Share

19

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2025-09-14 20:09:52

อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งทองเหลือง ริมฝีปากประดับรอยยิ้มที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะความพึงพอใจ แต่เกิดจากความอิ่มเอมใจในความรักที่ได้รับ ตลอดสองวันที่ผ่านมานี้ องค์จักรพรรดิอวี้เหยียน แสดงความคลั่งรักเธออย่างเปิดเผย และรุนแรง พระองค์ไม่เพียงแต่กักเธอไว้ในตำหนักทรงงานเพื่อสอนราชกิจ แต่ยังโอบกอดเธอไว้แน่นขณะทรงงาน ราวกับเด็กที่กลัวของรักจะหายไป

"ให้ตายสิ...ทำไมถึงได้คลั่งรักกันขนาดนี้" เธอหัวเราะเบา ๆ มือเรียวไล้ไปตามรอยแผลเป็นที่มือซึ่งถูกเขากระทำเมื่อวันก่อน รอยนั้นกำลังจางหายไป เหมือนกับความสงสัยของเธอที่กำลังถูกความอ่อนโยนของเขาบดบัง

แต่ในใจลึก ๆ บางสิ่งก็ยังคงตะหงิด ๆ มันไม่สมเหตุผลเลยที่คนอย่างเขาที่แต่ก่อนไม่เคยชายตามองเธอ และออกจะรังเกียจด้วยซ้ำ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่ถึงขั้นมีสัมพันธ์ทางกายกันแล้วด้วยอารมณ์หึงหวง เขากลับหันมารักใคร่เธอขนาดนี้ ความรักที่มาเร็วและรุนแรงเกินไปนี้... กำลังซ่อนเร้นบางสิ่งอยู่หรือไม่?

เพื่อเป็นการตอบแทนความรู้สึกที่ถูกเติมเต็ม อวิ๋นซินเยว่ลงมือทำอาหารด้วยตัวเองด้วยสกิลข้าวกล่องฮองเฮาเช่นเคย ในวันนี้เธอเลือกทำซุปไก่ตุ๋นโสมที่ช่วยบำรุงหัวใจและเลือดลม... หวังว่ามันจะช่วยให้จิตใจที่สับสนของเขาอ่อนโยนลงได้บ้าง

ยามที่อวิ๋นซินเยว่มาถึงห้องทรงงาน มือเรียวของเธออุ้มตะกร้าอาหารที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น รอยยิ้มกำลังจะผุดพรายบนใบหน้า แต่แล้ว... เธอก็ชะงักฝีเท้า เพราะได้ยินเสียงสนทนาที่เย็นชาและหนักแน่นออกมาจากด้านใน เป็นเสียงของอวี้เหยียนกับขันทีเฒ่าคนสนิทอย่างกงกงอี้จิ้ง เสียงสนทนาหยุดลงทันทีที่เธอเข้ามาใกล้ ราวกับว่าการมาถึงของเธอเป็นสิ่งต้องห้าม อวิ๋นซินเยว่จึงเลือกที่จะหลบอยู่หลังเสาไม้แกะสลัก เพื่อรอให้การสนทนาส่วนตัวสิ้นสุดลง

"ฝ่าบาททรงมั่นใจหรือพ่ะย่ะค่ะ... การที่ทรงแสดงความห่วงใยฮองเฮามากถึงเพียงนี้... จะทำให้พระองค์ทรงตกเป็นเป้าสายตา และอาจถูกนำไปใช้เป็นจุดอ่อนได้พ่ะย่ะค่ะ" เสียงกงกงอี้จิ้งเต็มไปด้วยความเป็นกังวล พระสุรเสียงของจักรพรรดิอวี้เหยียนตอบกลับมา ชัดจนแทบจับน้ำเสียงขุ่นเคืองภายใต้ความเย็นชานั้นได้ ทุกถ้อยคำแทงทะลุหัวใจของอวิ๋นซินเยว่ราวกับน้ำแข็งที่แหลมคม

“ข้าไม่เคยไว้ใจนาง... ต่อให้ต้องสูญเสียทุกสิ่ง ก็จะไม่ยอมอ่อนแอเพราะนาง”

“การที่ข้าแสดงความรักและความต้องการในตัวนาง คือการ ผูกมัดนางไว้ข้างกายต่างหาก ข้าต้องทำทุกทางให้นางคิดว่านางชนะแล้ว! และนางเป็นที่รักของข้าแล้ว! เพื่อที่ข้าจะสามารถจับตาดูนางได้ทุกฝีก้าว! และเพื่อที่ข้าจะสามารถล่อให้พี่สิบสามกลับมาเพื่อ แย่งชิงนางได้อย่างสมบูรณ์!" สิ่งสุดท้ายที่เธอได้ยิน... คือเสียงหัวเราะที่เย็นชาขององค์จักรพรรดิ

เพียงคำเดียว... อวิ๋นซินเยว่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดทับบนอกเธออย่างเฉียบพลัน ความรัก ความสุข ความคลั่งไคล้ทั้งหมด... คือละคร! คือการควบคุม! และคือกับดักทางการเมืองที่โหดร้ายที่สุด! เขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับเธอเลย!

