Masukเช้าวันต่อมา อันนาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่นของมาร์คัส เธอมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับอยู่ด้วยความรู้สึกที่สับสน ก่อนจะพยายามขยับตัวออกอย่างเบามือเพื่อไม่ให้เขารู้สึกตัว
แต่ก็ไม่ทัน มาร์คัสลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยสายตาคมกริบ "จะไปไหน" "จะไปห้องน้ำค่ะ" อันนาตอบเสียงเบา มาร์คัสปล่อยให้เธอลุกขึ้นไปทำธุระส่วนตัว ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นตามไปอาบน้ำเช่นกัน เมื่อออกมาจากห้องน้ำ มาร์คัสเห็นอันนากำลังยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจก เขามองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดจากด้านหลัง "วันนี้ไม่ต้องไปเรียนหรอก" เขากระซิบเสียงนุ่มข้างหูของเธอ อันนาหันมามองเขาด้วยความประหลาดใจ "ไม่ได้นะคะ วันนี้อันนามีสอบ" "สอบ? งั้นเดี๋ยวฉันไปส่ง" มาร์คัสบอกเสียงเรียบ แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงจัง อันนาส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว "ไม่ได้ค่ะ ไม่เอาแล้ว" เธอนึกถึงเรื่องราวเมื่อวานแล้วก็รู้สึกอับอายจนไม่อยากจะกลับไปที่มหาวิทยาลัยอีก มาร์คัสเข้าใจความรู้สึกของเธอ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ "อันนา ฉันขอโทษ" คำขอโทษที่หลุดออกมาจากปากของมาร์คัสทำให้เธอถึงกับยืนตัวแข็งทื่อ ไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะพูดคำนี้ออกมา อันนาถึงกับต้องหยุดชะงักฟังสิ่งที่ได้ยินออกมาจากปากของผู้ชายที่ดูโหดร้ายและดิบเถื่อน "ฉันรู้ว่าทำผิดไปแล้ว...ขอโทษที่ทำลายโทรศัพท์ของเธอ" มาร์คัสพูดต่อ "เดี๋ยวฉันจะพาไปซื้อใหม่" คำพูดของมาร์คัสทำให้อันนาเริ่มใจอ่อน เธอไม่ได้โกรธที่เขาทำโทรศัพท์ของเธอพัง แต่เธอรู้สึกเสียใจที่เขาไม่เชื่อใจเธอ และทำอะไรโดยไม่ถามความเห็นของเธอก่อน "คุณมาร์คัส...อันนาไม่ได้โกรธคุณนะคะ แต่อันนาแค่..." "ฉันรู้" มาร์คัสพูดแทรกขึ้นมา "ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว" เขาดึงอันนาเข้ามากอด "ให้โอกาสฉันได้ไหม" อันนาพยักหน้าช้าๆ "ค่ะ" "งั้นให้ฉันไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยนะ แล้วเลิกเรียนกี่โมง เดี๋ยวฉันไปรับ" มาร์คัสยังคงยืนยันหนักแน่นว่าจะไปรับแล้วไปส่งอันนา อันนาเอี้ยวคอเงยขึ้นไปมองคนที่เกยคางเอาไว้บนบ่าเล็กของเธออย่างจับผิด เพราะอันนากลัวเหลือเกินว่าถ้ามาร์คัสไปแล้วเจอกับไตรภพอีกครั้ง เธอจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่ดูตึงเครียดอย่างนั้น "คุณมาร์คัสคะ อันนาขอเล่าเรื่องผู้ชายคนที่คุณเจอเมื่อวานได้ไหมคะ เขาชื่อพี่ไตรภพ" อันนาเริ่มปริปากและกำลังจะเล่าทุกอย่างให้กับมาร์คัสฟังต่อให้เขาจะอยากรู้หรือไม่อยากรู้ก็ตาม "อืม แล้วไง..." น้ำเสียงที่อารมณ์ดีเมื่อสักครู่เริ่มติดโมโหและดูทุ้มต่ำลงไป "พี่เขาเป็นลูกเจ้าของร้านทองค่ะ เคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับอันนานี่แหละ หลังจากเขาเรียนจบไป" "ก่อนที่คุณมาร์คัสจะเจออันนา จำได้ไหมคะ ว่าอันนาขายข้าวแกงแล้ว พี่ไตรภพก็มาอุดหนุนอันนาทุกวัน "เขาคงตกใจที่ไม่เห็นอันนาไปเปิดร้านขายข้าวเกือบ 3 วันพอมาเจอก็เลยเป็นอาการอย่างที่คุณมาร์คัสเห็น" อันนาจับมือของมาร์คัสเอาไว้ขณะที่ถูกโอบรัดจากด้านหลัง อันนาเงยหน้าและส่งยิ้มให้มาร์คัส นี่เป็นครั้งที่สองหลังจากที่ทั้งคู่พูดคุยกันบนความเข้าใจ "ฉันเข้าใจแล้ว แต่ถ้ามันยังมายุ่งกับเธออีก มันอาจจะเหลือแต่ชื่อ" มาร์คัสกระซิบข้างหูของอันนาด้วยน้ำเสียงที่ดูเยือกเย็นและบาดลึกลงไปในใจของอันนาถึงกับสั่นไหว เธอรู้ว่าคนอย่างมาร์คัสทำจริงแน่นอน ขนาดสัญญามูลค่าหลายพันล้านเขายังฉีกทิ้งยังไม่แยแส เมื่อเธอย้อนนึกไปถึงคนที่ ชื่อเดวิดก็หายออกไปจากวงการนี้จริงๆ แม้แต่หนังสือพิมพ์หรือโลกอินเทอร์เน็ต เดวิดก็ไม่เคยปรากฏตัวนับจากวันนั้นอีกเลย รถหรูแล่นมาส่งอันนาที่มหาวิทยาลัยตามปกติ และอันนาก็ยังคงเป็นที่สนใจและถูกจับจ้องจากบรรดานิสิตนักศึกษา แต่สำหรับอันนา วันนี้เป็นวันที่สอง เธอเริ่มเปลี่ยนความคิดและภูมิใจในสิ่งที่เธอเป็น เธอได้กตัญญูต่อพ่อของเธอ และกำลังชดใช้ทุกอย่างเพื่อให้พ่อเธอกลับมามีชีวิตที่ปกติสุข เธอจึงเดินด้วยความสง่าผ่าเผยและขึ้นตึกคณะเรียนไปหาเพื่อนทั้งสอง "สมหญิง วันนี้ฉันไม่ได้กินข้าวเช้ามา หิวมากเลย" เมื่ออันนามาถึงก็อ้อนสมหญิงที่เห็นว่าปกติจะต้องซื้อขนมมาเผื่อเธอเป็นประจำ "ไม่ต้องมาอ้อนเลย! สรุปคุณสามีสุดหล่อของเธอเนี่ยเมื่อวานเป็นไงบ้าง" สมหญิงที่เป็นห่วงเพื่อนก็ถามออกมาแล้วก็หยิบเอาขนมที่ซื้อเตรียมไว้รอเพื่อนสาวทั้งสองคนออกมาด้วย แต่ยังไม่ทันจะตอบก็มีเสียงดังขึ้นมา "พวกแกจะกินไม่รอฉันใช่ไหม!" ยายพลอยเพื่อนตัวแสบอีกคนหนึ่งของอันนา "ใครบอกว่าจะกินไม่รอ เราก็รออยู่เนี่ย" อันนาหันไปตอบพลอยแบบติดตลกและออดอ้อน "แกไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องพูดเลย! สรุปเมื่อวานเป็นยังไง ถ้าฉันไม่ลากพี่ไตรภพเอาไว้นะ สงสัยฉันว่าสามีสุดหล่อของแกอ่ะ ยิงกบาลพี่ไตรภพแน่เลยว่ะ หน้าโคตรโหดเลย ขนาดฉันเป็นสาวสองฉันยังกลัว" สมหญิงทำเสียงสองเสียงสามแบบน่ารัก "ฉันคุยกับคุณมาร์คัสเข้าใจแล้วล่ะ ไม่มีอะไรแล้ว เขาก็แค่ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับฉันแล้วก็ตกใจที่อยู่ดี ๆ พี่ไตรภพก็พูดเสียงดังแบบนั้นด้วย" อันนาได้พูดในสิ่งที่เธอเห็นแล้วก็ไม่อยากจะบอกเพื่อนในสิ่งที่ไตรภพได้ยื่นข้อเสนอวันที่เธอไปขอความช่วยเหลือ "แกรู้ไหมว่าพี่ไตรภพอ่ะ มาหาแกที่นี่ทุกวัน