"เช่นนั้น ข้าก็ขอยื่นเงื่อนไขในการอยู่ร่วมกัน"
ซีจงจวินฟังแล้วขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าภรรยาต้องการอะไรแต่ก็ยอมพยักหน้าตกลงแต่โดยดี
"เงื่อนไขข้อแรก ห้ามเจ้าแตะต้องข้าแม้แต่ปลายเส้นผม และห้ามเข้าใกล้ข้าเกินระยะสิบฉื่อ"
"..."
เจอข้อแรกเข้าไป ซีจงจวินก็ถึงกับสะอึก
หากไม่แตะต้องกันแล้วจะเป็นสามีภรรยากันได้อย่างไร
แล้วภาพฝันที่เขาวาดไว้ การเสพสังวาสที่เหล่าสหายเทพอสูรเคยบรรยายให้ฟังว่ามันมอบความสุขให้มากมายเพียงใดเล่า...
ซีจงจวินต้องยอมเก็บคำโต้แย้งเอาไว้ เกรงว่าพูดออกไปแล้วมี่ฮวาจะโมโหอีก
"ข้อที่สอง ข้าจะยอมอยู่ห้องเดียวกับเจ้าแค่คืนนี้เท่านั้น ต่อจากนี้เจ้าต้องจัดห้องนอนห้องอื่นให้ข้า"
...นี่แม้แต่นอนห้องเดียวกันยังไม่ได้เลยอย่างนั้นหรือ...
"ข้อที่สาม ห้ามเจ้าพูดกับข้าเกินวันละยี่สิบคำ ห้ามมองหน้าข้าเกินวันละสองครั้ง"
"..."
"ข้อสี่ เจ้าต้องดูแลข้าอย่างดี ข้าวปลาอาหาร น้ำท่าให้อาบ เจ้าต้องเตรียมทั้งหมดรวมถึงทำความสะอาดบ้านด้วย"
"..."
"ข้อสุดท้าย ข้าสามารถเพิ่มและเปลี่ยนกฏอีกได้ไม่จำกัด หากเจ้าไม่ทำตามนี้ข้าจะหย่าแล้วกลับวังที่แดนอุดรทันที"
ฟังไปซีจงจวินได้แต่กะพริบตาปริบๆมองภรรยาแสนเอาแต่ใจ ข้อกำหนดที่นางกล่าวมานั้น ขัดต่อความต้องการของเขาทั้งหมด..
ซีจงจวินไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับอารมณ์ทั้งหลาย แต่ใช่ว่าเขาไร้ความรู้สึก สัญชาตญาณในตัวบุรุษนั้นเขามีมันเป็นธรรมดา
ยิ่งได้อยู่กับสตรีงามเช่นนี้ มันก็ยิ่งเพิ่มพูน...
..แต่เพียงได้ยินคำว่าหย่าและหนีกลับบ้าน ซีจงจวินก็ไม่คิดถึงสิ่งใดอีก
ขอแค่นางอยู่ ให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น..
"ตกลง ข้าจะทำทุกอย่างตามที่ท่านขอไม่ให้ขาดตกบกพร่องแม้แต่อย่างเดียว"
ที่มี่ฮวากล้าต่อรองเพราะรู้ว่าตนถือไพ่เหนือกว่าผู้เป็นสามี หากเขาไม่ยอมทำตามนางจะหย่า หากหย่าไม่ได้ก็จะกัดลิ้นกลั้นใจตายมันเสียตรงนี้
ได้ยินเขาตกปากรับคำ นางก็พอใจ เดินไปนั่งที่เตียง ถอดเครื่องประดับหนักออก
ซีจงจวินอยากเข้าไปนั่งใกล้ๆแต่ทำไม่ได้จึงพยายามกะระยะให้พอดีสิบฉื่อ โชคดีที่เตียงไม้หลังนี้เขาต่อเองมันจึงใหญ่มากๆ..
