Share

บทที่ 55

Author: มู่โร่ว
เธอจะช่วยจ้านเฉิงอิ้นได้อย่างไร?

เย่มู่มู่เข้าสู่ระบบชุมชนกองทัพออนไลน์ เว็บบอร์ดโรงเรียนนายร้อยแต่ละแห่ง

มีกระทู้ปักหมุดไว้ด้านบน

มีคนคอมเมนต์เยอะมาก ส่วนใหญ่ไปในทางด้านลบ

คนสองหมื่นคนต่อสู้กับกองทัพสามแสนคน ต่อให้จูเก๋อเลี่ยง[1]กลับชาติมาก่อนก็ไม่มีทางทำอะไรได้ จำนวนคนมันห่างไกลกันเกินไป

แม้ว่าคนสองหมื่นคนในเมืองจะเป็นเหมือนเครื่องบดเนื้อ แต่กองทัพสามแสนนายก็สามารถทำลายเครื่องบดเนื้อและพวกทหารไปพร้อมกันได้

มีคนแนะนำว่าผู้โพสต์ว่าควรรีบยอมแพ้ ไม่มีหนทางรอดแล้ว

ยังมีคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่เสนอความคิดอย่างจริงจัง

ความแตกต่างในจำนวนคนนั้นมากเกินไป รักษาอย่างสุดชีวิตก็ไม่มีทางเอาชนะได้

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไม่มีน้ำไม่มีเสบียง หากจะเป็นฝ่ายรักษาสุดชีวิต ก็ทำได้เพียงถูกฆ่าตายทั้งเป็น

ควรจะมองหาโอกาสในการเริ่มโจมตี

ผู้ยิ่งใหญ่ทิ้งแก่นสารสิบหกคำเอาไว้ เมื่อศัตรูล่าถอยข้าจะบุก เมื่อศัตรูประจำการข้าจะก่อกวน เมื่อศัตรูอ่อนล้าข้าจะโจมตี เมื่อศัตรูถอยข้าจะไล่บี้...

การรบแบบกองโจรเหมาะสำหรับชนบทล้อมเมือง

ถูกขังตายอยู่ในเมืองเหมาะที่จะทำสงครามอุโมงค์ ขุดอุโมงค์เพื่อก่อกวน

หลังจากติดตั้งอุปกรณ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 56

    จ้านเฉิงอิ้นรีบนำแท็บเล็ตส่งกลับไปทันที ทุกคนหาหรือกันว่า ถ้าสามารถแอบเข้าไปในคอกม้าของเผ่าหมานได้ ก็ให้จุดประทัดที่ติดอยู่กับก้นม้า เมื่อม้าในกองทัพตกใจ ก็จะพุ่งชนกันไปมาในค่ายทหาร ทำให้ค่ายใหญ่เผ่าหมานเกิดความวุ่นวาย ในเวลานี้ สวี่หมิงก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา กระซิบข้าหูจ้านเฉิงอิ้นด้วยเสียงต่ำ จ้านเฉิงอิ้นถามเขาในทันทีว่า “เจ้าพูดจริงหรือ?” สวี่หมิงพยักหน้า “ขอรับ ท่านแม่ทัพ เขาบอกว่าเส้นทางออกจากเมืองนี้มีทางลับสองทาง แยกออกเป็นทางสู่ทิศใต้และทิศเหนือ” แววตาของจ้านเฉิงอิ้นฉายประกายขึ้นมาในพริบตา “เช่นนั้นก็ดีสิ เว่ยกวงคนนี้มีประโยชน์มากจริง ๆ” เฉินอู่ถามจ้านเฉิงอิ้นว่า “หมายถึงอันธพาลข้างถนนที่เคยช่วยจากคุกใต้ดินเมื่อครั้งก่อนรึเปล่า?” “ใช่ เขาบอกว่าเส้นทางออกจากเมืองนี้ยังมีทางลับสองทาง เป็นเส้นทางที่พวกพ่อค้าที่ทำการค้าขายใช้เพื่อหลบเลี่ยงภาษี และเส้นทางลับทั้งสองเส้นนั้นยังแยกออกไปสู่เส้นทางไปทิศใต้และทิศเหนือ กองกำลังหลักของทัพใหญ่เผ่าหมาน ตั้งค่ายอยู่ห่างจากประตูเมืองไปทางทิศตะวันออกสิบลี้ ทางทิศเหนือและทิศใต้มีการกระจายกำลังทหารไว้ แต่น้อยกว่ากองกำลังหลั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 57