หญิงสาวถึงกับเข่าอ่อน ข้าวกล่องฮองเฮาตกลงจากมือ! ภาชนะแตกกระจาย... ซุปโสมตุ๋นไก่ที่ส่งกลิ่นหอม... บัดนี้หอมไม่ต่างจากยาพิษที่กำลังทำลายหัวใจของเธอ! แต่เธอก็ต้องพยายามพาร่างกายกลับออกมา ก่อนที่ทั้งสองจะรู้ตัว

ระหว่างความเงียบในทางเดินหินของตำหนักหลวงนั้นหนาวกว่าฝนด้านนอก ปลายนิ้วที่เคยสัมผัสดอกเหมยขาวเมื่อวันก่อนสั่นน้อย ๆ ดอกไม้นั้น...ตอนนี้เหมือนสิ่งโง่เขลาที่เธอเผลอเก็บไว้หวังแทนหัวใจคนอื่น ดอกเหมยที่ครั้งก่อนชายคนนั้นเพิ่งมอบมันให้เธอ

[ระดับอารมณ์ของจักรพรรดิอวี้เหยียนแปรปรวนเกินค่ามาตรฐาน 78

คำเตือน:หากความสัมพันธ์ทรุดต่ำกว่าค่าความเชื่อมั่น10หน่วยภารกิจ“ฟื้นฟูพระเอก”จะเข้าสู่สถานะล้มเหลว!

โลกกำลังจะพัง!]

อวิ๋นซินเยว่หัวเราะในลำคอเบา ๆ น้ำเสียงนั้นแตกพร่าเหมือนแก้วร้าว เธอกล่าวกับเสี่ยวหลิงอย่างเจ็บปวด

“ภารกิจล้มเหลวเหรอ...” เธอพึมพำ “เธอคิดว่าโลกนี้จะพังเพราะโค้ดของเธอเหรอ? ไม่...มันพังเพราะหัวใจของคนโง่อย่างฉันนี่แหละ” เธอรู้ตัวแล้วว่าสิ่งที่เธอต้องทำคือ 'กู้โลก' แต่เธอทำพลาด... เธอเผลอมอบหัวใจ ให้กับเป้าหมายที่พร้อมจะทำลายเธอได้ทุกเมื่อ!

อวิ๋นซินเยว่ก้าวออกจากทางเดินแคบ ๆ สู่อากาศเย็นจัดข้างนอก พระจันทร์ซ่อนอยู่หลังม่านหมอก หยดฝนเริ่มร่วงช้า ๆ แตะหน้าผากเธอหลับตา สูดกลิ่นชื้นลึกเข้าเต็มปอด กลิ่นเหมือนกลีบเหมยที่ถูกเหยียบจนช้ำ

ในอีกมุมหนึ่งของวังหลวง อวี้เหยียนนั่งอยู่ในห้องบัลลังก์ส่วนพระองค์ บนโต๊ะมีถ้วยชาที่เย็นชืด พระเนตรทอดอยู่บนช่อเหมยขาวหนึ่งดอกที่วางอยู่ตรงหน้า ดอกสุดท้ายที่เหลือจากช่อที่เขาให้ฮองเฮา

ขันทีคนสนิทเข้ามาเงียบ ๆ

“ฝ่าบาท...จะให้หม่อมฉันส่งคำสั่งต่อไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ส่ง”

“แต่ว่า...”

