร้อมกองกำลังห้าแสนห้าหมื่นคนในตอนนั้น ยังไม่สามารถเอาชนะด่านเจิ้นกวนได้ พวกเขามีเพียงหนึ่งแสนกว่าคนจะเอาชนะได้อย่างไร?เยี่ยนซวี่สีหน้ามืดหม่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 342

    กว่างอิงเซิ่งชะงักอึ้งกับคำพูดเฉินขุยและไม่รู้จะตอบโต้อย่างไรพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกองทัพตระกูลจ้านจริง ๆแต่กวนโทสะพวกเขา พวกเขาจะล้อมเมืองอย่างบ้าระห่ำ ไม่มีทางยอมปล่อยไปง่าย ๆ แน่ไม่ใช่แค่ให้พวกเขามอบตัวเซี่ยเวย เพื่อแลกเสบียงอาหารกับน้ำจำนวนหนึ่งหรอกหรือ?ทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือ?ในเวลาเดียวกันนี้ เซี่ยเวย จ้าวเฉียน ซ่งตั๋วทั้งสามคนควบม้าวิ่งมาอย่างเอิกเกริกเหล่าทหารเห็นเซี่ยเวยครั้งแรกและมองเขาหัวจรดเท้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายแม่ทัพผู้ถูกกดดันจนหนีมาด่านเจิ้นกวนผู้นี้ อายุราวยี่สิบห้าปี ผิวพรรณสีเข้ม รูปร่างค่อนผอม ดวงตาสองข้างแวววาวแหลมคม!เขาสวมชุดเกราะสีดำของแคว้นเยี่ยน หากมองใกล้ ๆ ชุดเกราะเป็นสนิมอย่างหนักเสื้อผ้าใต้ชุดเกราะขาดหลุดลุ่ยเหลือทนด้านหลังรองเท้าคู่นั้นสึกหรอจนแบนราบและฝ่าเท้าก็เผยออกมาเช่นนั้นนี่คือเสื้อผ้าของผู้นำทัพแคว้นหนึ่งไม่แปลกใจเลยที่ซ่งตั๋วจะเห็นอกเห็นใจเขา สภาพเช่นนี้ คล้ายกับกองทัพตระกูลจ้านเมื่อหลายเดือนก่อนมากในตอนนั้น พวกเขาสวมเสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยเช่นเดียวกัน รองเท้าของแม่ทัพหลายคนก็ผุพังเหลือทนเช่นกันเซี่ยเวยลงจากหลังม้า เด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 343

    ขณะที่เฉินขุยใช้ลำโพงประกาศเสียงกล่าว เฉินอู่กับจวงเหลียงรีบดึงเซี่ยเวยมาตรงมุม ทำการถอดชุดเกราะซอมซ่อและกระชากเสื้อที่ขาดหลุดลุ่ยของเขาออกจากนั้นใส่เครื่องแบบทหารตัวใหม่ให้เขา ทับด้วยเสื้อเกราะกันกระสุนแบบเต็มตัวและสวมชุดเกราะเป็นชั้นชุดท้ายหลังจากช่วยเขาสวมเครื่องแบบทหารเสร็จ เซี่ยเวยรู้สึกถึงน้ำหนักหลายกิโลกรัมที่มาจากร่างกายเขาน้ำหนักมากถึงเพียงนี้ จะเอาชนะกว่างอิงเซิ่งอย่างไร?โดยเฉพาะหมวกกันน็อกบนศีรษะ เฉินขุยสาธิตให้เขาหลายครั้งว่าวางหน้ากากอย่างไรหน้ากากประหลาดอย่างยิ่ง เป็นสีดำ หลังจากวางลงกลับเห็นทุกอย่างรอบ ๆ อย่างชัดเจน!ในมือเขายังถูกยัดดาบม่อเตาราชวงศ์ถังหนักสิบห้ากิโลกรัมไว้อีกเล่มดาบม่อเตายาวสองเมตรกว่า ด้ามจับกับใบมีดแบ่งเป็นครึ่งเท่ากัน ทำจากเหล็กชั้นดี ใบมีดแหลมคมเปล่งแสงเย็นเยือกในยามมืดมิดเฉินขุยกล่าวกับเขา “เจ้าลองอาวุธดูก่อน…”เห็นเขาจับอาวุธและแสดงอาการลังเลอยู่บ้างเฉินขุยจึงกล่าวปลอบใจ “วางใจเถอะ เอาชนะแน่นอน!”เซี่ยเวยรู้สึกหนักไปทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ยังอยู่ในช่วงทำความคุ้นเคย!เขาตวัดดาบตามความสะดวกมือ ดาบม่อเตาพลางส่งเสียงชิ้งกลางอากาศ แต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 344

