ฮ่าวอี้เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พวกเขาเป็นใคร?”หวังเสี่ยวเฉิงกล่าว “ไม่รู้สิ เมื่อวานสวีเฟิงมองไปที่ประตูใหญ่ เขาบอกว่าไม่มีแขกมาเยี่ยมเยียน ทำไมจู่ ๆ ถึงมีโผล่ขึ้นมาสองคนล่ะ?”ฮ่าวอี้จ้องเฉินขุยผู้ซึ่งมีร่างสูงใหญ่ ร่างกายกำยำด้วยความระมัดระวังบนตัวคนคนนี้มีกลิ่นอายความเหี้ยมโหดที่แข็งแกร่ง ให้ความรู้สึกเหมือนกับกระบี่สามเล่มเมื่อนั่นเป๊ะ ๆมิหนำซ้ำ บนตัวเขายังมีกลิ่นคาวเลือดเหม็นหึ่งอีกด้วยนี่ไม่ใช่สิ่งที่จะล้างออกได้ในไม่กี่ครั้งเฉินขุยเองก็เห็นฮ่าวอี้และเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่เบื้องหลังเขาเช่นกันดวงตากลมโตมองประเมินพวกเขาด้วยความสงสัยพวกเขาล้วนตัดผมทรงผมสกินเฮด อยู่ในชุดสูทสีดำ ใส่เนกไท เปิดคนยืนเรียงเป็นสองแถวเขาเอ่ยถามเย่มู่มู่ “ท่านเทพ พวกเขาเป็นข้ารับใช้หรือ?”หยางชิงเหอพูดอธิบาย “เป็นบอดี้การ์ด ก็คือองครักษ์นั่นแหละ!”เขาพลันรู้แจ้งแจ่มชัด“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง เพียงแต่เหตุใดพวกเขาต้องใส่เสื้อผ้าประหลาด ๆ แถมยังโกนหัวจนเกลี้ยงอีกต่างหาก!”เขาบ่นพึมพำเบา ๆ“ที่ต้าฉี่ของเรา มีแต่พวกนักโทษเท่านั้นที่ถูกโกนหัว เพื่อกันไม่ให้หาไม่เจอตอนหนีออกไป!”“ท
ครั้นเย่มู่มู่นึกถึงจ้านเฉิงอิ้น ก็พลันยิ้มออกมาเธอถามหยางชิงเหอด้วยความสงสัยว่า “โดยส่วนตัวจ้านเฉิงอิ้นเป็นคนยังไงเหรอคะ ต่างอะไรกับฮั่วชวี่ปิ้งในประวัติศาสตร์?”หยางชิงเหอวาดภาพไปพลางพูดคุยกับเย่มู่มู่ไป“ฉันไม่รู้จักฮั่วชวี่ปิ้ง!”“จ้านเฉิงอิ้นเด็ดขาดทำตามอำเภอใจ จะขึ้นนั่งตำแหน่งของเขา สภาพจิตใจและสติปัญญาขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้!”“เขาอายุยี่สิบปี ทำงานร่วมกับเขา มักลืมไปเลยว่าเขาเพิ่งอายุยี่สิบปี!”“แน่นอนว่า เขาหน้าตาหล่อเหลา แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้าใกล้!”เย่มู่มู่เอ่ยถาม “ทำไมล่ะคะ?”จ้านเฉิงอิ้นหน้าตาหล่อเหลา หนำซ้ำยังเป็นแม่ทำใหญ่ ควรถูกหญิงสาวที่มีความคิดอยากจะแต่งงานชื่นชอบไม่น้อย“แค่คุณเคยเห็นเขาฆ่าศัตรูในสนามรบก็จะรู้แล้ว มือยกดาบขึ้นมาแล้วฟันลงไปได้หัวคนมาในฉึบเดียว”“ทุกที่ที่เขาไป มีแต่ศพเต็มไปหมด!”“ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนเห็นเข้าก็ต้องเป็นลมหมดสติไป! จะมีอารมณ์มาชื่นชมอยู่ได้ยังไง?”“สนามรบจริง ๆ ทุกที่มีแต่ชิ้นส่วนแขนขา เลือดคนตา ไม่เหมือนกับที่เขียนเอาไว้ในนิยายโรแมนติกเลยสักนิด!”เย่มู่มู่ไม่เคยเห็นความโหดร้ายในสนามรบ ไม่สามารถจินตนาการได้ หยางชิง