“ข้าไม่ไว้ใจใครในวังนี้ทั้งนั้น” อวี้เหยียนพูดเสียงเรียบ แต่พระหัตถ์ที่กำถ้วยชาแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เงาในดวงตาพระองค์ไม่ใช่ความเยือกเย็นอีกต่อไป หากเป็นความหวาดกลัว กลัวสิ่งที่ตัวเองเริ่มรู้สึก และไม่อาจควบคุม

“ความอ่อนโยนคือหายนะของจักรพรรดิ”

“ข้าต้องกำจัดมัน...ก่อนที่มันจะกำจัดข้า” เสียงพระองค์เบาลงเรื่อย ๆ จนเหลือเพียงเสียงฝนที่กระทบขอบหน้าต่าง แต่ในความมืดนั้น ดอกเหมยขาวดอกสุดท้ายกลับเริ่มบานออกทีละกลีบ และไม่มีผู้ใดรู้ว่า ในใจของคนที่สั่งให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม... กำลังแตกออกจากข้างใน!

และความแตกหักนี้... อาจจะนำมาซึ่งการล่มสลายของโลกใบนี้!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   22

    ค่ำคืนนั้นวังทั้งวังเหมือนกลายเป็นทะเลสาบแข็ง ไม่มีลม ไม่มีเสียงก้าวเท้าเพียงเสียงพู่กันของเธอที่ลากผ่านแผ่นผ้าไหมทีละเส้นอวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่ในห้องหนังสือส่วนตัว เปลวเทียนส่องแสงอุ่นที่ปลายโต๊ะ กลีบเหมยขาวหล่นหนึ่งกลีบ วางอยู่ข้างถ้วยชาเย็นชืด[บันทึกภารกิจ: ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของเป้าหมาย “จักรพรรดิอวี้เหยียน”][อัตราความสับสนทางอารมณ์: 47%][สถานะ: ไม่คงที่]เสียงเสี่ยวหลิงดังขึ้นเหมือนเคย แต่ในความปกตินั้น มีบางอย่างแปลกไป...เล็กน้อยเกินจะบอกได้“เสี่ยวหลิง” ซินเยว่วางพู่กันลง “เจ้าแน่ใจหรือว่าตัวเลขนี้ถูกต้อง?”[ข้อมูลจากระบบวัดโดยตรง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสงสัยความแม่นยำ]น้ำเสียงมันเหมือนเดิมแต่มี โทนสูงขึ้นครึ่งจังหวะ ตอนพูดคำว่า “สงสัย” เธอขมวดคิ้วบาง ๆ“แต่ก่อนหน้านี้ เจ้าบอกว่าระดับของเขาไม่เกินสามสิบห้า”[ฐานข้อมูลอัปเดตอัตโนมัติ...ตามพฤติกรรมล่าสุดของเป้าหมาย]“ล่าสุด?” เธอพึมพำ “หมายถึง...วันนี้?”[ยามเที่ยง วันนี้...ฝ่าบาททอดพระเนตรภาพเหมยขาวในแจกันระดับอารมณ์แปรปรวนขึ้นสิบสองเปอร์เซ็นต์]"ภาพเหมยขาว?” เธอก้มมองแจกันตรงหน้า กลีบดอกที่ร่วงจากกิ่งนั้นมีอยู่แค่หนึ่งกลีบ[ระ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   21

    ยามเช้า พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นสูง ท้องพระโรงเต็มไปด้วยเหล่าขุนนางในชุดทางการสีดำแดง อวี้เหยียนประทับอยู่เบื้องบน แสงเช้าสะท้อนบนฉลองพระองค์ทองเข้มจนแสบตา ใต้แสงนั้น พระเนตรคมเหมือนคมมีด ไม่มีใครกล้ามองตรง ๆ เลยสักคนเดียว “เริ่มประชุม” พระสุรเสียงเย็นเรียบ เสนาบดีฝ่ายซ้ายคำนับ “กราบทูลฝ่าบาทรายงานข่าวจากชายแดนเหนือ พบว่ากองทัพของเสนาบดีอวิ๋นเคลื่อนกำลังเกินแนวลาดตระเวนตามสัญญา...จึงขอพระราชทานอนุญาตตรวจสอบให้ละเอียดพ่ะย่ะค่ะ” เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังในหมู่ขุนนาง “ข่าวแน่นะ?” “ใช่ ข้าก็ได้ยินว่าตระกูลอวิ๋นมีการเก็บเสบียงเพิ่ม" แต่ก่อนเสียงจะขยายออกไป ประตูบานใหญ่ของท้องพระโรงก็ถูกผลักเปิดออก ปัง! เสียงนั้นดังพอให้ทุกคนหันมองและสิ่งที่เห็น...ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ ร่างสะโอดสะองในชุดผ้าแพรสีงาช้าง ก้าวเข้ามาช้า ๆ ใบหน้างามนั้นสงบ แววตาแน่วแน่ ทุกฝีเท้าเต็มไปด้วยความตั้งใจ ปนความท้าทาย “ฮองเฮา!?” “พระองค์ทรง..” "นางมาทำอะไรที่นี่" "นี่มันผิดธรรมเนียมนะ ใครปล่อยให้พระนางเข้ามา" เสียงขุนนางหลายคนดังขึ้นพร้อมกัน เหวินหรงแทบจะถลาออกมา “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ! ที่นี่..” “ท้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   20

