Share

บทที่ ๒ หลักฐาน

last update Last Updated: 2025-01-01 22:35:39

โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง…

เฉินฟาหยางไม่ใช่คนยุ่งยากเรื่องอาหารการกิน เขาเป็นถึงพระอนุชาต่างมารดาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน รั้งตำแหน่งตวนอ๋องมาตั้งแต่อายุได้สิบหกชันษา ได้รับความไว้วางใจให้ควบคุมดูแลกองทัพ ออกรบยามมีปัญหาบริเวณชายแดน แต่กระนั้นยามลำบากที่สุด ข้าวต้มที่ได้กินยังมีเมล็ดข้าวมากกว่าถ้วยเล็ก ๆ ที่เสวียนซือชิงนำมาให้เสียอีก

ได้ยินว่านางจะนำข้าวสารไปแลกไข่ เขาก็หมดความอยากอาหารทันที!

แม้จะเกลียดชังนางมาเพียงใด แต่เฉินฟาหยางกลับต้องยอมรับว่านางฉลาดรอบคอบเป็นอย่างมาก ทั้งยังไขข้อข้องใจที่คั่งค้างมานานว่าใครคือผู้ที่ขีดเขียนหนังสือเล่มโปรดของเขา

“ที่แท้มิใช่เด็กผู้ชาย”

เฉินฟาหยางลืมคิดไปว่าค่ายทหารไม่ใช่สถานที่สำหรับสตรี นางแต่งตัวเป็นบุรุษ ลอบเข้ามาเยี่ยมเยียนบิดาย่อมไม่ใช่เรื่องประหลาด ยามนั้นเขาต้องดาบของทหารเลวบริเวณแผ่นหลัง บาดเจ็บสาหัส แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ต้องนอนคว่ำและห้ามขยับตัวนานหลายวัน

คราวนั้นต้องดื่มกินสมุนไพรหลายประเภทเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด รู้สึกคล้ายมึนเมาตลอดเวลา นับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาแยกแยะเสียงของเด็กน้อยที่อยู่หลังม่านไม่ได้

ย้อนหลังไปสิบปี ยามนั้นนางอายุเพียงแปดขวบ อ่านออกเขียนได้ทั้งที่เป็นเด็กตัวเล็กนิดเดียว ทั้งยังเป็นเพียงบุตรสาวอนุภรรยา นับว่าเสวียนซือเหยาสั่งสอนนางได้น่าประทับใจยิ่งนัก

แต่น่าประทับใจแล้วอย่างไร สุดท้ายรองแม่ทัพผู้นั้นก็ทำให้เขาผิดหวัง...

“ไปนำสุรามาเพิ่ม!” เฉินฟาหยางออกคำสั่งต่อเสี่ยวเอ้อร์ ไม่ลืมตบโต๊ะอย่างเอาแต่ใจอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อวานเขาดื่มไปมาก สุราที่นำติดมือมาด้วยหมดไปเพราะความหนาวเหน็บ หากไม่ดื่มก็คงแข็งตายกลางพายุแล้ว พอนึกได้ก็รีบขอบคุณสวรรค์ที่นางไม่ได้แตะต้องสุราที่อยู่ในห้องเก็บสุรา ยี่สิบปีก่อนเป็นอย่างไร ยามนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น กระทั่งทุกห้องในตำหนักเยว่ฉีเองก็เช่นกัน

เว้นแต่ห้องนอนของเสวียนซือชิงที่ยังไม่ได้สำรวจดู

ในระหว่างที่รอศิษย์น้องอยู่ เฉินฟาหยางก็รำลึกถึงเรื่องราวในอดีต สามปีก่อนเขาถูกรองแม่ทัพเสวียนซือเหยาทวงสัญญา ว่าหากตนไร้ซึ่งลมหายใจก่อนที่บุตรสาวจะได้แต่งงานผ่านพิธีมงคล เขาจะต้องดูแลนางให้ดีและจะต้องอยู่ในตำแหน่งพระชายาเท่านั้น

