Share

บทที่ 346

Author: มู่โร่ว
จวงเหลียงกับซ่งตั๋วพยุงเขายืนขึ้น

จวงเหลียงยิ้มกล่าว “แม่ทัพดูออกว่าเจ้ามีความสามารถ ตั้งใจจะเชิญชวนเจ้าแต่แรก ถ้าเจ้าเต็มใจอยู่ต่อและเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน ย่อมเป็นเรื่องที่แม่ทัพคาดหวังแต่ไม่อาจได้มา!”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ใต้ล่างกองทัพตระกูลจ้านมีทหารผู้กล้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน!”

ซ่งตั๋วเห็นเขาทำหน้าไม่ค่อยเข้าใจในคำเรียกที่ว่าแม่ทัพชั้นยอด

เขาจึงอธิบาย “ตำแหน่งเทียบเท่ากับแม่ทัพเฉินขุย ถ้าแม่ทัพไม่อยู่ แม่ทัพเฉินขุยจะมีอำนาจสูงสุด ในค่ายทหารอยู่ใต้คนเดียว!”

“ปัจจุบันบรรดาแม่ทัพชั้นยอด มีเฉินขุย อู๋ลี่และเจ้า นี่เป็นเรื่องที่ดี ยินดีด้วยนะ!”

เซี่ยเวยคิดไม่ถึงว่าจ้านเฉิงอิ้นจะให้ความสำคัญกับเขาเพียงนี้

“ขอบคุณแม่ทัพใหญ่ที่ให้ความสำคัญ ข้าน้อยเซี่ยเวยไม่มีสิ่งใดจะตอบแทน!”

เซี่ยเวยถามอีกครั้ง “แม่ทัพใหญ่ ถ้าข้าเป็นแม่ทัพชั้นยอด นายทหารกับพลทหารใต้ล่างข้า พวกเขาจะสวมชุดเกราะและใช้อาวุธที่เป็นอุปกรณ์ติดตัวเช่นเดียวกับข้าได้หรือไม่?”

จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ แต่ต้องรอสักหน่อย เพราะชุดเกราะในคลังมีจำนวนไม่พอ การผลิตออกมานั้นต้องใช้เวลา”

เซี่ยเวยได้ยินดังกล่าว ก็ดีใจจนแสดงออก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
run da
เรื่องราวสนุกมาก เขียนดีมาก ชอบแม่ทัพเจิ้น แม่นางเย่มู่มู่ ตื้นตันใจ ชอบมากกกกก นิยายเรื่องโปรดเลย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 347

    ทุกคนไม่มีความเห็นใด จากการบอกเล่าของซ่งตั๋ว ก็รู้ได้ว่าเหตุใดเซี่ยเวยถึงออกจากแคว้นเยี่ยน หนีมาขอพึ่งอาศัยกองทัพตระกูลจ้านที่ด่านเจิ้นกวนแม้ว่าพวกเขารู้ถึงด้านมืดของมนุษย์ แต่ไม่คิดเลยว่า ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนกับกว่างอิงเซิ่งจะสติฟั่นเฟือนได้ถึงเพียงนี้นึกไม่ถึงว่าจะกินพลทหารพิทักษ์เมืองของแคว้นตนเองเข้าไปอีกทั้งยังเป็นจำนวนถึงห้าหมื่นคนเต็ม ๆ !นี่หาใช่การแตกดับของศีลธรรม แต่เป็นการสูญสลายการเป็นมนุษย์…กว่างอิงเซิ่งกับคนหนึ่งแสนกว่าคนของเขา ไม่ใช่คนอีกแล้ว แต่เป็นปีศาจ!การกระทำนี้ ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนกลับช่วยปิดอำพรางและยังให้ความสำคัญกับเขาเกรงว่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเคยกินเนื้อคนด้วยเช่นกันไม่เช่นนั้น พวกเขายากที่จะเข้าใจได้จริง ๆจวงเหลียงกับซ่งตั๋วกล่าวชื่นชมเซี่ยเวยอย่างอดไม่ได้จวงเหลียงถึงกระทั่งอธิบายว่าเซี่ยเวยเป็นคน เข้าใจธรรมชาติมนุษย์ มีความสามารถด้านผู้นำ จงรักภักดีใจหาญกล้า มีความฉลาดและมีไหวพริบ…คนมีความสามารถถึงเพียงนี้ โชคดีที่เข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน ถ้าเป็นศัตรูคงจัดการยากเป็นอย่างยิ่ง!จวงเหลียงรู้สึกว่าความสามารถของเซี่ยเวย เป็นกุนซือยังได้เขาให้คำป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 348

