“อยากเข้าไปดูข้างในยิ่งนัก ถ้าโรงงานแห่งนี้เริ่มใช้งาน เช่นนั้นแล้วหลังจากนี้พวกเราก็จะมีอาวุธเหล็กชั้นดีใช้อย่างต่อเนื่อง~!”“แต่ละแคว้นในหัวเซี่ย จะมีใครเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราอีก?”จ้าวเฉียนยิ้มแย้มกล่าวอย่างหนำใจ “ข้าถึงกระทั่งคิดถึงความเจริญรุ่งเรืองที่รวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยพวกเราแล้วล่ะ”ซ่งตั๋วตบ ๆ ที่ไหล่เขา “ชู่ว ถ่อมตัวหน่อย ตอนนี้พวกเรายังจัดการกองทัพธงเหลืองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ รวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวกันยังไกลเกินไป!”หยางชิงเหอสวมเสื้อผ้าผู้ชายเดินออกมาและได้ยินคำพูดของซ่งตั๋วเธอยิ้มแย้มเป็นดังที่คิดไว้จริง จ้านเฉิงอิ้นได้รับเงื่อนไขที่ดีถึงเพียงนี้!เขาไม่มีทางไม่ก่อกบฏ!การรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เขามีความได้เปรียบกว่ามู่ฉีซิวมากมู่ฉีซิวผู้นี้มีคุณสมบัติความเป็นคนที่ชั่วร้ายเกินไป!แต่จ้านเฉิงอิ้นแตกต่างออกไปช่วงเวลานี้ เธอมองเห็นแล้วว่าจ้านเฉิงอิ้นปฏิบัติกับคนใต้ล่าง ปฏิบัติกับทหารและปฏิบัติกับพลเมือง…แตกต่างจากมู่ฉีซิวโดยสิ้นเชิงมู่ฉีซิวนั้นหาทุกวิธีทางเพื่อเอาเปรียบพลเมือง ชีวิตของคนสำหรับเขาเป็นเพียงของฟุ่มเฟือยเมื่อมีคนเจ็บป่วย ทั้งที
การสร้างสุดยอดโรงงาน ทำให้ชื่อเสียงของจ้านเฉิงอิ้นกลายเป็นตำนานอีกครั้งเพราะว่าพลเมืองทุกมองเห็นสุดยอดโรงงานแล้วทุกคนบอกต่อกันราวกับเป็นเรื่องปฏิหาริย์ผู้สอดแนมที่แต่ละแคว้นส่งมาแฝงตัวในกลุ่มพลเมืองวันนี้ ก็ได้ส่งข่าวที่จ้านเฉิงอิ้นสร้างสุดยอดโรงงานขึ้นมากลับไปยังแคว้นของตนรวมถึงมู่ฉีซิว เขาคือคนที่ได้รับข่าวมือแรกเมืองหยงโจกับเมืองซู่โจวอยู่ใกล้กันมากเมื่อมู่ฉีซิวได้ยินข่าวการตายของหยางชิงเหอ~เขากำลังอยู่กับตระกูลชุยที่ป๋อหลิง ยังปรึกษาหารือเรื่องงานแต่งงานกับหัวหน้าตระกูลชุย พลางได้ยินเรื่องที่หยางชิงเหอพร้อมกับสาวรับใช้และช่างสองคนถูกไฟเผาตายพร้อมกันทั้งหมดเขาตกใจมาก ไม่ได้กำหนดวันแต่งงานไว้แต่อย่างใด วางสินสอดทองหมั้นไว้อย่างรวดเร็วเสร็จก็พาคนกับม้าเร่งกลับมาในค่ายทหารทันทีเมื่อเขาเห็นศพที่ถูกไฟเผาไหม้เกรียมทั้งสี่ร่างสีหน้าก็เปลี่ยนไปชัดเจน!หยางชิงเหอตายแล้ว!เธอตายแล้ว!เส้นทางสู่การครองอำนาจของเขา เพราะการตายของหยางชิงเหอ คงไม่มีวันทำสำเร็จได้แล้วเขาไม่สามารถยอมรับผลของการโจมตีเช่นนี้ได้เขาโน้มตัวเข้าหาศพเพศหญิง พลิกตัวศพหาหลักฐานที่ยืนยันว่าศพร่างนี้