นึกไม่ถึงว่าเสวียนซือเหยาจะสิ้นลมหายใจก่อนที่บุตรสาวจะได้ออกเรือนจริง ซ้ำยังไม่ใช่เพราะคมดาบคมกระบี่ของข้าศึก แต่เป็นเพราะถูกประหารเนื่องจากขัดคำสั่งเขาผู้เป็นแม่ทัพ เป็นเหตุให้องค์ชายรัชทายาทเหวินจงเหลียนต้องสิ้นพระชนม์กลางสนามรบ องค์ชายรองเหวินฉีตกหน้าผา ตามคำบอกกล่าวของเหล่าทหาร ปรากฏว่าธนูปักอยู่เต็มแผ่นหลัง โอกาสรอดชีวิตจึงเป็นไปไม่ได้ มีเพียงองค์ชายสามเหวินอวิ๋นฝูเท่านั้นที่รอดกลับมา

เพื่อรักษาคำพูดของตนแล้ว เขายอมแต่งสาวงามที่เพิ่งผ่านพิธีปักปิ่นได้ไม่นาน แต่จะให้รับเข้าจวนอ๋องในเมืองหลวง อยู่เป็นหนามตำตาตำใจ ตวนอ๋องเฉินฟาหยางไม่ใช่คนใจกว้างมากถึงเพียงนั้น การยินยอมให้นางอยู่ตำหนักร้างที่เขาเกลียดชังไม่ต่างจากมารดา นับว่ามีเมตตามากพอแล้ว

“คุณชายขอรับ มีม้าตัวหนึ่งอยู่ที่หน้าโรงเตี๊ยม ไร้เจ้าของดูแล ทั้งยังดุร้ายไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ข้าน้อยเห็นผ้ารองนั่งตรงอานม้ามีลวดลายคล้ายเสื้อผ้าที่คุณชายสวมใส่อยู่ มิแน่ใจว่าเป็นม้าของคุณชายหรือไม่ขอรับ”

เสี่ยวเอ้อร์รีบแจ้ง คุณชายท่านนี้ดูน่าเกรงขามกว่าแขกหลายคนที่แวะเวียนมายังโรงเตี๊ยม ทั้งยังหน้าตาบูดบึ้งคล้ายอารมณ์ไม่ดี จึงควรอยู่ให้ห่าง ไม่รบกวนหากไม่ใช่เรื่องที่เร่งด่วนจำเป็น

“ย่อมต้องเป็นซวี่หยา เจ้าไปนำหญ้าและน้ำให้เขาดื่ม หาคอกที่สะอาดที่สุดให้ได้พักผ่อน”

ม้าตัวโปรดของเขาคือซวี่หยา ปกติแล้วสงบนิ่งอย่างมาก ทว่าฝีเท้าดีและดุดันยามออกศึก เป็นไปได้ว่าคืนที่ผ่านมาคงเหนื่อยเกินทนไหว บวกกับเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าที่ดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันเตลิดหนีไปชั่วคราว

แต่เรื่องนี้จะโทษซวี่หยาก็ไม่ได้ หากเขาไม่อยากเอาใจโฉมงาม ยอมขี่ม้าออกนอกเส้นทาง ป่านนี้คงนอนหลับสบายอยู่ที่ค่ายทหารแล้ว

ใช่แล้ว!

เฉินฟาหยางออกนอกเส้นทางเพราะสตรี หาได้ตั้งใจแวะมายังตำหนักเยว่ฉีแต่อย่างใดไม่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทส่งท้าย

