Share

เปิดอกคุยกัน1

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-05-11 12:54:36

ม่านราตรียังคงคลี่คลุม นอกเรือนนอนโชยผ่านด้วยกระแสลมอันเย็นเยียบ บรรยากาศเงียบสงบสุดแสน

กว่าจะได้เปิดอกคุยกัน ภรรยาเช่นซานซานก็ถูกสามีเช่นจ้าวเหว่ยกลืนกินจนเรียบถึงสามรอบติดๆ กัน ไม่มีเว้นระยะแม้เค่อเดียว

ช่างเป็นการผิดคำพูดนัก

ยังดีที่ชายหนุ่มแค่คิดในใจ มิได้เอ่ยออกไปในคราแรก

บนเตียงนอนร้อนระอุ เรือนผมของซานซานคลี่สยาย ลมหายใจหอบกระเส่า เล็บมือจิกลึกบนแผ่นหลังที่เกร็งแน่นของจ้าวเหว่ย เม็ดเหงื่อหยาดรินผ่านหัวไหล่นวลเนียน[1] แลดูเย้ายวนรัญจวนใจยิ่งนัก ทำให้มิอาจห้ามความปรารถนาทั้งมิอาจทำให้ไฟราคะมอดดับ แต่กลับลุกโชนโหมกระพือครั้งแล้วครั้งเล่า

แม้รอบด้านยังคงมืดสลัว แต่สายตาของบุรุษกลับไม่มีอาการพร่ามัว ทั้งแจ่มชัดยิ่ง เขาก้มมองใบหน้าเห่อแดงสองแก้มเปล่งปลั่งของนางใต้ร่างไม่รู้เบื่อ ก่อนหอมแรงๆ ที่ข้างซ้ายและข้างขวาสลับกันไม่หยุด จนอีกฝ่ายหน้ามืดตาลายไปหมด

“ท่านกำลังจะสังหารข้าแน่แล้ว”

ซานซานเริ่มโอดครวญ เพราะสามีของนางคือวัวกระทิงผู้ร้อนแรงไม่แปรเปลี่ยน

นางกำลังจะตายด้วยพิษร้ายแรงแห่งเพลิงพิศวาส

นอกจากไม่สะทกสะท้าน จ้าวเหว่ยยังเอื้อมเรียวนิ้วเชยปลายคางมน แล้วก้มลงจุมพิตปิดกลีบปากนางจนส
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เปิดอกคุยกัน3

    ซานซานเริ่มปั้นปึ่ง เอ่ยเสียงเข้มว่า “ผิดแล้ว หากข้ามีสามีใหม่จริงๆ ข้าไม่มีวันกลับมา ไม่ว่าท่านจักยิ่งใหญ่ปานใด ก็อย่าหวัง”รัชทายาทได้ฟังพลันผงะ ถามเสียงขุ่น “ทั้งๆ ที่ภายหลังเจ้าได้รู้ว่าข้าทำเพื่อเจ้าตลอดห้าปี ทั้งยังไม่แต่งชายาเนี่ยนะ”“ใช่!”“เจ้า...”บรรยากาศในห้องเงียบกริบ ปราศจากสุ้มเสียงใด ภายใต้ภาวะขุ่นมัวชั่วอึดใจ ได้ยินหญิงสาวหัวเราะคิก ชายหนุ่มยิ่งเดือดดาลจับร่างนุ่มพลิกคว่ำแล้วตีบั้นท้ายกลมกลึงไปหนึ่งที“อ๊ะ! ท่านตีข้า”ซานซานทำสีหน้าเจ็บปวดจ้าวเหว่ยจับนางพลิกกลับแล้วกอดแนบอกแน่นความเงียบงันโรยตัวอีกครั้ง ชั่วขณะที่รอบด้านยังมืดสลัว ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มน่าฟังของบุรุษค่อยๆ เอ่ยออกมาเบาๆ“ข้าไร้ความสามารถ แม้ใจจริงต้องการยกฐานะให้เจ้า แต่เรื่องราวกลับบานปลายไม่ง่ายดายนัก”ซานซานส่ายหน้า “หากท่านไร้ความสามารถ ไยข้ามิใช่ด้อยปัญญาที่สุดในหล้าแล้ว”หญิงสาวเอื้อมมือลูบสันกรามเบาๆ แล้วกอบกุมเอาไว้ สบสายตาคมยามเอ่ยเสียงแผ่ว “ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ารัชทายาทผู้หนึ่งจักยืนหยัดอย่างมั่นคงได้อย่างไรโดยไม่แต่งชายาเพื่อใช้เป็นฐานอำนาจเหมือนราชวงศ์อื่นๆ”มุมปากบุรุษยิ้มอ่อน “ข้าเองก็คิ

