ตอนที่ 5 จับปล้ำกลางสวนดอกไม้
“เอ่อ...คือ” พีรพัฒน์ถึงกับพูดไม่ออก ไปต่อไปไม่เป็น เมื่อเขารู้ตัวว่ากำลังแสดงท่าทางและคำพูดที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าผู้ใหญ่ “เมื่อกี๊ลูกพูดอะไร ไหนพูดใหม่สิหมอพัฒน์” คุณนายพิมพ์พรรณถามลูกชายพร้อมกับจ้องหน้าอย่างคาดโทษ “คือ...ผมดีใจน่ะครับคุณแม่ ผมไม่คิดว่าน้องชมพู่จะมาบอกความจริงกับทุกคนเร็วขนาดนี้” หมอพีรพัฒน์ต้องพูดในทำนองแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน มารดาของเขาถึงกับโล่งอก เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดออกมา “แล้วตกลงยัยพู่เคยไปเจอกับพี่พัฒน์ตอนไหนล่ะลูก ทำไมแม่ถึงไม่รู้เรื่อง” คุณนายชมจันทร์ถามลูกสาวทันที “เจอเมื่อคืน...” “เจอตอนน้องชมพู่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลครับ คืนนั้นน้องชมพู่ไม่สบาย ผมอยู่ที่โรงพยาบาล ผมเป็นคนตรวจอาการน้องชมพู่น่ะครับ เราเลยได้รู้จักกัน พูดคุยถูกชะตากันน่ะครับ ก็ไม่ได้คิดว่าน้องจะเป็นลูกสาวของคุณน้า มันบังเอิญจริงๆเลยนะครับ จริงไหมน้องชมพู่” หมอพีรพัฒน์ชิงพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง พร้อมกับก้าวขาขยับขึ้นมายืนข้างๆอลิสา จากนั้นจริงใช้นิ้วหยิกที่สะโพกของหญิงสาว “โอ๊ย!...เอ่อ...จริงค่ะ” อลิสาตอบและฝืนยิ้มแหย ทั้งๆที่เธอกำลังโกรธที่เขาบังอาจหยิกสะโพกของเธอ “อ๋อแบบนี้นี่เอง นี่สินะ เขาเรียกว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน แบบนี้เราต้องรีบจัดงานแต่งเลยหรือเปล่าคะพี่พิมพ์” คุณนายชมจันทร์พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มกว้าง “ดีเลยค่ะพี่เห็นด้วย” “ผมยังไงก็ได้ครับ ถ้าลูกชายอยากเป็นฝั่งเป็นฝาผมก็สนับสนุนเต็มที่” หมอณรงค์และภรรยาแสดงท่าทางชื่นชอบลูกสะใภ้อย่างออกนอกหน้า “ผมก็เหมือนกันครับ ถ้าลูกสาวชอบใคร ผมก็ยินดีและยอมยกให้อยู่แล้ว คนดีๆมีหน้าที่การงานอย่างหมอพัฒน์จะมาเป็นลูกเขยของผม ผมไม่ปฏิเสธครับ” เจ้าสัวชาญชัย บิดาของอลิสาพูดในสิ่งที่เขาคิด “งั้นผมขออนุญาตให้น้องชมพู่พาผมไปเดินเล่นรอบๆสวนดอกไม้อีกครั้งนะครับ” “แต่มันค่ำแล้วนะคะ เรานั่งคุยกันที่นี่ก็ได้นี่คะ” อลิสาแย้งขึ้นมาทันที “พี่เขาอยากเดินเล่นชมสวนดอกไม้ก็พาไปเถอะลูก ไฟในบ้านเราส่องสว่างทุกที่ ตอนนี้ก็เพิ่งจะหนึ่งทุ่มเอง” “ค่ะ คุณแม่” อลิสาจำเป็นต้องเดินออกจากบ้านอีกครั้ง