Share

ตอนที่ 8 จับผู้ร้าย [1]

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-01 18:14:16

[หอเยว่เซียน]

เว่ยฟางเฟยนั่งรถม้าคันใหญ่มาจอดหน้าหอบุปผชาติของตนแต่เช้าตรู่ ยามเช้าที่ผู้คนพลุ่กพล่านเช่นนี้หากสตรีที่ลงจากรถม้าคันใหญ่ของตำหนักฉือเหอเป็นผู้อื่นคงถือว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับผู้คน แต่บัดนี้สตรีที่ก้าวลงมากลับกลายเป็นภาพคุ้นชินตาของผู้คนในย่านหอคณิกาแห่งนี้เสียแล้ว ‘นางเพียงผู้อาศัย ที่บังเอิญโชคดีที่มีบุญคุณของบรรพบุรุษค้ำคอ ถึงได้ยังเชิดหน้าชูตาอยู่ได้ทั้ง ๆ ที่ บิดาต้องโทษขังคุก อดีตบุตรีขุนนางกังฉิน’

ทันทีที่ร่างบอบบางเย้ายวนทรงเสน่ห์ก้าวลงจากรถม้าเหล่าบรรดาบุรุษแลสตรีทั้งที่เป็นลูกค้าและไม่ใช่ต่างจ้องมองนางอย่างสนใจ ด้วยเพราะฟางเฟยมักแต่งกายงดงามเย้ายวนโดดเด่น ผิวขาวประดุจหยกมันแพะ ดวงหน้าเล็กกระจ่าง สวมใส่อาภรณ์สีแดงเด่นบางเบาราวกลุ่มหมอกปกคลุมในยามเช้า คลุมไหล่ด้วยผ้าไหมเนื้อดีขับเน้นเนินอกขาวเนียนแลสัดส่วนร่างกายมองแล้วดูเย้ายวนซ่อนเสน่ห์น่าค้นหา ชายแขนชุดปักลวดลายดอกมู่ตานขลิบทองบ่งบอกฐานะว่ามิได้ต้อยต่ำ แขนอาภรณ์ถูกแหวกกว้างลู่ลม คาดรัดเอวด้วยผ้าคาดปักลายบุปผาโรยห้อยหยกระหย้าสีชิงยามเมื่อนางก้าวเดินทำให้ป้ายหยกแกว่งไกวชวนให้เป็นที่น่าจับจ้องแลเผลอไผล ผมยาวดำสนิทถูกรวบครึ่งศีรษะปักด้วยปิ่นลายมังกรเกี้ยวหงส์ยามเมื่อนางก้าวเดินเกิดเป็นเสียงประหนึ่งเสียงขลุ่ยคลอเคล้า สวมต่างหูหยกรูปหยดน้ำสีเหลืองยวนตา ดูรวม ๆ แล้วช่างดูแปลกตาโดดเด่นเย้ายวนชวนลุ่มหลงมิเหมือนสตรีทั่วไปที่มองแลพบได้ตามท้องถนน

“นายหญิง” ซูเซียงที่กำลังต้อนรับบรรดาแขกเหรื่อเมื่อหันมาเห็นผู้เป็นนายมาก็รีบปลีกตัวออกมาเอ่ยต้อนรับในทันที

“ซูเซียง เรียบร้อยดีรึไม่” ฟางเฟยกวาดสายตามองโดยรอบหอบุปผชาติของตนก็นึกชื่นใจที่ร้านนั้นคึกคักตั้งแต่เช้า ถือว่าในเรื่องร้าย ๆ ก็ย่อมมีเรื่องดีอยู่บ้าง พลันความคิดก็หวนกลับไปถึงค่ำคืนที่ผ่านมาระหว่างหนานอ๋องกับตน ทำให้ฟางเฟยต้องรีบสะบัดศีรษะไปมาช้า ๆ กับความคิดไร้สาระ ก่อนจะสาวเท้าก้าวเดินเข้าไปในร้านเพื่อตรวจดูบัญชีเสียหน่อย แต่ยังเดินมิได้ถึงครึ่งก้าวกลับถูกเหล่าทหารมากมายกรูเข้ามายืนขวางหน้านางไว้เสียแล้ว ทำให้นางพลันชะงักพร้อมทั้งขมวดคิ้วมุ่นอย่างนึกสงสัยเหตุการณ์ไม่ปกติที่กำลังจะเกิดขึ้น

