ตอนที่ 6 ด่ามาจูบกลับ
ร่างสูงเดินเข้าประชิดร่างเล็กพร้อมกับใช้มือหนาทั้งสองข้างรวบรัดเอวบางเอาไว้ อลิสาถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ “ปล่อยฉันนะ นายจะทำบ้าอะไร” เธอถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ก็จับเธอทำเมียไง ไหนๆเราก็จะต้องแต่งงานกันแล้ว ฉันขอเช็คช่วงล่างของเธอก่อน อยากรู้จริงๆ เครื่องมันจะฟิตสตาร์ทติดง่ายหรือเปล่า” เขาพูดพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์สำรวจที่ใบหน้าของอลิสา ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปมองที่เนินอก หน้าอกเต่งตึงกำลังบดเบียดที่หน้าท้องหนา แม้จะมีเสื้อผ้าปกปิด แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าขนาดของของมัน ใหญ่เกินตัว “ปล่อยนะ ไอ้บ้ากาม” อลิสาพยายามดีดดิ้น ยิ่งดิ้นเขากลับยิ่งโอบรัดร่างเธอไว้แน่น “ด่าอีกสิ ดิ้นอีก ฉันจะจับเธอปล้ำจริงๆ เธอคิดว่าคนอย่างฉันทำได้ไหมล่ะ” “...” อลิสาทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เธอกลัวว่าเขาจะทำแบบที่เขาขู่จริงๆ ขนาดในรถเขายังทำได้โดยไม่แคร์ว่าใครจะเดินผ่านไปเห็น “ไง ยัยปากดี ยืนตัวสั่นพูดอะไรไม่ออกเลย ฉันเตือนแล้วนะ เธอต้องไปบอกพ่อกับแม่ของเธอว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับฉัน ถ้าเธอยังคิดจะเล่นตลกลองดีกับฉัน ฉันจับเธอปล้ำจริงๆลองดูไหม” (พรึ่บ) “ว้าย! ปล่อยฉัน ฉะ...ฉันหายใจไม่ออก นายจะมากอดฉันทำไม ปล่อย!” “รับปากมาสิ ว่าเธอจะยกเลิกเรื่องที่เราจะแต่งงานกัน” “เออๆ ฉันจะไปบอกพ่อกับแม่ว่าไม่อยากแต่งงานกับนาย แต่...” “แต่อะไร อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ ยัยตัวแสบ” “ฉันขอเวลาหนึ่งเดือน ช่วงเวลานั้นนายต้องไปเดทกับฉัน พอครบหนึ่งเดือน ฉันจะบอกพ่อกับแม่ว่าเราไปกันไม่ได้ ฉันจะไม่แต่งงานกับนาย ตกลงไหม” หมอพีรพัฒน์ยืนนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นอีกครั้ง “ตกลง และฉันหวังว่าเธอจะทำตามที่พูดนะ ไม่ใช่แอบมาตกหลุมรักฉันตอนที่เราไปเดทกัน เพราะผู้ชายอย่างฉันไม่มีวันตกหลุมรักผู้หญิงคนไหน แม้แต่คู่นอนหลายๆคน ฉันก็ไม่เคยมีใจให้” “มั่วไม่เลือก ทุเรศ” “หุบปาก ถ้าเธอยังจะด่าฉันอยู่แบบนี้ ฉันจะจูบเธอ ด่าสิ ด่ามาจูบกลับ ลองดูไหม” “มะ...ไม่ด่าแล้ว ฉันจะเข้าบ้านแล้ว ปล่อยสิ ฉันจะทำตามที่เราตกลงกัน” “ดี” (พรึ่บ) อลิสาผละออกจากลำแขนหนา ก่อนจะวิ่งออกไปจากสวนดอกไม้อย่างรวดเร็ว “หึ คิดว่าจะแน่ ความคิดเด็กๆ คิดจะแกล้งจะขู่คนอย่างไอ้พัฒน์ รู้จักฉันน้อยไปแล้ว ยัยเด็กบ้า” เขาพูดพึมพำพร้อมกับมองร่างเล็กที่วิ่งออกไป จากนั้นจึงรีบสาวเท้าตามหลังอลิสา“มาแล้วเหรอลูก ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมถึงหน้าซีดขนาดนั้น”
