Share

ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!
ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!
Author: จันทร์ส่องแสง

ตอนที่1 ชูรส

last update Last Updated: 2025-04-07 10:46:05

ตำหนักพระพันปีที่ได้ชื่อว่างดงามเป็นอันดับสามรองจากตำหนักชิงหนิงกงของฮองเฮาบัดนี้พระพันปีหรือไทเฮาฟู่ฉีนั่งบนบัลลังก์ทองใบหน้าไม่ได้บ่งบอกว่าความรู้สึกภายในใจเมื่อพบหน้าชวีหยา ชวีหยาตำแหน่งกุ้ยเฟยผู้งดงามอ่อนหวานแม้จะไม่ได้เอื้อนเอ่ยวาจาแต่สายตาที่ถอดมองผู้อื่นอ่อนโยนอบอุ่นเหมือนมารดากระนั้น อาภรณ์สีมุกขลิบลวดลายสีทองด้านหลังปักรูปหงส์สยายปีกพร้อมโบยบินแม้จะไม่ได้สะกดสายตาผู้พบเห็นแต่ก็ทำให้ผู้ที่พบเจออดที่จะหันมองซ้ำไม่ได้ 

ฝีเท้าที่ก้าวเดินราวกับวิ่งแต่ทว่าในใจอยากจะมีเวทมนตร์พาตัวเองมาอยู่ตรงหน้าไทเฮาในทันที ชวีหยาไม่ลืมที่จะย่อกายลงอย่างงดงามแม้จะร้อนใจเพียงใด นั้นยิ่งทำให้ชวีหยามีกิริยาน่ามอง นางงดงามเกินกว่าจะนั่งในตำแหน่งอื่นใดคงเกิดมาเพื่อตำแหน่งฮองเฮาเท่านั้นแต่เสียดายที่จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังนั่งแค่ตำแหน่งกุ้ยเฟย

“ทรงประชวรว่าด้วยไม่อยากอาหารมาหลายวันแล้ว จะทำอย่างไรดีเพคะไทเฮา”ด้วยความกังวลใจที่เก็บสะสมไว้จึงกลั่นออกมาเป็นคำพูดในทันทีโดยที่ไม่ได้เกริ่นนำ

“อย่าเรียกว่าอาการประชวรเลย คงแค่ไม่มีของที่ชอบ ปกติหยางหยางมักจะกินแต่ของโปรดมาตั้งแต่เด็กๆ” ไทเฮาฟู่ฉีหยิบกำไลหยกขึ้นมาพิศดูด้วยความตั้งอกตั้งใจราวกับคำพูดของชวีหยาเป็นเพียงแค่ลมพัดผ่าน

“พระวรกายซูบผอม สองวันก่อนชวีหยาสั่งให้มีการคัดตัวนางในห้องเครื่องเสียใหม่เลือกคนที่ทำอาหารเป็นทั้งหมดมาทำเครื่องเสวยถวายฝ่าบาททีละคน”

ไทเฮาฟู่ฉีพยักหน้าขึ้นลง วางกำไลหยกลงในกล่องหันมามองชวีหยาขมวดคิ้วกับสีหน้าเป็นกังวลนั้น

“แล้วมีมั่งไหม นางในห้องเครื่องที่หา”น้ำเสียงคล้ายเหน็บแนมแต่รับให้เรียบเฉยให้สมฐานะไทเฮาที่ไม่รักไม่ชังใครเกินขอบเขต

“ไม่พบเลยเพคะ คนที่ทำเป็นก็ทำถวายตั้งมากมาย แต่ฝ่าบาทแค่ได้กลิ่นก็คลื่นเหียน ขันทียกไปมากหน่อยก็คิดว่าไปกดดัน กวาดเครื่องเสวยบนโต๊ะทิ้งเสียหมด” ยิ่งไม่กินยิ่งหงุดหงิด

