“ถ้าอย่างนั้นให้เธอไปทำงานที่โรงพยาบาลผมก็ได้ครับ” เขาเสนอขึ้นแล้วหันไปพูดกับธาริกาโดยตรง ต้องการให้แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่เธอต้องการจริง ๆ “ถ้าเธอสนใจ เราสามารถเริ่มต้นด้วยตำแหน่งทดลองงานก่อนได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย แสตมป์ว่าไงลูก โรงพยาบาลของหมอไนล์ก็ไม่ไกลจากบ้านด้วย” มารินีหันไปถามลูกสาว
“ขอบคุณมากนะคะ”
จักรินทร์จับตามองที่ธาริกา และเขาสามารถบอกได้จากสีหน้าของเธอว่า เธอพูดจริง แม้จะอยู่ในสถานการณ์มัดมือชกแบบนี้ก็ตาม บางทีเธออาจกำลังอยากห่างจากพ่อแม่ของเธอ
“งั้นก็ตกลงแล้วนะ” บวรพจน์ยืนยันกับเพื่อนรุ่นน้อง
“ครับ” จักรินทร์รับคำ แล้วหันมาคุยกับหญิงสาวต่อ “มาที่โรงพยาบาลพรุ่งนี้เลย แล้วเราจะจัดการเรื่องเอกสารกัน”
จากนั้นเขาจะได้รู้ว่าเธอจริงจังกับเรื่องนี้แค่ไหน เขาไม่อยากเสนองานที่โรงพยาบาลของเขาแก่ใครก็ได้ แม้ว่าเธอจะสวยหยาดเยิ้มแค่ไหนก็ตาม เขาใส่ใจลูกค้าและประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับ ตั้งแต่พนักงานต้อนรับไปจนถึงการดูแลของแพทย์แต่ละคน
แม้ว่าเขาจะไม่จริงจังกับหลายสิ่งหลายอย่าง แต่เขาจริงจังกับงานของเขาอย่างมาก
“ขอบใจนายมากหมอไนล์” บวรพจน์เอ่ย ยิ้มพอใจ ดึงลูกสาวมาโอบไว้ข้างตัว “เราอยากเห็นเธอประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน”
“พ่อแม่ทุกคนก็เป็นแบบนี้แหละครับ”
จักรินทร์เอ่ยขอตัว แล้วหันหลังจากพวกเขา เขาอยากทำความรู้จักกับธาริกาให้มากกว่านี้ แต่ไม่ใช่ตอนที่เธออยู่กับพ่อแม่ของเธอ ถ้าเขาจะเล่นกับเธอ มันต้องเป็นตอนที่เธออยู่คนเดียว และก่อนที่เธอจะกลายเป็นลูกจ้างของเขา
**********
สายตาคมกวาดมองภายในงานเลี้ยง พยายามมองหาคนอื่น ๆ ที่อาจดึงดูดความสนใจของเขาได้ แต่แม้จะดื่มไปหลายแก้วแล้วก็ตาม ดูเหมือนว่าในตอนนี้ สมองของเขายังคงจดจ่ออยู่ที่ธาริกาเท่านั้น
ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องแย่เสียทีเดียว เพราะอีกไม่นานเธอก็จะอยู่ในระยะที่เขาสามารถเข้าถึงได้ เขาคิดว่าการทำงานร่วมกับเธอเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็น่าจะทำให้เขาเบื่อกับความสวยงามและใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเธอได้
สิ่งเหล่านั้นสามารถดึงดูดเขาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น และเขาก็สงสัยว่าเธอคงไม่มีอะไรที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น
มีผู้หญิงหลายคนพยายามเข้ามาหาเขา แต่เขาก็ปฏิเสธพวกเธอไปทีละคน พวกหล่อนไม่น่าสนใจพอที่จะดึงความสนใจของเขาได้ และหลังจากความสัมพันธ์ครั้งล่าสุดที่จบลงอย่างย่ำแย่ เขาก็ต้องการอะไรสนุก ๆ บ้าง
เมื่อเริ่มเหนื่อยล้าจากผู้คน เขาจึงขอปลีกตัวออกไป พร้อมกับถือแก้วไวน์อีกใบติดมือไปด้วย
ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้มีพื้นที่กว้างขวางให้เขาได้เดินสำรวจ และมีทางเดินมากมายให้เขาได้หลบหนีหากจำเป็น
ไม่ใช่ว่าเขาเกลียดการเข้าสังคม แต่บางครั้งเขาก็ต้องการเวลาสักพักเพื่อกลับมาเป็นตัวเองได้เต็มที่ โดยเฉพาะเมื่อมีบางสิ่งบางอย่างค้างคาใจอยู่
ขณะที่กำลังเดินผ่านห้องแสดงภาพวาดบนชั้นสอง เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งผิดปกติ
ที่นั่น ธาริกากำลังยืนอยู่อย่างสบายใจราวกับเป็นเจ้าของบ้าน เธอกำลังพิจารณาภาพวาดเก่า ๆ บนผนังอย่างละเอียด เหมือนกับว่ามันมีเบาะแสลับบางอย่างซ่อนอยู่
“คุณมักจะชอบลอบเข้ามาสำรวจบ้านคนอื่นแบบนี้เป็นประจำหรือเปล่า” ร่างสูงเดินไปหยุด ยืนพิงผนังข้าง ๆ หญิงสาว ใกล้จนแทบจะชิด
“อุ๊ย!” ธาริกาสะดุ้ง กะพริบตาสองสามครั้ง จากนั้นก็กลับมาสงบสติอารมณ์ได้ “คุณมักจะชอบแอบเข้าหาแขกของคุณแบบหยาบคายแบบนี้เป็นประจำหรือเปล่าคะ”
“ถ้าจะมีใครหยาบคายที่นี่ ก็คงเป็นเธอ” เขาพูด พร้อมกับมองเธอจากหัวจรดเท้า คราวนี้เขาสามารถสังเกตเธอได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้นเพราะไม่มีสายตาของพ่อแม่เธอจับจ้องอยู่ “เธอแอบออกมาแบบบี้พ่อแม่เธอไม่ห่วงแย่เหรอ ดูเหมือนพวกเขาจะห่วงคุณมากนะ”
ธาริกาถอนหายใจ “พวกท่านดื่มไปสองสามแก้ว ตอนนี้กำลังคุยกับเพื่อนอยู่ ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะสังเกตว่าฉันหายไปสักพัก”
“อย่างนั้นเหรอ ถ้างั้นเราก็มีเวลาสักหน่อย”
จักรินทร์ก้าวเข้าไปใกล้เธออีกก้าวหนึ่ง และเธอก็ถอยหลังหนึ่งก้าว ปกติแล้วเขาคงไม่ทำอะไรเร็วขนาดนี้ แต่แอลกอฮอล์กำลังส่งผลต่อสมองของเขา
“คุณหมายความว่ายังไง”
ธาริกามองขึ้นมาที่เขาด้วยสายตาที่ไร้เดียงสา...มันทำให้เขาอยากกดเธอเข้ากับผนังและจุมพิตเธอจนเธอสลบ อยากจะลูบมือขึ้นไปตามต้นขาของเธอ ค่อย ๆ ดันชายกระโปรงขึ้นจนเธอต้องร้องขอให้เขาหยุดเพราะกลัวจะมีคนมาเห็น
“นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เธอมาที่นี่เหรอ” เขามองเธอด้วยความสงสัย
“ฉันไม่รู้ว่าคุณหมายความว่ายังไง แต่คงไม่ใช่” เธอพูด พร้อมกับทำหน้าสับสนยิ่งขึ้น
ในหลายเดือนต่อมา เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น บิดามารดาของธาริกาและจักรินทร์ต่างพยายามอย่างยิ่งที่จะปรับความเข้าใจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันส่วนทางญาติของจักรินทร์ก็แสดงไมตรี และกล่าวคำขอโทษต่อธาริกา สำหรับวิธีการที่พวกเขาเคยใช้จัดการปัญหาในอดีตจักรินทร์บอกกับพวกเขาว่า เขาไม่อยากจะรับฟังคำแก้ตัวใด ๆ อีก แต่ก็ยินยอมที่จะรับคำขอโทษนั้นไว้ แน่นอนว่าเรื่องราวไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น