คุณนายชมจันทร์ถามลูกสาวที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในบ้าน อลิสาหน้าซีดเซียวไม่กล้าสบตากับผู้ใหญ่ที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ภายในห้องรับแขก “พู่ปวดหัวนิดหน่อยค่ะคุณแม่” อลิสาพูดเบาๆพร้อมกับเดินไปนั่งลงข้างๆมารดา คุณนายชมจันทร์รีบใช้ฝ่ามือแตะที่หน้าผากของลูกสาวด้วยความห่วงใย “ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา” “น้องชมพู่ไม่ได้ป่วยหรอกครับคุณน้า น้องน่าจะตื่นเต้นเรื่องที่เราตกลงจะคบหาศึกษานิสัยใจคอกันก่อนแต่งน่ะครับ จริงไหมครับ น้องชมพู่” หมอพีรพัฒน์นั่งลงโซฟาฝั่งตรงข้าม เขาพูดพร้อมกับจ้องหน้าของอลิสาด้วยแววตาที่มีเลศนัย “ค่ะ พู่กับพี่พัฒน์ตกลงจบคบกันดูก่อน เรื่องแต่งงานค่อยว่ากันอีกทีนะคะคุณแม่ ไม่เกินสองเดือน พู่กับพี่พัฒน์ก็คงจะได้รู้จักกันมาก็ขึ้น” “ก็ดีเหมือนกัน ป้าก็เห็นด้วยกับเด็กๆทั้งสอง ให้เขาลองศึกษานิสัยใจคอกันดูก่อนสักระยะ จะได้ไม่เป็นการบังคับหนูชมพู่จนเกินไป ถ้าลองคบกันแล้วไปกันไม่ได้ หนูชมพู่ไม่อยากจะแต่งงานกับลูกชายของป้า ป้าก็ไม่โกรธหนูหรอกจ้ะ ทุกอย่างอยู่ที่หนูตัดสินใจเลยนะ หนูชมพู่จะได้ไม่รู้สึกกดดันจนเกินไป” คุณนายพิมพ์พรรณเสนอความคิดขึ้นมา “แบบนั้นก็ดีนะครับ ให้ลูกๆตัดสินใจกันเอง สมัยนี้เขาให้ลูกเลือกกันเองทั้งนั้น พวกเขาจะได้ไม่มาว่าผู้ใหญ่คลุมถุงชนน่ะ” เจ้าสัวชาญชัยเอ่ยสำทับ “ค่ะ ชมยังไงก็ได้ แล้วแต่ลูกๆจะตัดสินใจ” “งั้นวันพรุ่งนี้หลังเลิกงาน ผมขออนุญาตมารับน้องชมพู่ไปทานข้าวนอกบ้านนะครับ คุณน้า” หมอพีรพัฒน์เอ่ยขออนุญาตบิดาและมารดาของอลิสา ทั้งสองเห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่ว่าที่ลูกเขยพูดออกมา “ตามสบายเลยนะหมอพัฒน์ จะมารับน้องตอนไหนก็มาได้เลยจ้ะ ไม่ต้องเกรงใจน้า หมอพัฒน์กับหนูชมพู่แลกเบอร์โทร แลกไอดีไลน์กันไว้นะ จะได้ติดต่อกันง่าย ไม่ต้องรอขออนุญาตน้าก็ได้” ทั้งสองทำตามสิ่งที่คุณนายชมจันทร์แนะนำ ก่อนที่หมอพีรพัฒน์และครอบครัวจะเดินทางกลับบ้าน(ติ๊งติ๊ง)
หมอพัฒน์ : พรุ่งนี้ 18.00 น. ฉันจะไปรับเธอที่บ้าน เตรียมตัวไปเดทปลอมๆกับฉัน ตามนั้นนะชมพู่ : เออ รู้แล้วน่า ฉันจะรอนะ นายว่าที่สามีหมอพัฒน์ : ห้ามเรียกฉันแบบนี้อีก ไม่งั้นโดนแน่ อลิสาไม่ได้ตอบกลับข้อความทางไลน์แต่อย่างใด เธอเพียงแค่เปิดอ่านและเบ้ปากใส่หน้าจอมือถือก็เท่านั้น “หึ นายคิดว่าฉันจะกลัวคำขู่ของนายหรือไง คนอย่างชมพู่ ถนัดเรื่องปั่นหัวคนอยู่แล้ว เจ้าเล่ห์อย่างนายก็ไม่สู้แผนของฉันหรอก” อลิสาพูดพึมก่อนจะปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนเย็นวันจันทร์