“ค้นให้ทั่ว!” เสียงเข้มของทหารฉกรรจ์รูปร่างปราดเปรียวเข้ามายืนขวางหน้าฟางเฟย ใบหน้าเรียบนิ่งแลดูดุดันจนมองแล้วทำให้ดูน่าหวาดหวั่นยิ่ง การที่ทหารมาล้อมหอบุปผชาติขึ้นชื่อแห่งนี้นั้นแม้เป็นยามเช้าตรู่แต่ก็ทำให้เป็นที่สนใจของผู้คนในระแวกนั้นเป็นอย่างมาก ผู้คนมากมายต่างรุมกรูกันเข้ามามุงดูเหตุการณ์จนกลับกลายเป็นเบียดแน่นพร้อมทั้งเสียงพูดคุยถามถึงที่ไปที่มาของเรื่องราวกันจนอื้ออึงดังไปทั่วทั้งตรอกถนน

“คุณหนู!/นายหญิง!” ซูหนิวและซูเซียงรีบดึงแขนผู้เป็นนายเข้ามากอดแน่นอย่างตกใจ

“นี่เรื่องอะไรกัน! ซูหนิว ซูเซียงไม่ต้องกลัว” ฟางเฟยแม้ตกใจในคราแรกแต่สัญชาตญาณทำให้นางกันบ่าวรับใช้และคนของตนให้อยู่ด้านหลัง เหตุใดทหารพวกนี้ถึงได้มาปิดล้อมหอเยว่เซียนของตนแต่เช้าตรู่กันนะ รึมีเรื่องอันใดเช่นนั้นหรือ! คนร้ายรึ!

“ก็มาจับคนร้ายนะสิ!” เสียงทุ้มเข้มดุดันคุ้นหูดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงนั้นจะปรากฏตัวขึ้น เพียงได้ยินเสียงฟางเฟยก็รับรู้ได้เป็นอย่างดีว่าคือผู้ใด นางจึงเงยหน้าขึ้นมองให้เต็มตาก็เห็นว่าหนานจวิ้นอ๋องกำลังเดินตรงเข้ามาหานางด้วยท่วงท่านิ่งสงบ ใบหน้าเรียบตึงหากแต่รอบตัวนั้นกลับแฝงด้วยกลิ่นอายความสูงศักดิ์อยู่ในที

“หนานจวิ้นอ๋อง!” ฟางเฟยหลุดอุทานออกมา สีหน้านางนั้นดูงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่มิน้อย จับคนร้าย! ในหอเยว่เซียนของนางงั้นหรือ คนร้ายที่ไหนกัน

“หึ!” เจิ้งหนานเมื่อแลเห็นสีหน้าตกใจของนางก็ยิ้มเหยียด ก่อนที่สายตาคมจะมองเห็นการแต่งกายของนาง และทันทีที่แลเห็นฉับพลันคิ้วเข้มก็เกิดกระตุกในทันที กรามแกร่งกัดแน่นจนมือใหญ่เผลอคว้าเอาข้อมือบางของนางฉุดรั้งให้เข้าไปด้านในหอเยว่เซียนด้วยกันอย่างรวดเร็ว

‘แต่งตัวบ้าอะไรของนางกัน!’ เจิ้งหนานสบถในใจอย่างหงุดหงิด ให้ตายเถอะนางจะเปิดเผยเนื้อหนังให้ผู้อื่นเชยชมเช่นนั้นหรือ เป็นสตรีเช่นไรช่างไม่รู้จักความอายเลยเสียจริง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พระองค์ไร้ใจ ใยข้าต้องทน   ตอนที่ 48 ไร้เยื่อยังเหลือใย [2]