พวกญาติ ๆ ของเขายังคงติดต่อมาหาเขาอีกครั้ง พร้อมกับของขวัญเพื่อแสดงไมตรีจิต และธาริกาก็ช่วยเกลี้ยกล่อม ให้เขาพยายามประนีประนอมและคืนดีกับครอบครัวของเขาด้วยแม้ว่าทุกอย่างจะยังไม่ราบรื่นถึงขั้นนั้น แต่จักรินทร์ก็เริ่มเปิดใจพยายามแล้ว บางครั้งเขาจะยอมไปทานอาหารเย็นกับที่บ้าน หรือในบางครั้ง พวกเขาก็จะมาทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ของพวกเขาถึงแม้ว่าภายหลัง จักรินทร์จะบ่นให้ธาริกาฟังอยู่บ่อยครั้ง ถึงคำพูดเสียดสี หรือการดูถูกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ยังคงแฝงอยู
การคลอดลูกเป็นความเจ็บปวดที่สุดที่เธอเคยประสบมา มันใช้เวลาหลายชั่วโมง ซึ่งเธอรู้ว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เวลาดูเหมือนจะยืดยาวออกไปเรื่อย ๆ เธอเพียงแต่หวังว่าทุกอย่างจะจบลงเสียที เพื่อที่เธอจะได้อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนและหลับไปพร้อมกับจักรินทร์ที่อยู่ข้าง ๆเขาอยู่ที่นั่นตลอดเวลา คอยปลอบใจเธอให้ผ่านความเจ็บปวด ในขณะที่หมอแพรวาบอกให้เธอรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเบ่ง และอธิบายความคืบหน้าของการขยายตัวของปากมดลูกธาริกาไม่เคยรู้สึกใกล้ชิดกับจักรินทร์มากไปกว่านี้ มันรู้สึกเหมือนว่าเธอสามารถเชื่อได้อย่างลึก ๆ แล้วว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไป ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องชั่วคราวสำหรับเขาแม้ว่าเธอจะเจ็บปวด แต่เธอก็รู้สึกมีความสุขด้วยเอวากำลังรอเธออยู่กับเพื่อนของจักรินทร์ในห้องรอใกล้ ๆ เพื่อนสาวแวะเข้ามาดูเธอบ่อย ๆ แม้ว่าหมอแพรวาจะพยายามไล่เธอออกไป เพราะไม่อยากให้มีอะไรมารบกวนเธอมากเกินไปในที่สุด ปากมดลูกของเธอก็ขยายพอที่ลูกน้อยจะออกมาได้ เธอรู
จักรินทร์ได้โทรจองไว้ล่วงหน้าเพื่อให้พนักงานตกแต่งตามที่เขาต้องการ ด้วยดอกไม้และเทียนทุกที่ วงดนตรีกำลังเล่นเพลงรักเบา ๆ“ฉันรู้ว่ามันไม่มาก แต่ฉันอยากทำให้วันนี้พิเศษสำหรับเธอ”“นี่มันสุดยอดมากเลยค่ะ”“ฉันรู้ว่าเธอจะชอบ”เขาโน้มตัวเข้ามาเพื่อจูบที่หน้าผากของเธอ แล้วพาเธอไปที่โต๊ะที่จัดไว้สำหรับทั้งห้าคนของว่างรออยู่บนโต๊ะแล้ว ปลาหมึกทอดและสลัด ผักย่างและตะกร้าฟรายส์กูร์เมต์ ชีสละลายพร้อมสำหรับจิ้ม ปากของเขาน้ำลายสอเมื่อเห็น และเขาได้ยินเสียงท้องของธาริการ้องข้าง ๆเมื่อพวกเขานั่งลง เขาหัวเราะเล็กน้อย “ดูดีไหม”เธอพยักหน้า “ฉันหิวมากเลยค่ะ”“ฉันหวังว่าทุกคนคงจะหิว เพราะเรามีคอร์สอาหารและเครื่องดื่มอีกหลายอย่างรออยู่ แต่ไม่ต้องรีบ เรามีเวลาทั้งวัน”“นายจองทั้งร้านไว้ทั้งวันเลยเหรอ” ชัชชนดูประหลาดใจ
