LOGINหนิงหวงถอนหายใจออกมา เขากดสูดดมที่เส้นผมของเฟิงอวี่ก่อนจะเอ่ยตอบ“ข้าจะหลอกเจ้าเพื่ออันใด ข้าไม่คิดจะขึ้นนั่งบัลลังก์ด้วยซ้ำ ตอนนี้เสด็จพ่อได้รับน้ำวิเศษอยู่ตลอด คงจะไม่ลงจากบัลลังก์ง่ายๆ ข้าคิดเอาไว้แล้ว ว่าจะให้โยวอี้เริ่มเรียนรู้งานกับเสด็จพ่อตั้งแต่ยังเล็ก ต่อไปก็ให้เขาทำหน้าที่แทนข้าเลย”“ท่านคิดดีแล้วหรือ” เฟิงอวี่อดที่จะมองอย่างสงสัยไม่ได้ บัลลังก์ไม่ว่าผู้ใดก็อยากจะครอบครอง อย่างรุ่ยอ๋องที่คิดก่อกบฏจนตัวตาย พี่น้องของหนิงหวงแม้จะเก็บซ่อนเขี้ยวเล็บอย่างดี แต่ต่อไปจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่คิดอยากจะแย่งชิง“ข้าเบื่อปั้นหน้าเต็มที เจ้าเห็นข้ายินดีหรือตอนที่ต้องเข้าท้องพระโรงทุกวัน ข้าอยากจะนอนกอดเจ้าต่ออีกหน่อยก็ทำไม่ได้”“อืม...ข้ามีเรื่องดีจะบอกท่าน” เฟิงอวี่ดันตัวออกมาจากอ้อมแขนของหนิงหวง พร้อมทั้งดึงมือหนิงหวงไปวางที่ท้องของนาง“จริงหรือ” หนิงหวงเอ่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อ“อืม ข้าตั้งครรภ์” นางยิ้มกว้างออกมาเสียงหัวเราะของหนิงหวง ทำให้เด็กทั้งสามที่เล่นอยู่ในลานด้านข้างศาลาริมน้ำ วิ่งเข้ามาภายในศาลาอย่างสนใจ เมื่อรู้ว่าเสด็จแม่ของตนตั้งครรภ์อีกแล้ว เด็กทั้งสามก็กระโดดไปรอบๆ ตัวหนิง
วันที่เซี่ยเหลี่ยงเดินทางกลับชายแดนเหนือ เฟิงอวี่นางมอบระเบิดมือให้เขาไปนับสิบลูก ทั้งยังสาธิตและสอนให้เขาระวังในการเคลื่อนย้ายเช่นใดจะได้ไม่เกิดอันตรายขึ้นด้วยรู้ดีว่าแคว้นต้าฉี ต้องการจะทำสงครามกับแคว้นต้าซ่ง หากสงครามไม่เกิดขึ้น พี่ชายของนางก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงตายอยู่ในสนามรบ ชีวิตของทหารและชาวบ้านก็จะได้ไม่ต้องล้มตายหรืออยู่กันอย่างหวาดกลัวเฟิงอวี่นางพาเซี่ยหร่วน เซี่ยเหลี่ยงและหนิงหวง ออกไปลองใช้ระเบิดมือที่ภูเขานอกเมือง พื้นที่โดยรอบไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันใดยามที่เฟิงอวี่นางขว้างระเบิดมือออกไป หินก้อนใหญ่เท่าเรือนหนึ่งหลังก็แตกออกเป็นหลายเสี่ยง พร้อมด้วยเสียงกัมปนาทที่ราวกับฟ้าจะถล่มลงมา พื้นที่รอบด้านสั่นสะเทือนจนรู้สึกได้ภายในเมืองหลวงและหมู่บ้านใกล้ๆ ต่างก็ได้ยินเสียง ทุกคนออกมาดู พร้อมหาต้นเสียงว่ามาจากที่ใดก็หาไม่พบ“วิเศษนัก!!! เช่นนี้ แคว้นต้าฉีกับชนเผ่านอกด่านก็ไม่กล้ารุกรานแล้ว” เซี่ยเหลี่ยงร้องออกมาอย่างยินดี“ท่านต้องใช้อย่างระวัง หากตกใกล้ตัวเกินไป หากไม่ตายก็ต้องพิการ ข้าให้ท่านเพื่อใช้ข่มขู่เท่านั้น ระเบิดหนึ่งลูกสามารถคร่าชีวิตคนได้น
ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว เด็กทารกในครรภ์ดูเหมือนจะอยากออกมาเต็มที่ ยังดีที่ทั้งสองออกมาจากมิติได้ทัน พอเฟิงอวี่นางขึ้นนอนบนเตียง เสียงเด็กก็ร้องดังลั่นไปทั่วเสี่ยวเยว่กับเถามามาที่ย้ายมานอนเฝ้าอยู่หน้าห้องวิ่งเข้ามาด้วยความตกใจ ยังดีที่หนิงหวงสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว“อุแว้ อุแว้”“ว้ายยยยย คลอดแล้ว” เสี่ยวเยว่กรีดร้องออกมามีเพียงเถามามาที่ยังได้สติ นางผลักตัวเสี่ยวเยว่ให้รีบไปตามหมอตำแยเข้ามาในห้อง แล้วรีบไล่หนิงหวงที่ยังยืนมองอย่างตกตะลึงให้ออกไปด้านนอก ก่อนจะเข้าไปรับเด็กที่ไหลออกมาจากช่องคลอดของเฟิงอวี่เอาไว้ตำหนักบูรพาวุ่นวายในชั่วพริบตา ต่างไม่มีสัญญาณเตือน หรือได้ยินเสียงร้องของเฟิงอวี่เลยสักนิด ได้ยินเพียงเสียงเด็กน้อยที่ร้องลั่นประท้วงที่ไม่มีคนรอรับเขาตอนออกมาจากท้องของมารดาฮ่องเต้กับฮองเฮาที่เข้านอนไปแล้ว ต่างก็รีบร้อนมาที่ตำหนักบูรพา เมื่อมาถึงก็เห็นหนิงหวงก็อุ้มพระโอรสที่ล้างตัวเรียบร้อยแล้วเอาไว้ในอ้อมแขน“คลอดง่ายหนัก” ฮองเฮาฟังเรื่องของเฟิงอวี่ก็ได้แต่นึกอิจฉา ยามที่นางคลอดหนิงหวงเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ฮ่องเต้จึงไม่ให้นางตั้งครรภ์อีกเลยคนตระกูลเซี่ยก็เร่งรีบมาทั
เฟิงอวี่นางเข้าชมการประหารในวันนี้ด้วย โดยไม่สนใจคำห้ามปรามของฮองเฮาและมารดาของตนเลย“เจ้าจะมาเพื่ออันใด สตรีตั้งครรภ์สมควรเห็นเรื่องพวกนี้หรือ” เซี่ยหร่วนได้แต่ตำหนิบุตรสาวของตน เถามามาและเสี่ยวเยว่ที่อยู่ด้านหลังพยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนหน้าที่จะมา บ่าวทั้งสองต่างห้ามปากจนเสียงแทบจะไม่มีแล้ว แต่เฟิงอวี่นางมีหรือที่จะฟัง“หากข้าไม่ได้เห็นนางตาย ข้าคงหลับไปสนิท” นางจะไม่อยากเห็นคนที่ทำให้ชีวิตของนางต้องพบเจอเรื่องร้ายมากมายตายด้วยตนตนเองได้อย่างไรเซี่ยหร่วนถอนหายใจออกมา หากตนเองถูกกระทำเช่นบุตรสาวก็คงอยากจะเห็นจุดจบของมันผู้นั้นเช่นกันก่อนจะทำการประหาร นักโทษที่ใกล้ตายล้วนแต่ได้รับสิทธิ์ให้พูดความในใจหนึ่งประโยค ที่ผ่านมาต่างก็พูดขอความเมตตาหรือไม่ก็พูดขอโทษในสิ่งที่ตนเองทำลงไปแต่ไม่ใช่กับรุ่ยอ๋อง เขารอเวลานี้มานาน“สิ่งที่เปิ่นหวางลงมือทำไป ไม่เคยนึกย้อนเสียใจ อาหวง หลานชายข้า...หึหึ” รุ่ยอ๋องมองไปที่โจวเจิน ก่อนจะถอนสายตากลับมา“พระชายารองของเจ้าช่าง...อึก” เขายังไม่ได้พ่นประโยคน่ารังเกียจออกมา ก็ถูกมีดสั้นที่ไม่รู้ว่ามาจากทิศใดพุ่งเสียบทะลุคอของเขาเสียแล้วชาวเมืองและขุนนางหลาย