โดยที่มีหมอพีรพัฒน์เดินตามหลังมาติดๆ (พรึ่บ) “ว้าย! ไอ้บ้า ผลักฉันทำไมวะ” ฝ่ามือหนาผลักที่หัวไหล่เล็กจนอลิสาถลาไปด้านหน้า แทบจะล้มหัวคะมำ เธอถึงกับเอะอะโวยวายออกมา “เธอต้องการอะไร ทำไมถึงไปบอกผู้ใหญ่ว่าอยากแต่งงานกับฉัน เธอมันบ้าไปแล้วหรือยังไง” “ก็ทำไมล่ะ ฉันก็แค่เปลี่ยนใจกะทันหัน ก็แค่นั้นเอง” อลิสาตอบกลับพร้อมกับแสดงสีหน้าท่าทางเหมือนเธอกำลังสนุก ที่ได้เห็นคนตรงหน้ากำลังโกรธ “ฉันไม่เชื่อ เธอทำแบบนี้เพราะอะไร พูดมาสิ ต้องการจะเล่นตลกอะไรกับฉัน เธอนี่มันตัวซวยจริงๆเลย เจอที่ไหนก็ทำให้ปวดหัวที่นั่น” หมอพีรพัฒน์กัดฟันพูดพร้อมกับจ้องหน้าหญิงสาวอย่างคาดโทษ “ถ้านายไม่อยากแต่งงานกับฉัน นายก็ไปบอกผู้ใหญ่เองสิว่านายไม่อยากแต่ง จะมาให้ฉันพูดเองทำไมล่ะ” “เธอก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับฉัน แล้วไปพูดแบบนั้นได้ยังไง หรือว่า...เธอคงติดใจลีลาของฉัน แค่เห็นฉันเอากับคนอื่น เธอถึงกับอยากลองของฉันเลยว่างั้น ที่แท้ก็อยากนี่เอง” หมอพีรพัฒน์พูดพร้อมกับยิ้มเย้ย “อ๊าย! ไอ้บ้า ฉันจะไปติดใจในความทุเรศของนายได้ยังไงกัน หลงตัวเอง ยี้...น่ารังเกียจ” “ถ้ารังเกียจก็ไปบอกผู้ใหญ่ ว่าเธอเปลี่ยนใจไม่อยากแต่งงานกับฉัน” “ไม่!” “อ้าว ยัยบ้านี่ เธอนี่มันเป็นคนแบบไหนกัน ปากก็บอกว่าเกลียดฉัน รังเกียจอย่างนั้นอย่างนี้ แต่อยากแต่งงานด้วย บ้าไปแล้วยัยโรคจิต!” “เชิญด่าฉันตามสบายเลยนะ ฉันรู้สึกสนุกมากเลย ที่ได้เห็นนายกำลังโมโห นายคงจะทุกข์ใจมากสินะ ฮ่าๆ” อลิสาหัวเราะเยาะคนตรงหน้าที่กำลังโมโหจนหน้าแดง และเขาก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้นอกจากยืนต่อว่า “ก็ได้ ถ้าเธออยากเป็นเมียฉันมาก ฉันก็จะจับเธอปล้ำมันตรงนี้เลย เอาตรงกลางสวนดอกไม้ คงได้บรรยากาศ ชุดของเธอมันน่าจะถอดง่ายดี มานี่!” (พรึ่บ) “ว้ายยยย!”รถบ้านสุดหรูคันใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ขับเคลื่อนไปตามเส้นทางสายเหนือ และไปหยุดจอดภายในสนามหญ้ากว้างขวาง ในอำเภอหนึ่งซึ่งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ สนามหญ้าแบบลานกว้างขนาดห้าไร่ถูกล้อมรอบไปด้วยต้นลำไย ต้นมะม่วง และต้นชมพู่ทับทิมจันทร์ที่กำลังออกผลดกเต็มต้น ทุกคนพากันลงจากรถบ้าน ขณะที่หมอพีรพัฒน์อุ้มลูกชายตัวน้อย และมีผ้าอ้อมผืนสีขาวพาดบ่า “อากาศดีจังเลยนะคะ”อลิสาพูดพร้อมกับสูดอากาศเข้าปอด