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เปิดอกคุยกัน2

    "พอแล้ว..."เส้นเสียงหวานพร่าพยายามเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก“หยุดๆ หยุดก่อน” ซานซานเบี่ยงหน้าหลบจุมพิตแสนหวานและดันมือตนกับเรียวนิ้วร้อนลวกที่กำลังรุกล้ำด้านล่างให้ออกไป“พอแล้ว...”จ้าวเหว่ยหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ ยอมปล่อยในที่สุด พลางปรับลมหายใจร้อนระอุของตนให้เข้าที่ พลิกกายแกร่งออกจากร่างนุ่มแล้วนอนตะแคงข้าง ยังไม่ลืมดึงนางเข้ามากอดแนบแน่น หวงแหนสุดพรรณนาซานซานอดมิได้ที่จะเงยหน้าอิดโรยออกจากอ้อมแขนอุ่นแล้วส่งค้อนให้จ้าวเหว่ยอีกครั้ง เมื่อปรับลมหายใจถี่กระชั้นให้เข้าที่สำเร็จจึงเริ่มเอ่ยคำ“อันที่จริงท่านไม่ควรโกรธเคืองข้าที่ทำตัวเหลวไหล คิดมีสามีใหม่”น้ำเสียงแม้เหนื่อยล้าเพราะผ่านการปลดเปลื้องอารมณ์ประกอบกิจเร่าร้อนเนิ่นนาน ทว่าคนฟังกลับได้ยินชัดเจนทุกคำ“เมื่อห้าปีก่อน ตัวข้าเฝ้าเสียใจกับการตายของท่าน ร่ำไห้ไม่เว้นวัน จนรู้ว่านั่นเป็นศพปลอมก็ยังเฝ้ารออย่างโง่งม จวบจนตั้งครรภ์ก็ยังอุ้มท้องอย่างมีความหวัง หาอะไรทำในบ้านหานเพื่อมิให้คิดถึงท่านจนเกินไป ครั้งที่เกือบตายเพราะคลอดลูก ก็ยังตั้งมั่นมีท่านยึดเหนี่ยวจิตใจ ทนเลี้ยงลูกอย่างเดียวดาย บอกตัวเองว่าไม่อยากรอแล้ว ทว่าก็ยังรอ...รอทั้

