Home / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 18 เขาไม่ต้องตามหาภรรยาอีกแล้ว

Share

บทที่ 18 เขาไม่ต้องตามหาภรรยาอีกแล้ว

Author: พะเนินเทินทึก
วันถัดมา

เบียงก้าออกจากบ้านตอนแปดโมงเช้า

เธอภูมิใจเหลือเกินที่ห้องเช่าราคาถูกนี้อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะด้วยรถไฟใต้ดิน เธอใช้เวลาแค่เพียงยี่สิบนาทีก็เป็นอันถึง

เมื่อเธอเดินพ้นตัวอาคารออกมา เบียงก้าจำต้องยกมือขึ้นป้องที่ใบหน้าของตัวเองเพื่อให้พ้นจากแสงแดดอันแรงกล้า

เธอแทบไม่ได้หลับได้นอนตลอดทั้งคืน ดวงตาของเธอจึงเหนื่อยล้ามากในตอนที่ลุกจากเตียง

เพียงแค่แสงแดดก็มากพอจะทำให้ตาของเธอระคายเคืองได้แล้ว

เมื่อคืนเบียงก้าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อตอบคำถามที่ว่าทำไมท่านประธานต้องให้ของขวัญอะไรเธอมากมายขนาดนี้?

เรื่องการดูแลถึงบ้าน หรือแม้แต่เรื่องสุขภาพนั่นคงจะเป็นสิ่งที่เขามอบให้แทนคำขอบคุณ เพราะเธอช่วยดูแลลูก ๆให้เขาอย่างนั้นใช่รึเปล่า?”

เรื่องดอกไม้นำเข้านั่น อาจจะเป็นเพราะว่าเขาแค่อยากจะปลอบใจเธอที่ป่วยอย่างนั้นหรือ?

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ดูเป็นมิตรเอาเสียเลย

เธอยังงงรู้สึกมึนงงกับของขวัญสองกล่องเมื่อคืนไม่หาย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความฟุ่มเฟือยของเขา หรือแม้แต่ของขวัญที่เขาส่งให้เธอเมื่อคืน ทั้งหมดนั่นสร้างความไม่สบายใจให้เบียงก้าอย่างมาก

ลุค ครอว์ฟอร์ดเป็นคนแบบไหนกัน? เขาเป็นคนอย่างไรกันแน่?!

ในอดีต เขาเป็นประธานเพียงคนเดียวของบริษัทในเครือ ที กรุ๊ป เขาไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนอย่างนักธุรกิจโจเสียหน่อย ในความเป็นจริงแล้ว เขาคือราชาแห่งวงการธุรกิจ ที่สำคัญที่สุดก็คือ แม้ว่าเขาจะกลายเป็นชายธรรมดาที่เดินอยู่ข้างทาง เขาก็ยังเหนือกว่าผู้ชายคนอื่นมากนัก เขามีร่างกายที่น่าอิจฉา ไหนจะหน้าตาอันหล่อเหลานั่นอีก ถ้าจะพูดว่าเขาคือชายหนุ่มที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันใฝ่ฝันถึงก็ดูจะไม่เกินจริงนัก

ในทางกลับกัน เบียงก้าไม่มีอะไรสักอย่าง

ถ้าจะนับว่าเธอมีอะไรอยู่บ้าง เธอก็มีอยู่เพียงสองสิ่งเท่านั้น หนึ่งคือเธอมีความเป็นผู้หญิง และสอง เธอยังมีชีวิต

กริยาของลุคทำให้เบียงก้าผุดความคิดแปลก ๆ ขึ้นมาในหัว ทว่ามันไร้สาระมากจนเบียงก้าคิดว่าเธอคงประเมินตัวเองสูงเกินไปหน่อย

หากว่าเขาต้องการจะหาภรรยาลับ ๆ สักคน เขาก็คงจะหาผู้หญิงแบบที่เขาชอบได้ไม่ใช่หรือ?

แล้วเขาจะต้องการผู้หญิงบ้าน ๆ แบบเธอไปทำไม?

นั่นมันไร้สาระจริง ๆ

ด้านนอกของย่านที่พัก

เบียงก้ากำลังจะเดินข้ามถนนตามปกติ แต่เมื่อเธอกำลังมองดูรถเพื่อที่จะข้ามถนน เธอก็เห็นว่าพนักงานทำความสะอาดที่ดูมีอายุ ซึ่งสวมเสื้อกั๊กสีเหลืองกำลังนำขยะออกจากถัง

ชายชราคนนั้นหยิบกล่องที่หนึ่งออกมา

ตามด้วยกล่องอีกใบ

กล่องใบแรกสีฟ้า ในขณะที่อีกใบสีขาว

นั่นคงเป็นกล่องที่เด็กน้อยลานี่นำมาให้เมื่อคืนใช่ไหม?