ไปที่ร้านข้าวทุกวันเลยนะเว้ย" พลอยหันมาเล่าให้ฟังขณะที่กำลังหยิบขนมเข้าปาก อันนาจึงตัดสินใจไม่ปิดบังเพื่อนทั้งสองคนและเล่าเรื่องวันที่เธอไปขอความช่วยเหลือจากไตรภพ "ทุกอย่างมันก็เป็นอย่างที่ฉันเล่าให้แกฟังนี่แหละ" ผ่านไปเพียง 15 นาทีเรื่องที่อันนาเล่าก็เป็นที่ประจักษ์ต่อหน้าเพื่อนทั้งสอง "พี่ไตรภพเนี่ยนะยื่นข้อเสนอให้แกแต่งงานถึงจะช่วยปลดหนี้ให้พ่อ จริงเหรอวะแก" สมหญิงที่ทำท่าทางตกใจก็หันหน้ามามองอันนา อันนาพยักหน้าลงเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่าทุกอย่างที่เธอเล่าเป็นเรื่องจริง "แต่ว่าพี่ไตรภพเขาก็รวยนี่ ทำไมแกไม่แต่งกับเขาอ่ะ" พลอยหันมาถามเสริม "แล้วแกคิดดูซิ พ่อกับแม่เขาอ่ะรังเกียจบ้านฉันอย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ เวลาพี่ไตรภพมากินข้าวที่ร้านก็เดินมาด่าฉันทุกวัน" "ถ้าฉันไปเป็นสะใภ้เขาเนี่ย เขาไม่โขกไม่สับฉันจมดินเลยเหรอวะ และอีกอย่างฉันก็ไม่ได้ชอบพี่ไตรภพด้วย" อันนาก็พูดไปตามเนื้อผ้า "งั้นแปลว่าแกชอบคุณสามีสุดหล่อคนนี้ของแกใช่ไหม" สมหญิงหันมาถามแล้วยิ้ม ในขณะนั้นอันนาก็ไม่รู้จะตอบยังไงก็ได้แต่ยิ้มออกไป เพราะความอ่อนโยนของมาร์คัสค่อยๆ ปรากฏขึ้นชัดเจนเรื่อยๆ ในครั้งแรกมาร์คัสอาจจะดูใจร้ายและพูดจากับเธอไม่ดี แต่วันสองวันมานี้มาร์คัสดูแลเธออย่างดีทุกอย่าง ผ่านไปไม่นานการสอบวันนี้ก็จบลงลุล่วงด้วยดี อันนาสอบเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้าย เธอก็จะจบการเรียนมหาวิทยาลัย นี่เป็นการสอบกลางเทอม "แก แล้วแกกลับยังไงอ่ะ" พลอยและสมหญิงหันมาถามเพื่อน "เดี๋ยวพี่เต้มารับว่ะ ว่าวันนี้จะไปดูหนังกันนะแก ไปดูหนังกับฉันไหม" พลอยหันมาถามสมหญิง "ไม่จ๊ะ วันนี้ฉันนัดพู่ไว้" สมหญิงก็หันมาทำท่าขิงใส่เพื่อนเกทับ "ส่วนแกฉันคงไม่ชวนแหละ โน่นแกเห็นไหม ยืนหน้าหล่อกำลังเดินมาหาแกน่ะ" สมหญิงชี้ไปที่ทางเข้าคณะ ผู้ชายหน้าคมคายดูภูมิฐาน มองยังไงก็ไม่เบื่อ มาร์คัสกำลังเดินตรงมาหาอันนาเพื่อมารับเมียตัวน้อยกลับบ้าน แต่ด้วยท่าทางที่ดูสง่าผ่าเผย และใบหน้าที่หล่อเหลาเป็นเอกลักษณ์มันเป็นที่สนใจของสาวน้อยสาวใหญ่สาวสองในมหาวิทยาลัยทุกคนต่างพากันกรี๊ดกร๊าดทุกย่างก้าวของมาร์คัส...เรื่องในคืนนั้นที่ผ่านมาผ่านมาแล้วเกือบสองเดือนกว่า อันนาที่สอบเทอมสุดท้ายจนเสร็จเรียบร้อยก็รอฟังผลว่าเธอจะสอบสำเร็จหรือติดตัวไหนบ้าง ความสัมพันธ์ของอันนากับมาร์คัสมันกลับมาเย็นชาดูเหมือนไร้หัวใจในทุกคืนอันนาแยกห้องนอนกับมาร์คัสนับจากวันที่ลาริสากลับมาและแสดงตัวว่าเป็นรักแรกของมาเทส ลลิสาพยายามปรากฏตัวทุกที่ที่มาคัดไปแม้อันนาจะไม่ได้ตามไปด้วยเธอก็พอรู้ว่าตอนนี้มาร์คัสกำลังพยายามเว้นช่องว่างระหว่างเธอและเขา"คืนนี้เธอนอนก่อนเลยนะไม่ต้องรอฉันแล้วก็กลับไปนอนที่ห้องของเธอได้ฉันอยากนอนคนเดียว" น้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาถูกพ่นออกมาจากปากหนา