พูดไปก็ถอนหายใจสีหน้ากลัดกลุ้ม นับว่าชวีหยาใส่ใจหยางลี่ไม่น้อยจะสุขจะทุกข์ก็คือสามีภรรยา แม้จะพูดไม่ได้เต็มปากว่าคนผู้หนึ่งกับคนผู้หนึ่งไม่ได้อาศัยความรักใคร่แต่ก็ร่วมชีวิตกันมา อย่างไรเสียฮ่องเต้ก็เป็นหนึ่ง ชวีหยาต้องมีหน้าที่ช่วยเหลือส่งเสริมมิใช่แค่หน้าที่ของภรรยาหากแต่เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติมาช้านาน

“เรื่องอื่นก็ดี เรื่องอาหารก็สำคัญ ฮ่องเต้เอาแต่วุ่นวายกับงานในราชสำนัก นอนน้อยตื่นไว กินอะไรไม่ลง ลองไปหย่อนใจ…..ประภาสป่าดูดีไหมไปเปิดหูเปิดตาเสีบบ้างจึงจะทำให้รื่นมรมย์” 

พูดเป็นนัยๆเรื่องที่ชวีหยาไม่ยอมตั้งครรภ์ทั้งที่นั่งเกี้ยวเข้ามาในวังหลวงเกือบปีแล้ว ถึงจะอยากตำหนิแต่อีกคนก็ไม่ได้บกพร่องอะไร เรื่องการตั้งครรภ์ล้วนเป็นลิขิตสวรรค์

“เพคะ เช่นนั้นชวีหยาจะหารือฝ่าบาทเรื่องนี้” ชวีหยาแม้จะรู้ว่าถูกตำหนิแต่สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้คือการก้มหน้ายอมรับความจริงเสียการนิ่งเฉยมักจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

เดือนมีนา ปี2025

“บอกแล้วว่าไม่เอาผงชูรส เห็นไหมเนี้ย!?”ชายร่างสูงใหญ่เหมือนกับคนที่เข้าฟิตเนสในทุกวันยืนตะโกนชี้หน้าข้าวนึ่ง

ข้าวนึ่งหน้าซีดตัวสั่นไม่ได้กลัวไอ้หมอนั่นแต่กลัวว่าลูกค้าผู้หญิงตัวแดงไปทั้งตัว หน้าบวมด้วยฤทธิ์ผงชูรส(หรือเปล่า)จะตายเสียก่อน ส่วนคนที่ยืนด่าอยู่นั่นผู้ชายทั้งแท่งกล้ามใหญ่ตัวโตสีหน้าบอกว่าเอาเรื่องแน่  ในมือถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปไปด้วย เมียก็ตัวแดงแปร๊ดแต่ผัวกำลังจ้องจะเอาเรื่องและไลฟ์สดเรียกยอดผู้เข้าชมไปด้วย ยุคนี้อะนะ

“ขอโทษค่ะ ฉันขอโทษจริงๆค่ะ” ยกมือไหว้ประหลกๆ พูดได้แค่นั้นก็จะไปสรรหาคำพูดแก้ตัวไงก่อน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกค้าสั่งไม่ให้ใส่ผงชูรส น้องที่เป็นเด็กเสิร์ฟยืนเกาะหลังข้าวนึ่งไม่กล้าโผล่หน้าออกมา ก็ปกติแล้วข้าวนึ่งเป็นคูมแม่ของทุกคนนี่

“เขาไม่บอกหนูสักคำเอาแต่กดโทรศัพท์ แล้วหนูจะรู้ได้ไงพี่”น้องเด็กเสิร์ฟกระซิบเบาๆ ไอ้สามีของคนที่ตัวแดงๆนั่นเสือกได้ยินที่น้องมันพูดอีก

“ไม่สั่งก็น่าจะรู้ มากินที่นี่สองรอบแล้ว เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไมจำไม่ได้”

