แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: มู่โร่ว
เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เธอนอนอยู่บนโซฟาในห้องนอนของพ่อแม่ บนหมอนยังคงเปียกชื้น

เธอคิดถึงพวกเขามากเกินไปจนร้องไห้ระหว่างหลับฝันอีกแล้ว

ตีสองครึ่ง ตอนลงมาชั้นล่างไฟในห้องรับแขกยังคงสว่างอยู่

แต่มีกระดาษเหลืองโบราณเพิ่มมาหลายแผ่น

อ้าก!

เจ้าแจกันนี่เอาขยะมาทิ้งในบ้านอีกแล้ว!

เธอเดินเข้าไปในห้องรับแขกชั้นล่างด้วยความเดือดดาล คว้ากระดาษเหลืองเขรอะฝุ่นแผ่นนั้นลงมา

ตัวอักษรเป็นแบบตัวเต็ม เขียนตามแนวตั้ง

ลักษณะรอยหมึกขาด ๆ หาย ๆ เหมือนใช้ขี้เถ้าเขียน

รอบก่อนมีแค่ไม่กี่ตัวอักษร รอบนี้กลับเขียนมายาวพรืด รอยพู่กันคมกริบ ตัวอักษรหวัดฉวัดเฉวียน

มีทั้งหมดสี่หน้ากระดาษ เธอไม่รู้ว่าเขียนอะไรบ้าง

ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเอาเข้าโปรแกรมแปลภาษาค่อยทราบว่าคือคำอธิษฐานขอพร

แคว้นต้าฉี่ รัชศกชูหยวนปีที่สาม กองทัพตระกูลจ้านพิทักษ์ด่านสำคัญบริเวณชายแดน ถูกกองทัพสามแสนของเผ่าหมานปิดล้อมกลายเป็นเมืองที่ปิดตาย

ทหารหาญสองแสนคนพลีชีพในสมรภูมิเหลือเพียงสองหมื่นคน

ด่านเจิ้นกวนเกิดภัยแล้งรุนแรง แม่น้ำเหือดแห้งพืชพรรณเฉาตาย

ราษฎรเพาะปลูกไร้ผลเก็บเกี่ยว กินเปลือกไม้ใบหญ้าจนหมดเกลี้ยง

ในเมืองมีราษฎรสองแสนคน หิวตายไปเหลือคณานับ กระเสือกกระสนรอดชีวิตมาได้เพียงแปดหมื่น

คนที่เขียนคำอธิษฐานนี้เรียกเธอว่าท่านเทพ

ขอให้เธอประทานน้ำและอาหาร เขาซึ่งรั้งตำแหน่งหนิงกวนโหวยินดีตอบแทนด้วยชีวิต

ชาวบ้านในเมืองจะสร้างวัดให้เธอ กราบไหว้บูชาชั่วลูกชั่วหลาน

กระดาษสองแผ่นที่เหลือบอกเล่าสองเรื่องราว

เรื่องของบิดาใจเหี้ยมที่เอาลูกชายในไส้ไปแลกอาหาร

ยังมีอีกเรื่อง คุณย่าใช้เลือดป้อนหลานสาว เก็บสะสมรากหญ้าหลายวันนำมามอบให้หนิงกวนโหว เพียงหวังว่าหลานสาวจะไม่กลายเป็นอาหารของผู้อื่น

โหดร้าย!

ช่างโหดร้ายเหลือเกิน!

หมายความว่าขยะพวกนี้…จดหมายพวกนี้มาจากแคว้นต้าฉี่ รัชศกชูหยวนปีที่สามงั้นเหรอ?

แต่ในประวัติศาสตร์จีนไม่มีราชวงศ์นี้นี่นา

แจกันที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของครอบครัวเธอเก็บขยะจากยุคโบราณกลับมาหรือนี่!

เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลนี้ เย่มู่มู่วิ่งขึ้นไปห้องหนังสือของคุณพ่อที่ชั้นบน

หยิบกระดาษเอสี่สองปึก น้ำหมึกสองขวด ปากกาคอแร้งสองด้าม พู่กันสองแท่ง…หอบลงมายังชั้นล่าง

เธอพิมพ์ข้อความตอบกลับในโทรศัพท์มือถือแล้วแปลงเป็นอักษรตัวเต็มเสียก่อน

จากนั้นก็ใช้ปากกาคอแร้งเขียนอักษรตัวเต็มเหล่านั้นลงไป

คุณพ่อให้เธอฝึกคัดลายมือตั้งแต่เล็ก เธอฝึกคัดตัวอักษรโซ่วจินถี่[1]มาสิบปี ลายมือจึงไม่ถือว่าแย่

“สวัสดีค่ะ ฉันไม่ใช่ท่านเทพ ฉันชื่อเย่มู่มู่ เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง”

“ผ้าพันแผลเปื้อนเลือดกับเศษดาบเปื้อนเลือดที่โผล่มาที่บ้านฉันเป็นของคุณใช่ไหมคะ? กรุณาอย่าทิ้งขยะมาที่บ้านฉันอีกนะคะ มันจัดการยากมากเลย”

เย่มู่มู่ใคร่ครวญแล้วเขียนต่อไป “คุณบอกว่าที่ด่านเจิ้นกวนขาดแคลนน้ำและเสบียง สิ่งที่ขาดแคลนที่สุดตอนนี้คืออะไรคะ?”

คนคนเดียวต้องเลี้ยงคนเป็นแสนก็กินแรงไม่เบา

แต่การช่วยเหลือเท่าที่จะสามารถทำได้นั้นกลับทำได้อยู่

หลังเขียนเสร็จก็ยังรู้สึกทึ่งอยู่ดีที่แจกันในบ้านเธอเชื่อมโยงสองโลกเข้าด้วยกัน

เธอโยนขวดหมึก กระดาษเอสี่ ปากกาคอแร้งและพู่กันลงไปในแจกันอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

แล้วโยนจดหมายตอบกลับตามไปเป็นอย่างสุดท้าย

เธอมองดูสิ่งของในแจกันอันตรธานไปด้วยความอัศจรรย์ใจ

*

ตึง! ทันใดนั้นมีเสียงทึบ ๆ ดังขึ้น

จ้านเฉิงอิ้นเด้งตัวลุกจากเตียง เขารออยู่นานมาก

เมื่อคืนเขาพลิกตัวกลับไปกลับมาเพราะนอนไม่หลับ คิดว่าตัวเองโลภมากเกินไป ทำให้ท่านเทพโกรธกริ้ว

ตอนนี้ ในที่สุดท่านเทพก็ส่งคำตอบกลับมาแล้ว

เขาสวมเสื้อคลุม จุดเทียน

แล้วก็เห็นกระดาษปึกใหญ่สองปึกบนโต๊ะ

เขาหยิบมาหนึ่งแผ่น ขอบกระดาษตัดได้เสมอกันมาก สีขาวเหมือนใหม่ ขาวจนเรืองแสงท่ามกลางราตรี

ขวดแก้วหลิวหลีขนาดเล็กสองขวด มีฉลากเขียนไว้ว่าน้ำหมึก

เป็นหมึกที่เทพใช้กัน

พู่กันกลิ้งลงมา รวมถึงปากกาคอแร้งที่เรียวยาวเหมือนแท่งไม้

สุดท้าย เขาก็เห็นจดหมายที่ท่านเทพตอบกลับมา

เขาเห็นตัวอักษรบนนั้น แข็งแกร่งทรงพลัง ลายมือคมกริบดุจกระบี่

เขาอ่านจดหมายฉบับนั้นโดยละเอียด สีหน้าพลันพลุ่งพล่าน ปลายนิ้วสิ่นระริก!

ท่านเทพได้อ่านคำขอร้องของเขาแล้ว!

นางมีนามว่าเย่มู่มู่ ปฏิเสธว่ามิใช่เทพ ยังบอกว่าโลกนี้ไม่มีเทพ

ไม่

นางคือเทพ!

