อ้อมแขนแข็งแรงของชายหนุ่มช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด เขาพาเธอไปยังห้องนอนก่อนจะค่อยๆ วางร่างบางบนที่นอนนุ่ม ทันทีที่หลังของเธอสัมผัสกับที่นอน ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ก่อนจะขยับหนีตามสัญชาตญาณ แต่เขาไม่ปล่อยให้เธอได้ทำเช่นนั้น เขาโน้มตัวลงมาทาบทับร่างบางเอาไว้จนเธอรู้สึกหายใจไม่ออก
ดวงตาสวยคู่นั้นมองมาที่ริมฝีปากเคลื่อนเข้ามาใกล้ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ ลิ้นอุ่นเซาะซอนไปตามแนวฟัน แรงกระตุ้นดังกล่าวทำให้ร่างกายเกร็งเขม็งขึ้นมาทันตา จูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ยิ่งเขาเพิ่มน้ำหนักในรสจูบ เธอก็ยิ่งกำแขนเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น มือข้างหนึ่งของเขาล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วลูบไล้ตามผิวเนียนอย่างช้าๆ เขาถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย ก่อนจะค่อยๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างบาง ลมหายใจของเขาติดขัดเมื่อเห็นร่างงามตรงหน้า ภายนอกเธอดูรูปร่างบาง แต่ภายในนั้น อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกผายกลมกลึง หุ่นของเธอเรียกได้ว่าซ่อนรูปจริงๆ เขากลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก “ครีม..สวยมากเลยรู้ตัวมั้ย?” มือของเขาลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ผม ไหล่ แขน ท้อง ต้นขา เว้นแต่ส่วนกลางหว่างขาที่เหมือนจะแกล้งให้ปั่นป่วน แรงกระตุ้นจากฝ่ามือที่ลูบไล้ส่งผลทุกส่วนกับร่างกาย เขารีบปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ปลายลิ้นอุ่นจะสัมผัสโลมเลียไปทั่วร่างงาม ความนุ่มนวลและความเร่าร้อนของผิวอันเปลือยเปล่าที่ได้สัมผัสกันครั้งแรกปลุกเร้าความรู้สึกซาบซ่านขึ้นมา เนื้อตัวทุกตารางนิ้วที่เขาก้าวผ่านไปบนร่างกายของเธอเป็นเหมือนการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น สองมือขย้ำหน้าอกขาวนวลของเธออย่างไม่สงวนท่าทีอีกต่อไป ปลายนิ้วสะกิดเขี่ยจุกสีชมพูหวานทำเอาสะท้านกาย ยอดอกแข็งชันถูกลิ้นตวัดเลีย ปลุกอารมณ์ซาบซ่านจนลมหายใจหอบถี่กระชั้น “อ๊ะ..อ๊าา” เขาผละจากดอกบัวคู่สวย ก่อนจะลากลิ้นลงมาจนถึงจุดเล็กๆ ตรงกลาง และเคลื่อนต่ำลงไปยังกลีบกุหลาบ นิ้วมือของอีกฝ่ายค่อยๆ เปิดร่างกายของเธออย่างอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความรุ่มร้อน ส่วนคับแคบถูกคลี่ขยายอย่างระมัดระวังและทะนุถนอม นิ้วยาวๆ แทรกเข้ามาตรงช่องทางคับแคบ พร้อมกับความรู้สึกแปลกปลอมที่ไม่คุ้นเคย นี่เป็นครั้งแรกที่ส่วนลึกของร่างกายถูกคนอื่นสำรวจจนต้องส่งเสียงออกมา “อ๊ะ! เจ็บ” คริมาทำหน้าเหยเย ช่องทางคับแคบเปียกชื้นทักทายกับสิ่งแปลกปลอมที่พึ่งเจอกันครั้งแรก นิ้วที่สอดค้างอยู่ตรงนั้นเริ่มขยับเข้าออกอย่างช้าๆ และเร็วแรงขึ้น “อ๊าาา” เขาถอนนิ้วออกและแทรกลิ้นเข้ามาช้าๆ ปลายลิ้นขยับเข้าออกอย่างระมัดระวัง ขณะที่สะโพกชาวาบจากสัมผัสอ่อนนุ่มต่างจากความแข็งของนิ้ว เขาไม่เคยทำแบบนี้ให้ใคร เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาปรนเปรอด้วยปากและลิ้น เสียงเฉอะแฉะดังขึ้น พร้อมๆ กับความเคลื่อนไหวของลิ้นตรงปากทางเข้าสีชมพูเรื่อ ไม่นานนักน้ำหวานก็ไหลเยิ้มออกมาราวกับดอกไม้ถูกกระตุ้น เขาดื่มกินจนไม่เหลือสักหยด “อืม..