แม้จักรินทร์จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่พ่อแม่ของธาริกาก็ยังไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขา ทั้งคู่พูดคุยกับเธอบ้าง แต่เป็นการพูดคุยสั้น ๆ และไม่บ่อยนัก แม่ของเธอจะส่งข้อความมาถามไถ่เป็นครั้งคราว ส่วนพ่อของเธอก็ส่งข้อความมาเป็นระยะ ๆ ในช่วงแรก โดยเฉพาะจะถามเธออยู่บ่อย ๆ ว่าเธอเปลี่ยนใจหรือยัง แต่เธอบอกอย่างหนักแน่นให้หยุดถามเรื่องนั้นเสียที และในที่สุดบวรพจน์ก็หยุด หลังจากนั้นข้อความจากเขาก็เริ่มห่างหายขึ้น จักรินทร์สงสัยว่ามารินีเป็นคนที่ผลักดันให้สามีพูดคุยกับธาริกาทั้งคู่ไม่ยอมพูดคุยกับจักรินทร์ แม้ว่าเขาจะพยายามโทรหาพวกเขาบ่อย ๆ เพื่อแจ้งเรื่องราวของธาริกา พยายามแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเขาเป็นคนที่ไว้ใจได้และเหมาะสมกับลูกสาวของพวกเขาธาริกาอยากให้พ่อแม่ของเธอมาที่อำเภอในวันที่พวกเขาจดทะเบียนสมรส แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นเธอพยายาม แต่แม่ของเธอบอกว่าเนื่องจากเธอและบวรพจน์ไม่เห็นด้วย พวกเขาจึงไม่มาในวันที่พวกเขานัดหมายเพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นทางการ จักรินทร
“เชิญเลยค่ะ”ธาริกาโน้มตัวเข้าหาจุมพิตของชายหนุ่ม ขณะที่เขาก้มลงมาทาบทับร่างของเธอ มือแกร่งทั้งสองข้างเท้าลงบนเตียง คร่อมร่างของเธอไว้ เธอแหงนคอขึ้น ปล่อยให้เขาประทับจูบลงมาตามลำคอระหง ปลุกปั่นให้ผิวเนื้อบริเวณที่เขาเคยฝากรอยเขี้ยวคำรามไว้ก่อนหน้านี้ ให้กลับมาส่งเสียงครวญครางด้วยความรัญจวนอีกครั้ง“อืม...อา...”ทันทีที่สัมผัสลมหายใจร้อนรินรดแผ่ซ่านลงมา ธาริกาก็พลันเปล่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ยังคงโหยหาความสุขสมที่เขาเคยปรนเปรอให้ก่อนหน้านี้“ชอบไหม ที่รัก”ธาริกาพยักหน้า“ว่ายังไง”“ชอบค่ะ แด๊ดดี้ขา”“ดีมาก”เสียงทุ้มครางต่ำในลำคออย่างพึงพอใจ พลางขยับตัวเลื่อนร่างของธาริกาขึ้นไปบนเตียง และตามขึ้นมาทาบทับร่างของเธออีกครั้ง“อยากให้ฉั
“ของแด๊ดดี้ค่ะ” ธาริกาพูดพร้อมเสียงคราง รู้ว่าอีกไม่นานเธอจะถึงจุดสุดยอด “ฉันเป็นของแด๊ดดี้”“ใช่แล้ว และฉันจะไม่ปล่อยเธอไปไหน”จักรินทร์ยังคงเล่นกับปุ่มสวามของหญิงสาวต่อไปอีกหลายนาที จนเธอทนไม่ไหว เธอกัดฟันเพื่อกลั้นเสียงร้องไว้เมื่อความสุขครั้งแรกถาโถมเข้ามา“อ๊า...คุณหมอไนล์!” เธอหลุดปากออกมา เขามองเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“ฉันทำให้เธอรู้สึกดีไหม”“ดีมากค่ะ”จักรินทร์ยิ้มมุมปาก ถอนหายใจก่อนที่จะเอนตัวกลับ“ฉันอยากจะทำต่อในรถ แต่เกรงว่าจะไม่มีที่พอ และฉันต้องระวังไม่ให้รุนแรงเกินไปด้วย”หญิงสาวทำปากยู่ ส่งเสียงครางขัดใจเล็ก ๆ“ฉันสัญญาว่าจะทำต่อทันทีเมื่อเรากลับถึงบ้าน ฉันจะพาเธอตรงเข้าห้องนอนและทำให้เธอครางจนเสียงแห้งไปเลย”ชายหนุ่มผละออกมาและกลับไปนั่งตัวตรงอีกครั้ง ธาริกา