และหลับตาพริ้ม มือข้างขวาจับที่มือน้อยๆของลูกสาว“ว้าว! บ้านสวยจังเลยค่ะ”เด็กหญิงพิริสาชี้นิ้วไปยังบ้านทรงไทยหลังหนึ่ง ที่ดูสวยงามและใหญ่โต ซึ่งอยู่ห่างจากที่จอดรถบ้านเพียงสองร้อยเมตร“เราจะพักกันที่นี่เหรอคะ”อลิสาถามสามีของเธอ“น่าจะใช่นะครับ”หมอพีรพัฒน์ตอบกลับ“เราจะพักที่นี่ และบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พ่อซื้อไว้เมื่อไม่นาน พ่อซื้อเป็นของขวัญให้หลานสาวกับหลานชายน่ะ”เจ้าสัวชาญชัยบอกลูกสาว และทุกๆคนก็ได้ยินสิ่งที่เขาบอก“ว่าไงนะคะคุณพ่อ”“คุณชาญ คุณพูดจริงๆเหรอคะ ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าคุณมาซื้อที่ดินพร้อมบ้านที่เชียงใหม่”คุณยายชมจันทร์ถามสามีด้วยความงุนงงสงสัย“ถ้าบอกก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์น่ะสิ ตั้งแต่หน
(ก๊อก ก๊อก ก๊อก)เสียงเคาะประตูเบาๆก่อนที่จะมีคนเปิดเข้ามาในช่วงเช้าของวันต่อมา อลิสาถึงกับตกใจ เมื่อเห็นบุคคลที่กำลังเดินตรงเข้าหาเธอตอนพิเศษ 4“สวัสดีค่ะ คุณชมพู่”อลิสายังคงแสดงสีหน้างุนงง และตกใจพอสมควร เมื่อคนที่เข้ามาหาเธอภายในห้อง คือหมออรอุษา ผู้หญิงที่เคยทำตัวสนิทใกล้ชิดกับสามีของเธอเมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่ครั้งนั้น จนอลิสาลืมไปแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ลืมหน้าตาของหมออรอุษา และเรื่องราวเก่าๆก็เข้ามาวนเวียนในสมองของเธออีกครั้ง “คุณมาทำไมคะ”อลิสาถามแพทย์หญิงที่ยืนมองเธอกำลังอุ้มลูกน้อยแนบอก“ฉันเจอหมอพัฒน์ในร้านสวัสดิการด้านล่างน่ะค่ะ หมอพัฒน์บอกว่าคุณชมพู่เพิ่งคลอดลูกคนที่สอง ฉันก็เลยอยากมาเยี่ยม ลูกชายคุณชมพู่น่ารักจังเลยนะคะ”หมออรอุษาพูดพร้อมกับมองดูใบหน้าทารกที่กำลังหลับปุ๋ยในอ้อมแขนของมารดา“คุณย้ายไปจากโรงพยาบาลนี้แล้วไม่ใช่หรือคะ หรือฉันเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”อลิสาถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ“ฉันย้ายไปประจำที่โรงพยาบาลแถวชลบุรีน่ะค่ะ แต่ก็มาที่นี่เกือบทุกอาทิตย์”อลิสารู้สึกไม่ค่อยชอบใจกับประโยคที่หมอสาวพูดออกมา“ทำไมคุณยังมาที่นี่อีกล่ะคะ ฉันคิดว่าคุณไม