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เปิดอกคุยกัน1

    ม่านราตรียังคงคลี่คลุม นอกเรือนนอนโชยผ่านด้วยกระแสลมอันเย็นเยียบ บรรยากาศเงียบสงบสุดแสนกว่าจะได้เปิดอกคุยกัน ภรรยาเช่นซานซานก็ถูกสามีเช่นจ้าวเหว่ยกลืนกินจนเรียบถึงสามรอบติดๆ กัน ไม่มีเว้นระยะแม้เค่อเดียวช่างเป็นการผิดคำพูดนักยังดีที่ชายหนุ่มแค่คิดในใจ มิได้เอ่ยออกไปในคราแรกบนเตียงนอนร้อนระอุ เรือนผมของซานซานคลี่สยาย ลมหายใจหอบกระเส่า เล็บมือจิกลึกบนแผ่นหลังที่เกร็งแน่นของจ้าวเหว่ย เม็ดเหงื่อหยาดรินผ่านหัวไหล่นวลเนียน[1] แลดูเย้ายวนรัญจวนใจยิ่งนัก ทำให้มิอาจห้ามความปรารถนาทั้งมิอาจทำให้ไฟราคะมอดดับ แต่กลับลุกโชนโหมกระพือครั้งแล้วครั้งเล่าแม้รอบด้านยังคงมืดสลัว แต่สายตาของบุรุษกลับไม่มีอาการพร่ามัว ทั้งแจ่มชัดยิ่ง เขาก้มมองใบหน้าเห่อแดงสองแก้มเปล่งปลั่งของนางใต้ร่างไม่รู้เบื่อ ก่อนหอมแรงๆ ที่ข้างซ้ายและข้างขวาสลับกันไม่หยุด จนอีกฝ่ายหน้ามืดตาลายไปหมด“ท่านกำลังจะสังหารข้าแน่แล้ว” ซานซานเริ่มโอดครวญ เพราะสามีของนางคือวัวกระทิงผู้ร้อนแรงไม่แปรเปลี่ยนนางกำลังจะตายด้วยพิษร้ายแรงแห่งเพลิงพิศวาสนอกจากไม่สะทกสะท้าน จ้าวเหว่ยยังเอื้อมเรียวนิ้วเชยปลายคางมน แล้วก้มลงจุมพิตปิดกลีบปากนางจนส

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ชดเชย3

    การเจรจายามบ่ายจบลงด้วยการรักษาสายสัมพันธ์หลานย่า แม้ยังมิใช่เวลาเปิดเผยแต่ก็มิอาจเพิกเฉยได้ ซึ่งซานซานมาได้ถูกทาง เพราะลู่หลิ่งได้รับของล้ำค่ามากมาย ได้ห้องพักที่ใหญ่กว่าเดิม มีบ่าวรับใช้เพิ่มขึ้น กินอิ่มนอนอุ่น เรียนเล่นสุขสบาย ได้รับความจริงใจในการดูแลจากสตรีสูงศักดิ์อย่างแท้จริงเพื่อบุตรสาวแล้ว ซานซานไม่จำเป็นต้องเลือกวิธีการ โกหกบ้าง ใช้เล่ห์เหลี่ยมบ้าง หรือต่อให้ต้องหลอกลวงเบื้องสูง ไม่นับเป็นอะไรทั้งสิ้นการรีดไถคนรวยล่อลวงเชื้อพระวงศ์ให้ลุ่มหลงตกบ่วงจนต้องจ่ายค่าตอบแทนแบบขูดเลือดขูดเนื้อยิ่งไม่นับเป็นอะไรทั้งนั้นบ่อเงินบ่อทองอยู่ที่นี่นางมารซานซานต้องไปที่อื่นหรือไร นางอยากได้อะไรย่อมต้องได้ทุกสิ่งแม้แต่สวรรค์บนดินผุพังหลังจากส่งลู่หลิ่งเข้านอน ซานซานก็เดินกลับเข้าห้องพัก ปิดประตูมิดชิด ดับเทียน ถอดเสื้อผ้าชั้นนอกแล้วปีนขึ้นเตียงไม่ผิดดังที่คาด บนเตียงมีร่างสง่าของใครบางคนนอนอยู่ก่อนแล้วในห้องมืดสลัวไร้แสงเทียน มีเพียงแสงสีนวลของดวงจันทราที่สาดส่องลอดช่องลมลงมาภายใต้แสงแค่นั้น ซานซานยังมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวเหว่ยชัดเจนทั้งเครียดขรึมแข็งกระด้างปานศิลา เรือนกายห