“เอ้า”ข้าวนึ่งร้องเสียงหลง

“ไม่ได้เรื่อง! เราคือผู้บริโภคต้องเข้าแล้วไหม โง่จริงๆ” ทั้งสีหน้าและท่าทางของไอ้คนหุ่นล่ำนี่น่าซัดหน้าสักเปรี้ยง แต่เราไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงนะคะ

แต่คำด่าไม่ใช่คำสรรเสริญ ใครจะอยากได้ยินแล้วใครจะยินดี แต่ละวันลูกค้าเยอะมาก ใครจะไปจำได้ ก้มหน้าทำงานอย่างเดียว มาสองครั้งหวังให้จำหน้าได้ แล้วส้มตำไม่ใส่ผงชูรสเนี่ยนะมันกินได้หรือ ข้าวนึ่งถอนหายใจยาวพี่พ่อครัวที่ร้านรีบเข้ามากระตุกแขนข้าวนึ่งเบาๆอย่างห่วงใยแล้วเข้ามาแทรกกลาง กลัวว่าข้าวนึ่งจะหมดความอดทน

“รีบพาคุณผู้หญิงไปโรงพยาบาลก่อนดีไหมครับ อย่าเพิ่งอารมณ์เสียเลยครับพรี้”

พี่พ่อครัวที่ร้านพูดอย่างประณีประนอมพลางแยกข้าวนึ่งให้ถอยไปก่อน แต่คนที่เป็นผัวจ้องข้าวนึ่งอย่างจะกินเลือดกินเนื้อยังไม่วายพูดใส่ข้าวนึ่ง

“เป็นแม่ครัวแต่ให้ทำอะไรง่ายๆไม่ได้ ไม่พยายามเลยนี่ น่าจะจำได้นะว่ามาทุกทีสั่งไม่ให้ใส่ผงชูรสทุกที เรื่องง่ายๆแค่นี้ไม่ใส่ใจก็ไปตายซะ” ข้าวนึ่งสูดลมหายใจเข้าลึกเจ็บปวดกับคำพูดนี้อย่างที่สุด ไม่เป็นก็ได้ว๊ะ! แม่ครัวใครเคยเป็นแบบนี้บ้างหัวร้อนเพราะคำพูดที่มันทำให้รู้สึกเจ็บปวด กว่าคำพูดหยาบคาย

“พูดดีดีนะโว๊ย! สั่งอะไร ถามอะไรก็ไม่บอก เอาแต่กดโทรศัพท์ธุระเยอะเกินนี่ ตอนสั่งก็ไม่เห็นบอกน้องว่าไม่ใส่ รู้ว่าตัวเองกินไม่ได้ไม่แน่ใจแล้วกินไปทำไมก่อน กินแล้วพอจะตายดันมาโทษคนทำ มาสองครั้งแหม๋มาบ่อยเกินนี่ ตั้งสองครั้งเชียว และคุณเมิงงงงเป็นอะไรก่อน เป็นเทวดาหรืองัยหรือว่าเป็นลิซ่า หรือเซียวจ้านต้องให้มาจำว่าเคยมาที่ร้าน วิเศษนักเหรอห๊ะ อย่าให้เจอข้างนอกนะ”

ข้าวนึ่งถอดผ้ากันเปื้อนปาลงกับพื้นยกมือเท้าเอวข้างหนึ่งอีกข้างชี้หน้าคนผัวที่ทำตาปริบๆ ทุกคนในที่นั้นต่างถอนหายใจยาวพร้อมๆกัน

ช่างแม่งวันนี้พรุ่งนี้ค่อยมาลาออก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่150คืนเข้าหอ