สามปีต่อมา“วันนี้น้องพรีมใส่ชุดอะไรคะ คุณพ่อขา”เสียงน้อยๆของเด็กหญิงพิริสา เอ่ยถามบิดาหลังจากที่เธอตื่นนอนตอนเช้า“วันนี้น้องพรีมต้องใส่ชุดพละนะครับ วันนี้คือวันพุธ”เขานำเสื้อผ้าของลูกสาว ที่เขาเพิ่งจะรีดเสร็จ มาแขวนไว้นอกตู้เสื้อผ้า“น้องพรีมต้องใส่ชุดนี้ไปโรงเรียนใช่ไหมคะ”นิ้วน้อยๆชี้ไปยังชุด พี่บิดาเพิ่งจะรีดเสร็จ“ใช่แล้วครับ แต่ตอนนี้น้องพรีมต้องไปอาบน้ำแปรงฟันนะครับ”“ได้เลยค่ะ คุณพ่อขา”(พรึ่บ)ลำแข็งแกร่งโอบอุ้มลูกสาวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ก่อนไปโรงเรียน“คุณพ่อคุณแม่ขา ตอนเย็นอย่าลืมพาน้องพรีมไปทานไอศครีมนะคะ”เด็กหญิงตัวน้อยบอกบิดามารดา ขณะที่พวกเขามาส่งเธอในโรงเรียน“ได้เลยค่ะ ลูกสาวแม่ แต่วันนี้น้องพรีมต้องตั้งใจเรียนนะคะ”อลิสาพูดกับลูกสาว“น้องพรีมตั้งใจเรียนทุกวันอยู่แล้วค่ะคุณแม่”“เก่งมากค่ะ”“เก่งที่สุดเลยครับ”สองสามีภรรยาเอ่ยชื่นชมลูกสาว “น้องพรีมไปเรียนแล้วนะคะ บ๊ายบายค่ะ คุณพ่อคุณแม่”(ฟอดดดด/ฟอดดดด)สองสามีภรรยาโน้มลงไปหอมแก้มน้อยๆคนละข้างอย่างอ่อนโยน เด็กหญิงตัวน้อยโบกมือให้บิดามารดาก่อนจะเดินเข้าไปด้านในของห้องเรียน“เหนื่อยไหมครับที่รัก พี่รู้สึ
ตอนที่ 30 ตอนพิเศษ 2 NC20+ในแต่ละวัน พีรพัฒน์ใช้เวลาอยู่กับภรรยาและลูกสาวตัวน้อยตลอดเวลา“หม่ำๆนะครับ วันนี้คุณพ่อทำอาหารมื้อแรกให้น้องพรีมหม่ำ ลองดูนะครับ คุณพ่อจะฝึกให้น้องพรีมทานอาหาร น้องพรีมครบหกเดือนแล้วครับ”เขาใช้ช้อนตักอาหารป้อนลูกสาวตัวน้อย ในขณะที่อลิสาทำหน้าที่อุ้มลูกนั่งตัก(แผล็บ)ลิ้นน้อยๆปาดเลียอาหารอ่อนที่เป็นเหมือนโจ๊ก “ดูสิคะพี่พัฒน์ ลูกคงจะชอบนะคะ เหมือนแกกำลังขออีก”“หม่ำๆนะครับ เก่งมากครับ คนเก่งของคุณพ่อ”“อ้อ แอ้”เด็กหญิง พิริสา ส่งเสียงตอบโต้คนเป็นพ่อทันที เหมือนกับว่าเธอฟังรู้เรื่องเสียอย่างนั้น“อยากไปเดินเล่นหน้าบ้านใช่ไหมครับ”“แอ้”“งั้นน้องพรีมต้องหม่ำๆ ก่อนนะครับ เก่งจังเลย”หลังจากที่เขาป้อนอาหารครั้งแรกให้ลูกสาว เด็กน้อยจ้ำม่ำก็แสดงท่าทางดีใจ ที่บิดาพาออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน นับตั้งแต่วันที่อลิสากลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ในทุกๆวันคือความสุขของเธอ เธอได้รับการดูแลและใส่ใจจากสามีราวกับเจ้าหญิง“พี่พัฒน์คะ พู่มีเรื่องอยากจะบอกพี่พัฒน์ค่ะ”น้ำเสียงหวานกล่าวกับสามีที่กำลังอุ้มลูกสาวเดินเล่นตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน“ว่ามาสิครับที่รัก”เขาตอบกลับพร้อมกับแสดงสีหน