“สวัสดีครับ ผมมารับน้องชมพู่ไปทานข้าวครับคุณน้า” “นั่งรอก่อนนะหมอพัฒน์ เดี๋ยวน้าให้คนไปตามน้องก่อน” “ไม่ต้องตามหรอกค่ะคุณแม่ พู่พร้อมแล้วค่ะ”ตอนที่ 7 เดทแรก ฟันแล้วทิ้งร่างบางในชุดเดรสรัดรูปสีแดงเลือดหมู ดูสวยสง่าปนเซ็กซี่เล็กน้อย ผมยาวม้วนลอนปล่อยสยาย ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูสวยงาม ความสวยของอลิสาในตอนนี้ ดั่งมนต์สะกดให้หมอพีรพัฒน์ถึงกับตกตะลึงจ้องมองอย่างไม่ลดละ “จะไปเลยไหมคะ หรือจะนั่งมองอยู่แบบนี้”อลิสาเอ่ยถามพร้อมกับใช้สายตายั่วเย้าเล็กน้อย หมอพีรพัฒน์ถึงกับสะดุ้งจากภวังค์“ผมขออนุญาตพาลูกสาวคุณน้าไปทานอาหารนอกบ้านนะครับ”เขาเอ่ยขออนุญาตด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ“ตามสบายจ้ะ ชมพู่อย่าดื้อกับพี่เขานะลูก”คุณนายชมจันทร์บอกลูกสาว นางรู้ดีว่าอลิสา มีนิสัยซุกซนดื้อรั้นในเวลาที่ลับตาผู้ใหญ่“ค่ะคุณแม่ เดทแรกของพู่และพี่พัฒน์ พู่จะทำให้พี่เขาประทับใจที่สุดเลยค่ะ”อลิสาเหยียดยิ้มให้คนที่กำลังลุกขึ้นยืน เขายังคงทำหน้าท่าทางสุขุมนุ่มลึก ไม่แสดงท่าทีร้ายกาจออกมาทั้งสองเดินมายังรถสปอร์ต Ferrari Roma คันสีน้ำเงิน “ฉันนึกว่านายจะเอารถBMWคันนั้นมารับฉันเสียอีก”อลิสาพูดออกมาในขณะที่หมอพีรพัฒน์กำลังขับรถไปตามท้องถนน“ทำไม หรือเธออยากจะลองขึ้นรถคันนั้นสักครั้ง”“แล้วทำไมฉันต้องอยากขึ้นรถคันนั้นด้วย พูดอะไรของนาย”“แล้
ตอนที่ 6 ด่ามาจูบกลับร่างสูงเดินเข้าประชิดร่างเล็กพร้อมกับใช้มือหนาทั้งสองข้างรวบรัดเอวบางเอาไว้ อลิสาถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ“ปล่อยฉันนะ นายจะทำบ้าอะไร”เธอถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ก็จับเธอทำเมียไง ไหนๆเราก็จะต้องแต่งงานกันแล้ว ฉันขอเช็คช่วงล่างของเธอก่อน อยากรู้จริงๆ เครื่องมันจะฟิตสตาร์ทติดง่ายหรือเปล่า”เขาพูดพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์สำรวจที่ใบหน้าของอลิสา ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปมองที่เนินอก หน้าอกเต่งตึงกำลังบดเบียดที่หน้าท้องหนา แม้จะมีเสื้อผ้าปกปิด แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าขนาดของของมัน ใหญ่เกินตัว“ปล่อยนะ ไอ้บ้ากาม”อลิสาพยายามดีดดิ้น ยิ่งดิ้นเขากลับยิ่งโอบรัดร่างเธอไว้แน่น“ด่าอีกสิ ดิ้นอีก ฉันจะจับเธอปล้ำจริงๆ เธอคิดว่าคนอย่างฉันทำได้ไหมล่ะ”“...”อลิสาทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เธอกลัวว่าเขาจะทำแบบที่เขาขู่จริงๆ ขนาดในรถเขายังทำได้โดยไม่แคร์ว่าใครจะเดินผ่านไปเห็น“ไง ยัยปากดี ยืนตัวสั่นพูดอะไรไม่ออกเลย ฉันเตือนแล้วนะ เธอต้องไปบอกพ่อกับแม่ของเธอว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับฉัน ถ้าเธอยังคิดจะเล่นตลกลองดีกับฉัน ฉันจับเธอปล้ำจริงๆลองดูไหม”(พรึ่บ)“ว้าย! ป