ชายชราก้มลงไปแล้วเปิดกล่องออกมา

หลังจากนั้นหญิงสาวที่แต่งตัวทันสมัยก็เดินออกมาจากระแวกนั้น

“คุณลุง คุณเป็นคนเจอมันเหรอคะ?” หนึ่งในสองสาวที่ดูอายุราวยี่สิบกลาง ๆ รีบเดินเข้าไปหาชายชราคนนั้นแล้วเอ่ยปากถาม

สำหรับชายชราแล้ว เสื้อผ้าพวกนี้ไม่ได้มีค่าอะไรนัก เพราะแม้แต่ภรรยาของเขาก็คงใส่มันไม่ได้ด้วยซ้ำไป

รถคนหนึ่งแล่นผ่านเบียงก้าไป

เมื่อเธอมองไปยังถังขยะใบนั้น เธอก็ได้เห็นว่าสองสาวได้ทำการตกลงกับชายชราว่าเธอต้องการที่จะซื้อของที่เขาหาเจอ

“นี่สองร้อยเหรียญค่ะ คุณลุงได้โปรดรับเอาไว้”

เมื่อพวกเขาจ่ายเงินให้ชายคนนั้นไปแล้ว ทั้งคู่ก็กระโจนเข้าใส่กล่องที่ชายชราคนนั้นถืออยู่ทันที

“เดี๋ยวก่อนค่ะ” เบียงก้าเดินเข้าไปหาพวกเขาแล้วมองไปที่กล่อง เธอกล่าวกับชายชรา “ฉันต้องการเสื้อผ้าชุดนี้ แล้วก็กล่องสีฟ้าด้วย ฉันจะจ่ายให้หนึ่งหมื่นเหรียญเลยค่ะ”

ผู้หญิงสองคนนั้นมองเบียงก้าด้วยความไม่พอใจ

ยายจอมยุ่งนี่มาจากไหนกัน?

เบียงก้าไม่ได้รู้สึกว่าการถูกมองด้วยสายตาเช่นนั้นจะผิดอะไร เพราะเป็นเธอเองที่เข้ามาด้วยเจตนาที่ไม่ดีนัก

ของพวกนี้ไม่ใช่ของของเธออีกแล้ว เพราะเธอปฏิเสธของขวัญของลุคไปแล้ว เพราะอย่างนั้นตอนนี้พวกมันจึงกลายเป็นของชายชราคนนี้แทน

ชุดจากราล์ฟ ลอว์เรนเป็นเสื้อผ้าชั้นสูงที่ผู้หญิงวัยทำงานใฝ่หา เพราะแม้แต่ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงต่างก็สวมชุดพวกนี้เพื่อออกงานสังคมทั่วไป

เข็มกลัดทฟฟานี่มีค่ามากกว่านั้น

ข้าวของพวกนี้มีมูลค่าอย่างน้อย หนึ่งแสนห้าหมื่นกว่าเหรียญ แต่หญิงทั้งสองต้องการจะได้มันในราคาสองร้อยอย่างนั้นเหรอ?

พวกเธอโลภจนเกินไป...

“หนึ่ง… หนึ่งหมื่นรึ?” ชายชรายังคงอึ้ง

เบียงก้าพยักหน้าด้วยความจริงใจสุด ๆ

“คุณลุง ถ้าอย่างนั้นฉันให้หมื่นห้าเลยค่ะ!” ผู้หญิงที่จ่ายเงินไปก่อนแล้วมองเบี้ยงก้า ก่อนจะก้มลงมองหาบัตรกดเงินของธนาคาร เธอตั้งใจว่าจะหาที่กดเงินใกล้ ๆ นี้

ชายชราคนนี้คงไม่มีแอปโอนเงินอย่างเอลี่เพย์หรืออะไรพวกนั้นหรอก

“สองหมื่น” ชายชราทำหน้าตาไม่อยากจะเชื่อ เบียงก้าจึงย้ำอีกครั้ง “ฉันจะให้คุณสองหมื่นค่ะ”

“ฉันรู้ว่าฉันแก่แล้ว เพราะอย่างนั้น อย่ามาหลอกฉันเลยนะ”

“หรือว่านี่จะเป็นของปลอม?” หนึ่งของสองสาวเอ่ยปากเตือนเพื่อนของเธอ “พวกเขาอาจจะเป็นนักต้มตุ๋นที่ร่วมมือกันหลอกเราก็ได้ คิดดูสิ! ใครจะเจอของหรู ๆ พวกนี้แถวหน้าประตูทางเข้าย่านเล็ก ๆ นี่ล่ะ?”

หญิงสาวที่ถือบัตรกดเงินอยู่ในมือฉุกคิดขึ้นได้แล้วถอยออกไป เธอกลัวว่าตัวเองจะถูกหลอก

“จริงด้วย ฉันเกือบจะถูกมิจฉาชีพหลอกเอาซะแล้วสิ! มันต้องเป็นของปลอมแน่ ๆ!”

ชายชรารู้สึกโกรธเมื่อรู้ตัวว่าโดนกล่าวหา “เธอว่าใครเป็นมิจฉาชีพน่ะหา?! พวกเธอสามคนต่างหากที่เป็นพวกต้มตุ๋น พวกเธอร่วมมือกันหวังจะหลอกเอาเงินของฉันน่ะสิ!”