ตอนที่ 29 ตอนพิเศษNC20+“มาครับ เอาเท้ามาแช่น้ำอุ่นก่อน พี่จะนวดให้ จะได้ผ่อนคลาย”น้ำเสียงทุ้มบอกภรรยาสาว เขาทำแบบนี้สัปดาห์ละสองครั้ง กะละมังที่มีน้ำถูกวางที่พื้น อลิสานั่งบนโซฟา หย่อนเท้าลงในกะละมัง มือหนาชะโลมน้ำใส่เท้าเล็ก แล้วใช้มือนวดฝ่าเท้าให้ภรรยาเบาๆ ดวงตากลมโตมองการกระทำของสามีด้วยความรู้สึกรักและผูกพัน เขาทำแบบนี้กับเธออย่างอ่อนโยน นับตั้งแต่วันที่อลิสากลับมาอยู่ที่บ้านกับสามี เขาปรนนิบัติดูแลเธอเรากับเจ้าหญิง “โอ๊ย!”“เป็นอะไรครับ”พีรพัฒน์ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินเสียงภรรยาสาวอุทานออกมาเหมือนเธอกำลังเจ็บ“พี่นวดแรงไปหรือครับ พี่ขอโทษนะ”“พู่จะ...เจ็บท้องค่ะ อื๊อ โอ๊ย พี่พัฒน์ช่วยพู่ด้วย”“ใจเย็นๆนะครับ พี่จะพาไปที่โรงพยาบาล ป้าจินดาครับ ช่วยถือของที่ผมเตรียมไว้ไปใส่ไว้ในรถให้ด้วยนะครับ น้องชมพู่เจ็บท้องจะคลอดแล้ว”“ค่ะ ได้ค่ะ”ป้าจินดาที่กำลังนำดอกไม้มาใส่แจกันตั้งโต๊ะ รีบเดินเข้าไปที่ห้องของเจ้านาย และนำตะกร้าที่หมอพีระพัฒน์เตรียมไว้ ไปใส่ไว้ในรถของเขาทันทีร่างแกร่งคอยประคองภรรยาสาวขึ้นนั่งบนรถเข็น แล้วพาเธอไปที่รถทันที”ไปครับ พี่จะพาไปโรงพยาบาล น้องชมพู่ไม่ต้องกลัวนะครั
ตอนที่ 27 นานแค่ไหนก็รอได้ทั้งสองเดินทางมาถึงตลาดน้ำอัมพวาในช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ มือหนาสอดประสานกับมือเล็กไว้แน่น มันเป็นครั้งแรกของอลิสาและหมอพีรพัฒน์ ที่ได้มาเดินในตลาดแบบนี้ เขาคอยสังเกตภรรยาคนสวย ที่ในเวลานี้เอาแต่มองร้านนั้นร้านนี้ด้วยท่าทางตื่นเต้น ผู้คนมากมายต่างพากันมาเที่ยวในวันหยุด “พี่พัฒน์คะ ดูนั่นสิคะ น้ำตาลสดอัมพวา น่าทานมากเลยค่ะ”นิ้วเรียวชี้ไปยังร้านขายน้ำตาลสด แบบใช้กระบอกไม้ไผ่เป็นแก้ว“ซื้อสักแก้วดีไหมครับ ลองชิมดูก่อน ถ้าอร่อยค่อยซื้อไปฝากพ่อคุณแม่”“ค่ะ พู่อยากลองดู อยากรู้ว่ารสชาติของน้ำตาลสดแท้ร้อยเปอร์เซ็นเป็นแบบไหน”เขาเดินจูงมือคนตัวเล็กไปหยุดยืนหน้าร้านขายน้ำตาลสด “เอาน้ำตาลสดหนึ่งแก้วครับ”พีรพัฒน์บอกแม่ค้าวัยกลางคน“ได้ค่ะคุณลูกค้า”แม่ค้าคนดังกล่าวตักน้ำแข็งใส่กระบอกไม้ไผ่ จากนั้นจึงเทน้ำตาลสดจากขวดลงในกระบอกไม้ไผ่ มือหนารับกระบอกน้ำตาลสดจากแม่ค้าส่งให้ภรรยาคนสวย อริสานำน้ำตาลสดขึ้นมาดูด“อื๊อ อร่อยจังเลยค่ะพี่พัฒน์ หอมมาก ชิมดูสิคะ”เธอยื่นกระบอกน้ำตาลสดพร้อมกับจับที่หลอดดูดจ่อริมฝีปากหนา พีรพัฒน์ดูดน้ำตาลสดที่ภรรยาสาวเป็นคนป้อน อย่างเอร็ดอร่อย“ต