"ใครให้เจ้านั่งบนเตียง"
ได้ยินเสียงเย็นชา ซีจงจวินหลุบตาต่ำไม่มองหน้านาง ลงไปนั่งคุกเข่าบนพื้นปลายเตียงแทน
"ปิดม่านให้ข้าด้วย"
นางออกคำสั่งเหมือนเขาเป็นบ่าวรับใช้ ซีจงจวินก็ไม่ว่าอะไร ปลดม่านลงจากเสาเตียงคลุมปิดให้ แล้วจึงนั่งลงที่พื้นดังเดิม
ไม่มองก็ได้..
ไม่ได้พูดก็ไม่เป็นไร...
ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ ในเรือนเดียวกันก็ยังดี
...
สุริยันส่องแสงยามเช้า สัตว์อสูรตื่นจากการหลับไหล
แม่นางคนงามสะดุ้งหลุดจากห้วงนิทรา ลุกขึ้นแง้มม่านดูเล็กน้อย พบว่าซีจงจวินนั่งคุกเข่ามองพื้นอยู่ปลายเตียง สวมอาภรณ์ติดเกราะ ผมสีดำสนิทมัดมวยตึงเรียบร้อย
"ข้าเตรียมอาหารให้แล้วที่ห้องข้างๆ"
แม้ซีจงจวินจะพยายามคิดคำพูดให้ฟังเข้าใจได้โดยที่พูดน้อยที่สุด แต่มันก็ปาเข้าไปสิบคำเสียแล้ว
เหลืออีกสิบคำ เขาจะเก็บเอาไว้พูดกับนางตอนเย็น...
"กลิ่นที่นอนเจ้าเหม็นติดตัวข้า ข้าจะอาบน้ำก่อน เจ้านำทางไปสิ"
นางไม่ปิดบังสายตารังเกียจกับท่าทางขยะแขยงที่มีต่อสามี กระนั้นซีจงจวินก็ทำได้แค่ก้มหน้ารับแล้วลุกขึ้นพาเดินไปที่ห้องอาบน้ำตามคำสั่ง ซึ่งอยู่หลังเรือนคนละฝั่งกับห้องครัว
ดูเหมือนเครื่องเรือนที่มีไม่กี่ชิ้นในบ้านนี้จะใหญ่กว่าปกติไปเสียทุกชิ้น ดูจากอ่างไม้แข็งแรงขนาดมโหฬารกลางห้อง
ร่างอรชรปลดอาภรณ์ลงที่พื้นข้างอ่าง ก้าวขาเรียวหย่อนกายลงนั่งแช่น้ำอุ่น ผิวขาวเนียนส่งกลิ่นเย้ายวนกว่าบุปผชาติใดในยุทธภพ
น่าเสียดายเหลือเกินที่ผู้เป็นสามีไม่อาจเห็นหรือสัมผัสได้เลย
ซีจงจวินนำหีบเสื้อผ้าของภรรยามาวางไว้ให้ตรงฝั่งห้องแต่งตัว
ไม่รู้ว่านางอยากใส่ชุดไหน เขาจึงนำมันมาวางไว้ทั้งหมดหกหีบจากสิบแปดหีบ ทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับ
ใช้เวลานานมากกว่ามี่ฮวาจะจัดการตัวเองเสร็จและออกมากินข้าวเช้ากับเขา
เทพอสูรนั่งรอที่โต๊ะอาหาร พอเห็นร่างบางของภรรยาก็เผลอยิ้มดีใจ
นางอยู่ในชุดสีชมพูปักลายกิ่งเหมย เส้นผมสีเดียวกับชุดถูกเกล้าปักปิ่นทองห้อยระย้า ใบหน้าผุดผ่องแต่งแต้มสีสันอ่อนๆดูน่ารัก ดวงตาสีหยกเขียวชวนให้มองจนไม่อยากละสายตาไป
"จะมองอีกนานหรือไม่"
พอนางทัก ซีจงจวินที่จ้องตาไม่กะพริบพึ่งรู้สึกตัวรีบก้มหน้าลงทันที
..เผลอมองนางไปครั้งหนึ่งแล้ว
..เหลืออีกหนึ่งครั้ง คงต้องเก็บเอาไว้มองก่อนนอน..
