공유

บทที่ 533

작가: มู่โร่ว
เหมืองแร่ ทหารนายหนึ่งวิ่งมาจากที่ไกลโพ้น ในมือกำจดหมายแน่น เร่งฝีเท้ามายังหน้ากระโจมบัญชาการของจ้านเฉิงอิ้นด้วยท่าทางร้อนรน

“ท่านแม่ทัพ รายงาน รายงานขอรับ...”

จ้านเฉิงอิ้นได้ยินดังนั้นก็วางแผนที่ลงทันที ก่อนจะก้าวออกจากกระโจมบัญชาการพร้อมกับเฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว และจวงเหลียง

บนใบหน้าหล่อเหลาของเขาปรากฏแววแห่งความยินดี

“ว่าอย่างไร? หลี่หยวนจงส่งข่าวมาแล้วหรือ?”

สีหน้าของทหารที่นำข่าวมาถึงกับชะงักแข็งค้าง ก่อนจะยื่นจดหมายในมือส่งให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือ

แล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่ข่าวจากแม่ทัพหลี่ขอรับ แต่เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของแคว้นเยี่ยน! แม่ทัพเซี่ยเวยและจ้าวเฉียนสามารถต้านทัพของแคว้นฉู่และแคว้นฉีไว้ได้แล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว จ้านเฉิงอิ้นรู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา

“พวกเขาชนะแล้วหรือ? ข้ารู้อยู่แล้วว่าพวกเขาต้องชนะได้แน่!”

เขาคลี่จดหมายออกอ่าน...

เป็นจดหมายจากเซี่ยเวย ใจความระบุว่า “เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าถึงด่านเจิ้นกวนในวันแรก ก็ได้ปะทะกับเจียงเหว่ยจากแคว้นฉู่โดยบังเอิญ เขานำทัพหนึ่งแสนมาเผชิญหน้ากับทหารสองหมื่นห้า
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 534

    ผลปรากฏว่า ทันทีที่พวกเขามาถึงก็เข้าปะทะทันทีขบวนรถศึกขนาดมหึมา พร้อมด้วยการยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินจากบนรถ ทำให้ทหารแคว้นฉีที่ยังเตรียมตัวไม่พร้อมต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างหนักศึกแรกยังไม่ทันได้ปะทะกันโดยตรง ข้าศึกก็แตกพ่ายหนีตายไปเสียแล้วคาดว่าความพ่ายแพ้ครั้งแรกคงสร้างความอัปยศอดสูไม่น้อยกองทัพแคว้นฉีที่มีกำลังพลมหาศาล กลับต้องพ่ายแพ้ให้กับขบวนรถศึกเพียงร้อยกว่าคัน และเหล่าทหารที่ยังไม่ได้ลงจากรถ เพียงแค่การยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ก็ทำให้พวกมันสูญเสียกำลังพลไปมหาศาลเช้าวันถัดมา ฉีซวนเหิงเร่งระดมพลอย่างรวดเร็ว เปิดฉากโจมตีอีกครั้ง เป้าหมายของเขาคือกองทัพที่เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยล้าและยังไม่ทันได้ฟื้นตัวเต็มที่บางทีอาจเป็นเพราะกองทัพแคว้นฉีอ่อนแอและไร้ประสิทธิภาพแม้จ้าวเฉียนและทหารสองหมื่นกว่าคนจะยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ยังคงฮึกเหิมพร้อมเข้าสู่สนามรบทว่าเมื่อได้ปะทะกันจริง ๆ บรรดาทหารผ่านศึกก็พลันเข้าใจว่า สาเหตุที่กองทัพแคว้นฉีทำผลงานได้ย่ำแย่เมื่อวันก่อน ไม่ใช่เพราะพวกเขาอ่อนแอเกินไป แต่เป็นเพราะกองทัพของพวกเขามีอาวุธที่ได้เปรียบ หน้าไม้ราชวงศ์ฉินที่มีระยะยิงไกลและพลังท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 535