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ชดเชย2

    เรื่องบางเรื่องไม่เด็ดให้ขาด ไม่ตัดให้สิ้น ย่อมเป็นหนามทิ่มแทงใจไปตลอดกาล น้ำเสียงราบเรียบของซานซานจึงเอ่ยเนิบนาบโดยไม่เงยหน้า“ทูลพระสนม หม่อมฉันหาได้ต้องการทวงบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตไม่ ทว่าหม่อมฉันกลับมีฐานะเป็นถึงผู้มีพระคุณโดยไม่อาจปฏิเสธได้ การที่พระสนมทรงทะนุถนอมหลิ่งเอ๋อร์ย่อมเป็นเรื่องที่พึงกระทำอยู่แล้ว อย่าได้ชักนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อบีบบังคับหม่อมฉันให้ไปกับรัชทายาท ยิ่งไม่ควรใช้บุตรเป็นตัวประกันเพื่อชักใยมารดา”ทั้งเฉยเมยและเย็นชาหาใดเปรียบ หลี่กุ้ยเฟยทอดมองซานซานอย่างคาดไม่ถึงในขณะที่ใบหน้าสุขุมของจ้าวเหว่ยยังคงเรียบนิ่ง หากแต่ใครจักรู้ได้ว่าหัวใจในอกแกร่งกำลังเต้นแรงปานใดถึงแม้ว่าซานซานจักโง่งมไปบ้างในเรื่องเหย่หนิว ทว่ากับเรื่องของลู่หลิ่งนางไม่เคยพลาด นางเงยหน้าสาดสายตา น้ำเสียงดุจธาราเย็นเยียบยังคงดังเนิบช้า“หม่อมฉันปรารถนาอนาคตที่ดีและความสุขสบายให้บุตรสาวนั้นไม่ผิด แต่หากนางต้องกลายเป็นหลักประกันเพื่อใช้บังคับคนอย่างหม่อมฉันนั่นคือผิดมหันต์ ตำแหน่งในตำหนักบูรพาหม่อมฉันไม่เคยต้องการเลยสักนิด ขอพระสนมอย่าได้เป็นกังวลเรื่องนี้ และหากหลิ่งเอ๋อร์ไม่ได้รับการดูแลที่ดีเฉก

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ชดเชย1

    เรือนพักของซานซานก่อนกลับเข้าเรือนของตน หญิงสาวยังไม่ลืมลอบเข้าไปในตำหนักบูรพา ตามทิศทางที่อู๋เจี๋ยบอกเล่า ว่าเขาผู้เป็นสามี เก็บสิ่งของแทนใจไว้ที่ใดและแล้วนางจึงได้เห็น ทั้งปิ่นไม้ดาราเร้นจันทร์ปีนเกลียวที่หักกลางสองท่อน และร่มกระดาษสีแดงที่แหลกเหลวไม่เหลือดีด้วยฝีมือนาง จ้าวเหว่ยยังเก็บทุกสิ่งไว้อย่างดีในตู้ตรงหัวเตียงเมื่อกลับเข้าห้องส่วนตัว ซานซานก็ห่อตัวเองในผ้าห่ม มองไม่เห็นแม้ปลายผม กลายร่างเป็นดักแด้ตัวใหญ่บนเตียงนอน รู้สึกผิดเหลือเกิน“ท่านแม่” เสียงน่ารักดังขึ้นที่หน้าห้องก่อนเดินเข้ามาจนถึงหน้าเตียง “ท่านกำลังทำสิ่งใดเจ้าคะ ฝึกวิชามารรึ?”บุตรสาวถามมารดาเช่นทุกครั้งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่วงท่าประหลาด บางคราก็กลับหัวนอนบนต้นไม้เหมือนค้างคาว บางครั้งยังดำน้ำเนิ่นนานไม่ยอมขึ้นมา บางทียังแบกลู่หลิ่งขึ้นแผ่นหลังแล้วปีนป่ายหน้าผาสูงชันทั่วหุบเขาซานซานคลายตัวเองออกจากผ้าห่ม ลุกขึ้นมาจัดเสื้อผ้าจนเรียบร้อย แล้วอุ้มบุตรสาวแนบอก “แม่แค่ฝึกวิชาทำใจ”ลู่หลิ่งมองอย่างสงสัย “ใจ? ทำได้ด้วยหรือเจ้าคะ?”ซูเหยาได้ยินเช่นนั้นก็ทำความเข้าใจไปเองว่า ซานซานกำลังทำใจมิได้เรื่องอู๋เจี๋ยเป็นแน่