มี่ฮวามานั่งที่เบาะฝั่งตรงข้าม กับข้าวบนโต๊ะเป็นข้าวต้มและกับอีกแปดอย่าง ล้วนส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย
แต่แม่เทพธิดาไม่ได้มองว่ามันจะพิเศษตรงไหน นางยกถ้วยข้าวขึ้นเตรียมจะตักอาหารกิน ซีจงจวินก็ตักกับข้าวมาใส่ในถ้วยให้
เพราะตั้งใจทำกว่าเมื่อก่อนมาก คิดว่าหากนางกินเข้าไปแล้วชอบเขาคงใจชื้นขึ้น
แต่ปฏิกิริยาที่ได้ กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง...
มี่ฮวาช้อนสายตามองค้อนใส่ ตักเอากับเหล่านั้นออกวางไว้ในถาดข้างๆแทน
"ใครให้เจ้ามานั่งร่วมโต๊ะกับข้า"
นางเอ่ยเสียงเรียบ คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามนิ่งไปชั่วขณะ
เขาไม่อาจแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่เพียงน้ำเสียงก็บ่งบอกแล้วว่าภรรยาไม่ชอบสิ่งที่เขาทำให้
สุดท้ายซีจงจวินจึงตักกับข้าวพอประมาณ ลุกออกมานั่งกินเงียบๆที่มุมห้อง
มี่ฮวาเหลือบมองกายสีแดงอ่อนแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าเขายังคงเป็นปกติจึงตักกับข้าวกินบ้าง
นางไม่ไว้ใจเขาถึงขั้นคิดว่าอาจจะแอบใส่อะไรลงไปในอาหาร แต่พอเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติจึงกล้าตักเข้าปาก
ซีจงจวินนั่งรอมี่ฮวาค่อยๆละเลียดกินจนอิ่ม จึงเสกถ้วยกระเบื้องให้หายไป แล้วเขาก็ลุกขึ้นออกไปทำงาน ทั้งที่ใจจริงอยากจะคุยกับนางเหลือเกิน
..อยากถามว่าเมื่อคืนหลับสบายหรือไม่ น้ำที่อาบร้อนเกินไปไหม อาหารที่เขาบรรจงปรุงถูกปากบ้างหรือเปล่า
และอย่างน้อยก็อยากจะพูดลากันสักนิด อยากบอกว่าตอนค่ำเขาจะรีบกลับมาหา
แต่นางคงไม่ได้อยากรอหรืออยากฟังเขาพูดนักหรอก...
ขณะเดียวกันมี่ฮวาเห็นซีจงจวินออกไปได้สักพัก จึงออกเดินสำรวจข้างในบ้าน
ไหนๆที่นี่ก็จะเป็นของนางอยู่แล้ว จะเดินไปที่ใดก็เป็นสิทธิ์ของนางไม่ใช่หรือ
มี่ฮวาไล่เปิดดูทีละห้อง ต้องแปลกใจมากที่เกือบทุกห้องไม่มีอะไรเลย เป็นแค่พื้นที่โล่งกว้างเฉยๆเท่านั้น
ที่ที่มีเครื่องเรือนก็มีเพียงห้องของซีจงจวิน มีเตียงหนึ่งหลัง ตู้เก็บเสื้อผ้าหนึ่งตู้ โต๊ะข้างหัวเตียงหนึ่งตัว