ตอนที่ 5 จับปล้ำกลางสวนดอกไม้“เอ่อ...คือ”พีรพัฒน์ถึงกับพูดไม่ออก ไปต่อไปไม่เป็น เมื่อเขารู้ตัวว่ากำลังแสดงท่าทางและคำพูดที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าผู้ใหญ่“เมื่อกี๊ลูกพูดอะไร ไหนพูดใหม่สิหมอพัฒน์”คุณนายพิมพ์พรรณถามลูกชายพร้อมกับจ้องหน้าอย่างคาดโทษ“คือ...ผมดีใจน่ะครับคุณแม่ ผมไม่คิดว่าน้องชมพู่จะมาบอกความจริงกับทุกคนเร็วขนาดนี้”หมอพีรพัฒน์ต้องพูดในทำนองแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน มารดาของเขาถึงกับโล่งอก เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดออกมา “แล้วตกลงยัยพู่เคยไปเจอกับพี่พัฒน์ตอนไหนล่ะลูก ทำไมแม่ถึงไม่รู้เรื่อง”คุณนายชมจันทร์ถามลูกสาวทันที“เจอเมื่อคืน...”“เจอตอนน้องชมพู่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลครับ คืนนั้นน้องชมพู่ไม่สบาย ผมอยู่ที่โรงพยาบาล ผมเป็นคนตรวจอาการน้องชมพู่น่ะครับ เราเลยได้รู้จักกัน พูดคุยถูกชะตากันน่ะครับ ก็ไม่ได้คิดว่าน้องจะเป็นลูกสาวของคุณน้า มันบังเอิญจริงๆเลยนะครับ จริงไหมน้องชมพู่”หมอพีรพัฒน์ชิงพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง พร้อมกับก้าวขาขยับขึ้นมายืนข้างๆอลิสา จากนั้นจริงใช้นิ้วหยิกที่สะโพกของหญิงสาว“โอ๊ย!...เอ่อ...จริงค่ะ”อลิสาตอบและฝืนยิ้มแหย ทั้งๆที่เธอกำลังโกรธที่เขาบังอาจหยิกสะโ
ตอนที่ 4 ไม่มีปัญญาหาผัว“หมอพัฒน์ถึงกับตะลึงในความสวยของน้องชมพู่เลยเหรอลูก”คุณนายพิมพ์พรรณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับเอ่ยแซว เมื่อเห็นลูกชายกำลังตกตะลึง และกำลังจ้องมองลูกสาวเจ้าของบ้านอย่างไม่ละสายตา “ชมพู่ ไหว้สวัสดีพี่พัฒน์สิลูก พี่พัฒน์เป็นลูกชายของป้าพิมพ์น่ะ”คุณนายชมจันทร์ใช้ปลายนิ้วสะกิดที่แขนของลูกสาว พร้อมกับบอกให้ลูกสาวไหว้สวัสดีชายที่นั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม “สวัสดีค่ะ พี่พัฒน์”อลิสาพนมมือไหว้สวัสดีหมอพีรพัฒน์ด้วยความนอบน้อม ก่อนที่เธอจะใช้สายตามองเขาด้วยท่าทางที่เย้ยหยันและเหยียดยิ้มจนหมอพีรพัฒน์ต้องมองจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง“สวัสดีครับ น้องชมพู่”พีรพัฒน์กลั้นใจตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ ในขณะที่เขากำลังกัดฟันจนสันกรามนูนเด่น“สงสัยลูกชายป้าจะถูกชะตากับหนูชมพู่ตั้งแต่แรกเจอ มองน้องตาไม่กระพริบเชียวนะตาพัฒน์”คุณนายพิมพรรณเอ่ยแซวลูกชายอีกครั้ง ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่รู้เลยว่าคนทั้งสองคิดต่างจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง“พู่ก็ถูกชะตากับพี่พัฒน์ค่ะ ให้ไปเจอข้างนอก ไม่ใช่ที่นี่ พู่ก็จำได้ค่ะ จำติดตาเลย”อลิสาตอบกลับพร้อมกับยิ้มเยาะใส่คนตรงหน้า ยิ่งทำให้หมอพีรพัฒน์รู้สึกหมั่นไส้