นางคือเทพของเขา!

แผ่นดินเกิดภัยแล้ง ราษฎรมีชีวิตลำบากแสนเข็ญ ไม่เพียงแคว้นต้าฉี่ แคว้นเพื่อนบ้านหลายแคว้นก็ร้อนระอุขึ้นทุกวันเช่นกัน คนตายคนเจ็บสุดคณานับ

มีเพียงเทพของเขาที่สดับตรับฟังคำอธิษฐาน ประทานน้ำและอาหาร ช่วยเหลือราษฎรให้พ้นทุกข์!

สายตาของเขากวาดไปถึงสองประโยคสุดท้าย

ท่านเทพถามเขาว่าสิ่งที่ขาดแคลนที่สุดคืออะไร?

แสดงชัดว่าท่านเทพยินดีช่วยเหลือเขา ยินดีช่วยเหลือทหารและราษฎรหนึ่งแสนคนในด่านเจิ้นกวน!

ฉับพลันนั้น แม่ทัพใหญ่ที่สังหารศัตรูในสมรภูมิมานับไม่ถ้วนสุดจะกลั้นได้อีกต่อไป น้ำตาไหลลงมาหยดลงบนจดหมายฉบับนั้น

เขาร่ำไห้ด้วยความยินดีอย่างถึงที่สุด

คนนับแสนในด่านเจิ้นกวนมีทางรอดแล้ว!

ท่านเทพรับปากว่าจะช่วยเหลือพวกเขา!

เขาหยิบพู่กันขึ้นมา วางกระดาษสีขาวราบไปบนโต๊ะ เปิดขวดน้ำหมึก พู่กันจุ่มหมึกเบา ๆ

หอมดีจริง

น้ำหมึกนี้มีกลิ่นหอม ต่างจากหมึกที่ใช้หินหมึกฝนออกมา

เขาจรดพู่กันเขียนจดหมาย บอกว่ายามนี้ด่านเจิ้นกวนขาดแคลนน้ำและเสบียงมากที่สุด

หากมีน้ำก็จะสามารถช่วยเหลือชาวบ้านหลายหมื่นคนภายในเมือง

หากมีเสบียงก็จะไม่มีเหตุการณ์คนกินคนเกิดขึ้น

เขาหวังว่าทุกคนจะมีชีวิตรอดต่อไป!

*

เย่มู่มู่ได้รับจดหมายตอบกลับ คราวนี้สามารถอ่านเข้าใจโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือแปลออกมา

ขาดแคลนน้ำกับเสบียง

ต้องเลี้ยงคนหนึ่งแสนคน

ถึงเธอจะเป็นทายาทรุ่นที่สองของครอบครัวเศรษฐีก็ไม่สามารถเลี้ยงคนจำนวนมากขนาดนั้น

แม้พ่อแม่จะทิ้งมรดกก้อนโตไว้ให้เธอ แต่ส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์

เงินสดนำไปจ่ายภาษีมรดกหมดแล้ว

เงินสามล้านกว่าในบัตรคือค่าเช่าที่ได้จากการปล่อยเช่าตึกสองหลังและร้านค้าหลายร้าน

เงินปันผลจากบริษัทจะได้รับตอนสิ้นปี!

“เสบียงสำหรับคนแสนคนไม่ใช่ปริมาณน้อย ๆ ค่าใช้จ่ายไม่น้อย ฉันต้องใช้เวลารวบรวมหลายวัน”

“คุณหาสระน้ำขนาดใหญ่ จัดการเตรียมพื้นที่ พรุ่งนี้จะเริ่มส่งน้ำไปให้!”

เธอไปขนเครื่องพิมพ์ในห้องหนังสือออกมา เปลี่ยนตัวอักษรที่พิมพ์ไว้ในโทรศัพท์มือถือเป็นตัวเต็มแล้วสั่งพิมพ์ออกมา

สุดท้ายโยนลงไปในแจกัน

*

จ้านเฉิงอิ้นได้รับจดหมายจากนาง เปลี่ยนรูปแบบลายมืออีกแล้ว

ลายมือของท่านเทพช่างเป็นระเบียบเรียบร้อยจริง ๆ เหมือนแกะสลักเอาอย่างไรอย่างนั้น!