    “คุณหนูวันนี้มีความคืบหน้าแล้วเจ้าค่ะ” ซูหนิวที่กลับจากสืบข่าวจากจวนหนานจวิ้นอ๋อง ระหว่างทางได้พบเจอกับบุรุษจากสำนักเฉียนหลัวที่คุณหนูว่าจ้างในราคาแสนแพงให้ตามสืบคดีของท่านเสนาบดีอยู่นางจึงได้กลับมาพร้อมกัน แต่นึกไม่ถึงว่าระหว่างทางนั้นนางจะพบเจอกับคนที่นางรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดีเข้า“จริงหรือ ดีจริง ๆ เลย เช่นนั้นเชิญท่านเสวียนซื่อทางนี้เถิดเจ้าค่ะ” ทั้งสามเดินเข้าไปยังห้องลับหลังประตูกลที่มีเพียงฟางเฟยและคนสนิทเช่นซูหนิวเท่านั้นที่รู้ว่ามีมันอยู่ ซึ่งเป็นเช่นนั้นเพราะฟางเฟยสร้างขึ้นมาภายหลังเพื่อไว้เป็นที่ทำการสืบคดีของผู้เป็นบิดา ในเมื่อไปร้องทางการไม่ได้ผลนางจึงต้องลำบากลงแรงเองภายในห้องที่แสงสว่างมีเพียงเปลวเทียนฟางเฟยนั่งฟังนักสืบที่ตนเองว่าจ้างด้วยราคาแสนแพงอย่างตั้งใจใบหน้านั้นเผยแววเคร่งเครียดแลจริงจัง“แม่นางเว่ยหลายเดือนมานี้ข้าได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดและพยานที่ทำงานอยู่รอบ ๆ บิดาของท่านจนบัดนี้สืบได้แน่ชัดแล้วว่าหยกอวิ๋นหลงปี้มีความเป็นไปได้ยิ่งที่จะอยู่ในการครอบครองของผู้ใด” “ผู้ใดกัน” ฟางเฟยเมื่อได้ฟังก็ถึงกับเก็บอาการดีใจไม่อยู่ นางเผลอเอื้อมมือไปจับมือใหญ่สากของนักสื

  • พระองค์ไร้ใจ ใยข้าต้องทน   ตอนที่ 47 ไร้เยื่อยังเหลือใย [1]

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าที่มักอบอวลด้วยกลิ่นกำยานหอมจากแก่นไม้จันทร์แลดอกไม้หอมอยู่เสมอ บัดนี้กลับอบอวลไปด้วยกลิ่นยาสมุนไพรจาง ๆ คลุ้งตลบไปทั่วทั่งบริเวณห้องกว้าง“ท่านฉี ท่านอ๋องพระองค์เป็นเช่นไรบ้าง” หลังหมอหลวงถวายการรักษาเสร็จเรียบร้อยเสี่ยวกงกงก็รีบเข้าประชิดเพื่อถามอาการผู้เป็นนายด้วยใบหน้าฉายแววกังวลแลเคร่งเครียดในใจเกิดกระวนกระวายจนเหงื่อผุดซึมออกมา‘คุณหนูเว่ยมิยอมมาท่านอ๋องมิยอมให้สตรีใดปรนนิบัติ’ แล้วหากต้องใช้วิธีเดิมเฉกเช่นครานั้นแล้วข้า ข้าจะทำเช่นไรกันเล่านี่ โธ่สวรรค์กลั่นแกล้งข้าน้อยเกินไปรึไม่’“อาการท่านอ๋องยังนับว่ามิร้ายแรงเท่าครานั้น แต่พิษแน่นอนว่าเป็นชนิดเดียวกันแต่พระองค์คงเสวยไปมิมากกระมังฤทธิ์ถึงได้เจือจางอยู่มาก”“อีกแล้วรึ! ผู้ใดช่างอาจหาญนัก แล้วเอ่อ...ต้องใช้วิธีเดิมรึไม่ ถ้าหากว่าเอ่อ...ถ้าหากมีวิธีอื่นท่านฉีเองก็ลองดูเถิด พระองค์นั้นมิยอมให้สตรีนางใดเข้าใกล้จนข้าก็จนปัญญาแล้วจริง ๆ” เสี่ยวกงกงเอ่ยด้วยสีหน้าและแววตาแบ่งรับแบ่งสู้หมอหลวงฉีนักขำขันกับท่าทางกังวลจนน่าสงสารของขันทีใหญ่แห่งจวนหนานอ๋อง จึงส่ายหน้าพร้อมทั้งอมยิ้มมุมปากน้อย ๆ บัดนี้เขาได้จัดการ

  • พระองค์ไร้ใจ ใยข้าต้องทน   ตอนที่ 46 ตามตัว [2]