ในห้องรับรองและห้องที่นางนั่งกินข้าวเมื่อเช้ามีชุดโต๊ะอยู่ห้องละหนึ่งชุด
ห้องน้ำมีอ่างใหญ่ ชั้นวางเครื่องชำระกายเตี้ยๆหนึ่งตัว ห้องข้างๆมีหีบเสื้อผ้าของนาง
ไม่ไกลกันเป็นห้องกว้างที่มีเตียงใหญ่อีกหนึ่งหลัง ตู้ไม้ใส่เสื้อผ้าสามตู้ใหญ่ โต๊ะเอาไว้วางเครื่องประทินโฉม ชั้นวางของ โต๊ะข้างหัวเตียง
เดาว่าคงเตรียมเครื่องเรือนในห้องนี้เอาไว้ตามที่ขอ
..ก็ดี คืนนี้จะได้ไม่ต้องไปนอนบนเตียงเขาอีก แค่ได้กลิ่นของเจ้าของเตียงก็ขนลุกขนพอง นอนผวาแทบทั้งคืน
นางจัดการย้ายข้าวของส่วนตัวออกจากหีบมาจัดใส่ตู้และชั้นวาง กระทั่งเลยเข้าปลายยามเว่ยจึงเสร็จ
พอเริ่มรู้สึกหิว นางเดินไปทางครัวที่อยู่หลังบ้านดูว่าพอจะมีอะไรที่สามารถกินได้บ้าง
แล้วก็พบว่าซีจงจวินเตรียมอาหารว่างจานเล็กวางไว้ให้เรียบร้อย เขาคงคิดเผื่อเอาไว้จึงทำอาหารที่สามารถกินตอนไม่ร้อนได้
เขาเอาใจใส่ถึงเพียงนี้ แต่คนได้รับไม่คิดจะซาบซึ้งสักนิด ยกจานของว่างไปนั่งกินตรงระเบียงที่มองออกไปเห็นสวนดินทรายไร้ซึ่งต้นไม้ใบหญ้า
สายตาสอดส่ายไปมา
กระทั่งเห็นโกดังหลังหนึ่งอยู่ห่างออกไป มี่ฮวานึกสงสัยจึงเดินไปดู
เมื่อเปิดเข้าไปก็พบกับ..ไหสุรา
ไหสุราตั้งเรียงรายอยู่บนตู้ใหญ่เกือบร้อยไหได้ หัวคิ้วขมวดมุ่น หยิบออกมาเปิดดูใบหนึ่ง
นี่มัน..สุราสวรรค์
กลิ่นนี้นางจำได้ดี เพราะมันเป็นกลิ่นเดียวกับที่นางเคยดมเมื่อราวๆเดือนก่อน
ตอนนั้น นางกับพี่ๆขโมยสุราที่สหายลึกลับของพ่อเป็นผู้มอบให้มาดื่มกันอย่างสำราญ
หรือสหายคนนั้นคือซีจงจวิน?
มี่ฮวาปะติดปะต่อเรื่องราว ฉับพลันความโมโหแผดผลาญเผาใจนางมอดไหม้
เป็นเช่นนี้เอง...
มิน่าเล่า ท่านพ่อถึงไม่กลัวซีจงจวิน ทั้งยังดูคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทั้งที่ไม่เคยเล่าให้นางฟัง
เพราะเจ้าอสูรร้อยเล่ห์นี่ออกอุบายให้บิดานางต้องยกบุตรีให้เป็นเจ้าสาว...
ซีจงจวิน เจ้าปีศาจต่ำช้า!!!
**************************
10 ฉื่อ เท่ากับ 1 จั้ง หรือ 2.5 เมตร
ยามเว่ยคือช่วง 13.00น. ถึง 15.00 น.