เพราะเถ้าแก่หลี่อัธยาศัยดี ก็เลยรั้งพวกเขาไว้ทุกคน ไปคาราโอเกะกันรอบหนึ่ง บอดี้การ์ดหลายคนก็เมากันหมดมีแต่เซิ่นอันที่ยังคงสติอยู่เขาพูดกับเย่มู่มู่ “คุณหนูเย่ครับ หนึ่งพันล้านเข้าบัญชีแล้ว ตอนนี้ผมจะโอนให้คุณเลยนะครับ!”เย่มู่มู่พูด “เก็บไว้หนึ่งร้อยล้าน เป็นค่าคอมมิชชันกับค่าเหนื่อยของคุณ ต่อไปคงต้องรบกวนคุณอีก”เซิ่นอันดีใจเกินคาด “ให้ผมจริง ๆ เหรอครับ?”หนึ่งร้อยล้านไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย เพียงพอให้เขาซื้อบ้านในเมืองหลวงด้วยเงินสดได้สบาย ๆ!“ค่ะ!”เขาโค้งคำนับให้เย่มู่มู่อย่างดีใจ “ขอบคุณคุณหนูเย่มากครับที่ให้โอกาสผม!”“ไปพักผ่อนเถอะค่ะ!”“ครับ!”เขาโอนเงินให้เย่มู่มู่เก้าร้อยล้าน เก็บไว้เองหนึ่งร้อยล้านและบทสนทนาทั้งหมดนี้ ฮ่าวอี้ก็ได้ยินทั้งหมดดวงตาที่แสร้งหลับและหรี่ลงเล็กน้อยของเขา ค่อย ๆ เปิดขึ้น!ในห้องชั้นบน แม่ทัพเฉินขุยนอนบนเตียงที่มีฟูกเป็นครั้งแรก เสียงกรนดังสนั่นในทันทีบนระเบียง หลูซีกับหลูหมิงมองดูความเคลื่อนไหวข้างล่างหลูหมิงพูดว่า “ฮ่าวอี้แกล้งหลับ ดูเหมือนเขาจะชอบติดตามท่านเทพเป็นพิเศษ!”ดวงตาของหลูซีหรี่ลงเล็กน้อย แววตาเผยประกายสังหาร“ต้องฆ่าเ
เครื่องสัมฤทธิ์ห้าชิ้นของหยางชิงเหอ ถูกผู้อาวุโสทั้งสามแบ่งกันไปหมดแล้ว ขายได้สองพันสี่ร้อยล้านกริชสองเล่ม ขายได้หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน และหนึ่งร้อยล้านส่วนเครื่องกระเบื้องห้าชิ้น พวกเขาให้ราคาต่ำเกินไป เซิ่นอันเตรียมจะนำไปส่งให้เถ้าแก่หลี่เถ้าแก่หลี่ยังอยู่ที่คลับเฮาส์!ยังไม่นับรวมราคาเครื่องกระเบื้อง ของเก่าที่หยางชิงเหอนำมา มีมูลค่ารวมสองพันหกร้อยห้าสิบล้าน!หยางชิงเหอดีใจจนน้ำตาไหลเธอดีใจจนน้ำตาเอ่อคลอ!สองพันหกร้อยห้าสิบล้านเชียวนะ!เงินจำนวนนี้ ต่อให้เป็นตอนก่อนที่เธอจะทะลุมิติไป ก็ยังไม่กล้าคิดฝันถึงเลย! มันช่างเป็นตัวเลขดาราศาสตร์จริง ๆ!เธอจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เข้าทำงานในบริษัท เงินเดือนปีละประมาณสองล้านห้าแสน นี่ก็ถือว่าคำนวณเผื่อไว้สูงแล้วทำงานไปอีกไม่กี่ปีอาจจะได้เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนปีละประมาณห้าล้านถึงสิบล้าน แต่รายได้ก็ไม่มั่นคง มีความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้างหรือไล่ออก! เธอทะลุมิติไปยุคโบราณสิบปี ผ่านความยากลำบากมานับไม่ถ้วนแต่เธอมีเงินนะ สองพันหกร้อยห้าสิบล้าน ต่อให้เก็บไว้แค่หนึ่งในสาม ก็ยังเหลือแปดร้อยห้าสิบล้านยังมีเครื่องกระเบื้องอีกห้าชิ้น