    “เสี่ยวกงก! เจ้ารู้ความผิดตนเองรึไม่”“ระรู้พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องบ่าวผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ที่ทำไปนั้นล้วนหวังดีต่อพระองค์ท่านอ๋องโปรดอภัย ชะเช่นนั้นหากพระองค์มิต้องการก็คงมีทางเดียวที่พอบรรเทาอาการได้กระมัง” เสี่ยวกงกงเมื่อนึกหาหนทางได้ก็เร่งลนลานออกไปเรียกหานางกำนัลให้เตรียมน้ำเย็นอีกทั้งน้ำแข็งมาส่งที่ตำหนักในทันทีร่างกายองอาจขาวเนียนประดุงดั่งหยกมันแพะนั่งหลับตานิ่งแช่เรือนกายดั่งหยกล้ำค่าในอ่างอาบน้ำใหญ่ น้ำเย็นจัดที่โอบอุ้มเรือนกายช่วยดับทุเลาพิษในกายได้มากเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นก็ช่างยากลำบากนักในความรู้สึกของเจิ้งหนาน‘เว่ยฟางเฟย! ช่างเง้างอนข้าได้ถูกเวลายิ่งนักนะ หึ!’ ดูเถิดเวลานี้เขาต้องการนางแทบตายแต่นางกลับมิรู้จักกลับบ้าน เพียงตำหนิไปสองสามประโยคถึงกลับเอ่ยปากจะย้ายออกจากจวนใหญ่ รึเป็นเพราะข้าตามใจนางมากไปกระมังถึงได้ใจกล้าทำกำเริบเช่นนี้กับข้า รึเพราะข้าแสดงออกว่าโปรดปรานเรื่องนั้นกับนางมากไปนางถึงได้สำคัญตัว ในเมื่อนางอยากย้ายออกนักข้าก็จะให้นางสมหวังอยากรู้นักนางจะอยู่ได้สักกี่วันกันเชียว หึ! ช่างเป็นสตรีที่นับว่าดื้อดึงยิ่งนักเหตุการณ์ภายในสงบดีแล้วเสี่ยวกงกงก็ปลีกตัวออก

  • พระองค์ไร้ใจ ใยข้าต้องทน   ตอนที่ 45 ตามตัว [1]

    เจิ้งหนานเวลานี้นอนกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียงใหญ่ เขาพยายามประคองสติที่เหลือเพียงครึ่งเพื่อรอคนผู้หนึ่ง เมื่อร่างกายแม้แข็งแรงกำยำเพียงคราต้องพิษปลุกกำหนักเข้าไปเช่นนี้มีหรือจะสามารถทานทนได้“บัดซบ! ผู้ใดที่บังอาจเช่นนี้” เจิ้งหานทุรนทุรายกร่นด่าในใจ แต่ที่แน่ ๆ ครานี้มิใช่กาฝากแสนหวานอย่างเว่ยฟางเฟยเพราะนางและเขาพึ่งมีปากเสียงกันมา และหากใช่นางป่านนี้เขาคงกำลังเข็ญเขี่ยวกับร่างกายของนางอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่แล้วกระมัง หึ! สตรีรูปร่างบอบบางเหตุไฉนเลยถึงปรนนิบัติเขาได้ทุกท่วงท่าอีกทั้งตั้งหลายคราในหนึ่งค่ำคืนจนเจิ้งหนานเองยังรู้สึกนับถือนางในใจ ยามค่ำคืนกอดก่ายร่วมคืนสวสันต์กับเขา ครั้นถึงบ่ายคล้อยนางลุกขึ้นแต่งกายไปดูแลกิจการได้“อ่า! นางมันปีศาจชัด ๆ สะเสี่ยวกงกง” เพียงแค่นึกถึงนางร่างกายเขาถึงกับร่ำ ๆ ทรยศ แท่งหยกร้อนกลางกายตั้งชูผงาดขึ้นอย่างน่าอายนัก จนคราแรกเจิ้งหนานไม่คิดจะง้องอนนางบัดนี้ต้องคิดเสียใหม่ในระหว่างที่เจิ้งหนานนอนทรมานอดทนอย่างอดกลั้นอยู่บนเตียงใหญ่พลันคิ้วเข้มขมวดหากแต่ยังมิยอมลืมตาเมื่อรู้สึกถึงมือนุ่ม ๆ กำลังลากไล้ไปมาบนอกแกร่งของตน พลันทำให้เขากระตุกยิ้มทั้งเ

  • พระองค์ไร้ใจ ใยข้าต้องทน   ตอนที่ 44 ข้าเพียงสั่งสอน [2]