    เจ็ดปีผ่านไป...น้ำเสียงออดอ้อนของพระชายาคนงามสอบถามบุรุษที่นางรักอย่างเอาใจ ว่าเหตุใดวันนี้จึงไม่ยิ้มแย้มให้อย่างที่เคย ทั้งยังทำหน้าบูดบึ้งมิยอมให้เข้าใกล้ ถามอันใดก็มิค่อยยอมตอบ เดาได้ลำบากว่ามีเรื่องอันใดรบกวนสมองอันชาญฉลาดของเขาอยู่แน่“ท่านพี่...”“พี่ไม่อยากพูด ขอทำใจสักครู่แล้วจึงจะอารมณ์ดีได้”“เกิดเรื่องยุ่งยากที่ค่ายทหารหรือเจ้าคะ”เสวียนซือชิงยังคงไม่ย่อท้อ พยายามหลอกถามเอาความจริงที่ทำให้ตวนอ๋องอารมณ์ดีถึงกับยิ้มไม่ออก เขาเพิ่งกลับจากค่ายทหารนอกเมืองในช่วงสาย เป็นไปได้ว่าอาจอารมณ์เสียมาจากที่นั่น หรือว่าเพราะเห็นนางเพิ่งกลับมาจากร้านค้าสกุลหลี่ที่พี่ชายบุญธรรมยกให้ดูแลไม่สิ ร้านค้านั้นเป็นของนาง เพราะตวนอ๋องเฉินฟาหยางมีนิสัยไม่ชอบติดค้างผู้ใด ที่มิชอบมากกว่านั้นคือให้พระชายาติดค้างผู้ใด เขาจึงยอมเสียเงินเล็กน้อยเพื่อซื้อกิจการของคุณชายหลี่จินหมิงเพื่อตัดปัญหา ในเมื่อนางเป็นเจ้าของแล้วแวะเวียนไปดูร้านบ้างก็นับว่าเหมาะสมมิใช่หรือ“ท่านพี่...”“ที่ค่ายทหารปกติดี อวิ๋นฝูแวะมาดูการฝึกทหารก็กลับไปแล้ว จินหมิงเองก็เช่นกัน เขาฝากขอโทษที่มิได้มาเยี่ยมเจ้าด้วยตนเองเพราะติดธุระเร่งด

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 55 จดหมายรัก

    สามวันแล้วที่ตวนอ๋องเฉินฟาหยางนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง โดยมีพระชายาคนงามนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง นางค่อย ๆ หยอดน้ำข้าวต้มและป้อนยาบำรุง พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ถูกเนื้อต้องตัวเพราะเขามักปัดมือออกเบา ๆ นิ่วหน้าคล้ายรังเกียจสัมผัสจากนางก็ไม่ผิดนัก‘หนูสกปรก!’‘เหม็น!’‘อย่าถูกตัวเรา!’นอกจากตวนอ๋องจะไม่สบายเพราะต้องทนอยู่ในคุกน้ำนานหลายวัน เขายังสะเทือนใจกับความสกปรกที่ต้องพบเจอ ดูท่าเรื่องที่ฮ่องเต้เหวินจวินเล่าให้ฟังจะมิใช่เรื่องล้อเล่น เห็นได้ชัดจากการปัดป่ายยามมีอะไรถูกตัว รวมถึงเรื่องบ่นพึมพำว่าเหม็นหรือไม่ก็ทำท่าหงุดหงิดทั้ง ๆ ที่ยังหลับอยู่บ่อยครั้งเสวียนซือชิงทำอันใดมิได้นอกจากนั่งเฝ้า ในระหว่างนั้นก็หยิบจดหมายที่เขาเคยส่งให้มาอ่านดู ว่ามีเนื้อความสำคัญอันใดที่นางควรรู้บ้าง ปรากฏว่าข้อความที่ได้อ่านทำให้นางปวดร้าวไปทั้งหัวใจมิใช่เสวียนซือชิงคนเดียวที่เสียใจ ตวนอ๋องเฉินฟาหยางก็ทรมานไม่แพ้กัน‘ชิงชิงยอดรัก ทราบดีว่าเจ้าคงไม่อยากพบหน้า แต่พี่ก็ยังค้นหาราวกับคนเสียสติ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ตายก็ตายไม่ได้เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีก ยามนี้พี่อยู่ได้ด้วยความหวังว่าสักวันเจ้าจะแวะมาเยี