    เซี่ยเวยปะทะกับเจียงเหว่ยแห่งแคว้นฉู่ กองทัพหนึ่งแสนของเจียงเหว่ยถูกเซี่ยเวยสังหารไปกว่าครึ่ง ส่วนที่เหลืออีกห้าหมื่นคนแตกพ่ายหนีเตลิดไปเท่จริง ๆ!เย่มู่มู่เพิ่งเคยได้ยินชื่อเจียงเหว่ยเป็นครั้งแรก แม่ทัพหนุ่มที่สามารถเผยตัวขึ้นมาใต้ร่มเงาของหลิงเสี่ยวเฟิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้ คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!แต่การพ่ายแพ้อย่างยับเยินในศึกแรก คงเป็นเพราะเขาประเมินเซี่ยเวยต่ำเกินไปเย่มู่มู่เปิดจดหมายฉบับที่สอง ก็พบว่าคู่ปรับเก่าอย่างฉีซวนเหิงกลับมาอีกแล้วเขานำทัพมาถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย แต่กลับแพ้ติดต่อกันถึงหกครั้ง!เย่มู่มู่เองก็ไม่เข้าใจเลยว่าคนผู้นี้คิดอะไรอยู่คนทั่วไปแค่แพ้สามครั้งก็คงยอมถอดใจแล้ว อย่าว่าแต่สามเลย แค่เธอเล่นเกมแพ้ติดกันสองรอบยังไม่อยากเล่นต่อเลยด้วยซ้ำ!พี่ชายคนนี้แพ้ไปหกครั้งแล้วยังไม่ถอยทัพอีกเขากะจะแพ้จนหมดตัวเลยหรือไง!?เย่มู่มู่มองจดหมายจากจ้านเฉิงอิ้น ขณะที่สองพี่น้องหลูหมิงและหลูซีต่างก็จับจ้องมาอย่างใจจดใจจ่อพวกเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ภูเขาเหมืองเป็นอย่างไรบ้างหรือว่ากองทัพเผ่าหมานของแคว้นเยี่ยนกับกองทัพธงเหลืองยังคงปิดล้อมกองทัพตระกูลจ้านอย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 536

    เวลานั้น หลูหมิงหยิบกริชที่ฝังอัญมณีออกมา “ท่านเทพ โปรดนำกริชเล่มนี้ไปแลกเป็นเสบียงเถิด เวลาทำศึก สิ่งที่หมดเร็วที่สุดก็คือเสบียงกับน้ำ รวมถึงอาวุธและเสบียงอื่น ๆ ด้วย...”“ข้าไม่อยากให้กองทัพตระกูลจ้าน ต้องสิ้นหวังเหมือนตอนที่ถูกล้อมอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนอีก!”เย่มู่มู่ดันกริชกลับไป“พอแล้ว ข้าอยู่นี่ทั้งคน ไม่มีทางให้เจ้าต้องออกเงินหรอก แค่ช่วยกันทำความสะอาดลานบ้านของข้าก็พอแล้ว!”คราวก่อน เย่มู่มู่รับสต็อกสินค้าจากร้านที่สองของเจ้าของร้านขายข้าวมาแล้วของมีเยอะก็จริง แต่หากเกิดสงครามหลายด้านขึ้นพร้อมกัน ก็ยังไม่เพียงพอแน่นอนเธอจึงสั่งซื้อเสบียงจากนอกทะเลมายี่สิบตู้คอนเทนเนอร์เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ แม้แต่พวกที่ฝรั่งไม่นิยมกินอย่าง น่องไก่ กระเพาะหมู และขาหมู...ก็ซื้อมาเหมือนกัน!กินพื้นที่ไปประมาณสิบกว่าตู้คอนเทนเนอร์แต่เสบียงเหล่านี้ยังล่องลอยอยู่กลางทะเล ยังมาไม่ถึงท่าเรือตอนนี้สถานการณ์สงครามตึงเครียด เธอต้องซื้อเสบียงจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังต้องเตรียมซื้อของอีกมากมาย ยา อุปกรณ์ และวัสดุก่อสร้างสำหรับสร้างกำแพงเมือง เช่น ปูนซีเมนต์กับเหล็กเส้น ให้พร้อมนอกจากนี้ย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 537

    เย่มู่มู่เป็นคนลงมือทำมากกว่าพูด เธอเปิดรายงานการเงินประจำเดือนที่ได้รับจากทีมไลฟ์สดช่วยเหลือเกษตรกรนับตั้งแต่เปิดตัวมา ยอดขายเป็นไปได้ด้วยดีแต่ละวันสามารถขายสินค้าได้หลายสิบล้าน ถือว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ของการไลฟ์สดเพียงแต่ว่า เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมีกำไรขั้นต้นต่ำ ต่างจากเครื่องสำอางหรือสินค้าแม่และเด็กที่ทำกำไรได้ถึงสี่สิบถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์แต่สินค้าเกษตรทั่วไปมีกำไรเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ หรือสูงสุดแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์หักค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและค่าแรงแล้ว กำไรที่เหลือก็แทบจะนับเป็นเศษเสี้ยวเท่านั้น!แม้ว่ายอดขายจะสูงมาก แต่กำไรที่ได้ก็ยังเทียบไม่ได้กับเหล่าบรรดาไลฟ์ขายสินค้าแม่และเด็ก หรือเครื่องสำอางและสกินแคร์แบบนี้ไม่ได้! แค่ช่วยขายสินค้าเกษตรยังไม่พอ ต้องขยายธุรกิจหลายด้านควบคู่กันไป!เธอไม่รอช้ารีบโทรหาผู้จักการทันทีเธออยากจะตั้งบริษัทเครือข่ายสร้างคอนเทนต์ ต้องเซ็นสัญญานักไลฟ์สดหน้าใหม่ให้มากขึ้น ขยายธุรกิจหลายช่องทาง! ผู้จัดการเองก็อยากจะคุยกับเธอเรื่องนี้อยู่พอดี!เพราะไลฟ์สดช่วยเหลือเกษตรกรกำลังได้รับความนิยมอย่าง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 538