ค่ำวันหนึ่งในวสันตฤดู มี่ฮวามายืนรอสามีหน้าประตูบ้าน เห็นเขากลับช้ากว่าปกติก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาราวสามก้านธูปผ่านไปเขาก็ยังไม่มาทำเอานางร้อนใจไปหมด พวกลูกๆหิวจนทนไม่ไหวเลยพากันกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว เหลือแต่นางที่ยังรอกินพร้อมสามีทำไมถึงชักช้านัก..เพียงหลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏเงาร่างดำๆบนท้องฟ้าตรงหลังบ้าน ซีจงจวินเห็นมี่ฮวามองออกไปยังทางที่เขากลับทุกวันก็แปลกใจ"มี่ฮวา ข้ากลับมาแล้ว"ได้ยินเสียงเรียกนางจึงหันหลังเดินมาหาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง"ไปไหนมา""ข้าไปช่วยสัตว์อสูรอพยพอยู่เลยกลับช้า"ได้ยินคำเขาบอก นางหรี่ตามองเล็กน้อยคล้ายไม่ค่อยพอใจนัก"สัตว์อสูรที่ไหน""ตรงทางไปเขาสวรรค์นั่นแหละ พอดีข้าผ่านไปเห็นว่านางกำลังลำบากกับการย้ายถิ่นเลยช่วยไว้"เขาชี้แจงด้วยสีหน้างง ขณะอีกคนสะดุดใจในประโยคเมื่อครู่ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยอมรามือจากการเค้นถาม"เช่นนั้นก็แล้วไป วันนี้พวกลูกๆหิวจนรอเราไม่ไหว แต่ข้ายังไม่ได้กินข้าวเพราะรอท่าน" นางเข้ามาควงแขนเขาไว้ เอาใบหน้าถูไถออดอ้อนทำเอาสามีต้องอมยิ้มการทำแบบนั้นเขาคิดว่านางตั้งใจทำตัวน่ารัก แต่กลับกันนางกำลังแอบดมกลิ่นที่ติดตัวเขามาต่างหากในใจยังรู
เจ็ดร้อยปีผ่านไป..ซวนเฟยกับกับชิงเหลียงอายุพันสามร้อยปีแล้ว ร่างกายกลายเป็นหนุ่มน้อยไม่ใช่เด็กตัวกะเปี๊ยกอีกต่อไปทั้งคู่ยังคงตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในเรือนมีนายน้อยและคุณหนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคนจนทั้งสองกลายสภาพจากคนรับใช้เป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยสมบูรณ์"ถูตรงนั้นให้ดีๆล่ะ"ซวนเฟยสั่งแมวป่าน้อยที่มักจะถูพื้นบ้านด้วยความเร็วเกินไปจนไม่แน่ใจว่าสะอาดจริงหรือไม่"เจ้าค่าาา ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านหัวหน้า" นางตอบกลับมาเสียงประชดเหมือนเคย"เจ้าด้วย บนเพดานยังมีฝุ่นอยู่เลย" คราวนี้หันไปว่าเจ้ากวางผา"ข้าจะปีนขึ้นเช็ดเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" อสูรกวางผาตอบก่อนวิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นอย่างเร็วเพราะเจ้านายทั้งสองขยันมีลูกกันมาก เมื่อคนในบ้านเพิ่มงานก็เพิ่มตาม นายท่านจึงไปเสาะหาอสูรรับใช้ใหม่มาทำงานบ้าน ส่วนซวนเฟยกับชิงเหลียงมีหน้าที่อย่างเดียวคือเฝ้าจับตาดูลูกๆให้เจ้าวิหควายุเดินตรวจความเรียบร้อยตามส่วนต่างๆไปเรื่อย นายท่านของมันได้ขยายเรือนออกไปกว้างกว่าเดิมหลายส่วน ยิ่งทำความดีความชอบปกป้องยุทธภพด้วยแล้ว ยิ่งได้รับประทานรางวัลอย่างงาม ที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ทำให้ต้องใช้เวลาเดินตรวจตรานานขึ้น"ซวนเฟย! ซ