    เสียงเคาะประตูที่สร้างความรำคาญใจ ทำให้เย่มู่มู่โทรหาผู้จัดการนิติบุคคล “ทำไมพวกคุณถึงปล่อยให้เขาเข้ามาได้?” ผู้จัดการนิติบุคคลเองก็ลำบากใจ “คุณหนูเย่ คุณยายท่านนั้นสร้างปัญหามากจริง ๆ ครั้งก่อนที่คุณขับรถทำให้เธอตกใจจนล้มลง เธอนอนอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกและไม่ยอมไปไหน”“เธอจอดรถขวางหน้าประตูทางเข้าบ้านของเจ้าของบ้านคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน จนทุกคนหมดหนทางแล้วจริง ๆ พอโทรเรียกรถพยาบาลมารับเธอ เธอก็ไม่ยอมขึ้นรถพยาบาล” “เธอร้องไห้โวยวายอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน บอกว่าพ่อของคุณอกตัญญู บอกว่าคุณขับรถชนย่าของตัวเองจนเสียชีวิตแล้วหนีไป”“เราตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว เห็นว่าไม้เท้าของเธอชนรถของคุณก่อน คุณแค่ขู่เธอเท่านั้น แล้วรถก็ไม่ได้โดนตัวเธอเลย เธอล้มเองด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังฉวยโอกาสเรียกร้องค่าเสียหาย”“เจ้าของบ้านที่โมโหโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจเลยพาตัวเธอไป”เดิมทีผู้จัดการนิติบุคคลคิดว่าเธอไปแล้ว เรื่องก็น่าจะสงบลงได้แล้วแต่ปรากฏว่าสองวันต่อมา เธอพานักข่าวมาหาเย่มู่มู่อีกถ้ามีเหตุผลก็แจ้งความ ถ้าไม่มีเหตุผลก็ไกล่เกลี่ย แต่ถ้าไร้ศีลธรรมก็พานักข่าวมา...ยายเฒ่าคนนี้ทำให้ผู้จัดการนิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 58

    “มีหลักฐานการกู้ยืมหรือเปล่าครับ?” “มีค่ะ ตอนเซ็นเอกสารก็ถ่ายวิดีโอไว้ด้วย” “ดีเลยครับ คุณมอบอำนาจให้สำนักงานทนายความดำเนินการแทนคุณทั้งหมดในการทวงถามเงินที่ให้ยืมคืนมา หรือฟ้องร้องเลยครับ?”“ฟ้องร้องเลยค่ะ พวกคุณคงทวงเงินคืนได้ยาก”เย่มู่มู่ถ่ายรูปเอกสารการกู้ยืมและคัดลอกวิดีโอชุดหนึ่งส่งให้ทนาย แล้วมอบหมายให้สำนักงานทนายความจัดการทั้งหมดเมื่อทนายสวีเห็นยอดเงินกู้ยืมสามร้อยล้านบาท ก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก เขาจึงยืนยันว่าจะช่วยเธอทวงเงินคืนให้ได้หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว เย่มู่มู่ก็เตรียมกล่องใบใหญ่หนึ่งใบ และกล่องเครื่องประดับอีกสามกล่องเธอหาถุงกันฝุ่นและผ้าเช็ดมาทำความสะอาดของมีค่าทุกชิ้นหลังจากเช็ดทำความสะอาดแล้ว เธอก็ใช้ถุงกันฝุ่นปิดผนึกไว้ ใส่ลงไปในกล่องหนังเครื่องประดับพวกนี้ทั้งหมดรวมกันแล้วเต็มกล่องใหญ่สองใบ และเธอเก็บไว้ในห้องนิรภัยใต้ดินเหลือไว้เพียงจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์สีสันสดใสใบหนึ่งเธอถ่ายรูปจานกระเบื้องเคลือบและส่งไปให้ผู้อาวุโสมู่ณ เวลาสี่ทุ่มครึ่ง เธอคิดว่าผู้อาวุโสมู่คงจะพักผ่อนแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้อาวุโสมู่กลับวิดี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 59