ท่านเทพบอกว่า นางจะประทานน้ำและเสบียงมาให้ จะเริ่มส่งน้ำมาในวันรุ่งขึ้น!

ดีเหลือกัน

พวกเขามีน้ำดื่มแล้ว!

ช่วยชีวิตทุกคนได้แล้ว!

จ้านเฉิงอิ้นขอบตาแดงเรื่อ คุกเข่าสองข้างลง แผ่นหลังตั้งตรงประหนึ่งต้นสน เขาโขกศีรษะคำนับไปทางแจกันเสียงดัง ๆ สามครั้ง

“ขอบพระคุณท่านเทพที่ช่วยเหลือชาวประชาให้พ้นทุกข์!”

“อิ้นจะสร้างวัดให้ท่านเทพ!”

เขาลุกขึ้นมาแล้วก็เรียกผู้ใต้บังคับบัญชาเถียนไท่กับสวี่หมิงเข้ามา สั่งให้เกณฑ์คนไปเตรียมสระน้ำเอาไว้

ให้เตรียมกระบอกไม้ไผ่สำหรับใส่น้ำ ถ้าไม่มี หาหม้อดินเผามาแทนก็ได้

เถียนไท่กับสวี่หมิงได้ยินท่านแม่ทัพบอกว่าให้เตรียมสระน้ำเอาไว้ ดวงตาก็พลันสว่างวาบ

พวกเขาพลุ่งพล่านใจจนร่ำไห้ด้วยความปีติยินดี

สำเร็จแล้ว!

ท่านแม่ทัพอธิษฐานให้ท่านเทพประทานน้ำให้ได้สำเร็จแล้ว!

มีน้ำ พี่น้องทั้งหลายก็มีทางรอดแล้ว

*

ตอนนี้เย่มู่มู่ไม่ง่วงเลยสักนิด ใช้โทรศัพท์มือถือสั่งของออนไลน์

เธอสั่งหมั่นโถวสีขาวห้าแสนลูก ร้านค้าออนไลน์ให้ราคาส่งเธอมาลูกละสามบาทห้าสิบสตางค์

รวมทั้งสิ้นหนึ่งล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาท

สั่งซื้อแป้งทอดไส้ต้นหอมห้าแสนชิ้น ต่อราคาจนเหลือเจ็ดสิบห้าบาทต่อห้าสิบชิ้น

รวมเป็นเงินหนึ่งเจ็ดแสนห้าหมื่นบาท

ยังสั่งเส้นก๋วยเตี๋ยวหนึ่งร้อยกล่อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งร้อยกล่อง ผักกาดแห้งหนึ่งร้อยกล่อง รวมถึงเห็ดแห้ง หน่อไม้แห้ง เห็ดหูหนูแห้ง…

สั่งข้าวสารกระสอบละหนึ่งร้อยชั่งจำนวนสองพันกระสอบจากร้านขายข้าวสารที่ใหญ่ที่สุดในเมือง

สั่งแป้งถุงละสิบชั่ง จำนวนห้าร้อยถุง

สั่งน้ำมันหนึ่งร้อยถัง เกลือหนึ่งร้อยกล่อง ผักดองหนึ่งร้อยกล่อง

เหมาเนื้อหมู ไก่ เป็ดและห่านจากตลาดสดละแวกใกล้เคียง

ยังสั่งซื้อเนื้อตากแห้ง กุนเชียง ซี่โครงหมูหมัก…

สถานที่กรอกที่ตั้งโกดังในอดีตของคุณพ่อ

เธอสั่งซื้อซาลาเปา หมั่นโถวนึ่ง หมั่วโถวเกลียว ขนมเปี๊ยะทอดไส้ผักกาดดอง ขนมปังไส้เนื้อไว้ล่วงหน้าในแอปพลิเคชันเหม่ยถวน…สั่งไว้ร้านละหนึ่งร้อยชุดซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดสำหรับสั่งในแต่ละวัน

ส่งมาตามที่อยู่ของคฤหาสน์

เธอจ่ายเงินไปทั้งสิ้นเก้าล้านกว่าบาท

เสบียงเท่านี้ คนแสนคนสามารถกินได้ราวสิบกว่าวัน

ถ้ากินอย่างประหยัดแบบคนโบราณสามารถกินได้นานถึงยี่สิบวัน!