    ในห้องที่เต็มไปด้วยความหรูหราและอบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้สด ผ้าม่านสีทองยาวสลวยตกลงมาจากเพดานจนถึงพื้น ปูพื้นด้วยพรมแดงเนื้อนุ่ม นั่งอยู่บนแท่นนอนอันใหญ่โต หยางชินอวี้ในชุดอาภรณ์สีทองที่สวมใส่ในพิธีแต่งตั้งสนมอันดับหนึ่งของพระองค์ ดูสง่างามอย่างที่สุด แต่ภายใต้สีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงบและความสง่างามนั้น กลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวลที่ไม่สามารถปิดบังได้“ฝ่าบาทกำลังจะมาถึงแล้วเพคะ” เสียงนางกำนัลคนหนึ่งบอกดังๆ ออกมาจากนอกห้องหอสีแดงมีริ้วผ้าสีแดงมงคลในห้องที่เต็มไปด้วยความหรูหราและอบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้สด ผ้าม่านสีแดงสลวยตกลงมาจากเพดานจนถึงพื้น ปูพื้นด้วยพรมแดงเนื้อนุ่ม หยางชินอวี้ค่อยๆ นั่งลงบนแท่นนอนกว้าง มองผ่านผ้าแดงคลุมหน้าไปรอบๆ เฝ้ารอการมาของเจ้าบ่าวหรือหยางลี่เวลาผ่านไปนานอย่างไม่เคยมีมาก่อน แม้ว่าหยางชินอวี้จะได้ยินเสียงฝีเท้าของขันทีหรือใครก็แล้วแต่ด้านนอกแต่หยางลี่ก็ยังไม่มา ไม่ใช่เสียงฝีเท้าของหยางลี่หยางชินอวี้ขยับตัวบนแท่นนอน มือกำผ้าคลุมเตียงแน่นจนกลายเป็นสีขาวซีด เรียวแขนสั่นเล็กน้อย หยางชินอวี้นั่งนิ่งทั้งที่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ร้าวลึกลงไปในหัวใจ ความรู้สึกข

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่149รักมั่นหนึ่งเดียว

    เสียงเปิดประตูดังขึ้น ขันทีกวงซุนเดินเข้ามาพร้อมกับหยางชินอวี้ที่ถือบัวลอยน้ำขิงเข้ามาในห้อง ดวงตาของหยางชินอวี้ส่องแสงสดใสเหมือนต้องการแสดงความห่วงใย“ฝ่าบาท ข้าทำบัวลอยน้ำขิงมาให้ลองชิมดูหน่อยดีไหมเพคะ” เสียงของหยางชินอวี้ดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ แสนหวานหยางลี่เหลือบตามองมาที่หยางชินอวี้ แต่ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกที่พยายามยับยั้งไว้ได้ บนใบหน้าของหยางลี่มีเพียงสีหน้าเรียบเฉย พยายามไม่ให้ความโกรธที่มีในใจแสดงออกมาหยางลี่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างนิ่งเฉยไร้อารมณ์“กวงซุน ข้าไม่ได้เรียกให้ใครยกของหวานเข้ามา พานางออกไป”ขันทีกวงซุนที่ยืนอยู่ข้างๆ รับรู้ถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดระหว่างสองคน จึงรีบพูดขึ้นด้วยความเกรงกลัว “คุณหนูหยาง โปรดทำตามที่ฝ่าบาท...”หยางชินอวี้ไม่ได้สนใจคำพูดแต่เดินเข้าใกล้โต๊ะหยางลี่ มองเห็นจดหมายที่วางอยู่ใกล้ๆ มือของหยางลี่ รอยยิ้มในดวงตาของหยางชินอวี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป“ฝ่าบาท... ดูสิเพคะ... ข้าคิดว่าฝ่าบาทคงชอบนะเพคะของหวานยามค่ำที่ฝ่าบาทเคยชอบ” หยางชินอวี้พยายามพูดด้วยเสียงที่อ่อนหวานอีกครั้ง หยางลี่มองหยางชินอวี้ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกด้วยเสียงที่ค่อน