ตอนที่ 3 เจอกันอีกครั้ง(กริ๊งกริ๊ง)เสียงกริ่งดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในห้องหรู ของโดมิเนียมกลางกรุง(กริ๊งกริ๊ง)“อื๊อ...ใครมากดกริ่งรบกวนตั้งแต่เช้าเนี่ย”ร่างบางลุกขึ้นนั่งหย่อนขาลงที่ปลายเตียงนอนพร้อมกับบ่นพึมพำ ในขณะที่เสียงกริ่งยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของห้องถึงกับมีอาการหงุดหงิดพอสมควร จากนั้นจึงเดินกระแทกเท้าไปหยุดยืนส่องดูที่ช่องตาแมว แล้วรีบเปิดประตูทันที(แอ๊ดดดด)“ยัยชมพู่!”“คุณแม่มีอะไรคะ จะมาทำไมไม่โทรบอกพู่ก่อน”อลิสาถามมารดาขณะที่ทั้งสองเดินไปนั่งยังโซฟาภายในห้องหรู“แม่โทรหาลูกจะเป็นร้อยสายแล้ว แต่ลูกไม่ยอมรับสายแม่”“อ๋อ สงสัยพู่ลืมเปิดเสียงมือถือน่ะค่ะ คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ”“แม่มาตามพู่กลับบ้าน พู่เรียนจบก็หลายเดือนแล้วนะ ไม่คิดจะทำงานทำการบ้างเลยเหรอลูก”“โธ่ คุณแม่ขา พู่เรียนอยู่ที่นิวยอร์กตั้งหลายปี เรียนก็เหนื่อย เวลาเที่ยวก็ไม่ค่อยมี พู่ขอพักผ่อนสักปีไม่ได้เหรอคะ พู่เพิ่งจะเรียนจบได้แค่สามเดือนเอง”อลิสาตอบกลับมารดาพร้อมกับทำหน้าง้ำงอราวกับเด็กน้อยที่กำลังงอแง“นิสัยขี้เกียจเมื่อไหร่จะหายไปสักที วันๆทำอะไรบ้าง นอกจากนอนอยู่แต่ในห้อง แม่ไม่เห็นว่าม
ตอนที่ 2 ว่าที่เมีย(เอี๊ยดดด)เสียงเบรคหนักของรถยนต์BMW i8 ดังมาจากโรงจอดรถภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ สไตล์โมเดิร์น ย่านพุทธมณฑลสาย 1 ในช่วงเวลาตีสี่กว่าๆ ร่างสูงประมาณ 178 เซนติเมตร ก้าวขาลงจากรถแล้วเดินตรงเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ท่าทางเหมือนคนเพิ่งจะสร่างเมา“ไหนบอกว่ามีเคสผ่าคลอดไง โกหกแม่อีกแล้วใช่ไหมหมอพัฒน์!”เสียงของหญิงวัยหกสิบปลายๆกำลังแผดเสียงมาจากชั้นสองของบ้าน จนคนที่เพิ่งจะก้าวขาเข้าบ้านถึงกับสะดุ้ง“คุ...คุณแม่ ตื่นแต่เช้าเลยนะครับ”“ใครบอกว่าแม่ตื่นแต่เช้า แม่ยังไม่นอนต่างหาก”คุณนายพิมพ์พรรณยืนกอดอกจ้องหน้าลูกชายที่กำลังเดินขึ้นบันได หมอพีรพัฒน์ถึงกับถอนหายใจเบาๆ เขาไม่คาดคิดว่ามารดาจะตื่นขึ้นมาในเวลานี้ “ผมผ่าคลอดเสร็จเร็วน่ะครับ คนท้องเจ็บท้องช่วงเย็นพอดีและตรงกับวันนัด เด็กไม่ได้อยู่ในท่ากลับหัว ก็เลยผ่าคลอดตั้งแต่ช่วงเย็น กะว่าจะกลับบ้าน เพื่อนโทรมาชวนไปดื่มงานวันเกิด ผมก็ไม่อยากจะปฏิเสธเพื่อน นานๆทีจะได้เจอกัน”หมอพีระพัฒน์บอกกับมารดา“แน่ใจนะว่าไปงานวันเกิดเพื่อนจริงๆ”คุณนายพิมพ์พรรณจ้องหน้าลูกชายตาเขม็ง ในขณะที่หมอพีรพัฒน์หยุดยืนอยู่ตรงหน้ามารดา “ผมจะโกหกคุณแม