"ท่า..ท่านป้อ!"เด็กน้อยเกอซือชี้นิ้วไปที่บิดา เอ่ยเรียกแล้วยิ้มแป้น แก้มยุ้ยๆขึ้นสีระเรื่อช่างน่าเอ็นดูคนถูกเรียกตาเป็นประกาย อุ้มลูกขึ้นมาไว้ในมืออดใจไม่ได้ต้องจูบแก้มหนักๆสักหลายที"เก่งมากลูกพ่อ"ซีจงจวินดูจะภูมิใจเหลือเกิน มี่ฮวาที่นั่งปักผ้าอยู่ไม่ไกลมองพ่อลูกเล่นกันก็พลอยยิ้มตามไปด้วย"ท่าน..แม่!""จ้า เก่งมากเสี่ยวเกอ"นางยอมวางมือจากเข็มปักผ้าแล้วมาเล่นกับลูกบ้าง เกอซือเริ่มเติบโต ช่างน่ารักน่าเอ็นดู"ท่านตา ท่านยาย ท่านป้า"เกอซือเหมือนพยายามท่องคำที่ถูกสอนมา เสร็จแล้วก็หัวเราะตบมือเพราะคนเหล่านั้นใจดีและรักเกอซือเช่นกันตั้งแต่มี่ฮวาตั้งท้อง พ่อแม่นางมาเที่ยวหาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคลอดเกอซือออกมาตายายก็ดูจะเห่อหลานกันมาก ขยันมาบ้านนี้จนเด็กน้อยจำได้"พ่อจ๋า วันไหนว่างๆเราพาลูกไปเยี่ยมตายายดีหรือไม่"เดี๋ยวนี้สรรพนามที่ใช้เรียกสามีเปลี่ยนไป เพราะทั้งคู่อยากให้ลูกจำได้และเรียกตาม"เช่นนั้นข้าจะทำเรื่องลางานสักสองวัน"ภรรยาว่าอย่างไรเขาไม่เคยขัดอยู่แล้ว ในเมื่อนางอยากพาลูกออกไปเที่ยวเล่นบ้างเขาก็ตามใจดีเหมือนกัน นานๆทีจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นางกับลูกจะได้ไม่เบื่อความอุดอู้ใน
สิบปีต่อจากนั้นมี่ฮวาตั้งครรภ์ครั้งแรก จากที่ได้รับการดูแลอย่างดี ตอนนี้สามีนางแทบไม่ให้ลุกเดินขยับไปไหนเลยด้วยซ้ำซวนเฟยกับชิงเหลียงเองก็ถูกสั่งให้ช่วยกันดูแลนางเป็นพิเศษกระทั่งลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยเสียงร้องอุแว้ดังลั่นเรือน เซียนหมอสตรีมือฉมังจากแดนเทพที่ซีจงจวินไปเชิญเดินออกมาหาพ่อเด็กด้วยสีหน้ายินดี"เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ"นางบอกแล้วยื่นห่อผ้าให้ซีจงจวินอุ้ม เทพอสูรมองหน้าเด็กทารกในมือแล้วแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เด็กคนนี้มีร่างกายเป็นเทพตัวขาวผ่องอมชมพูน่าทะนุถนอม แต่มีลักษณะคล้ายพ่อตรงที่บนหน้าผากมีเขาเล็กๆงอกออกมาสองคู่ ซึ่งมันจะค่อยๆขยายไปตามกาลเวลาซีจงจวินก้มลงหอมแก้มลูกเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาภรรยาในห้องซวนเฟยมีหน้าที่ไปส่งท่านเซียนหมอ ชิงเหลียงช่วยเช็ดตัวให้มี่ฮวา ซีจงจวินนั่งลงข้างเตียงซับเหงื่อให้เล็กน้อยก่อนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากนาง"ลูกเรา"เขายื่นเด็กน้อยให้นาง มี่ฮวารับเด็กที่ร้องไห้จ้าตั้งแต่เมื่อครู่มาไว้ในอ้อมแขน โอ๋กล่อมด้วยความรักใคร่"ตั้งชื่อว่าอะไรดีเจ้าคะ" นางถาม สามีใช้เวลาคิดครู่สั้นๆก่อนตอบเสียงนุ่มทุ้ม"เกอซือ"ได้ยินชื่อนั้นนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มให้