    เวินลี่ส่งรายชื่อเกาะไร้คนขนาดเล็กที่ประกาศขายทั่วโลกมาให้อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือแม้กระทั่งประเทศเหม่ยลี่ก็มีเกาะขนาดเล็กประกาศขาย…ราคาประมูล มีตั้งแต่หลักแสนดอลลาร์ ถึงหลักพันดอลลาร์และไปจนถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์ถ้านำมาใช้สำหรับทำการค้าขนาดใหญ่ ดีที่สุดควรอยู่ใกล้ ๆ ภายในประเทศเธอถูกใจหมู่เกาะใกล้ ๆ อินโดนีเซียเวินลี่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะที่สร้างเสร็จแล้วสามเกาะกับเธอ เจ้าของเกาะกำลังเผชิญกับการล้มละลายและจะถูกประมูลเร็ว ๆ นี้หนึ่งในเกาะที่อยู่ประเทศอินโดนีเซีย สร้างรันเวย์สนามบินเสร็จเรียบร้อย มีโรงแรมและร้านอาหารระดับติดดาวและมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมทุกวันแน่นอนว่า พื้นที่ส่วนมากของหมู่เกาะ เป็นที่ดินส่วนตัวของเจ้าของเกาะบนเกาะมีเรือยอร์ช เรือกลไฟและมีแม้กระทั่งเครื่องบินส่วนตัวลำเล็กถ้าผู้ใดประมูลเกาะได้ ทุกอย่างบนเกาะจะถูกยกให้กับเจ้าของคนใหม่ทั้งหมดรวมถึงโรงแรม ร้านอาหารและเครื่องบินส่วนตัว…เย่มู่มู่เกิดความสนใจ โดยเฉพาะบนเกาะสามารถจอดเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ได้มีเรือสำราญไม่น้อยที่ร่วมมือกับโรงแรมบนเกาะ และจะจอดหนึ่งคืนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 349

    เซี่ยเวยกับจ้าวเฉียนและแม่ทัพท่านอื่น ใช้เวลายามค่ำเข้าไปข้างในเมืองด่านเจิ้นกวนภายในเมือง บนท้องถนนใหญ่ส่องแสงสว่างไสวเหล่าชาวเมืองสวมเสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อย กำลังพาเด็ก ๆ เดินเล่นตามถนนพวกเขามีชีวิตชีวา ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ดูออกเลยว่ามีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์มากร้านค้าตามถนนทั้งเส้น เปิดร้านแล้วทั้งหมดและมีของวางอย่างครบครันมีร้านขายปิงถังหูลู่ ขนมน้ำตาลปั้นและตั้งแผงบะหมี่…ในแคว้นเยี่ยน ไม่มีใครเดินบนถนนในยามค่ำคืน แม้แต่คนไร้ที่อยู่อาศัยยังต้องหาที่พักตามซากวัดเพราะถ้าพบว่าอยู่คนเดียวบนถนน อาจถูกจับไปขายให้กับร้านขายเนื้อได้หัวเมืองที่ทรุดโทรมของพวกเขากับความปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองของด่านเจิ้งกวน กลายเป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเซี่ยเวยกับเหล่านายทหารนิ่งสงบตลอดทาง โดยมีซ่งตั๋วนำทางมาถึงโกดังค่ายทหารอันเป็นสถานที่สำคัญเขากล่าว “พวกเจ้ายืนรอครู่หนึ่ง…”เขาใช้กุญแจเปิดโกดังออก!ฟึบ~ปลายข้าวที่กองพะเนินหน้าประตูโกดัง ร่วงลงมากระทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัวกระสอบสานทรงกลมแต่ละกระสอบร่วงลงจากหน้าประตูลงสู่พื้นดินทหารลาดตระเวนเห็นดังกล่าว จึงวิ่งมายกถุงกระสอบข้า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 350

    ชิ้ง~กระบี่ยาวออกจากฝัก แสงเย็นลำหนึ่งฟันไปยังแขนเซี่ยเวยแกร๊ง~เสียงแตกหักชัดเจนเสียงหนึ่งดังขึ้น กระบี่จ้าวเฉียนพลันขาดเป็นสองท่อนลำแขนเซี่ยเวยสมบูรณ์ไม่เสียหาย เพียงทิ้งรอยข่วนไว้เล็กน้อยบนชุดเกราะ แต่ไม่มีความเสียหายแต่อย่างใดทุกคนมองสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยความตะลึงตาค้างกระบี่ยาวอันเป็นของรักของจ้าวเฉียน ทำจากเหล็กชั้นดี แหลมคมหาที่เปรียบไม่ได้ปรากฏว่า กลับไม่อาจทำลายชุดเกราะของแม่ทัพเซี่ยได้นี่มัน…ชุดเกราะปกติอันเป็นอุปกรณ์สวมใส่ของกองทัพตระกูลจ้าน!ไม่นึกเลยว่าจะมีกำลังป้องกันถึงเพียงนี้?เซี่ยเวยให้จ้าวเฉียนถอดชุดเกราะลงมาวางบนท่อนไม้เขายกดาบม่อเตาขึ้นแล้วฟันชุดเกราะที่อยู่กับจ้าวเฉียนชุดเกราะรวมทั้งท่อนไม้ถูกฟันขาดเป็นสองท่อนดาบยาวในมือแม่ทัพเซี่ยเวย แหลมคมตัดเหล็กขาดง่ายประหนึ่งดินเหนียวอุปกรณ์สวมใส่ของกองทัพตระกูลจ้าน สร้างความตื่นตะลึงให้กับพวกเขาเป็นอย่างมากแต่ละคนเบิกตาใหญ่โตและไม่เชื่อสายตาดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่แม่ทัพเซี่ยอยู่ต่อ!อุปกรณ์สวมใส่ของกองทัพตระกูลจ้าน ล้ำสมัยกว่าแคว้นเยี่ยน ไม่เพียงแค่นั้น…แต่ยังล้ำสมัยกว่าทุกแคว้นใน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 351