มาร์คัสที่พยายามตีตัวออกห่างอันนาเขาอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากขึ้นเพื่อเคลียร์หัวใจของตัวเอง "ค่ะ" อันนาตอบกลับเสียงเรียบ หลังจากเสร็จภารกิจบนเตียงมาร์คัสก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาใส่เธอ และไล่ให้เธอกลับมานอนที่ห้องและมันเป็นอย่างนี้เสมอมาตลอดสองเดือนกว่า ๆ หัวใจของอันนาเจ็บปวดเกินทนเธอหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาในทุกคืนและเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของของเธอเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงหรือรั้งเขาเอาไว้"อดทนสิอันนา อีกแค่ห้าเดือนสุดท้ายแค่ ห้าเดือนสุดท้ายเท่าน
มาร์คัสที่เห็นอันนาในสภาพที่โอนเอนไปมาอย่างน่าเวทนา หัวใจของเขาก็บีบรัดด้วยความเจ็บปวดและความโกรธที่ผสมปนเปกัน เขากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนเขากัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธกับคนตรงหน้าที่ไร้สติ ก่อนจะเดินตรงไปหาเธออย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจสายตาของใครก็ตาม"เฮ้ย! นี่คุณเป็นใคร" คริสที่กำลังพูดคุยกับอันนาอยู่เห็นมาร์คัสเดินเข้ามาด้วยสีหน้าคุกคามก็รีบเข้ามาขวางหน้าไว้ "คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำแบบนี้ในบาร์ผม"มาร์คัสหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคริส แล้วมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา "หลีกไปซะ ก่อนที่กูจะไม่มีความอดทน" น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยอำนาจ จนคริสรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา"นี่มันไม่ใช่เรื่องของคุณ" คริสยืนกรานเสียงแข็งที่จะไม่ให้มาร์คัสเข้าใกล้อันนา"นี่คือเมียกู ของกู!" มาร์คัสตะโกนเสียงดังลั่น แล้วผลักคริสออกไปอย่างแรง จนเขาล้มลงไปกองกับพื้น อันนาที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ก็ถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอส่ายหน้าไปมาอย่างเมามายด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และบวกกับความเสียใจสติของอันนาเธอไม่อยู่กับร่องกับรอย"ฮึก...เมีย...ฮึก...คุณไม่เคยเห็นอันนาเป็น..เมีย..." อันนาพูดพึมพำด้วยความเจ็บปวดคำพูดของอั