    ผู้อาวุโสมู่ชื่นชอบจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์จริง ๆ จึงรีบโอนเงินมาให้ทันทีเธอยอมขายให้ ผู้อาวุโสมู่จะมารับที่บ้านในวันพรุ่งนี้ตอนสิบโมงเช้าหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอก็เตรียมเครื่องปั๊มน้ำ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเขียนจดหมายถึงจ้านเฉิงอิ้นฉบับหนึ่ง “ฉันถามนักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง เขาบอกว่าประวัติศาสตร์บันทึกว่าเจ้าจะตายในสนามรบที่ด่านเจิ้นกวน”“ด่านเจิ้นกวนจะถูกตีแตกจากการร่วมมือของแคว้นฉู่ แคว้นฉี และเผ่าหมานสามฝ่าย”“เจ้าถูกทหารจากแคว้นฉีรุมฆ่าจนเสียชีวิต” “จ้านเฉิงอิ้น ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดชีวิตไปได้ และต้องระวังการร่วมมือของแคว้นฉู่ แคว้นฉี และเผ่าหมานด้วยนะ”ด้วยความกังวลใจ เธอจึงใส่กระดาษลงในแจกันดอกไม้*ที่ชายแดน ในกระโจมของค่ายเผ่าหมาน หลัวเก๋อกำลังโมโหใส่เหล่านายทหาร“ม้าศึกสองพันตัววิ่งหายไป ทหารสามพันกว่านายถูกเหยียบตายไปหลายร้อยคน…”“พวกเจ้ายังไม่รู้หรือว่าเป็นฝีมือใคร? จับไม่ได้กระทั่งเงา”“พวกเจ้านี่มันไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์สิ้นดี…”หลัวเก๋อขว้างกาน้ำชาบนโต๊ะใส่นายทหารคนหนึ่งซึ่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าอย่างแรง จนเกิดรอยช้ำเลือดบนหน้าผากของเขาทุกคนหมอบลง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 60

    ดวงตาของเขาเย็นชา แต่ยังคงก้มหน้าลงโดยไม่แสดงอารมณ์เมื่อทหารออกไปแล้ว หลัวเก๋อก็สั่งว่า “เตรียมอาวุธและแต่งกายให้พร้อม ไปสนับสนุนทั้งทางใต้และทางเหนือของเมือง…”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”กองทัพหลักมีจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นนายที่ประตูเมืองทางตะวันตก ทางใต้ และทางเหนือ มีกองทัพปักหลักประจำกการอยู่ที่ละห้าหมื่นนายทหารห้าหมื่นนายสู้กับทหารสองหมื่นนายของจ้านเฉิงอิ้น อย่างไรเสียก็ต้องชนะอย่างแน่นอน ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้?หลัวเก๋อนำกำลังทหารจำนวนมากไปช่วยเสริมกำลัง* ณ ด่านเจิ้นกวน บนกำแพงเมืองจ้านเฉิงอิ้นมองไปทางกองทัพเผ่าหมานสงครามกองโจรได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเฉินขุย เฉินอู่ อู๋ซานหลาง และเปี้ยนจื่อผิงพาคนจำนวนสามพันนายออกไปสองทาง โดยสวมชุดเกราะและนำประทัดกับระเบิดมุ่งหน้ามายังฐานที่ตั้งของทัพเผ่าหมานเผ่าทั้งทางทิศใต้และทิศเหนือเวลาเที่ยงคืนพอดี เป็นช่วงเวลาที่คนหลับลึกที่สุดเขายืนอยู่บนหอประตูเมือง มองไปยังตำแหน่งของกระโจมในค่ายเผ่าหมานการระเบิดคอกม้าทางใต้และทางเหนือเป็นเพียงการหลอกล่อเท่านั้น เพื่อทำให้ศัตรูตกหลุมพรางที่ตนวางไว้เป้าหมายของจ้านเฉิงอิ้นตั้งแต่ต้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 61

    หลัวเก๋อถูกระเบิดจริง!น่าเสียดายที่คร่าชีวิตเขาไม่ได้ม้าศึกของเขาตัวใหญ่นัก บังระเบิดส่วนใหญ่ไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บแต่ขาทั้งสองข้างของเขาถูกระเบิดจนพิการนับแต่นั้น หลัวเก๋อกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้ เนื่องจากผู้นำทัพได้รับบาดเจ็บสาหัส ขวัญกำลังใจของทหารกองหนุนเผ่าหมานพลันดับสูญ ฝ่ายของพวกเขาถูกระเบิดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จึงถอยทัพอย่างต่อเนื่องระเบิดทำให้ม้าตกใจยากควบคุม มันแบกทหารบนหลังหนีเตลิด วิ่งเข้าสู่ส่วนลึกของทุ่งหญ้า ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งอีกต่อไปเดิมกองทัพเผ่าหมานก็หย่อนยานอยู่แล้ว ครั้งนี้ยิ่งสับสนอลหม่านสิ้นดีเฉินขุยและเปี้ยนจื่อผิงรีบนำทหารสามพันนายออกจากจุดซุ่มโจมตี“บุกสังหาร เหล่านักรบ จงสังหารเผ่าหมานให้ราบ พิทักษ์ต้าฉี่ของเรา!”“ตัดได้หนึ่งศีรษะ แลกรางวัลข้าวสารสิบชั่ง บะหมี่ห้าชั่ง...พี่น้องทั้งหลาย จงบดขยี้พวกมันกับข้า พวกมันล้วนเป็นแค่เศษสวะ!”กองทัพตระกูลจ้านฮึกเหิม เดือดพล่านสุดขีดทหารที่สวมชุดเกราะหนัก ถือดาบม่อเตาเป็นผู้นำรบออกหน้า วิ่งปรี่ไปยังค่ายศัตรูตามด้วยลูกศรของหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน เสริมด้วยธนูและศรปิดท้ายด้วยการโจมตีซ้ำจากนายทหารน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 62