อ่าาา” ความเป็นชายแข็งตัวราวกับเลือดทั้งหมดไหลไปรวมกันอยู่ตรงนั้น ความบริสุทธิ์ของเธอทำให้เขาหลงลืมเครื่องป้องกันไปเสียสนิท เขาจับความเป็นชายสัมผัสกับจุดที่อ่อนไหวของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ดันเข้าไปในช่องทางที่คับแคบ “โอ้ย!” เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเยื่อพรหมจรรย์ขาดออกจากกัน น้ำตาไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “โอ้ว! แน่นชิบ” ชายหนุ่มสถบออกมา “ทนเจ็บหน่อยนะครับ..คนดีของพี่” เขาพูดปลอบโยนเธอพร้อมกับดันสะโพกเข้าไปใหม่อีกครั้งจนสุดลำ “อ๊ะ อ๊าาาา” ร่างกายสั่นเทิ้มกับรสสัมผัสที่ไม่เคยเจอมาก่อน ช่องทางรักบีบรัดความเป็นชายที่แนบสนิทคล้ายจะทำให้ละลาย ช่องทางที่คับแคบทำเอาต้องกัดฟันแน่นระงับความรู้สึกรุนแรงจนแทบจะทำให้ปลดปล่อยทันที เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มปรับตัวกับความใหญ่โตมโหฬารของเขาได้แล้ว ความเป็นชายแทรกลึกเข้ามา ก่อนจะถูกดึงออกเพื่อรอเวลากลับเข้ามายังส่วนลึกอีกครั้ง ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านขึ้นมาแทนที่ และแม้จะกลั้นเสียงสุดกำลัง แต่มันกลับหลุดรอดผ่านมาจากลำคอ “ปล่อยมันออกมาครีม อย่ากลั้นไว้” เขาบอกด้วยเสียงแหบพร่า เพราะเขาเองก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน ช่องทางรักของเธอบีบรัดเขาแน่นจนเขาอยากจะปลดปล่อย “อ๊าาาา” เสียงครางประสานกับลมหายใจหอบกระเส่า การทำรักของเขาเริ่มต้นอย่างนุ่มนวลไม่ต่างจากคลื่นทะเลยามสงบ แต่จากนั้นลมทะเลก็ค่อยๆ โหมแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามความหฤหรรษ์ที่โอบล้อมราวกับโดนคลื่นซัดเป็นระลอก เรียวปากแดงก่ำเผยอส่งเสียงครางกระสันครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายสะท้านวาบด้วยแรงกระตุ้นอันหนักหน่วงราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่าง “อ๊าาา” เธอกรีดร้องเสียงหลง เธอถึงจุดสูงสุดในพริบตา สะโพกสั่นกระตุกไม่หยุดอย่างควบคุมไม่ได้ เนื้อตัวชาวาบด้วยความสุขจากการได้ปลดปล่อย เมื่อเขาส่งเธอไปถึงสรวงสวรรค์ก่อนแล้วจึงเร่งเครื่องตามไปติดๆ แผ่นอกกระเพื่อมน้อยๆ หน้าท้องเกร็งเมื่อบางอย่างกำลังจะพุ่งทะยานออกมา ร่างกายเกร็งกระตุกก่อนปลดปล่อยสายน้ำสีขาวพวยพุ่งออกมาใส่ช่องทางรักที่คับแคบจนหมดสิ้น “โอ้ววว” ร่างกายทาบทับลงมาราวกับหมดแรงถึงขีดสุด ก่อนที่พวกเขาจะกอดกัน หลับตาฟังเสียงหอบหายใจ ไม่นานนักหญิงสาวก็ผล็อยหลับไปด้วยความเพลีย อนาคินเมื่อเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดหลับใหลไปแล้ว เขาชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปหญิงสาวนอนกอดเขาภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่าตั้งแต่ช่วงไหล่ขึ้นมา เขาใช้เวลาสักพักกว่าจะตัดสินใจส่งรูปนั้นเข้าไลน์กลุ่ม ซัน : เฮ้ย! จริงดิ วินทร์ : ว้าวๆ สุดยอดเลยมึงไอ้คิน คี : กูขอยอมแพ้ คี : (สลิปโอนเงินหนึ่งล้านบาท) คิน : @คี ขอบใจ เช้าวันต่อมา “ตื่นแล้วเหรอ..