    “มารับความตายเถอะ! คนทรยศ…”กว่างอิงเซิ่งชักดาบใหญ่ออกมาฟันลงทิศทางเซี่ยเวย!แกร๊ง~อาวุธสองเล่มปะทะกลางอากาศ แตกระเบิดเป็นประกายไฟกว่างอิงเซิ่งได้รับแรงกดดันมหาศาล เขาควบม้าถอยหลังไปหลายก้าว ดาบใหญ่ของเขามีรอยแหว่งเขามองอาวุธในมือที่แตกเป็นร่องขนาดใหญ่อันหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง!“นี่เป็นไปได้อย่างไร!”“ทำไมเจ้าถึงแข็งแกร่งเช่นนี้!”หลังจากเขาชะงักไม่กี่วินาที จากนั้นเขาหัวเราะลั่นโดยไม่มองเซี่ยเวยอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย!“เจ้านึกว่าชนะแล้ว สามารถกลับไปอย่างปลอดภัยและสงบสุข? ข้าจะบอกให้ ไม่มีทาง!”“เมื่อเจ้าลงจากหอประตูเมือง อยู่ห่างจากจ้านเฉิงอิ้น ตอนจบของเจ้า…มีเพียงความตาย!”“ฮ่องเต้ ข้าและขุนนางแคว้นเยี่ยนล้วนคาดหวังให้เจ้าตาย! มีแต่ปากคนตายเท่านั้นที่ปิดสนิทและความลับบางอย่าง ดีที่สุดก็ควรฝังในใต้ดินตลอดกาล!”เหตุผลที่เซี่ยเวยต้องหนีออกจากแคว้นเยี่ยน เขาจะไม่ให้โลกภายนอกรู้เป็นอันขาดไม่เช่นนั้นไม่เพียงแค่เขา แต่ทั้งแคว้นต้าเยี่ยน จะเสียชื่อ เกียรติภูมิและฉาวโฉ่ไปทั่วทุกสารทิศ!กว่างอิงเซิ่งยกมือขึ้นขณะที่หัวเราะอย่างจองหอง พร้อมกล่าวเสียงดัง“ยิงธนู!”

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 345

    มั่วฝานบังคับอากาศยานไร้คนขับสำรวจหนึ่งรอบครั้นกองกำลังสามฝ่ายที่ซ่อนตัวพร้อมจ้องเขม็ง รู้ว่าแคว้นเยี่ยนถูกตีพ่ายแพ้แม่ทัพอันดับหนึ่งแคว้นเยี่ยนกว่างอิงเซิ่งถูกเซี่ยเวยฟันตกจากม้า กะโหลกหลุดบ่าร่วงพื้น ระหว่างปะลองก่อนเปิดศึก…พวกเขาก็ไม่กล้ารุกหน้าอีกและพากันถอยกองทัพเป็นลำดับ!เวลานี้ได้ถอยทัพห่างออกไปหนึ่งร้อยลี้ แต่ไม่ได้จากไปและขดตัวอยู่รอบนอกคอยจับตามองด่านเจิ้นกวนเพราะด่านเจิ้นกวนมีเสบียงอาหารมีน้ำ สิ่งล่อใจนั้นใหญ่เกินไปมากถ้าแอบเข้าไปในเมืองได้ ได้ทานอาหารอิ่มท้องสักมื้อ ได้ดื่มน้ำเปล่ารสหวานสดชื่นสักคำ เอาชีวิตไปเสี่ยง ทุกอย่างก็ล้วนคุ้มค่า!จ้านเฉิงอิ้นเห็นดังกล่าวพลางยิ้มเยาะยังนึกว่าหนูตามท่อระบายน้ำพวกนี้จะกล้าหาญเพียงใดเสียอีก!ทหารที่ติดตามเซี่ยเวยมาด้วย พวกเขายืนล้อมเขามิดชิดกลัวเขาบาดเจ็บ จึงอยากถอดชุดเกราะออกเพื่อตรวจว่ามีอาการบาดเจ็บภายในหรือไม่แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกเซี่ยเวยปฏิเสธเซี่ยเวยกล่าว พวกเขาอยากขโมยชุดเกราะของเขา!เหล่านายทหารที่ตกใจหวาดกลัว แต่ละคนล้วนพูดไม่ออกครั้นจ้านเฉิงอิ้นกับกลุ่มนายทหารเดินมา ตรวจดูสภาพเขา เห็นเขาสมบูรณ์ไม่เป็นอะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 346