เขาเป็นคนเลื่อนขั้นให้เอง จึงไม่กล้ารายงานมู่ฉีซิว*หลังจากโรงงานสร้างเสร็จและกระจายข่าวไปถึงแคว้นอื่น ๆแคว้นฉู่ แคว้นฉี ชนเผ่าหมานและแคว้นเยียนที่เคยมีความแค้นกับจ้านเฉิงอิ้นได้รับข่าวมือแรกฉู่อ๋องเห็นพิมพ์ขียวของสุดยอดโรงงานและพูดกับขุนนางทันที “โรงงานแห่งนี้ ถ้าแคว้นฉู่ยึดมาครองไม่ได้ หลังจากนี้อาวุธทหารของแคว้นฉู่ในหกแคว้นก็จะไม่มีข้อได้เปรียบอีกต่อไป!”“จ้านเฉิงอิ้นผู้นี้ ปล่อยไว้ต่อไปไม่ได้แล้ว!”ครั้นฮ่องเต้แคว้นฉีฉีซวนเหิงได้รับพิมพ์เขียวของโรงงานเขามองสิ่งก่อสร้างอันซับซ้อนบนพิมพ์เขียว ปล่องควันสูงตระหง่านทะลุเมฆ หม้อต้มอันที่มหึมาและหอพักตึกสูงหลายชั้น~เขาตกอยู่ในภาวะครุ่นคิดอย่างหนัก!สิ่งเหล่านี้สร้างโดยมนุษย์ได้จริงหรือ?ด้วยเหตุนี้ เขายิ่งมั่นใจว่าจ้านเฉิงอิ้นมีอ่างขุมทรัพย์ที่ทะลุไปยังโลกอีกใบอยู่ในมือและในอ่างขุมทรัพย์มีท่านเทพอยู่หนึ่งองค์ ผู้ซึ่งช่วยเหลือเขาเสมอมาเขาต้องการอ่างขุมทรัพย์มาอยู่ในมือให้ได้อีกครั้ง!เขากับฉู่อ๋องคิดเหมือนกันจ้านเฉิงอิ้นจะต้องตาย!อ่าง ต้องทิ้งไว้!แคว้นเยียนกับชนเผ่าหมานได้ยินข่าวลือด้วยเช่นกัน สองแคว้นนี้เคลื่อน
หยางชิงเหอและจวงเหลียง รวมทั้งเซี่ยเวยและคนอื่น ๆ มาถึงยอดเขาจนพบจ้านเฉิงอิ้นหยางชิงเหอกล่าว “แม่ทัพ ข้าติดตั้งโรงงานเสร็จแล้ว ข้าปรับแก้ตามพิมพ์เขียวหนึ่งรอบ โดยทั่วไปไม่มีปัญหา”“แต่จะใช้งานได้หรือไม่ ต้องรอเผาหม้อต้มใหญ่พรุ่งนี้และทดสอบการหลอมเหล็กดู!”“ถ้าดำเนินงานได้ปกติ ท่านเคยรับปากแล้วว่าจะส่งข้ากลับไป!”จ้านเฉิงอิ้นเอามือข้างเดียวไขว้ข้างหลังและพยักหน้าตอบรับ“แม่นางหยางจงวางใจ แม่ทัพข้าพูดคำไหนคำนั้น”“ถ้าหาก วันพรุ่งนี้โรงงานสามารถทำงานได้ ช่วยส่งข้าข้ามไปตอนกลางคืนได้หรือไม่?”“ได้สิ!”พอได้ยินจ้านเฉิงอิ้นกล่าวเช่นนี้เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเธอมองเสี่ยวเถาที่ตามมาด้วย ข้างหลังเสี่ยวเถามีเด็กผู้ชายกับมารดาของเขาหลังจากเด็กน้อยถูกหวังเซิ่งเก็บขึ้นรถแล้ว เขาจัดให้พักในกระโจมข้าง ๆ หยางชิงเหอช่างสองคนถูกจัดให้ไปทำงานในโรงช่างตีเหล็กเด็กผู้ชายกับมารดาของเขาและเสี่ยวเถา ถูกจัดให้ไปดูแลหยางชิงเหอ แต่ละคนจะได้รับเสบียงอาหารหกชั่งในทุก ๆ เดือนสามคนคอยทำอาหารและทำความสะอาด เวลาที่เหลือก็ไปช่วยงานเกษตรตอนนี้ได้ดำเนินการเพาะปลูกแล้วกว่าที่ดินหกหมู่เด็กผู้ชายเร