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 54 ศาลาชมนก

    เหล่าภมรและดอกไม้นานาพรรณที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนยามนี้กลับมิอยู่ในสายพระเนตรของฮ่องเต้เหวินจวิน เดิมทีเขาก็มิได้ชื่นชอบการออกนอกวังหลวง แต่เพราะต้องการให้ฮองเฮาและบรรดาพระสนม รวมถึงเหล่าองค์ชายได้มีโอกาสใกล้ชิด สร้างความปรองดอง ไม่แตกแยกเหมือนบรรดาพระเชษฐาและพระอนุชาร่วมบิดา งานน่าเบื่อหน่ายจึงถูกจัดขึ้นในทุก ๆ ปี แต่จะให้มีเพียงเหล่าองค์ชายองค์หญิงก็คงไม่สนุก เหล่าลูกหลานขุนนางชั้นสูงจึงได้รับเทียบเชิญให้มาร่วมงานนึกไม่ถึงว่าพระชายาคนงามตวนอ๋องก็มาด้วยหัตถ์หนาโบกไล่ข้าราชบริพารไปให้พ้นจากบริเวณ มิลืมกำชับองค์ชาย รัชทายาทที่เพิ่งจะถูกสตรีร่างเล็กกล่าวโทษให้พาฮองเฮาไปเดินเล่นเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ส่วนบุตรชายคนเล็กของเสนาบดีหลี่ แม้ได้รับคำสั่งเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังเดินวนเวียนอยู่มิไกลนัก“มินึกว่าจะได้เจอตัวจริงของเจ้า นับว่าฟาหยางเลือกพระชายาได้ดี นอกจากจะงดงามอย่างมากแล้ว วาจายังเชือดเฉือนดุจคมมีด สมแล้วที่ทำให้น้องชายของเราพ่ายแพ้จนสิ้นท่า”“ฝ่าบาท...ท่านอ๋องมิได้เลือกหม่อมฉันนะเพคะ ทุกอย่างล้วนเป็นท่านพ่อที่จัดการ”“เรื่องนั้นเราย่อมรู้ดี จำได้เสียด้วยซ้ำว่าตวนอ๋องทำหน้าตาคล้ายจะอาเจี

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 53 งานชมบุปผา

    นับได้ตั้งแต่รับเถ้ากระดูกของบิดา เสวียนซือชิงก็ตกอยู่สภาวะอารมณ์แปรปรวน พริบตาหนึ่งมีความสุขแทบหุบยิ้มไม่ได้ อยากให้พ่อบ้านชราจัด เตรียมรถม้าเดินทางออกนอกเมือง เลือกหน้าผาสูงชันสักแห่งตามความฝันที่ผู้ให้กำเนิดปรารถนา แต่พอนึกได้ว่าบุรุษที่ทำเรื่องนี้ให้เป็นความจริงยังไม่หวนคืนกลับมา นางกลับทุกข์ใจจนต้องแอบร้องไห้ตามลำพังในยามค่ำคืนเก้าวันแล้วที่ตวนอ๋องเฉินฟาหยางไม่โผล่มาให้เห็นหน้า มิแน่ใจว่าติด ราชกิจในวังหลวงหรือว่าพบเจอเรื่องอันตรายอื่นใด นางร้อนใจจึงขอให้พ่อบ้านชราสอบถามไปทางองค์ชายรัชทายาทเหวินอวิ๋นฝู แต่คำตอบที่ได้กลับมามีเพียงว่าเสด็จอามีธุระสำคัญต้องจัดการ“เหตุใดการรอคอยจึงทำให้รู้สึกแย่นัก”เสวียนซือชิงตระหนักดีว่าการรอคอยนั้นเป็นเรื่องทรมานอย่างมาก ยามเริ่มรักและรอให้คุณชายเฉินหยางกลับมายังตำหนักเยว่ฉีว่าทุกข์ใจอย่างที่สุดแล้ว แต่กลับเทียบไม่ได้กับการรอคอยให้ตวนอ๋องเฉินฟาหยางกลับออกมาจากวังหลวงที่นางจำได้ดีว่ามิใช่สถานที่ที่เขาได้รับอนุญาตให้เข้าไปโดยง่าย‘...หลังจากสูญเสียสององค์ชาย เขาก็มิได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวังหลวงอีก แม้มิใช่ผู้ที่ตัดสินใจผิดพลาด แต่องค์ฮ่องเต้ปัจจ