เงินออมส่วนตัวของเธอใช้ไปแล้วเกินครึ่ง สามารถเลี้ยงคนแสนคนได้นานถึงยี่สิบวัน!

เลี้ยงไม่ไหวจริง ๆ!

หลังสั่งของเสร็จ เธอก็ส่งข้อความไปหาคุณลุงวัยเกษียณที่เฝ้าโกดังคนหนึ่ง

บอกว่าพรุ่งนี้จะมีสินค้าจำนวนมากขนมาส่งที่โกดัง ให้เขาช่วยคุมเรื่องการขนย้ายสินค้า

ขนของเสร็จแล้วให้โทรมาบอกเธอ

จัดการทั้งหมดนั้นเสร็จ เธอก็เริ่มนึกเสียใจ คิดว่าตัวเองเสียสติไปแล้วหรือเปล่า

ถึงได้ยอมจ่ายเงินเก้าล้านบาทเพื่อคนโบราณที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน

ถ้าพ่อแม่ยังอยู่จะต้องบอกว่าเธอถูกคนหลอกลวงเป็นแน่!

ขณะที่เธอกำลังเสียใจในความหุนหันพลันแล่นของตัวเอง

แกร๊ง~

แจกันพ่นของบางอย่างออกมา

เป็นทองก้อนสุกปลั่ง

ยังมีเหรียญทองกับทองหยวนเป่าที่ขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน…

เครื่องประดับอัญมณี ไข่มุกและเครื่องหยกสไตล์โบราณเรียบง่ายแบบต่าง ๆ ร่วงกราวลงมา!

สิ่งของมีจำนวนมากเกินไป ทับถมเป็นกองพะเนินอยู่ใต้แจกัน

[1] ตัวอักษรโซ่วจินถี่ คือรูปแบบการเขียนตัวอักษรจีนแบบบรรจงชนิดหนึ่ง มีลักษณะหวัด ลายเส้นคมกริบ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
เรณู มากดี
ขอบ่นเป็นการส่วนตัว อ่านไปถึงตอนที่ 17-18 แต่พอจะเปิดตอนใหม่ มันก็เด้งมาตอนที่ 6 ทุกที คนสวยเซ็ง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 803

    เดิมทีเหวินเหลียนเยว่หลับไปแล้ว ทว่าถูกสายโทรศัพท์ของเย่มู่มู่ทำให้สะดุ้งตื่นเธอถามขึ้นว่า “ฝ่ายเราเป็นคนลงมือก่อนหรือเปล่า?”“ไม่ เป็นการป้องกันตัว อีกฝ่ายห้าร้อยคนถือมีดพุ่งเข้ามา...”“หลูซีกับเฉินขุยจึงลงมือ!”“อีกฝ่ายมีสองคนถูกฟันตาย สี่คนถูกฟันแขนขาขาด พวกเขาตกใจกลัวและเริ่มหนี...”เหวินเหลียนเยว่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ยังดี ๆ เรามีเหตุผล!”“ฉันจะพาทนายไปเดี๋ยวนี้!”เย่มู่มู่ยังคิดจะออกไปตามเฉินขุยกับหลูซี และเรียกให้พวกเขาหยุด...“กลับมา ไม่ต้องตาม!”ฮ่าวอี้บอกกับเย่มู่มู่ว่า “แม้จะเป็นการป้องกันตัว ก็ยากถ้าจะให้รอดร้อยเปอร์เซ็นต์!”“หาทนายที่ดีที่สุด ให้ค่าชดเชยที่เพียงพอ สี่คนที่แขนขาขาดนั่นน่าจะยังต่อเข้าไปได้!”“ให้พวกเขามีท่าทีสำนึกผิดจะต้องดีแน่!”เย่มู่มู่รู้ดีว่า ก่อนหน้านี้ฮ่าวอี้เป็นตำรวจติดอาวุธ ภูมิหลังลึกซึ้ง!“คุณเกี่ยวข้องหรือเปล่า รักษาพวกเขาเอาไว้!”หลูซียังไม่บรรลุนิติภาวะ สองสามปีเขาก็ออกมาได้แล้วถ้าทนายพยายามสักหน่อย ก็เข้าแค่สถานกักขังเด็กและเยาวชน หรือได้รับการประกันตัวออกมาเลย!แต่เฉินขุยฐานะไม่เหมือนกัน เขาเป็นแม่ทัพ เย่มู่มู่ต้องส่งเขากลับยุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 802