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่มาร์คัส จะรู้ว่าอันนาหายออกไปจากคฤหาสน์ ..ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส มาร์คัสที่เพิ่งจะกลับจากขับรถเล่นก็รู้สึกถึงความเงียบสงัดที่ผิดปกติป้าสมศรีที่มักจะคอยมารอรับมาร์คัสเป็นปกติทุกวันแต่วันนี้กลับดูมีบางอย่างพิรุธเปลี่ยนไปคือความเงียบสงบที่เงียบจนผิดปกติ"มีอะไรหรือเปล่าป้า อันนาล่ะนอนหรือยัง" มาร์คัสที่มาถึงก็ถามถึงอันนาเป็นคนแรกเพราะเขามีเรื่องให้คิดมากมายจนลืมโทรหาอันนาแต่พอกลับมาได้สติเขาก็รีบกลับมาที่คฤหาสน์เพราะเป็นห่วงร่างบาง"เออคือว่า.." ป้าสมศรีไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยว่าอันนาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงเที่ยงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ถึงที่คฤหาสน์"ป้ามีอะไรก็รีบพูดมาเถอะอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละฉันอยากไปพักผ่อน" มาร์คัสที่เห็นท่าทีของป้าสมศรีก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย"ฉันถามว่าอันนาอยู่ที่ไหน.!" มาร์คัสเริ่มพูดเสียงเข้มขณะที่นางปูก็อยู่ด้านหลังยืนตัวสั่นพอได้ยินเสียงที่ดุเข้มของมาร์คัส"คุณหนูอันนา ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลยค่ะนายท่าน" ป้าสมศรีก็บอกความจริงออกไปตามตรง"ป้าว่าอะไรนะ.!" มาร์คัสที่ได้ยินว่าอันนาไม่ได้อยู่ท
อันนาในชุดราตรีสีดำที่เผยให้เห็นเรือนร่างเย้ายวนดูโดดเด่นสะดุดตา เธอไม่ได้ตั้งใจจะแต่งตัวให้เซ็กซี่ขนาดนี้ แต่พลอยกับสมหญิงเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเดินเข้ามาในผับ ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เธอ อันนารู้สึกอึดอัด แต่ก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ภายใต้ท่าทีที่เย็นชาและไร้อารมณ์"เห็นไหมล่ะยัยอันนา บอกแล้วว่าแกสวย" สมหญิงที่เป็นสาวสอง แต่งตัวจัดเต็มไม่แพ้กันในชุดรัดรูปสีเงินเมทัลลิกวาววับ พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาให้บรรดาหนุ่มๆ ที่จ้องมองมาอย่างสนุกสนานส่วนพลอยในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ทั้งสวยและร้อนแรง ก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ "คืนนี้พวกเราต้องเป็นดาวเด่นของงาน!"แต่สำหรับอันนาแล้ว เธอไม่รู้สึกสนุกด้วยเลยสักนิด เธอเดินไปที่บาร์แล้วสั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แรงที่สุด บาร์เทนเดอร์ส่งแก้วให้พร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่เธอไม่สนใจ เธอดื่มมันหมดแก้วอย่างรวดเร็วราวกับจะดับไฟในใจที่กำลังลุกโชน"อันนา... พอแล้ว" สมหญิงพยายามจะห้าม แต่ไม่ทัน เธอสั่งแก้วที่สองทันที"อยากให้ฉันลืมความเจ็บปวด ก็ต้องดื่มให้เมาไม่ใช่เหรอ" อันนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพลอยกับสมหญิงมองหน้ากันด้วยค