    วันที่สามในยามเย็น บนลานหินอันกว้างใหญ่ ปรากฏรถขุดดินสามสิบคันรถดันดินยี่สิบคันรถดันดินเป็นสิ่งที่ทุกคนเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก มีบุ้งกี๋ขนาดใหญ่สีเหลืองรูปทรงแปลกตา ดูอลังการยิ่งนัก!ยังมีรถบรรทุกขนาดใหญ่สามสิบคันรถบรรทุกดินขนาดกลางยี่สิบห้าคัน!เมื่อเห็นรถยนต์จำนวนมหาศาลเช่นนี้ เหล่าทหารก็ดีใจกันยกใหญ่หลี่หยวนจง เปี้ยนจื่อผิง เฉินจวิ้นหลิน... แม่ทัพเหล่านี้ที่ปกติแล้วค่อนข้างสุขุม ยังวิ่งไปที่หน้ารถดันดินอย่างบ้าคลั่งพวกเขาล้อมรอบรถดันดิน เคาะตี ตรวจสอบ และถกเถียงกัน!ต่างพูดคุยกันว่าเจ้ายักษ์ใหญ่พวกนี้ใช้ทำอะไร?เฉินจวิ้นหลินถึงกับปีนขึ้นไปบนบุ้งกี๋ของรถดันดิน หัวเราะอย่างมีความสุขและแสดงออกอย่างภาคภูมิใจ“นี่ ดูนี่สิ ข้าดูน่าเกรงขามหรือไม่?”มั่วฝานแสดงสีหน้ารังเกียจ “รถดูน่าเกรงขาม แต่เจ้าไม่!”เขาหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “มา ถ่ายรูปให้ข้าหน่อย”มั่วฝานหันหน้าไปอย่างรังเกียจหลังจากที่จ้านเฉิงอิ้นตรวจนับจำนวนแล้ว ตรงกับจำนวนที่เขียนไว้ในจดหมายของท่านเทพเขาก็ดีใจมาก และเต็มไปด้วยความมั่นใจด้วยรถเหล่านี้ สระน้ำใต้ดินที่ขุดให้กับชาวเมืองด่านเจิ้นกวน จะสามารถขุดได้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 352

    “ท่านแม่ทัพ...”ทันทีที่เข้าไปในปากถ้ำ จ้านเฉิงอิ้นก็ได้ยินเสียงของมั่วฝานจ้านเฉิงอิ้นถอยออกมาจากถ้ำ เห็นทั้งสองเร่งรีบมาเขาจึงถามขึ้น “มีเรื่องอะไร?”มั่วฝานหยิบจดหมายลับออกจากแขนเสื้อ“เกิดเรื่องใหญ่ไม่ดีแล้ว นับตั้งแต่ท่านส่งเสบียงและน้ำให้กองทัพลู่เจ๋อ มีชาวบ้านที่ประสบภัยจำนวนมากเข้าร่วมกองทัพลู่เจ๋อ ทำให้จำนวนทหารของกองทัพลู่เจ๋อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น สองแสนแปดหมื่นนายแล้ว”“เนื่องจากจำนวนศัตรูเพิ่มขึ้น กองทัพธงเหลืองที่ถูกปิดล้อมอยู่ในเมือง จึงไม่สามารถตีฝ่าวงล้อมออกมาได้...”“หน่วยกล้าตายหวังเซิ่งที่ส่งไป ส่งจดหมายมาบอกว่า กองทัพธงเหลืองสมคบคิดกับศัตรูภายนอก ต้องการร่วมมือกันทั้งภายในและภายนอกเพื่อสังหารกองทัพลู่เจ๋อ!”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว “ศัตรูภายนอกอะไร?”“เผ่าหมาน แคว้นฉู่ แคว้นฉี แคว้นเยี่ยน... พวกเขาทั้งหมดล้วนมีการติดต่อกับกองทัพธงเหลือง”มั่วฝานยื่นจดหมายลับให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดจดหมายลับออก เป็นจดหมายที่ส่งมาจากหวังเซิ่งที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้านายทหาร“ท่านแม่ทัพ หลายวันนี้มีเผ่าหมาน ชาวแคว้นฉู่ ชาวแคว้นฉี ชาวแคว้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 353