    ครั้งนี้ฟันลงมาเป็นแขน~ครั้งหน้าอาจเป็นหัวคนก็ได้ชายผมเหลืองพูดกับพี่ใหญ่ที่เป็นหัวหน้าว่า “ลูกพี่ ฝีมือของคนคนนี้มัน...”พี่ใหญ่ที่เป็นผู้นำตะโกนขึ้นมาคำหนึ่ง “เถ้าแก่บอกแล้ว ขอแค่จัดการได้สวย จะเพิ่มให้อีกหนึ่งร้อยล้านก็ได้! พวกนายทำอะไรถึงจะหาเงินได้เยอะขนาดนี้?”“ทำงานนี้ อย่างน้อยพวกนายก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกินอยู่ไปห้าปี และซื้อบ้านได้!”สองพันห้าร้อยล้าน~ช่างทำให้คนคลั่งจริง ๆภายใต้เงินก้อนโตต้องมีความกล้า!ทุกคนมองไปที่เฉินขุยอย่างบ้าคลั่ง~“ไป จัดการเขาซะ ฟันให้ตาย...”ครั้งนี้ คนยี่สิบกว่าคนพุ่งเข้ามา ด้านหลังยังมีคนหนึ่งร้อยกว่าคนตามมาอีก!เฉินขุยยกดาบม่อเตาขึ้นตวัดไปที่ฝูงชนส่วนหลูซีหลูหมิงชักดาบยาวออกจากฝัก พวกเขาออกโรงแล้ว!ฮ่าวอี้ตะโกนอยู่เบื้องหลังพวกเขา “อย่าฆ่าคน พยายามอย่าฆ่าคน!”“ฆ่าคนเยอะเกินไป พวกนายจะติดคุกเอาได้ คุณหนูเย่ช่วยตามเช็ดตามล้างให้พวกนายไม่ได้นะ!”ครั้นเห็นทั้งสามคนยังคงลงมือ!ฮ่าวอี้ก็อุทาขึ้นมาโดยตรงว่า “จบเห่แล้ว!”เฉินขุยฟันดาบลงไปทีหนึ่ง ถูกคนที่อยู่ตรงหน้าสุดไม่กระดุกกระดิกแล้ว!หลูซีชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกจากฝัง ศีรษะคนศ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 801