วันนี้อันนาจึงอยากจะดื่มให้ลืมความทุกข์ที่เธอได้รับชีวิตของเธอมันบัดซบมากพออยู่แล้วเงินที่ มาคัสให้ตลอดสี่เดือนเดือนละแสนมันมากพอสำหรับที่เธอจะตั้งตัวใหม่ได้เลยวันนี้เธอจึงตัดสินใจหยิบบางส่วนออกมาใช้ก็คงไม่ผิด"งั้นวันนี้ฉันเลี้ยงเองนะ" อันนาเผยรอยยิ้มแต่มันก็ยังคงดูเศร้าในสายตาของเพื่อนอยู่ดีสามสาวพากันนั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้านของพลอยโดยที่อันนาไม่เดินทางกลับคฤหาสน์และมาร์คัสที่มัวแต่ยุ่งกับเรื่องของลลิสา ผู้หญิงที่เป็นคนส่งข้อความปริศนามาให้เขาจนลืมสั่งให้ราเชนทร์ตามติดมาดูอันนาส่วนราเชนก็ยุ่งกับงานใต้ดินของเจ้านายทุกคนต่างพากันลืมอันนาไปหมดมาร์คัสขับรถไปยังสถานที่นัดหมายที่ลลิสาเป็นคนบอกมา มันเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่เงียบสงบในซอยลึก ที่นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาชอบมานั่งกันบ่อยๆ สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย ภาพความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัวของมาร์คัสอย่างไม่ขาดสายเมื่อเดินเข้าไปในร้าน เขาก็เห็นลลิสานั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมสุด เธอสวยเหมือนเดิม...หรืออาจจะสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ ลลิสายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน"สวัสดีมาร์คัส"ลลิสาในชุดสีแดงเพลิงเหมือนแม่หม้ายกระดังงาลนไฟมาร์คัสเดินไปนั่งลงตรงข้ามเธอ "
เช้าวันนี้ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส บรรยากาศดูอึมครึมไปหมด อันนาก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าเหมือนคนอมทุกข์ ตลอดทั้งคืนเธอรู้สึกนอนไม่หลับ เพราะตอนนี้ในชีวิตของเธอเอาหัวใจไปผูกไว้ที่ข้อเท้าของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหนี้และสามีตีตราของเธอ“อันนามีอะไรหรือเปล่า” มาร์คัสพยายามพูดให้บรรยากาศทุกอย่างมันดีขึ้น ซึ่งเขาก็รู้ว่า เขาไม่จำเป็นต้องแคร์อันนาก็ได้ แต่ความรู้สึกของเขากลับไม่เป็นอย่างนั้น“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” อันนาเงยหน้าขึ้นแล้วฝืนยิ้ม ใบหน้าที่ซีดเผือดเพราะนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนจนร้องไห้ตาแดงบวม แม้จะถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอาง แต่ก็ยังมองออก“ทำไมตาบวมขนาดนั้นล่ะอันนา” มาร์คัสสังเกตไปที่ดวงตาสวยที่บวมเปล่งแทบจะปิด“สงสัยเมื่อคืนอันนานอนดึกมั้งคะ นอนไม่หลับน่ะ” อันนาพูดออกไปด้วยท่าทีไม่ได้คิดอะไร เพราะในใจตอนนั้นกำลังจมดิ่งกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น“ทำไมนอนไม่หลับล่ะ คิดถึงฉันหรือไง” มาร์คัสพยายามพูดหยอกเย้าให้อันนาอารมณ์ดี“ค่ะ อันนาคิดถึงคุณมาร์คัส” อันนารับสารภาพออกมาตรง ๆ เพราะเธอก็คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหาย ในเมื่อเธอรู้สึกว่าเธอรักมาร์คัสเข้าให้แล้วมาร์คัสที่ได้ยินคำตอบก็ถึงกับไป




![นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