แม่ทัพคนอื่น ๆ ล้วนเอาไปตั้งโชว์ไว้เฉย ๆตอนเป่าผม เขาก็ตกใจกับเสียงเครื่องเป่าผมพอหันกลับไปเห็นว่าเป็นหลูซี เขาก็รู้ว่าหลูซีไม่ทำร้ายเขาต่อมา เขาก็ได้รู้ประโยชน์อันน่าอัศจรรย์ของเครื่องเป่าผม ลมที่เป่าออกมานั้นร้อนและอุ่นก่อนภัยพิบัติหิมะครั้งใหญ่ เขาจะต้องกักตุนเครื่องเป่าผมไว้เยอะ ๆหยางชิงเหอเดิมทีเป็นคนยุคปัจจุบัน เธอปรับตัวได้เร็วมาก หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็เป่าผมตัวเองจนแห้งเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ที่เย่มู่มู่ซื้อให้ท่อนบนเป็นเสื้อแขนกุด ท่อนล่างเป็นกระโปรงยาว สวมรองเท้าพื้นแบนสีขาวสาวน้อยแสนสวยผู้เปล่งปลั่งสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีพวกเขามาถึงห้องนั่งเล่น พอเข้ามาในห้อง ก็ต้องตกตะลึงกับความหรูหราของห้องห้องนั่งเล่นกว้างขวางอย่างยิ่ง มีโคมไฟระย้าขนาดใหญ่อยู่เหนือโต๊ะอาหารเป็นโต๊ะอาหารทรงยาว นั่งได้ยี่สิบกว่าคนแต่หลูซีนั่งทางด้านขวาที่คุ้นเคย ส่วนทางด้านซ้ายเป็นเฉินขุยกับหยางชิงเหอเมื่อคนรับใช้นำจานอาหารเข้ามา แล้วเปิดฝาครอบจานออกต่อหน้าพวกเขา“ว้าว กุ้งล็อบสเตอร์ออสเตรเลีย!”กุ้งล็อบสเตอร์ออสเตรเลียที่เคยเห็นแต่ในทีวี ตอนนี้หยางชิงเหอได้เห็นของจริง แถม
ขณะที่เฉินขุยกับหยางชิงเหอไปอาบน้ำ ฮ่าวอี้ เซิ่นอัน และคนอื่น ๆ ก็กลับมามีบอดี้การ์ดไปทั้งหมดสี่คนกับเซิ่นอันบอดี้การ์ดแต่ละคนถือเหล้าเหมาไถคนละสองขวด ยิ้มปากแทบฉีกในมือของเซิ่นอันเป็นกล่องของขวัญ ดูเหมือนกล่องนาฬิกาแบรนด์หรูพวกเขาขึ้นไปชั้นบนพบเย่มู่มู่เซิ่นอันพูดพลางยิ้ม “คุณหนูเย่ครับ ไม่ทำให้เสียชื่อเสียง เครื่องลายครามสามสิบห้าชิ้นซื้อขายเรียบร้อยแล้วครับ ได้เงินมารวมหนึ่งหมื่นหนึ่งพันห้าร้อยล้านบาท จ่ายมาแล้วเก้าพันล้านครับ!”“ส่วนที่เหลืออีกสองพันห้าร้อยล้าน หลังจากประเมินราคาแล้ว จะจ่ายภายในสามวันครับ!”เย่มู่มู่ถาม “เชื่อถือได้ทุกคนไหมคะ?”“เถ้าแก่หลี่คนที่นัดผมไปที่คลับเฮาส์ เขามีฐานะมั่นคง รับประกันให้แล้วครับว่าภายในสามวันจ่ายแน่นอน ถ้าไม่จ่ายให้ผมไปหาเขาได้เลย”“พวกเขารู้ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับผู้อาวุโสทั้งสามไม่ธรรมดา ไม่กล้ายักยอกหรอกครับ”“ค่ะ!”เย่มู่มู่เอาหีบของหยางชิงเหอ รวมทั้งกล่องเล็กใส่ทองหยวนเป่าของเฉินขุย แหวนปานจื่อสองสามวง ดาบสองสามเล่ม...มอบทั้งหมดให้เซิ่นอัน“นายเอาของพวกนี้ไปที่บ้านผู้อาวุโสสวี่ก่อน ให้ผู้อาวุโสสวี่ ผู้อาวุโสจาง ผู้อาวุ