    แม้แต่ฝ้ายฤดูใหม่ของปีนี้ก็ใกล้จะออกสู่ตลาดแล้ว เธอยังสามารถจองล่วงหน้าได้เลยร้านค้าทั้งหมด เย่มู่มู่ได้กำหนดเรียบร้อยแล้วหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ เธอถึงตอบกลับจ้านเฉิงอิ้น“จ้านเฉิงอิ้น หวังว่าจดหมายนี้จะถึงมือเจ้าอย่างราบรื่นและนำพาความสุขไปให้ ข้าโล่งใจยิ่งนักเมื่อรู้ว่าแคว้นเยี่ยนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ดี...”“เจ้าคิดว่า หลี่หยวนจงจะสามารถพิชิตแคว้นเยี่ยนได้หรือไม่?”*ภายในห้องพักชั่วคราวใต้ภูเขาเหมือง~จ้านเฉิงอิ้นจ้องมองจดหมายตอบกลับที่เย่มู่มู่ส่งมาให้ เขาเงียบไปชั่วขณะ ไม่รู้จะตอบอย่างไรดีแปดวันแล้วแม้แต่เปี้ยนจื่อผิงที่เดินทางไปยังราชสำนักม่อเป่ย ก็ส่งข่าวดีมาถึง พวกเขาใช้ไฟโจมตี เผากระโจมของม่อเป่ยให้ลุกไหม้ จากนั้นจึงใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงเข้าไป บีบให้เหล่าทหารเผ่าหมานด้านในต้องออกมาไม่นึกเลยว่าจะมีเผ่าหมานถึงห้าหมื่นนายศึกโจมตีแบบสายฟ้าแลบของเปี้ยนจื่อผิงครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบากยิ่งเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนแล้ว กองทัพหกพันนายต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังห้าหมื่น อีกทั้งชาวม่อเป่ยยังมีพรสวรรค์ด้านการขี่ม้าและยิงธนูโดยกำเนิดการโจมตีครั้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 539

    หลี่หยวนจงขาดการติดต่อไป~พูดให้ถูกคือหลงทาง!ตอนแรกที่พวกเขาออกจากเมือง ทุกอย่างยังราบรื่นถึงแม้จะต้องเดินทางทุกวัน แต่ก็ให้ทหารได้พักผ่อนอย่างเพียงพอเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่พวกเขาขับรถทางไกล จึงไม่ค่อยชำนาญในการขับรถบนภูมิประเทศแบบต่าง ๆหลังจากออกจากเมืองได้ไม่นาน คนขับรถบรรทุกคันหน้าก็ประมาท ทำให้รถติดหล่มทรายทุกคนช่วยกันขุดหลุม ลองใช้ม้าลากรถ แต่ก็ไม่สำเร็จสุดท้ายก็มีคนเสนอให้ใช้รถสองคันลากพวกเขาไม่มีเชือกเหล็ก มีเพียงเชือกป่าน ผลคือดึงทีเดียวก็ขาดต้องใช้เชือกหลายเส้นมัดรวมกัน แล้วเหยียบคันเร่งลากรถรถก็หลุดออกมาได้ แต่เสียเวลาไปครึ่งค่อนวันหลี่หยวนจงร้อนใจ พวกเขากำลังจะไปยึดเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนได้สุดท้าย การออกศึกกลับเริ่มต้นด้วยลางร้ายรถคันที่นำทาง ไม่กล้าให้คนเดิมขับแล้ว จึงให้คนที่ขับรถคล่องที่สุดเป็นคนนำทางผลคือ พาพวกเขาหลงทางกองทัพเดินทางออกนอกเส้นทางของแคว้นเยี่ยนไปไกล พวกเขากลับมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ไม่มีใครกล่าวถึงได้ระหว่างทาง ขบวนรถติดหล่ม ซ่อมรถ และหยุดพัก จนเสียเวลาไปถึงสามวันแต่เมื่อเดินหน้าต่อไป เส้นทางก็ยังคงผิดเพี้ยนสุดท้าย ไม่เพ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 540