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   รั้งไว้ข้างกาย4

    ไม่รอให้กาลเวลาเลื่อนผ่านเนิ่นนาน จ้าวเหว่ยจึงเอ่ยถาม“เสด็จแม่ทรงโปรดปรานหลิ่งเอ๋อร์จริงหรือ?”ผู้ถูกถามคลี่ยิ้มงาม ประกายตาอ่อนโยน“เด็กคนนี้เก่งกาจปราดเปรื่อง ทั้งห้าวหาญไม่ธรรมดา หากแม่มิได้นาง เกรงว่าคงไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว เหตุการณ์วันนั้นหลิ่งเอ๋อร์เข้ามาปกป้องแม่ไม่คิดถึงแม้แต่ชีวิตตัวเอง ถูกตีจนบาดเจ็บก็ยังยื้อเวลาให้ทุกคนรอดมาได้ อาซานยิ่งไม่ธรรมดา ดาบเดียวปลิดชีพนับสิบ”ถ้วยชาถูกบุรุษยกขึ้นจิบเพื่อปกปิดรอยยิ้มมุมปากจ้าวเหว่ยเอ่ยถามอีกว่า “พูดถึงนาง เสด็จแม่ทรงลงโทษนางเรื่องเมื่อคืนหรือ?”หลี่กุ้ยเฟยส่ายหน้า “อันที่จริงแม่อยากให้รางวัลนางมากกว่า อาซานมิใช่สตรีที่มักใหญ่ใฝ่สูง หากเป็นสตรีอื่นคงรีบปีนเตียงเจ้า เพื่อยกฐานะเพียงชั่วข้ามคืนแล้ว”จ้าวเหว่ยรับฟังด้วยท่าทางเรียบเฉย เขาลองหยั่งเชิง “เสด็จแม่มั่นใจในตัวนางปานนั้น ไม่คิดหรือว่าอาจดูนางผิดไป”เรียวคิ้วงามขมวดเล็กน้อย หลี่กุ้ยเฟยครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงเอ่ยเสียงนุ่ม “ไม่ผิดแน่ ครั้งแรกที่อาซินชวนนางเข้าวัง เคยเอ่ยถึงตำแหน่งข้างกายเจ้า แต่นางกลับปฏิเสธเสียงแข็งกระด้าง ไม่สนใจสักนิด”เรียวคิ้วคมพลันขมวดวูบ นึกขัดใจไม่เบา