เย่มู่มู่ถามจ้านเฉิงอิ้น “ฮ่องเต้ตอบตกลงหรือยัง?”“ไม่รู้ วันนี้มีขุนนางชนเสาเสียชีวิตหนึ่งคน แต่ฮ่องเต้ให้ทูตของแคว้นเยียนกับชนเผ่าหมานอยู่ต่อ กลางคืนจัดงานเลี้ยงต้อนรับ!”เย่มู่มู่ได้ยินเรื่องราวนี้แล้วเธอรู้สึกโกรธในความไม่ยุติธรรม“ราษฎรยังไม่มีกินและคนอดอยากก็อยู่ทั่วทุกหนแห่ง ฮ่องเต้กลับจัดงานเลี้ยงต้อนรับข้าศึก เขามีชีวิตที่ดีเกินไปจนลืมไปว่าชนเผ่าหมานเคยปิดล้อมด่านเจิ้นกวนหนึ่งปีและฆ่าทหารต้าฉี่ตายไปไม่รู้เท่าไหร่”“คนเช่นนี้ไร้ซึ่งความชอบธรรมข้างในจิตใจ ไม่คู่ควรแก่การเป็นจักรพรรดิ!”“จ้านเฉิงอิ้น ไม่ต้องกลัวนะ…พวกเข้ากล้าปราบปรามเจ้า ข้าก็จะฆ่าพวกเขาให้ตาย!”“กองกำลังข้าศึกห้าแสนห้าหมื่นคนเจ้ายังจัดการได้ ต่อให้แคว้นเยียนกับชนเผ่าหมานร่วมมือกับกองทัพธงเหลือง แต่จะเป็นภัยคุกคามต่อเจ้าจริง ๆ หรือ ข้าว่าไม่!”“เจ้าเพียงแค่ผิดหวังในฮ่องเต้และราชสำนักเท่านั้น! ลองนึกถึงตระกูลจ้านสามรุ่นของเจ้า ที่ถวายชีวิตให้กับจักรพรรดิผู้เหลวไหลเพียงนี้ดูสิ มันไม่คุ้มกับเจ้าและกองทัพตระกูลจ้านที่ตายไปหรอก!”“พวกเขากล้าก่อปัญหา เจ้าก็โจมตีกลับได้เช่นกัน ให้บทเรียนกับพวกเขาสักหน่อย!”“ด่า
“โอ้โฮ เยี่ยมมาก! สู้แบบนี้มีโอกาสชนะกี่ส่วน?”“แปดเก้าส่วน ด่านเจิ้นกวนมีอู๋ซานหลาง เปี้ยนจื่อผิงพวกเขาคอยประจำการ ข้ายังทิ้งรถให้พวกเขา ขอแค่พวกเขาพาคนขึ้นรถมากหน่อย ไปกลับไม่กี่วันก็กำจัดเมืองของชนเผ่าหมานให้สิ้นซากได้แล้ว!”“ดี กำจัดชนเผ่าให้สิ้นซากก็ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูเช่นกัน จากนี้ไปถ้าพวกเขายังคิดรวมตัวกันต่อต้านเจ้าอีก ก็ต้องคำนึงความสามารถของตนเองบ้างแล้วล่ะ!”“กองหน้าสู้ไม่ไหว กองหลังถูกฆ่าล้างทั้งเผ่า กล้ามาสู้กับเจ้านั่นเท่ากับวิ่งเข้าหาความตาย!”“อื้ม!”“เอาละ ข้าจะไปพักผ่อนแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็รีบพักผ่อนเถอะ!”“ขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นพูดคุยกับเย่มู่มู่เสร็จอารมณ์ดีขึ้นมาก เขาจะไม่รู้สึกเสียใจกับฮ่องเต้น้อยที่เสร็จศึกแล้วจะฆ่าขุนพลอีกตอนนี้เขาไม่มีเวลามานั่งเศร้าโศกเสียใจเขาเรียกตัวเฉินขุย เฉินอู่ เซี่ยเวยและจ้าวเฉียนเข้ามาในกระโจมตั้งแต่คืนนั้นสารลับที่ขุนนางในราชสำนักส่งมาวันนี้ทุกคนได้เห็นหมดแล้วฮ่องเต้น้อยเห็นว่าชื่อเสียงของจ้านเฉิงอิ้นโด่งดังและเหนือกว่าเขา เหนือกว่ากองทัพธงเหลืองเวลานี้กลับจะร่วมมือกับกองทัพธงเหลืองและสังหารเขากองทัพตระกูลจ้าน
เธอลืมตาขึ้นช้า ๆ เห็นตะเกียงน้ำมันแกว่งอยู่ข้างในรถม้าเสียงประหนึ่งปีศาจร้ายที่คุ้นเคยดังขึ้น “ตื่นแล้ว?”หยางชิงเหอตื่นตกใจลืมตาทันทีเธอ มองเห็นมู่ฉีซิวม่านรถม้าไม่ได้เปิดออก แต่มั่นใจได้ว่าเธอยังอยู่ในพื้นที่ค่ายทหารของกองทัพตระกูลจ้านร่างกายเธออ่อนปวกเปียกไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อยไม่รู้ว่ามู่ฉีซิวป้อนยาอะไรเข้าไปให้เธอกิน!