ผ่านไปกี่คืนวันแล้วไม่รู้ตั้งแต่ซีจงจวินได้ร่างคืนมา เขาได้เป็นเทพเฝ้าประตูสวรรค์ดังเดิม ทุกวันทำงานตามปกติคล้ายเหตุการณ์เมื่อสี่สิบกว่าปี่ก่อนไม่เคยเกิดขึ้น"ข้ากลับมาแล้ว"ตะวันพึ่งลาลับขอบฟ้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา ร่างเทพอสูรบึกบึนก็มาโผล่หน้าประตูเรียบร้อย น้ำเสียงของซีจงจวินดูร่าเริงมาก ผิดกับตอนเช้าก่อนออกไปทำงานที่จะอิดออดถ่วงเวลาอยู่นั่น"สำรับพร้อมแล้ว"ภรรยาผู้น่ารักเดินออกมาจากห้องอาหาร เนื้อตัวเป็นกลิ่นของคาวหวานคลุ้งไปหมด แต่สามีก็ยังวิ่งเข้ามาสวมกอดหอมฟัดนางเสียจนแทบล้มพับ"กินข้าวอาบน้ำก่อนซีจงจวิน"มี่ฮวาต้องรีบปราม ไม่เช่นนั้นนางจะไม่อาจหลุดจากอุ้งมือพันธนาการของสามีไปได้นับวันซีจงจวินยิ่งทำตัวเหมือนเป็นเด็กเข้าไปทุกที เขาชอบอ้อน ชอบเอาใจ จนบางครั้งมี่ฮวาก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนเขารู้ถึงตัวตนด้านนี้บ้างหรือเปล่าซีจงจวินยอมผละออกแต่โดยดี หลังจากถอดชุดเกราะออกแล้วก็มานั่งกินข้าว ไปอาบน้ำ เตรียมเข้านอนพร้อมภรรยาสุดที่รักแต่จะเรียกว่าเข้านอนเลยก็ไม่ได้เพราะก่อนหน้านั้นต้องมีกิจกรรมสำหรับคู่รักเสียก่อนซีจงจวินถึงจะยอมนอน"มี่ฮวา"สัมผัสจากปลายนิ้วสะกิดหลังเบาๆให้นางหันมาห
เป็นจูบที่หวานที่สุดในชีวิตซีจงจวิน พอนางขยับเปิดปากเขาก็สอดลิ้นเข้าไปชิมรสชาติด้านใน กระหวัดเกี่ยวอย่างโหยหาเมื่อตักตวงจนมากพอแล้วมี่ฮวาผลักเขาออกเพื่อพักหายใจเล็กน้อย ดวงตายังสบประสานกันอย่างหวานฉ่ำ"เชื่อหรือยังว่าข้ารักเทพอสูรซีจงจวิน ไม่ใช่จงซีจ้านผู้นั้น"มี่ฮวารู้ว่าที่ซีจงจวินขอให้มหาเทพใส่จิตเขาลงไปในร่างของจงซีจ้านเพราะอะไรคนตอบพยักหน้าเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองนางอย่างเด็กน้อยที่กลัวจะถูกว่าเมื่อทำผิด"ข้า.. เห็นว่าเจ้ายอมนอนกับข้าในร่างจงซีจ้าน เลยคิดว่าหากอยู่ในร่างนั้นเจ้าอาจจะชอบมากกว่า"ซีจงจวินไม่มั่นใจในตัวเองเอามากๆเลยสินะ ถึงได้มีความคิดแบบนี้มี่ฮวาระบายลมหายใจยาว กระเถิบขึ้นไปนั่งบนตักสวมกอดเขาไว้แน่นๆ ซุกหน้ากับแผ่นอกอีกรอบ"ข้าไม่สนว่าจะอยู่ในร่างไหน ขอแค่เป็นท่านก็พอ""เจ้าไม่รังเกียจข้าแล้วใช่หรือไม่""ไม่เลย ข้ากลับชอบด้วยซ้ำเวลาที่ท่านกอดข้าแบบนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย"นางชอบมือทุกข้างที่มอบความรู้สึกหลากหลายให้ มันมีความรักเจืออยู่ในทุกการกระทำร่างกายทั้งคู่ที่แนบชิดบดเบียดกันสร้างความร้อนขึ้นมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กอดจากนางผู้เป็นที่รักเริ่มไม่เพียงพอเ