...

ยี่สิบนาทีต่อมา เบียงก้าพาชายชราคนนี้ไปที่ร้านค้าสุดหรู

เพราะยังคงมีเข็มกลัดและใบเสร็จที่ครบถ้วน เธอจึงเปลี่ยนของเหล่านั้นเป็นเงินได้โดยง่าย

เบียงก้าจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง

ชายชราคนนี้ยังไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่สบายใจเอาเสียเลยเมื่อเงินถูกวางใส่มือของเขา “ฉัน...ฉัน…”

“ฉันไม่ใช่มิจฉาชีพค่ะ มันเป็นของคุณเพราะคุณเป็นคนเจอของพวกนี้” เบียงก้าปฏิเสธข้าวของพวกนี้ไปแล้วเมื่อคืน เพราะเหตุนั้นในตอนนี้ก็จะไม่สนใจมันเช่นเดียวกัน

มันเป็นของที่ยังใหม่กริบ แถมยังมีใบเสร็จครบถ้วน ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่คืนเป็นเงินให้เธอ

“ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้?” ชายชรากอดถุงเงินทั้งน้ำตาแห่งความดีใจและกังวล “นี่มันเท่ากับค่าผ่าตัดและค่ายาตลอดห้าปีของฉันเลยนะ จะไม่มีใครมาทวงมันคืนใช่ไหม?”

เบียงก้ารับรองกับชายชราว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่นอน เบียงก้ายังเหลือบไปเห็นว่าขาของชายชรานั้นดูไม่ค่อยจะดีนัก

...

เบียงก้ามาถึงที่ทำงานราวสิบโมงครึ่ง

จากการพูดคุยกับชายชราของเบียงก้า เธอจึงได้รู้ว่าเขาอาศัยอยู่เพียงลำพังภรรยา ไม่มีลูกหลาน ในปีแรกที่เขาเริ่มทำงานทำความสะอาด ขาของเขาก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกพวกมือใหม่ขับขับรถชนเข้า

คนร้ายหนีไปและไม่เคยมีใครหาเขาเจออีกเลยจนถึงปัจจุบัน

ชายชราตรากตรำหาเงินค่าผ่าตัดและค่ายาด้วยตัวเอง เขายังบอกด้วยว่าเขาต้องการจะตายไปเสียเพื่อให้ปัญหาทุกอย่างสิ้นสุดลง แต่เพราะเขาไม่อาจจะทิ้งภรรยาไว้เพียงลำพังได้

เบียงก้ารู้สึกขอบคุณลุค ครอว์ฟอร์ดขึ้นมาทันที

มหาเศรษฐีคงไม่สนใจเศษเงินแค่ไม่กี่หมื่น แต่กับชายชราผู้ยากจนคนนี้ เงินนั้นเปลี่ยนชีวิตเขาได้อย่างสิ้นเชิง

นั่นหมายความว่าลุคได้ทำความดีแบบอ้อม ๆ

เบียงก้าสายแล้วในตอนนี้ โดยไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่าวันนี้เป็นวันเสาร์

เมื่อเธอมาถึงบริษัท เธอก็แทบจะไม่เห็นใครอยู่ที่นี่เลย นอกจากพวกที่งานล้นมือจนต้องมาทำงานล่วงเวลา เธอถึงตระหนักได้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดนั้นเอง…

ในวันเสาร์นั้น สองพ่อลูกเผชิญหน้ากัน

ลุคนั่งอยู่ในรถแลนด์โรเวอร์นำเข้าสีดำ เขาสวมเสื้อเชิ๊ตสีดำ สีหน้าของเขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก ในตอนที่เขาเอ่ยปากถามลูกชายที่อยู่นอกรถ “ลูกแน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปกับพ่อ”

“ไม่ พ่อทำให้ผมผิดหวังมากครับ!”

ลานี่กระชับสายกระเป๋าด้วยมืออวบอ้วนทั้งสองข้าง ใบหน้ามุ่ยเงยมองพ่อที่นั่งอยู่ในรถ แก้มของลานี่ป่องขึ้น “ผมอยากจะพูดถึงข้อดีของพ่อสักข้อสองข้อ เผื่อเบียงก้าจะชอบพ่อขึ้นมาบ้าง แต่ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เพราะพ่อไม่มีข้อดีอะไรสักอย่าง! พ่อเจ้าอารมณ์ แถมยังไม่อ่อนโยนอีกด้วย ดูสิ พ่อมีแต่ข้อเสียทั้งนั้น”

ลุคขมวดคิ้ว เขาเริ่มคิดว่าลูกชายคงมีอะไรบางอย่างในใจ

เมื่ออยู๋ต่อหน้าความตื่นตกใจของพ่อตน เด็กชายยังกล่าวต่อว่า “พ่อคงจะไม่ได้กำลังหาแม่ใหม่ให้...”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status