“นะ นายอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”มู่ฉีซิวใช้สายตาชั่วร้ายจับจ้องหยางชิงเหอ ทันใดนั้น เขาเอามือบีบคางเธออย่างแรงและดึงเธอขึ้นมาจนได้สบตาเข้ากับแววตาแดงก่ำ โกรธเคืองและชั่วร้ายของเขา“หยางชิงเหอ เธอกล้าแกล้งตายได้ยังไง เธอกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!”หยางชิงเหอหัวเราะ“ทำไมล่ะ พอไม่มีฉัน กองทัพธงเหลืองของนายก็ทำอะไรไม่เป็นแล้วเหรอ?”เขาคลายมือจากหยางชิงเหอและดึงผ้าไหมม้วนออกมาเช็ดมือพร้อมกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่ามองตนเองสำคัญขนาดนั้น ไม่มีเธอ ฉันก็ผลิตออกมาได้เหมือนกัน”“แต่ฉันมองเธอเป็นแฟน ทะนุถนอมดั่งของล้ำค่า ถึงกระทั่งไปสู่ขอกับตระกูลชุยที่ป๋อหลิง พูดคุยกับบิดาและมารดาตระกูลชุยว่าเธอมีความสำคัญกับฉันมากและต้องมาเป็นอนุภรรยารับใช้ของฉันให้ได้!!”“ฉันไปมา
เมื่อจ้านเฉิงอิ้นได้รับรายงานจากเถียนฉินว่า มู่ฉีซิวพยายามลักพาตัวหยางชิงเหอ และเกือบจะทำสำเร็จทั้ง ๆ ที่รอบตัวหยางชิงเหอมีหวังเซิ่ง อดีตไส้ศึกที่เคยแทรกซึมเข้ากองทัพธงเหลืองคอยคุ้มกัน!แต่เขาก็เกือบทำสำเร็จจ้านเฉิงอิ้นรีบลุกจากเตียง และรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุหยางชิงเหอได้รับผลจากยากล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ร่างกายไร้เรี่ยวแรงและมือทั้งสองข้างถูกมัดเนื่องจากถูกโยนลงจากหลังม้า ร่างกายจึงมีรอยถลอกจากการขูดขีดกับก้อนหินหลายแห่งที่คอมีรอยนิ้วมือจากการบีบเค้นอย่างชัดเจนถึงกระนั้น สภาพจิตใจของนางก็ยังถือว่าดีอยู่แม่นางน้อยชุบน้ำจนผ้าเปียกแล้วส่งให้เสี่ยวเถาเสี่ยวเถาร้องไห้ไปพร้อมกับเช็ดรอยถลอกที่หลังมือของหยางชิงเหอจ้านเฉิงอิ้นถามหวังเซิ่ง “เกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าทั้งห้าคนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของมั่วฝาน มีทั้งความระมัดระวังและฝีมือ แต่ทำไมถึงปล่อยให้มู่ฉีซิวทำสำเร็จ?”หวังเซิ่งก้มหน้าและกล่าวขออภัยต่อจ้านเฉิงอิ้น“ท่านแม่ทัพ พวกเราทั้งห้าคนถูกหลอกให้แยกย้ายกันไป ตอนที่แม่นางหยางกำลังตรวจงานที่โรงงาน พวกเรากระจายกำลังกันเฝ้าระวังอยู่รอบนอก แต่แล้วก็มีกลุ่มคนปรากฏตัวขึ้นและแยก
เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล
เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด
“คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ
“แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ
ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล
หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล
แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา
ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