มาทานข้าวต้มกุ้งเร็ว กำลังร้อนๆ เลย” อนาคินเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคริมาค่อยๆ เดินมาที่โต๊ะอาหาร “ค่ะ” เขามาช่วยพยุงเธอนั่งบนเก้าอี้ “เจ็บมากมั้ย?” สิ้นเสียงของอนาคิน หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมาทันที “เอ่อ ก็..พอทนได้ค่ะ” คริมาตอบด้วยความเขินอาย “ทานข้าวต้มเสร็จแล้วก็กินยาพารานะ จะได้หายไวๆ” เขาบอกเหมือนจะเป็นห่วง “ค่ะ” “ขอบคุณนะครับ..สำหรับของขวัญวันเกิดของพี่ “ค่ะ” คริมายิ้มออกมาอย่างเหนียมอาย หลังจากที่ทั้งคู่ทานอาหารเช้าเสร็จ อนาคินก็ชวนหญิงสาวไปเดินเล่นที่ชายทะเล ก่อนจะพาเธอกลับในช่วงบ่ายของวันนั้น คริมาไม่มีทางรู้เลยว่า หลังจากที่เขาไปส่งเธอที่บ้านแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป และไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป…สองปีต่อมาคริมาท้องอีกครั้ง เธอตั้งใจว่าหลังจากคลอดลูกคนนี้แล้วเธอจะทำหมัน เพราะมีลูกสามคนก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ แต่อนาคินอยากมีลูกสี่คน ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างชายหนุ่มใช่! เธอท้องลูกแฝดและเป็นฝาแฝดชายหญิงเสียด้วยอนาคินดีอกดีใจจนออกนอกหน้า ส่วนคริมานั้นก็ดีใจ แต่ลึกๆ เธอก็กังวลเล็กน้อย เพราะแค่เลี้ยงลูกน้อยคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว นี่เธอต้องเหนื่อยคูณสอง แต่เธอก็ไม่กลัวเพราะมีอนาคินคอยช่วยเลี้ยง ในเมื่อเขาอยากได้ลูกมากนักเธอก็จะให้เขาเลี้ยงซะให้เข็ด จะได้รู้ว่าเลี้ยงลูกไม่ได้สบายอย่างที่ผู้ชายหลายๆ คนคิดหลังจากที่คริมาคลอดลูกแฝดแล้ว อนาคินก็พาครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่ไร่พรรณิภา เพราะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนานั้นตอนนี้ก็แก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถดูแลไร่ได้เหมือนเดิม เขาจึงตกเป็นผู้สืบทอดกิจการของพ่อเลี้ยงไปโดยปริยาย ส่วนอนามิกา พี่สาวของเขานั้นก็ดูแลในส่วนของบริษัทผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และแน่นอนว่าไวน์ที่อนาคินคิดค้นผลิตขึ้นมานั้นกลายเป็นไวน์แบรนด์ดังที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะรสชาติของไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับไวน์ทั่วๆ ไป ส่งผลให้อ
หนึ่งปีต่อมาวันนี้อนาคินพาคริมาและลูกน้อยทั้งสองคนมาเที่ยวพักผ่อนที่ไร่พรรณิภา คนงานในไร่ต่างพากันดีอกดีใจที่ได้เจอคริมากับลูกของเธออีกครั้ง และโดยเฉพาะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาที่ตอนนี้กลายเป็นคุณปู่ทวดไปแล้ว ชายชราดีใจที่ลูกหลานมาเยี่ยมเยือน พ่อเลี้ยงจึงสั่งให้มีการจัดงานเลี้ยงพิเศษขึ้นในค่ำคืนนี้ และให้คนงานทุกคนมาร่วมดื่มกินสังสรรค์กันให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด“พ่อเลี้ยงไม่บอกก่อน ครีมไม่มีชุดสวยๆ ติดมาเลยค่ะ” คริมายังคงเรียกคุณตาของอนาคินว่าพ่อเลี้ยง เพราะความเคยชิน“ไม่ต้องห่วง..พี่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ทั้งของครีมกับของลูกๆ”“จริงเหรอคะ..พี่คินไปเตรียมตอนไหน ครีมไม่เห็นรู้เลย”“ไม่บอก..แต่พี่รับรองว่าครีมต้องชอบแน่ๆ”“พี่คินคิดจะทำอะไรกันแน่ บอกครีมมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” คริมาหันไปทำเสียงดุใส่สามี“เปล่า..