    ในเวลานี้ ในที่สุดแม่ทัพเฉินขุยที่กรนสะเทือนฟ้าอยู่ในรถก็ตื่นขึ้นมาแล้วเสียงหลูหมิงซ้อมคนไม่ได้ทำเขาสะดุ้งตื่นแต่อย่างใด กลับกันเสียงอาวุธที่กระทบไปบนพื้น ในตอนที่อีกฝ่ายเอาอาวุธประเภทมีดออกมาจากในรถกองหนึ่ง ซึ่งเป็นเสียงมีแต่อาวุธประเภทมีดเท่านั้น ดันทำให้เฉินขุยที่ดื่มเบียร์และเหล้าขาวจนเมาแอ๋ตื่นเขาดื่มไปสามโต๊ะ โต๊ะที่สามดื่มเหล้าขาวโดยตรงเมื่อกลับมาถึงโต๊ะของเย่มู่มู่ เขาก็ตะโกนออกมาว่ายุคปัจจุบันข้าวของมากมาย ประชาชนมั่งคั่ง กินเนื้อดื่มเหล้ากล้าได้กล้าเสียเช่นนี้!ขนาดขึ้นรถแล้ว ก็ยังตะโกนลั่นทั้งเมามายว่า “นี่เป็นยุคที่ดียุคหนึ่ง!”แม่ทัพใหญ่สะดุ้งตื่นแล้วเขาเปิดประตูรถ เห็นอีกฝ่ายมีห้าร้อยกว่าคน ถืออาวุธประเภทมีดทำท่าเปี่ยมพลัง มุ่งหน้าเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างดุเดือดรุนแรง สมองที่เบลอ ๆ ของเฉินขุยพลันได้สติขึ้นมาทันที เขาตะโกนเสียงดังว่า “ใครกัน มีกล้ามาปล้นท่านเทพ...”เย่มู่มู่ส่งเกราะกันกระสุนให้เขา “อีกฝ่ายคนเยอะ ใส่ไว้ก่อน?”เฉินขุยยื่นมือไปที่เย่มู่มู่ “ท่านเทพ ดาบม่อเตา...”เย่มู่มู่ตอบกลับด้วยความกังวลว่า “ตอนนี้เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย จะฆ่าผู้บริสุทธิ์

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 800

    คนผมเหลืองน้ำเสียงติด ๆ ขัด ๆ “พี่ พี่ใหญ่ คนฝึกยุทธ์!”“เขาคือคนฝึกยุทธ์ อีกฝ่ายยังมีคนฝึกยุทธ์แบบนี้อีกเก้าคน ทำยังไงดี?”พี่ใหญ่ที่เป็นหัวหน้าพูดแทรกเขาพร้อมกับด่า “หุบปากไปซะ เขาต่อสู้เก่งแล้วยังไง?”“เรามีคนมากมายขนาดนี้ ที่คืนนี้พาพี่น้องห้าร้อยคนออกมาปฏิบัติการ ก็เพื่อชีวิตของแม่หนูคนนี้!”“ลูกค้าจ่ายเงินมัดจำมาห้าร้อยล้าน หลังจัดการเป้าหมายเสร็จ ยังมีอีกหนึ่งพันห้าร้อยล้าน พอให้พวกพี่น้องกินดีอยู่ดีไปตลอดชีวิต!”“หรือว่าพวกนายคิดจะถอดใจ?”สองพันล้าน~นี่มันสองพันล้านเต็ม ๆ เลยนะ!พวกเขาหาเลี้ยงชีพด้วยวิธีผิดกฎหมาย ในกระเป๋าเสื้อไม่มีเลยสักสลึงเดียว แห้งกรังไม่ง่ายเลยกว่าจะได้รับงานใหญ่ ห้าร้อยคน ทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งสี่ล้านต่อให้ต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ นี่ก็ได้สี่ล้านจริง ๆพวกเขาต้องทำอะไรถึงจะหาเงินได้มากมายขนาดนี้ลูกน้องรอบ ๆ ได้ยินดังนั้น แต่ะคนก็เผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาเงินก้อนนี้ พวกเขาต้องคว้ามาให้ได้!คนผมเหลืองกัดฟันเอ่ยขึ้นว่า “ทำครับ ผมต้องเอาเงินนี้มาอยู่ในมือให้ได้!”พี่ใหญ่พูดกับพี่น้องใต้บัญชาต่อ “ไป เอามีดมา...”เปิดที่เก็บของท้ายรถออก อีกฝ่ายถื