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่148ความคิดถึงล่องลอย

    ท่ามกลางความเงียบสงบในห้อง อวี่หรงยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะของหยางลี่ อวี่หรงมองมองหยางลี่ที่กำลังพิจารณาจดหมายจากเสี่ยวหนี่ที่เขานำกลับมาจากเมืองโจวแต่ยังไม่ยอมเปิดออกดู มันเหมือนกับการเฝ้าดูการพบปะระหว่างความคิดถึงและความเศร้าโศกที่ซ่อนไว้ลึกภายในของทั้งสองอวี่หรงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มๆ"เสี่ยวหนี่ตอนนี้นางกลายเป็นเฒ่าแก่เนี๊ยะไปเสียแล้ว นางอะนะทำทุกอย่างเพื่อตระกูลโจวและกำลังไปได้สวยทีเดียว นางยังฝากคำพูดให้ข้ามาพูดกับฝ่าบาท… ขอให้ฝ่าบาท...มีความสุขกับชีวิต…'"คำพูดที่ออกมาจากปากของอวี่หรงทำให้หยางลี่เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาทอแสงเศร้าราวกับแสงไฟที่เริ่มริบหรี่ จ้องไปที่จดหมายในมือของตัวเอง ท่ามกลางความเงียบที่แผ่ไปรอบๆ หยางลี่ยิ้มออกมา... แต่เป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้า เหมือนกับการทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้ข้างหลังอวี่หรงมองไปยังหยางลี่ด้วยแววตาที่เข้าใจ ก่อนจะพูดต่อไป"อาจจะเพราะเสี่ยวหนี่กลัวว่า...ฝ่าบาทจะรอไม่ไหวนางจึงพูดแบบนี้ การที่จะฟื้นฟูบ้านโจวให้รุ่งเรืองเหมือนครั้งที่บิดานางยังไม่ล้มป่วย มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากสำหรับสตรีตัวเล็กๆ อย่างเสี่ยวหนี่ แต่นางก็พ

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่147 ส่งความคิดถึง

    ไทเฮาจากไปแล้วตงเจี้ยนขยับตัวอีกครั้งอย่างผ่อนคลาย“ฝ่าบาท” ตงเจี้ยนเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวัง“ตงเจี้ยนขอถามคำถามสักข้อ... เรื่องการแต่งตั้งหยางชินอวี้เป็นสนมนั้น...ท่านไม่คิดที่จะคัดค้านหรือ”หยางลี่เงยหน้าขึ้นจากช้าๆ ตาคมที่เคยแสดงความเย็นชาไม่ได้เผยความรู้สึกใดออกมาแต่ในใจรู้ดีว่าตงเจี้ยนคงจะคิดเรื่องนี้มาตลอด มันเป็นคำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะทุกคนรอบๆ กายหยางลี่รู้ว่าเสี่ยวหนี่คือคนที่หยางลี่ใส่ใจมากที่สุด แล้วการที่เขายินยอมในเรื่องนี้อย่างง่ายดายนั้น…“เจ้าคิดว่าข้าควรคัดค้านหรือ คัดค้านแล้วไม่ต้องทำได้หรือ” หยางลี่ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความนิ่งเฉย ตงเจี้ยนทำท่าทางลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดต่อ “ข้าน้อยรู้ดีว่า... ฝ่าบาทมีใจให้เสี่ยวหนี่คนเดียวแต่เหตุใดฝ่าบาทถึงยอมให้หยางชินอวี้ได้ตำแหน่งนี้ไป ทั้งที่มันจะทำให้เสี่ยวหนี่ต้องเจ็บปวดหากนางรู้เข้า...”คำถามของตงเจี้ยนสะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยที่ตงเจี้ยนมีต่อหยางลี่และเสี่ยวหนี่ ความห่วงใยที่ใครๆ ก็พอจะเข้าใจได้ แต่สำหรับหยางลี่แล้วมันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาระหน้าที่ที่ท่านต้องทำหยางลี่มองไปที่ตงเจี้ยนอย่าง