ไม่ได้จะทำอะไร ก็พอดีพี่บอกกับคุณตาว่าพวกเราจะมา คุณตาก็เลยจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเรา เพียงแต่พี่ไม่ได้บอกครีมเท่านั้นเอง”“จริงนะคะ”“จริงที่สุดครับ” อนาคินยิ้มอย่างมีเลศนัยและในค่ำคืนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง อนาคินส่งตัวลูกสาวกับลูกชายให้ป้าสายช่วยจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ และเขาก็บอก
สามวันผ่านไปอนาคินออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่อาการดีขึ้นมากแล้ว เพราะได้พยาบาลส่วนตัวดูแลเป็นอย่างดี รวมไปถึงกำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้เขาแข็งแรงขึ้นในเร็ววัน“ครีมมีนัดตรวจครรภ์อีกเมื่อไหร่” อนาคินเอ่ยถามคนรักในขณะที่เขากำลังนั่งเอามือลูบท้องของเธออยู่“วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ค่ะ..อุ้ย!” คริมาคลี่ยิ้มก่อนจะอุทานออกมาเพราะลูกน้อยในท้องดิ้นแรงเหลือเกิน“ลูกดิ้นเหรอ?” อนาคินถามเพราะเขาก็รู้สึกได้ว่าลูกน้อยกำลังดิ้น“ค่ะ”“เราจะได้รู้แล้วใช่มั้ยว่าจะได้ลูกสาวหรือลูกชาย”“จริงๆ รู้ได้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้วค่ะ แต่ลูกคงจะอายหนีบไว้ไม่ยอมให้เห็น”“พี่ตื่นเต้นจัง..อยากรู้ว่าได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย”“วันอาทิตย์นี้น่าจะรู้นะคะ..ถ้าลูกไม่แอบอีก”“เรานอนกันเถอะครับ..ดึกแล้ว”“ค่ะ..ฝันดีนะคะ”“ฝันดีเหมือนกันครับ” จากนั้นทั้งสองก็นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันจนถึงเช้าวันอาทิตย์วันที่คริมากับอนาคินรอคอยก็มาถึง เมื่อเขาพาเธอมาหาหมอเพื่อตรวจครรภ์ตามนัด อนาคินตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกน้อยบนหน้าจอเป็นครั้งแรก ภาพของลูกน้อยที่ดิ้นอยู่ในครรภ์ทำให้เขาน้ำตาซึมออกมา มันเป็นความรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก เขาพลาดโอ
อนาคินที่แกล้งนอนหลับ อมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อได้ยินคริมาพูดความในใจกับเขา คริมานั่งบนเก้าอี้เธอจับมือข้างหนึ่งของเขามาแนบกับแก้มของเธอ เธอพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลดมือเขา อนาคินอดใจไม่ไหวอยากจะดึงเธอเข้ามากอดปลอบเสียเดี๋ยวนี้เขาพึ่งรู้ว่าการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้มันช่างดีเหลือเกิน เพราะมันทำให้คริมาหายโกรธเขาและให้โอกาสเขาอีกครั้ง เหมือนเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และครั้งนี้เขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเด็ดขาด อนาคินสัญญากับตัวเอง เขาจะดูแลคริมากับลูกให้ดีที่สุด เขาจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในที่สุดอนาคินก็ทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมา“ครีมพูดจริงใช่ไหม?” เขาถามออกไปพร้อมยิ้มอย่างดีใจ“จริงค่ะ ครีมพูดจริงๆ” คริมาตอบก่อนจะตกใจที่ได้ยินเสียงของเขา เธอเงยหน้ามองเขา อนาคินฟื้นเเล้ว แถมยังยิ้มหน้าแป้นใส่เธออีกนี่เธอโดนเขาหลอกอีกแล้วเหรอ..“นี่พี่คินฟื้นแล้วเหรอคะ? แล้วไม่เห็นมีใครบอกครีมเลย” คริมาหันมาถามเพื่อนๆ ของเขาเธอดีใจที่เขาฟื้น..แต่ก็เสียใจที่โดนหลอก“ก็น้องครีมไม่ได้ถามนี่นา..” เป็นเสียงของธาวินทร์เอ่ยออกมาเบาๆ“ต้องโทษไอ้คีเลย มันเป็นคนวางแผนทั้งหมด” อาทิ