    “เสี่ยวกงกง…”“พ่ะย่ะค่ะ” เสี่ยวกงกงเห็นผู้เป็นนายที่หลับตานิ่งในคราแรกเอ่ยเรียก ใบหน้าก็พลันแต้มประดับรอยยิ้มดีใจอีกทั้งถอนหายใจหนัก ๆ อย่างนึกโล่งอก เขาเองเป็นเช่นไรก็เป็นเพียงบ่าวแม้จะพยายามรักษากฏทำเนียมที่ผู้เป็นนายพึงระวังแต่หากนั่นเป็นความต้องการของพระองค์เขาเองก็ย่อมมิอาจขัดพระประสงคค์นั้นได้“ส่งท่านหญิงกลับเถิด นี่ก็นับว่ามืดค่ำแล้วข้าเองก็ง่วงเต็มที!” เจิ้งหนานข่มอารมณ์เอ่ยสั่งด้วยเสียงไม่มั่นคงเท่าใดนัก แม้ร่างกายร้อนรุ่มดุจดั่งเพลิงเผาแต่ในใจเขากลับค้นพบเรื่องประหลาดมิน่าเชื่อ ตลอดทางการนั่งรถม้ากลับจวนซ่างกวนอี้เหยานั้นนางฉวยโอกาสที่เขานั้นถือครองสติเพียงครึ่งอาจหาญแตะต้องร่างกายของเขา เช่นไรนางก็สตรีอีกทั้งรูปร่างหน้าตาก็มิได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด แต่เหตุใดในใจเขานึกรังเกียจก็มิอาจรู้ได้“ท่านอ๋อง! ไม่นะเพคะเหตุใดเป็นเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าพระองค์...” อี้เหยาตกตะลึงนี่แผนการของนางล้มเหลวเป็นคราที่สองเฉกเช่นนั้นหรือ ใบหน้างามฉายแววขัดใจบูดบึ้ง ก่อนจะจำต้องลุกจากไปตามคำเชื้อเชิญของขันทีใหญ่ไปด้วยอาการฟึดฟัดมิน่ามอง“เชิญท่านหญิง” เสี่ยวกงกงเผยรอยยิ้มกว้างก่อนจะผายมือเปิดท

  • พระองค์ไร้ใจ ใยข้าต้องทน   ตอนที่ 43 ข้าเพียงสั่งสอน [1]

    เจิ้งหนานที่อารมณ์กำลังคุกกรุ่นกับฟางเฟยที่จู่ ๆ จากเคยว่าง่ายกับดื้นรั้นขึ้นมาก็เดินกลับมาหาคู่หมั้นของตนที่นางยังคงนั่งรออยู่ที่เดิม ร่างสูงเดินกลับมานั่งลงด้วยท่าทีนิ่งเงียบใบหน้าราบเรียบเคร่งขรึมอีกทั้งยังมิยอมเอื้อนเอ่ยสิ่งใดเอาแต่ยกสุราขึ้นดื่มหลายจอกติดจนอี้เหยาที่พอคาดเดาสถานการณ์ออกก็ลอบยิ้มอย่างโล่งใจที่สามารถกำจัดศัตรูหัวใจได้สำเร็จ ครานั้นนางพลาดจนเปิดโอกาสให้สตรีอื่นได้ครอบครองหนานจวิ้นอ๋อง ครานี้นางจะมิยอมพลาดให้สตรีอื่นใดได้เข้ามาเป็นคราที่สองแน่“ท่านอ๋องพระองค์เหตุใดถึงได้ดื่มมากเช่นนี้เล่าเพคะ” อี้เหยาเอ่ยชิดใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะส่งสัญญาณให้อวี้หลางองครักษ์มาช่วยนางประคองหนานเจิ้งอ๋องที่บัดนี้เมามายเสียสิ้นท่าขึ้นเพื่อกลับจวน“ท่านพี่ ข้าเป็นห่วงท่านอ๋อง” อี้เหยาหันมาแสร้งเอ่ย“อืม เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถอะ” อวี้เหวินเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ หากแต่ในใจนั้นกลับลิงโลดที่พอคาดเดาสถานการณ์ระหว่างหนานอ๋องกับสตรีที่ตนพึงใจออกอวี้หลางที่รู้สึกถึงสถานการณ์ไม่ชอบมาพากลก็คอยลอบสำรวจซ่างกวนอี้เหยาอย่างมิวางตา ผู้เป็นนายตนนั้นตนย่อมรู้ดี ท่านอ๋องฉายาในกองทัพคือดื่มพันจอก แล้วเหตุใดเพียงส

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status