    ต่อให้เป็นก่อนถูกล้อมเอาไว้ในเมือง พวกเขาก็ไม่เคยมีชีวิตที่ดีขนาดนี้บัดนี้ กองทัพตระกูลจ้านชนะศึกกลับมา พวกเขาราวกับได้เห็นชีวิตดี ๆ กำลังกวักมือเรียกเหล่าชาวบ้านมีน้ำตาอุ่นร้อนคลอหน่วยทหารที่ยังไม่ได้ออกจากเมืองไปสู้รบ รวมทั้งทหารใหม่ ล้วนอยากจะเข้าสู่สมรภูมิไปคร่าศัตรูฆ่าเผ่าหมานหนึ่งคน แลกข้าวสารสิบชั่ง และบะหมี่ห้าชั่ง อาหารจำนวนนี้สามารถเลี้ยงหนึ่งครอบครัวได้หนึ่งเดือน หากประหยัดโดยการต้มโจ๊ก จะอยู่ได้หนึ่งเดือนครึ่งพวกเขาไม่หวั่นไหวก็คงจะแปลกโดยเฉพาะทหารใหม่ ที่เข้าร่วมกองทัพเพื่อรับข้าวสารสี่ชั่งและบะหมี่หนึ่งชั่งต่อเดือนตอนนี้เห็นเสบียงทหารจำนวนมากกองอยู่ตรงหน้า พวกเขาแทบอยากจะลงสนามรบเดี๋ยวนี้เลย“แม่ทัพเฉินขุย สังหารข้าศึกไปทั้งสิ้นสองร้อยสี่สิบราย ได้รับข้าวสารสองพันสี่ร้อยชั่ง บะหมี่หนึ่งพันสองร้อยชั่ง” ทหารชั้นผู้ช่วยของเฉินขุย ผู้ติดตาม องครักษ์...ล้วนอาศัยอยู่ในจวนของเฉินขุยเมื่อรวมส่วนของคนเหล่านี้ คิดเป็นรางวัลข้าวสารห้าพันชั่ง บะหมี่อีกกว่าสองพันชั่งพวกเขายินดีปรีดาอยู่ที่หน้าแถวสุด แบกกระสอบอาหารไว้บนหลัง แล้วเดินไปที่จวนแม่ทัพเฉินขุยอย่างชื่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 63

    เขาพูดต่อ “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นหลัวเก๋อถูกแรงระเบิดพลัดจากหลังม้า ป่านนี้เขาน่าจะตายไปแล้ว”เหล่านายทหารมองไปที่เฉินอู่เป็นตาเดียวดวงตาตกตะลึง ประหลาดใจและเหลือเชื่อ!หลัวเก๋อถูกระเบิดจริงหรือ?แม้แต่มั่วฝานคนเคร่งขรึมยังถามเขาว่า “เจ้าแน่ใจหรือ? เขาเป็นน้องชายร่วมสายเลือดของม่อเป่ยอ๋อง ราชสำนักม่อเป่ยไว้วางใจเขามาก จึงมอบกองกำลังสามแสนนายให้เขาบุกโจมตีเมืองนี้” “ข้าแน่ใจ เพราะข้าจับตาดูเขาอยู่ตลอด ทั้งตั้งคันธนูและศร จุดน้ำมันตะเกียง ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ข้าก็ยิงธนูจุดระเบิดที่ใต้เกือกม้าของเขา”“เป็นไปตามคาด เขาถูกระเบิดคนแรก ตามด้วยคนที่อยู่ข้างหลังเขา ทหารม้าเผ่าหมานจำนวนหนึ่งถูกระเบิด ทั้งคนและม้าล้มตายอลหม่าน!” เฉินอู่ยิ้มภูมิใจจนเห็นฟันซี่ใหญ่ “ข้ากล้ายืนยันว่าเขาตายแล้ว หรือต่อให้ไม่ตาย ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส” “ระเบิดที่ท่านเทพมอบให้นั้นมีประโยชน์มาก วันนี้เราสังหารทหารเผ่าหมานได้สี่หมื่นนาย สามหมื่นในนั้นตายเพราะแรงระเบิด นี่คือข้อได้เปรียบของพวกเรา”“ท่านแม่ทัพ ขอระเบิดจากท่านเทพเพิ่มได้หรือไม่? ระเบิดนี้เป็นกุญแจสำคัญให้กองทัพเราชนะโดยสูญเสียน้อยลง” จ้านเฉิงอิ้น

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status