    สายลมต้นฤดูหนาวพัดกรูเข้ามาตามเฉลียง ธงราชสำนักปลิวแรงจนผ้าสีทองสะบัดเหมือนเปลวเพลิง ขันทีหลวงคุกเข่ากลางโถงตำหนักคุนหนิง เสียงประกาศก้องดังสะท้อน “พระราชโองการจากฝ่าบาท ให้ซูกุ้ยเฟยเป็นผู้ดูแลกิจการวังหลังทั้งหมด จนกว่าฮองเฮาจะฟื้นพระพลานามัยอย่างสมบูรณ์ พระราชโองการนี้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!” เสียงแผ่นทองคำสลักพระนามกระทบกันเบา ๆ เงียบ...เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคนในห้อง อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่บนตั่งไม้หอม ดวงหน้าสงบจนผิดธรรมชาติ ไม่แม้แต่จะกะพริบตา นางกำนัลสองคนที่คอยอยู่ข้างหลังเริ่มตัวสั่น “ฝ่าบาท...หมายความว่า...” เสียงพวกนางขาดหายเมื่อฮองเฮามองมาททงพวกนาง “วังนี้ช่างเมตตานัก” เธอพูดเสียงเรียบ “ข้าเพียงล้มป่วยไม่กี่วัน ก็มีคนมาช่วยแบ่งภาระ” ขันทีที่ถือพระราชโองการอยู่แทบกลั้นหายใจ ไม่มีเสียงโวยวาย ไม่มีถ้วยชาแตก ไม่มีคำปฏิเสธ มีเพียงรอยยิ้มบางบนริมฝีปากที่สงบจนน่ากลัว “ถวายพระพรฝ่าบาท” เธอกล่าวช้า ๆ “หม่อมฉันจะปฏิบัติตามพระบัญชาอย่างเคร่งครัด” เสียงของเธออ่อนโยน แต่แววตาในยามที่มองพระราชโองการนั้นเย็นเสียยิ่งกว่าน้ำแข็ง ราวกับเธอมองกระดาษทองคำแผ่นนั้นเป็นเพียง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   19

    เสียงฝนหยุดลงในยามเกือบรุ่งเหลือเพียงกลิ่นดินชื้นและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเหมยขาวที่ยังติดอยู่ในอากาศ เงาในตำหนักหลวงยาวเหยียด และพระองค์ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เหวินหรงก้าวเข้ามาช้า ๆ “ฝ่าบาท...ทรงควรเปลี่ยนฉลองพระองค์พ่ะย่ะค่ะ ฝนหยุดแล้ว” ไม่มีคำตอบ เพียงพระหัตถ์ที่ยกขึ้นช้า ๆ มองรอยเลือดบนฝ่ามือของตนเอง รอยที่เกิดจากเล็บจิกแน่นเมื่อครู่ หยดเลือดเล็ก ๆ ตกลงบนพื้นหิน เย็นและหนักเหมือนความเงียบที่กดทับอยู่ในอก “เหวินหรง” “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” “เจ้ารู้ไหม...ตอนที่นางพูดว่า ‘หม่อมฉันเพียงไม่อยากอยู่ในโลกที่ฝ่าบาทไม่ไว้ใจ’” พระสุรเสียงนั้นเบา ราวกระซิบให้ตัวเองฟัง “ข้ารู้สึก...เหมือนถูกใครสักคนบีบคอ” เหวินหรงนิ่งงัน “ฝ่าบาท...นางพูดด้วยใจจริงพ่ะย่ะค่ะ” “ใจจริงงั้นหรือ” อวี้เหยียนหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นขมจนเจ็บ “ใจจริงของนาง...หรือใจของข้าที่อยากเชื่อจนโง่” พระองค์ทรุดลงนั่งบนขั้นบัลลังก์ พระหัตถ์ข้างหนึ่งจับขมับ “เหวินหรง เจ้าเคยรู้ไหม เวลาคนพยายามไม่รู้สึกอะไร...มันเหนื่อยยิ่งกว่าการแสดงออกไปตรง ๆ มันหนักหนาเสียยิ่งกว่าการสู้รบเสียอีก” “พ่ะย่ะค่ะ...” ขันทีเฒ่าก้มต่ำ “ข้าคือจักรพรรดิ.