    จ้านเฉิงอิ้นถามมั่วฝาน “ราชสำนักรู้เรื่องที่กองทัพธงเหลืองสมคบคิดกับศัตรูภายนอกหรือไม่?”“เกรงว่าจะรู้ มีกองทัพลู่เจ๋อคอยจับตาดูอยู่ ความเคลื่อนไหวใด ๆ ในเมือง กองทัพลู่เจ๋อล้วนรู้”“ยิ่งไปกว่านั้น ชาวแคว้นฉู่ ชาวแคว้นฉี ชนเผ่าหมาน... มิได้ลอบพบกับมู่ฉีซิว แต่พบกันอย่างเปิดเผยโดยไม่ปิดบัง!”จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากปากถ้ำใต้ดิน ไปยังม้า“พวกเขาเข้าไปในเมืองได้อย่างไร?”จวงเหลียงกล่าวว่า “กองทัพธงเหลืองยึดครองเมืองทั้งหมดห้าเมือง ซูโจว ยงโจว อวิ๋นโจว เหยี่ยนโจว...”การจะให้กองทัพลู่เจ๋อล้อมเมืองทั้งห้าให้แน่นหนาราวกับถังเหล็ก~เป็นเรื่องยาก!ยิ่งไปกว่านั้น คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ทหารที่เชี่ยวชาญในการรบ พวกเขาก็เหมือนกับอู๋ลี่ เป็นผู้คนที่ไร้หนทาง ต้องระเห็จเร่ร่อน และเพื่อความอยู่รอดจึงจำใจเข้าร่วมกับกองทัพลู่เจ๋อพวกเขามีวินัยหย่อนยาน ไร้ซึ่งจิตวิญญาณของนักรบพวกเขารู้เพียงว่าในเมืองมีเสบียง และเมืองที่ฮ่องเต้ทรงประทานรางวัลให้พวกเขา ถูกกองทัพธงเหลืองยึดครองพวกเขาต้องแย่งชิงกลับคืนมาเรื่องอื่นพวกเขาไม่สนใจ!จ้านเฉิงอิ้นกระโดดขึ้นม้า กล่าวกับมั่วฝานและจวงเหลียง “ไป กลับไปที่ห้องโถง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 354

    “ใช่ค่ะ แล้วคุณคือ...”“สวัสดีครับ ผมเป็นรุ่นพี่ของคุณ ผมชื่อลู่ฉีหยาง อาจารย์ที่ปรึกษาของคุณมอบหมายให้ผมมารับคุณกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัย”จากนั้น เขาก็ถามด้วยความห่วงใย “น้องนักศึกษา อาการป่วยของน้องเป็นยังไงบ้าง?”ที่แท้ก็เป็นรุ่นพี่ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหามา เย่มู่มู่จึงลดความระแวดระวังลงตอบกลับไปอย่างเรียบเฉย “ก็ดีค่ะ อารมณ์คงที่ขึ้นมาก หยุดยามานานแล้ว!”อีกฝ่ายยิ้มอย่างสดใส “ถ้าอย่างนั้นก็ขอแสดงความยินดีกับน้องนักศึกษาด้วยนะ อีกสามวันผมจะไปถึงเมืองที่น้องอาศัยอยู่และจะอยู่ที่นั่นสองสามวัน น้องพอจะมีเวลาว่างหรือเปล่า?”เย่มู่มู่ปฏิเสธโดยไม่ลังเล “แต่ว่าฉันยุ่งมากเลยค่ะ!”“ไม่เป็นไรครับ บ้านผมมีบริษัทสาขาอยู่ในเมืองของน้องนักศึกษา คุณพ่อให้ผมมาดู และพาน้องนักศึกษากลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัย อาจารย์ที่ปรึกษาได้ยินว่าผมจะมา เลยขอให้มาด้วยกัน ขออภัยที่รบกวนน้องนักศึกษาด้วยนะ!”ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง เธอกังวลมากเกินไป“อีกสองวันหากฉันมีเวลาว่าง ฉันจะพาคุณไปเที่ยวชมรอบๆ”ลู่ฉีหยางดีใจมาก “จริงเหรอครับ? น้องเย่ตกลงจะพาผมไปเที่ยวชมรอบ ๆ แล้ว อย่ากลับคำนะครับ!”“ไม่หรอกค่ะ!”เวลาแ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status