หลังจากที่อนาคินขับรถออกมาจากบ้านของคีตะได้สักพัก เขามุ่งหน้าไปยังผับแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขาต้องการตัวช่วยให้ตัวเองหายเครียดอนาคินนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวโดยไม่สนสายตาของใครต่อใครที่มองเข้ามา โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต่างก็อยากจะเข้ามาทักทายเขา แต่หลังจากที่สาวๆ เหล่านั้นเห็นสายตาที่แข็งกร้าวของเขา พวกหล่อนต่างก็พากันล่าถอยไม่ย่างกรายมาใกล้เขาอีกเลยในขณะที่เขานั่งดื่มอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว ใบหน้าเล็กๆ น่ารักเหมือนตุ๊กตาก็ลอยเข้ามาในหัว ใช่! ลูกสาวของเขาเอง ป่านนี้ลูกคงจะรอเขาไปอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนเป็นแน่..ตอนนี้ลูกสาวติดเขามากจนเขาไม่สามารถจะไปไหนได้เลย อนาคินคิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นและก้าวเท้ายาวๆ ออกจากผับไปทันทีสติสัมปชัญญะของเขาตอนนี้อาจจะไม่เต็มร้อยนัก แต่เขารู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เมาถึงขนาดขับรถไม่ได้ เขาแค่รู้สึกมึนๆ นิดหน่อย ในระหว่างทางกลับบ้านซึ่งเป็นถนนสี่เลน เขาเห็นรถสิบล้อคันหนึ่งพุ่งข้ามฝั่งมาทางที่เขากำลังขับรถ อนาคินเห็นท่าไม่ดีรีบหักหลบรถสิบล้อคันนั้น ก่อนที่รถของเขาจะเสียหลักไปพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางโครม!จากแรงกระแทกอย่างแรงของการขับไปชนเสาไฟฟ้าทำให้สติของเขาดับไปใ
คริมาลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นของวันนั้น เธอพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น“เป็นยังไงบ้างครีม” คีตะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคริมาฟื้นแล้ว“ลูก..พี่คี ลูกของครีมล่ะคะ?” คริมาถามออกไปด้วยความกลัว“ลูกของครีมปลอดภัย แต่ครีมต้องนอนอยู่บนเตียงห้ามขยับจนกว่าหมอจะอนุญาต”“ลูกครีมไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่มั้ยคะ?”“จริงสิ..ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพี่เรียกหมอก่อนนะ”จากนั้นหมอและพยาบาลก็เข้ามาตรวจอาการของหญิงสาว เบื้องต้นไม่มีอะไรผิดปกติ คุณหมอบอกให้เธอพักผ่อนให้มากๆ“พี่คีคะ..แล้ว เอ่อ”“ไอ้คินมันไม่อยู่หรอก พอดีน้องเค้กไม่สบาย มันก็เลยต้องรีบกลับไปดูลูก”“ตายจริง! แล้วน้องเค้กเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ?” คริมาอุทานออกมาด้วยความตกใจ“เห็นบอกว่าตัวร้อน แต่ครีมไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไอ้คินมันพาน้องเค้กไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ครีมต้องทำใจให้สบาย อย่าเครียด เดี๋ยวจะส่งผลถึงเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้อง”“ค่ะ”ค่ำคืนนั้นกว่าคริมาจะหลับลงก็กินเวลาไปเกือบเที่ยงคืน เพราะเป็นห่วงลูกสาวเช้าวันต่อมา / โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้อนาคินยังไม่ได้นอน เมื่อวานเขาพาเด็กหญิงเค้กมาหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าติ