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 799

    ฮ่าวอี้ก้าวออกมา แล้วพูดกับลูกพี่คนนั้นว่า “อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระกับฉัน บอกมาตามตรง ผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังพวกนายเป็นใคร?”ลูกพี่คนนั้นถูกคำพูดของหวังเสี่ยวเฉิงเมื่อครู่ทำให้หัวเราะ ยังหัวเราะฮ่า ๆ อยู่เขาออกมาทำมาหากินยี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่เคยเห็นเรื่องที่น่าตลกขนาดนี้คนสิบกว่าคน บอกว่าพวกเขาสองร้อยกว่าคน และยังมีคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาด้วยอีกสามร้อยคนหนีไม่รอดแล้ว!“เอาละ ส่งตัวแม่หนูคนนั้นออกมา พวกแกจะได้ลำบากน้อย ๆ หน่อย!”“ไม่อย่างนั้น พวกแกมีแต่ต้องตายลูกเดียวเท่านั้น!”รถที่มาด้านหลังเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นปิดถนนทั้งสองข้างเอาไว้คนขับรถบรรทุกที่เดินทางตอนกลางคืน เห็นว่าถนนถูกปิด ก็หาที่กลับหัวรถและแล่นออกไป!หลูซีเขาเปิดที่เก็บของหลังรถ แล้วชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกมาเล่มหนึ่งเขามองไปที่ฮ่าวอี้ แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “ใช้ดาบได้หรือไม่?”ฮ่าวอี้เรียกตรง ๆ เจ้าตัวดีพกดาบมาด้วย!เขาตอบกลับ “ให้ดีที่สุดไม่ใช้ ถ้าพวกเขาทำอะไรที่เลวร้ายเกินไป มีแนวโน้มที่จะซ้อมคนจนตาย แบบนั้นก็ใช้ได้!”มือทั้งสองของหลูซีกอดดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังเอาไว้ “ดี!”ทว่าหลูหมิงกลับเดิน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 798

    “เอาละ นายไปทำงานเถอะ สืบข้อมูลของเฉินขุยได้แล้วค่อยโทรหานาย!”“ครับหัวหน้า!”หลังฮ่าวอี้วางสาย ก็นั่งยอง ๆ ลงบนพื้นพร้อมหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดตัวหนึ่งนับตั้งแต่มาเป็นบอดี้การ์ดให้เย่มู่มู่ เขาก็มีลางสังหรณ์ว่า ต่อไปเรื่องประหลาดอย่างจู่ ๆ ก็มีคนโผล่ออกมากลางอากาศจะมีเยอะขึ้นทุกวันด้านหลังกำแพงเยื้องเขา หลูซีกำลังลอบมองเขาอยู่ในที่มืด ก่อนจะถอยหลังกลับไปยังห้องจัดเลี้ยงในขณะนี้อาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว เหลือสามคนที่ไม่ดื่มเหล้า เหล่าบอดี้การ์ดดื่มกันอย่างสนุกสนานไปแล้วน้อยครั้งที่เย่มู่มู่จะพาหลูซีและหลูหมิงออกมากินอาหารค่ำแน่นอนว่าหวังเสี่ยวเฉิงมาจนคุ้นเคยแล้ว ดื่มเบียร์กับหลูหมิงจนหมดหนึ่งขวดคิดไม่ถึงเลยว่าคอเขาจะอ่อนมาก ยังไม่ได้กินเหล้าขาว เพียงแค่เบียร์ หนึ่งขวดเขาก็ไม่ไหวแล้วหวังเสี่ยวเฉิงตบไหล่หลูหมิง โวยวายถือเป็นพี่เป็นน้องกับเขา“นายนี่คออ่อนชะมัด ยังต้องฝึกอีกเยอะ!”ผ่านไปนานสองนาน ฮ่าวอี้ถึงกลับมาเย่มู่มู่ถามเขา “ไม่มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”คิดไม่ถึงเลยว่าฮ่าวอี้จะส่ายศีรษะ แล้วกระซิบบอกเย่มู่มู่ว่า “เราเหมือนจะถูกคนจับตามอง!”หลังจากนั้น เขาก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา พบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status