    จวงเหลียงกับซ่งตั๋วพยุงเขายืนขึ้นจวงเหลียงยิ้มกล่าว “แม่ทัพดูออกว่าเจ้ามีความสามารถ ตั้งใจจะเชิญชวนเจ้าแต่แรก ถ้าเจ้าเต็มใจอยู่ต่อและเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน ย่อมเป็นเรื่องที่แม่ทัพคาดหวังแต่ไม่อาจได้มา!”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ใต้ล่างกองทัพตระกูลจ้านมีทหารผู้กล้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน!”ซ่งตั๋วเห็นเขาทำหน้าไม่ค่อยเข้าใจในคำเรียกที่ว่าแม่ทัพชั้นยอดเขาจึงอธิบาย “ตำแหน่งเทียบเท่ากับแม่ทัพเฉินขุย ถ้าแม่ทัพไม่อยู่ แม่ทัพเฉินขุยจะมีอำนาจสูงสุด ในค่ายทหารอยู่ใต้คนเดียว!”“ปัจจุบันบรรดาแม่ทัพชั้นยอด มีเฉินขุย อู๋ลี่และเจ้า นี่เป็นเรื่องที่ดี ยินดีด้วยนะ!”เซี่ยเวยคิดไม่ถึงว่าจ้านเฉิงอิ้นจะให้ความสำคัญกับเขาเพียงนี้“ขอบคุณแม่ทัพใหญ่ที่ให้ความสำคัญ ข้าน้อยเซี่ยเวยไม่มีสิ่งใดจะตอบแทน!”เซี่ยเวยถามอีกครั้ง “แม่ทัพใหญ่ ถ้าข้าเป็นแม่ทัพชั้นยอด นายทหารกับพลทหารใต้ล่างข้า พวกเขาจะสวมชุดเกราะและใช้อาวุธที่เป็นอุปกรณ์ติดตัวเช่นเดียวกับข้าได้หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ แต่ต้องรอสักหน่อย เพราะชุดเกราะในคลังมีจำนวนไม่พอ การผลิตออกมานั้นต้องใช้เวลา”เซี่ยเวยได้ยินดังกล่าว ก็ดีใจจนแสดงออก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 347

    ทุกคนไม่มีความเห็นใด จากการบอกเล่าของซ่งตั๋ว ก็รู้ได้ว่าเหตุใดเซี่ยเวยถึงออกจากแคว้นเยี่ยน หนีมาขอพึ่งอาศัยกองทัพตระกูลจ้านที่ด่านเจิ้นกวนแม้ว่าพวกเขารู้ถึงด้านมืดของมนุษย์ แต่ไม่คิดเลยว่า ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนกับกว่างอิงเซิ่งจะสติฟั่นเฟือนได้ถึงเพียงนี้นึกไม่ถึงว่าจะกินพลทหารพิทักษ์เมืองของแคว้นตนเองเข้าไปอีกทั้งยังเป็นจำนวนถึงห้าหมื่นคนเต็ม ๆ !นี่หาใช่การแตกดับของศีลธรรม แต่เป็นการสูญสลายการเป็นมนุษย์…กว่างอิงเซิ่งกับคนหนึ่งแสนกว่าคนของเขา ไม่ใช่คนอีกแล้ว แต่เป็นปีศาจ!การกระทำนี้ ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนกลับช่วยปิดอำพรางและยังให้ความสำคัญกับเขาเกรงว่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเคยกินเนื้อคนด้วยเช่นกันไม่เช่นนั้น พวกเขายากที่จะเข้าใจได้จริง ๆจวงเหลียงกับซ่งตั๋วกล่าวชื่นชมเซี่ยเวยอย่างอดไม่ได้จวงเหลียงถึงกระทั่งอธิบายว่าเซี่ยเวยเป็นคน เข้าใจธรรมชาติมนุษย์ มีความสามารถด้านผู้นำ จงรักภักดีใจหาญกล้า มีความฉลาดและมีไหวพริบ…คนมีความสามารถถึงเพียงนี้ โชคดีที่เข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน ถ้าเป็นศัตรูคงจัดการยากเป็นอย่างยิ่ง!จวงเหลียงรู้สึกว่าความสามารถของเซี่ยเวย เป็นกุนซือยังได้เขาให้คำป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 348

    เวินลี่ส่งรายชื่อเกาะไร้คนขนาดเล็กที่ประกาศขายทั่วโลกมาให้อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือแม้กระทั่งประเทศเหม่ยลี่ก็มีเกาะขนาดเล็กประกาศขาย…ราคาประมูล มีตั้งแต่หลักแสนดอลลาร์ ถึงหลักพันดอลลาร์และไปจนถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์ถ้านำมาใช้สำหรับทำการค้าขนาดใหญ่ ดีที่สุดควรอยู่ใกล้ ๆ ภายในประเทศเธอถูกใจหมู่เกาะใกล้ ๆ อินโดนีเซียเวินลี่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะที่สร้างเสร็จแล้วสามเกาะกับเธอ เจ้าของเกาะกำลังเผชิญกับการล้มละลายและจะถูกประมูลเร็ว ๆ นี้หนึ่งในเกาะที่อยู่ประเทศอินโดนีเซีย สร้างรันเวย์สนามบินเสร็จเรียบร้อย มีโรงแรมและร้านอาหารระดับติดดาวและมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมทุกวันแน่นอนว่า พื้นที่ส่วนมากของหมู่เกาะ เป็นที่ดินส่วนตัวของเจ้าของเกาะบนเกาะมีเรือยอร์ช เรือกลไฟและมีแม้กระทั่งเครื่องบินส่วนตัวลำเล็กถ้าผู้ใดประมูลเกาะได้ ทุกอย่างบนเกาะจะถูกยกให้กับเจ้าของคนใหม่ทั้งหมดรวมถึงโรงแรม ร้านอาหารและเครื่องบินส่วนตัว…เย่มู่มู่เกิดความสนใจ โดยเฉพาะบนเกาะสามารถจอดเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ได้มีเรือสำราญไม่น้อยที่ร่วมมือกับโรงแรมบนเกาะ และจะจอดหนึ่งคืนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมแ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status