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่146 ไม่คัดค้าน

    ในตำหนักชิงหลานที่บัดนี้เงียบงันอย่างน่าใจหาย กุ้ยเฟยชวีหยากำมือแน่นเมื่อได้ยินข่าวจากขันทีที่มารายงานเรื่องการแต่งตั้งหยางชินอวี้เป็นสนมอันดับหนึ่งของฝ่าบาท หัวใจหนักอึ้งรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ ทิ้งลงมาทับบนอกทำให้หายใจไม่ออก"อะ…อะไรนะ ทำไมเป็นแบบนี้ ไหนฝ่าบาทเคย…เคยบอกว่าไม่ให้หยางชินอวี้ถวายตัว…" กุ้ยเฟยถามเสียงแหบแห้งแต่ก็ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกได้อีกต่อไป ซบหน้าลงบนฝ่ามือปล่อยให้หยดน้ำตาไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว"หยางชินอวี้...จะขึ้นมาอยู่ในตำแหน่ง…สนมอันดับหนึ่งได้อย่างไร ฮือออออ" น้ำเสียงของชวีหยาสั่นสะท้านเต็มไปด้วยความเจ็บปวดหรูซินยืนอยู่ข้างๆ รีบเขามาโอบกอด ด้วยความสงสารมองกุ้ยเฟยที่ร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของตนอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร ถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะพูดเสียงนุ่มกับชวีหยา"หยางชินอวี้เพียงแค่สนมที่ไทเฮายัดเยียดให้ฝ่าบาทเท่านั้นเจ้าค่ะ กุ้ยเฟยอย่าได้กังวลไปเสียก่อน"ชวีหยาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือ น้ำตายังคงไหลรินแต่ท่าทีของชวีหยากลับแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย"เจ้าบอกว่าอย่างไรนะ เจ้า...บอกว่าไทเฮาทำให้ฝ่าบาทยอมรับหยางชินอวี้เป็นสนมหรือ" เสียงของชวีหยายังสั่นสะท้าน แต่แววตา

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่145อิจฉา

    โรงเตี๊ยมบ้านโจวเสี่ยวหนี่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารในครัวของโรงเตี๊ยมบ้านโจว ความร้อนอบอ้าวจากเตาและกลิ่นเครื่องเทศต่างๆ ทำให้เหงื่อไหลรินจากหน้าผากไปจนถึงคาง แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความมั่นใจและดีใจ ทุกอย่างที่ตั้งใจไว้กำลังสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี“สำเร็จแล้ว!” เสี่ยวหนี่พูดกับตัวเองเบาๆ พร้อมยิ้มออกมาอย่างพอใจในความพยายามที่ผ่านมา เมื่อได้ยินเสียงน้ำเดือดในหม้อเครื่องเทศที่ต้องปรุงรสก็รีบหยิบชามใบใหญ่ขึ้นมารินน้ำซุปใส่ในถ้วย ราดด้วยซอสที่เพิ่งปรุงเสร็จใหม่ๆ ก่อนจะจัดจานออกไปยังโต๊ะลูกค้า ที่กำลังรอคอยความอร่อยอยู่“ยกไปเลยใช่ไหมเจ้าค่ะคุณหนู” เสี่ยวอี้ถาม “ยกไปได้เลยกำลังร้อนๆ หอมๆ โต๊ะริมหน้าต่างทางซ้ายบน”แต่ยังไม่ทันที่เสี่ยวหนี่จะได้พักหายใจหรือทำอะไรเพิ่มเติม เสียงของเหม่ยซูก็ดังขึ้น“เสี่ยวหนี่มีคนอยากจะคุยกับเจ้า” บุรุษสองคนก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เสี่ยวหนี่หันไปมองคนของแคว้นซีเป่ยยืนอยู่ที่ทางเข้าพร้อมกับประสานมือนอบน้อม“คุณหนูเสี่ยวหนี่... ข้านำบัญชาของไท่จือโจวชัวมาเพื่อขอซื้อผงปรุงรสโจวรสเด็ดจำนวนมากขอรับ” ชายคนนั้นพูดเสียงเข้มขรึมแต่ก็มีความสุภาพในตัวเสี่ยวหนี่ตาโตด้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status