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   18

    อวิ๋นซินเยว่ไม่คิดเลยว่าตัวเธอจะเสียใจขนาดนี้ จนกระทั่งเสี่ยวหลิงทักนั่นเอง เธอถึงได้รู้สึกตัว [หม่าม๊า ร้องไห้ทำไมครับ] เด็กชายในรูปลักษณ์โฮโลแกรมลอยเข้ามาประชิดร่างของหญิงสาวที่ขณะนี้ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกไปจากดวงตาและใบหน้าของตัวเองอย่างลวก ๆ "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง" [ถ้าหากหม่าม๊าหมายถึงฝ่าบาทแล้วล่ะก็ ผมจะตรวจสอบให้ครับ ... .. . สถานะความชอบ 5 แต้ม ความไว้วางใจ -1 มีแนวโน้มที่อาจจะเกิดอันตรายกับครอบครัวของร่างโฮสต์ที่หม่าม้าอยู่ตอนนี้ครับ] "อันตรายมากจริง ๆ เฮ้ออ ถึงแม้ว่าฉันจะมาอยู่ได้ไม่นาน และยังไม่เคยเห็นหน้าพวกเขาที่เป็นครอบครัวของฮองเฮาเลยสักนิด แต่จากที่อยู่ในร่างนี้และโลกนี้มา นางก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ ถ้าจะผิด ก็ผิดที่เลือกสามีผิดล่ะนะ" [หม่าม๊าจะว่าแบบนั้นก็ไม่ถูกนะครับ หญิงสาวในยุคนี้ไม่ได้เหมือนหญิงสาวในยุคของหม่าม๊า พวกนางไม่สามารถเลือกชีวิตตนเองได้ ครอบครัวอย่างพ่อแม่เป็นคนเลือกให้ และผู้ชายเป็นฝ่ายเลือกผู้หญิง] "เฮ้ออ เอาเถอะ มาคิดหาทางรอดให้พวกเขากันดีกว่า ในเมื่อไม้อ่อนไม่ได้ผลก็ไม้แข็งเลยละกัน" อวิ๋นซินเยว่พูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเต็ม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   17

    ความเงียบในทางเดินหินของตำหนักหลวงนั้นหนาวกว่าฝนด้านนอก เสียงพระสุรเสียงของจักรพรรดิอวี้เหยียนยังสะท้อนอยู่ในหัว ของอวิ๋นซินเยว่ชัดจนแทบจับน้ำเสียงขุ่นเคืองภายใต้ความเย็นชานั้นได้ “ข้าไม่เคยไว้ใจนาง...ต่อให้ต้องสูญเสียทุกสิ่ง ก็จะไม่ยอมอ่อนแอเพราะนาง” เพียงคำเดียว...อวิ๋นซินเยว่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดทับบนอกเธออย่างเฉียบพลัน ปลายนิ้วที่เคยสัมผัสดอกเหมยขาวเมื่อวันก่อนสั่นน้อย ๆ ดอกไม้นั้น...ตอนนี้เหมือนสิ่งโง่เขลาที่เธอเผลอเก็บไว้หวังแทนหัวใจคนอื่น ดอกเหมยที่ครั้งก่อนชายคนนั้นเพิ่งมอบมันให้เธอ เสี่ยวหลิงส่งเสียงในหัวทันที [ระดับอารมณ์ของจักรพรรดิอวี้เหยียนแปรปรวนเกินค่ามาตรฐาน 78%] [คำเตือน: หากความสัมพันธ์ทรุดต่ำกว่าค่าความเชื่อมั่น 10 หน่วย ภารกิจ “ฟื้นฟูพระเอก” จะเข้าสู่สถานะล้มเหลว] อวิ๋นซินเยว่หัวเราะในลำคอเบา ๆ น้ำเสียงนั้นแตกพร่าเหมือนแก้วร้าว “ภารกิจล้มเหลวเหรอ...” เธอพึมพำ “หนูคิดว่าโลกนี้จะพังเพราะโค้ดของหนูเหรอ? ไม่...มันพังเพราะหัวใจของคนโง่อย่างฉันนี่แหละ” เธอก้าวออกจากทางเดินแคบ ๆ สู่อากาศเย็นจัดข้างนอก พระจันทร์ซ่อนอยู่หลังม่านหมอก หยดฝนเริ่มร่วงช้า ๆ แตะหน้าผ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status