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   รั้งไว้ข้างกาย3

    ไม่รู้เพราะเหตุใด ทุกครั้งที่หลี่กุ้ยเฟยได้เจอลู่หลิ่งก็มักจะแย้มยิ้มอย่างอารมณ์ดี ดวงตาหงส์ทอประกายอ่อนโยนอย่างยิ่ง รู้สึกเอ็นดูเด็กหญิงเป็นที่สุด อย่างไม่อาจอธิบายได้“มาแล้วหรือ หลิ่งเอ๋อร์ มาๆ วันนี้มีอะไรมาอวดบ้าง”น้ำเสียงเปี่ยมเมตตาเอ่ยถามแฝงแววเอื้ออาทรเต็มเปี่ยม พลางกวักมือเรียกเบาๆฝีเท้าเล็กกระชั้นถี่ขยับเดินไม่เร็วเกินงามแต่ก็ไม่ช้าเกินไป หอบเอาผลงานของวันมาส่งถึงมือเรียวสวย“วันนี้หลิ่งเอ๋อร์ฝึกปลายพู่กัน เขียนกลอนหนึ่งบทและวาดภาพลงไปด้วยเพคะ”เสียงเล็กน่ารักตอบกังวาน นำความสดใสโอบล้อมผู้คนหลี่กุ้ยเฟยรับกระดาษจากมือน้อยๆ มาถือเอาไว้พร้อมรอยยิ้มเอื้อเอ็นดูเจือความสนิทสนมชัดเจนระหว่างนั้นพลันมีเสียงทุ้มนุ่มของบุรุษเอ่ยขึ้นทางเบื้องหลัง “อายุเท่านี้ เขียนกลอนได้แล้วหรือ ทั้งยังวาดภาพด้วย”เสียงนั้นทำทุกสายตาหันมองพร้อมเพรียง“องค์รัชทายาท...”ลู่หลิ่งเงยหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เบิ่งตากลมโตมองอย่างน่ารักก่อนย่อกายทำความเคารพบุรุษสูงศักดิ์ที่วันนี้อยู่ชุดครามพยับเมฆา ช่างหล่อเหลาแสบตานัก“ถวายพระพรเพคะ”แม่นางน้อยทักทายได้งดงามเป็นธรรมชาติ รู้ธรรมเนียมปฏิบัติดีเยี่ยม ทำเอารอ

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   รั้งไว้ข้างกาย2

    ยามเซินสองเค่อ[1]ทุกครั้งที่ซานซานไม่ว่าง หน้าที่เดินทางไปรับลู่หลิ่งยังสำนักศึกษาจึงเป็นของซูเหยา ซึ่งเป็นแม่นมตั้งแต่วันแรกที่เด็กน้อยเข้าวังมาทั้งซานซาน ซูเหยา และลู่หลิ่ง พวกนางสนิทสนมกันมาก“หลิ่งเอ๋อร์หิวหรือไม่?”ซูเหยาจูงมือเล็กพลางถามอย่างเอื้อเอ็นดูไม่แปรเปลี่ยน ถึงอย่างไรเรื่องของผู้ใหญ่ย่อมไม่เกี่ยวกับเด็กน้อยผู้นี้ ไม่ว่าอู๋เจี๋ยจะเลวร้ายปานใด แต่บุตรสาวของเขาก็ยังน่ารักเท่าเดิม“หากน้าเหยาหิว หลิ่งเอ๋อร์ก็หิว แต่หากน้าเหยาไม่หิว หลิ่งเอ๋อร์ย่อมทนได้เจ้าค่ะ เรากินด้วยกันนะ”เสียงเล็กสดใสตอบกลับมา เจ้าก้อนแป้งน้อยพูดจาได้ปราดเปรื่องน่าฟังนัก นึกห่วงใยผู้อื่นตลอด ยามที่หลี่กุ้ยเฟยประทานขนมมาให้ พวกนางสองคนจึงมักจะกินด้วยกันเสมอ“น้าเหยาหิวแล้วล่ะ หลิ่งเอ๋อร์ไม่ต้องทน เรารีบไปกัน”ซูเหยากระชับมือเล็กนุ่มนิ่มแล้วจูงเดินกลับเข้าเรือนพัก เพื่อกินขนมจิบชา เช็ดเนื้อตัวและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปเข้าเฝ้าหลี่กุ้ยเฟยตามลำดับพระสนมมีรับสั่งให้ลู่หลิ่งนำผลงานหลังเลิกเรียนกลับมาให้ตรวจทานทุกวันซึ่งการกระทำอันแสดงถึงน้ำหนักในใจของหลี่กุ้ยเฟยนี้ ส่งผลต่อการปฏิบัติตนของคนทั้งวังและค

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status