คนของรุ่ยอ๋องไม่มีผู้ใดคิดจะขัดขืน นอกจากวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่ก็ถูกจับตัวกลับมาได้ทั้งหมด หนิงหวงเดินไปหยุดตรงหน้ารุ่ยอ๋อง สายตาที่จ้องมองร่างที่นอนเจ็บปวดอยู่บนพื้นด้วยสายตาว่างเปล่า ราวกับมองคนตาย“เรื่องสกปรกที่ท่านทำ คิดว่าผู้อื่นไม่รู้หรือ เพียงแค่ไม่มีผู้ใดอยากจะพูดให้เสียปากเท่านั้น”รุ่ยอ๋องจ้องมองหนิงหวงอย่างโกรธแค้น แต่ไม่กล้าพูดสิ่งใดออกมา ในมือของหนิงหวงยังถืออาวุธประหลาดมาทางเขาอยู่องครักษ์พ่านเดินเข้าไปลากตัวรุ่ยอ๋องที่ยังคงนอนเจ็บปวดอยู่ที่พื้น ลากออกไปจากป่า เพื่อไปรับโทษ ตลอดทางที่พาตัวไปขังในคุกหลวงในวัง รุ่ยอ๋องมิได้พูดสิ่งใดออกมาอีก ความเจ็บปวดที่บาดแผลและเสียเลือดไปจำนวนมาก ทำให้เขาไร้เรี่ยวแรงที่จะปากดีชาวเมืองเมื่อรู้ข่าวว่ากบฏรุ่ยอ๋องถูกจับกุมตัวแล้ว ต่างก็ออกมาโห่ร้อง และด่าทอตลอดทางที่รุ่ยอ๋องถูกคุมตัว หนิงหวงที่ได้รับคำสรรเสริญสีหน้าของเขาเรียบเฉยไร้ความรู้สึก เซี่ยหร่วนและเซี่ยเหลี่ยงต่างก็ถอนกำลังทหารที่ปิดล้อมตามประตูเมืองต่างๆ ไปรวมตัวกับหนิงหวงที่วังหลวงขุนนางเกือบทั้งหมดยามนี้อยู่ภายในวังหลวงอยู่ก่อนแล้ว เมื่อรุ่ยอ๋องถูกคุมตัวมาถึงฟ้าด้านนอกก็มืดสนิท
ยิ่งเห็นพวงแก้มที่แดงระเรื่อของฮองเฮา เฟิงอวี่เกือบอดใจไม่ไหว ยื่นมือไปหยิกแก้มนางเสียแล้ว“ออกกันไปก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันจะให้องครักษ์พ่านไปเชิญฝ่าบาทมาที่ตำหนักของพระองค์”ฮองเฮาพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก่อนจะพากันออกไปด้านนอก เมื่อออกมาแล้ว เฟิงอวี่นางเรียกนางกำนัลคนที่ไปตำหนักนางเข้ามาภายในห้อง ก่อนจะให้ไปหาผ้ามาปิดหน้าให้ฮองเฮา ด้วยยังไม่สะดวกไล่นางกำนัลคนอื่นออกไปในยามนี้ กลัวว่าจะมีคนคิดร้ายขึ้นมาอีกเฟิงอวี่เองก็สั่งความองครักษ์พ่านให้ไปเชิญฮ่องเต้มาที่ตำหนักของฮองเฮาอย่างรวดเร็ว ในตอนแรกฮ่องเต้คิดว่าฮองเฮามีอาการไม่สู้ดี แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในห้องด้านข้าง เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ของนางก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้“กะ เกิดอันใดขึ้น” ฮ่องเต้เดินเข้าไปจับไหล่ของฮองเฮาเอาไว้“นี่อย่างไรเล่า ที่หม่อมฉันกำลังจะบอกพระองค์”ฮองเฮาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮ่องเต้ฟัง ก่อนจะพากันเข้าไปในมิติของเฟิงอวี่เพื่อแช่ตัว ฮ่องเต้เองก็ตกตะลึงไม่แพ้ฮองเฮา แต่เพียงไม่ได้กรีดร้องออกมา เฟิงอวี่นางไม่ต้องติดตามฮ่องเต้ไปแช่ตัว ด้านข้างพระองค์มีฮองเฮาคอยดูแลอยู่แล้ว จึงเข้าไปนั่งรออยู่ภายในอาคารเพียงไม่นานทั้งสองพระอง