    ชาวบ้านต่างพากันนำทางพวกเขาไปยังถ้ำ แล้วเดินลึกลงไปอีกภาพของบ่อน้ำขนาดมหึมาปรากฏขึ้นเนื่องจากอยู่ลึกจากพื้นดินมาก แสงแดดส่องไม่ถึง และผนังหินช่วยป้องกันการระเหย น้ำจึงยังคงอยู่ ไม่แห้งขอดหลี่หยวนจงและเหล่าทหารดีใจมากที่เห็นน้ำมากมายขนาดนี้โชคดีที่พวกเขานำเครื่องสูบน้ำมาด้วย!พวกเขาดึงท่อสูบน้ำยาว ๆ สองท่อไปที่ปากถ้ำ ตั้งหม้อขนาดใหญ่ แล้วต้มข้าวต้มแจกจ่ายให้ทุกคน!เนื่องจากหลายคนอดอยากมานาน จึงให้คนละเพียงเล็กน้อยถึงอย่างนั้น ก็ใช้เสบียงของกองทัพไปไม่น้อยชาวเมืองทั้งเมืองอิ่มหนำสำราญ ต่างก็ดีใจอาหารมื้อนี้ช่วยให้พวกเขาไม่ต้องอดตายไปอีกสองวันเมื่อรู้ว่าหลี่หยวนจงและคณะกำลังจะไปเมืองหลวง ชาวบ้านก็อาสาเป็นผู้นำทาง...แม้แต่ชายฉกรรจ์ก็อาสาเข้าร่วมกับพวกเขา เพียงเพื่อแลกกับอาหาร!ในบรรดาประชากรกว่าสองแสนคน ที่รอดชีวิตมาได้ห้าหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์ คนชรา ผู้หญิง และเด็กมีไม่ถึงหนึ่งในสามหลี่หยวนจงมองดูผู้คนที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ถึงแม้จะกินข้าวต้มหมดแล้ว ก็ยังเลียชามอยู่...ผู้หญิงแต่ละคนหน้าเหลืองซีดเซียว ท้องป่องโต หลบอยู่ตามมุมเด็ก ๆ ยิ่งไม่กล้าเข้าใกล้ หลบอย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 541

    ในเมืองไม่น้อยยังพอมีเสบียงอาหารแก้ปัญหาเรื่องเสบียงอาหาร จากการมีคนเข้าร่วมทัพกลางทางอย่างต่อเนื่องได้สมบูรณ์!ทว่าขุนนางกังฉินทำร้ายประชาชนของแคว้นฉู่ก็มีไม่น้อย ประชาชนด้านนอกอดจนผอมเห็นกระดูก บางคนแย่งเด็กมาเผากินบนถนนเลยภายในยุ้งฉางของเจ้าเมือง เสบียงอาหารในโกดังล้นจนยัดไม่ลงหนูกินจนอ้วนท้วมตัวจ้ำม่ำ!เพียงแค่ด้านนอกคั่นด้วยกำแพง ก็มีหนึ่งร้อยคนที่อดตายทั้งเป็นเนื่องจากการกินดินขาวแล้วทว่าด้านในครั้นเปิดยุ้งฉาง เสบียงอาหารก็เทกระจาดออกมาเมื่อหลี่หยวนจงเห็นสภาพที่น่าเวทนาเช่นนี้ ก็ก่นด่าว่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนมิใช่คนทหารใหม่ที่ก่อกบฏร่วมกับเขา ก็กลัดกลุ้มอย่างมากเช่นกันเหตุใดเขาจึงก่นด่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนในเขตแดนแคว้นฉู่!นี่เกี่ยวข้องอะไรกับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนหรือ?ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนไม่ได้เป็นคนกักตุนเสบียงเสียหน่อย!กระทั่งพวกเขาจู่โจมเมืองหลวงแคว้นฉู่ได้...หลี่หยวนจงถึงค้นพบในฉับพลัน...คล้ายกับเขามาผิดทางแล้วใช่แล้ว ในที่สุดเขาก็เห็นมังกรดำเลื่อมงดงามที่อยู่บนธงชัดเจน!เป็นธงที่เป็นสัญลักษณ์ของแคว้นฉู่ ธงมังกรดำ!ฉะนั้นที่พวกเขาเดินทัพมาอย่างยิ่งใหญ่เกรีย

최신 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status