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 52 จองจำ

    หากมีเช้าใดที่หม่นหมองที่สุดในชีวิตของเสวียนซือชิง มันคงหนีไม่พ้นเช้านี้ที่ต้องตอบคำถามเจ้าก้อนแป้งว่าเหตุใดจึงต้องตระเตรียมข้าวของเพื่อออกเดินทางอีกครั้ง ทั้งยังตอบไม่ได้ว่าบิดาของนางจะร่วมเดินทางไปด้วยหรือไม่ และเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว มีหรือที่เสียงร้องไห้อย่างเอาแต่ใจจะไม่ดังลั่นจวน“เช่นนั้นรอหนิงเอ๋อร์คุยกับท่านอ๋องให้เข้าใจก่อน แล้วค่อยเก็บของต่อในภายหลังเถิด”เสวียนซือชิงออกคำสั่งต่อสาวใช้ให้พาเจ้าตัวน้อยไปเล่นในสวนอย่างที่นางชอบทำเป็นประจำ ส่วนตนเองก็นั่งรออย่างใจเย็นเพราะเห็นว่ายังเช้าอยู่มาก ตวนอ๋องเฉินฟาหยางเพิ่งได้รับมอบหมายงานใหม่ เรื่องนอนดึกตื่นสายจึงมิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดเขาเหนื่อยอย่างมากเรื่องนั้นนางย่อมรู้ดีที่สุด แม้ไม่เชี่ยวชาญในเรื่องการใช้ชีวิตคู่จนทุกอย่างพังทลาย แต่ปฏิเสธมิได้ว่าตวนอ๋องเฉินฟาหยางเป็นบุรุษที่มีความสามารถ เรื่องสำคัญที่ต้องใช้งบประมาณ ย่อมเป็นเขาที่ต้องคอยตรวจดูเพื่อมิให้มีข้อผิดพลาดอันใดเกิดขึ้นในภายหลังแน่นอนว่ามีคนไม่มากที่ทราบเรื่อง เรียกได้ว่าตวนอ๋องคือที่ปรึกษาลับขององค์ฮ่องเต้เหวินจวินก็มิผิดนัก หากจะมีเรื่องอันใดที่มองดูแล้วขัดตาไปบ้

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 51 หลอกลวง

    เหตุใดเขาจึงหลอกลวงเก่งยิ่งนัก…เสวียนซือชิงหมดแรงแทบทรุด กว่าจะพาตนเองกลับขึ้นรถม้าได้ไหวก็ต้องใช้เวลาพอสมควร โชคยังดีที่เจ้าตัวน้อยผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของคุณชายหลี่ได้สักพักแล้ว นางจึงมีเวลาได้พิจารณาทุกอย่างเงียบ ๆ ตามลำพัง‘เรื่องนี้เหล่าหมอหลวงล้วนทราบกันดี อาการแพ้ถั่วเหลืองของท่านอ๋องร้ายแรงมากก็จริง แต่ก็หายได้เองตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นฝังเข็มหรือดื่มยา...’แม้ในใจนึกยินดีที่เสวียนหนิงอันมิต้องทรมานกับการรักษา แต่มีเรื่องหนึ่งที่นางขบคิดอย่างไรก็มิเข้าใจ เพราะเหตุผลอันใดเขาจึงไม่พูดความจริง“ไม่ได้ส่งท่านพี่หลี่ ซือชิงเสียมารยาทแล้ว”“ซือชิงอย่าลืมใจเย็นให้มาก เขารักเจ้านั้นเป็นเรื่องจริงที่สุด แม้แต่สวรรค์ก็ปฏิเสธไม่ได้ ส่วนเรื่อง…”“ท่านพี่หลี่ไม่ต้องพูดแทนหรอกนะเจ้าคะ ข้าจะไปคุยกับเขาเอง”นางออกคำสั่งให้สองสาวใช้ดูแลเสวียนหนิงอันให้ดี ก่อนหนีไปยืนสงบสติอารมณ์อยู่ในสวนพักใหญ่ห้ามตะคอก...อย่างไรเขาก็เป็นถึงตวนอ๋องเลื่องชื่อ ย่อมต้องระมัดระวังกิริยาให้มาก หากฟังคำอธิบายแล้วยังพอยอมรับได้ นางก็จะก้มหน้ายอมรับและไม่โกรธเคืองเขาให้เสียเวลาขอเพียงคำอธิบายที่สมเหตุสมผล นางขอเพียงเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status