ในเช้าวันรุ่งขึ้น ธาริกาเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า เธอรวบผมขึ้นเป็นมวยเรียบง่าย ปล่อยปอยผมด้านข้าง ก่อนจะติดกิ๊บประดับเพชรเม็ดเล็ก ซึ่งเป็นของขวัญที่เธอได้รับเนื่องในวันคล้ายวันเกิดเมื่อปีก่อน เธอสวมชุดเดรสเข้ารูปสีเหลืองอ่อนมีขลิบสีขาวซึ่งเน้นให้ดูภูมิฐานเป็นมืออาชีพ แล้วจึงเลือกรองเท้าหนังสีขาวแบบส้นเตี้ยคู่ใหม่
เนื่องจากเธอยังไม่ต้องเริ่มงานในวันนั้น ธาริกาจึงไม่จำเป็นต้องสวมชุดพยาบาลสีอันเป็นเครื่องแบบ
ส่วนหนึ่งในใจเธอปรารถนาที่จะสร้างความประทับใจแก่ทุกคนที่โรงพยาบาล แต่ในส่วนลึกของจิตใจ ธาริกากลับต้องการพิสูจน์บางสิ่งบางอย่างให้คุณหมอจักรินทร์เห็น ว่า ใช่ เธอสวยและแต่งตัวดี ทว่าเธอจะไม่แสดงอาการคลั่งไคล้เขา เพียงเพราะจูบเมื่อคืน
ความร้อนแล่นมาที่แก้มเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น เธอหลับตาลงแล้วตบเบา ๆ ที่แก้มทั้งสองข้างเพื่อไล่ความทรงจำนั้นออกไปจากความคิด
เธอเหลือบมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง ทาลิปกลอสที่เธอรู้ดีว่าจะต้องทาซ้ำแน่ ๆ จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่าง
ณ ห้องรับประทานอาหาร บิดามารดาของธาริกากำลังรออยู่ บนโต๊ะอาหารมีข้าวต้มร้อน ๆ ซึ่งเป็นอาหารเช้าฝีมือแม่ครัวประจำบ้าน
“ลูกจะกินข้าวก่อนออกไปใช่ไหม” แม่ถามพร้อมกับยิ้ม
“ค่ะแม่ วันนี้มีข้างต้มทรงเครื่องโบราณด้วย หนูไม่พลาดหรอกค่ะ”
เธอนั่งลงยังที่นั่งของตัวเอง จากนั้นแม่บ้านก็นำข้าวต้มทรงเครื่องร้อน ๆ ควันลอยหอมฉุยมาเสิร์ฟตรงหน้าพร้อมกับน้ำส้มค้นสดที่คุณหนูของบ้านจะต้องดื่มทุกเช้า
ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารเช้าแสนอร่อย พ่อวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วพูดขึ้น “วันนี้ลูกต้องไปโรงพยาบาลเพื่อที่จะรายงานตัวให้ถูกต้องใช่ไหม”
ธาริกากลืนอาหารลงคอก่อนตอบ “ค่ะ หนูจะไปหลังกินข้าวเช้าเสร็จ”
“พ่อไปด้วยได้นะ ถ้าลูกต้องการ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด” บวรพจน์เสนอ
“ไม่เป็นไร่ค่ะ” เธอตอบ พยายามเก็บซ่อนความตื่นตระหนกที่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน ถ้าหากพ่อรู้ คงไม่ยอมให้เธอทำงานที่นั่นแน่ แล้วอิสระนิดหน่อย ๆ ที่จะได้รับก็จะหายไปด้วย นอกจากนี้ เธอจะไม่มีวันยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก เพราะฉะนั้นคงจะไม่เป็นปัญหาอะไร
“แน่ใจนะ ให้พ่อกับแม่ไปคุยให้ก่อนก็ได้นะ” มารินีถามย้ำ
“ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ หนูว่าหนูควรหัดทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง”
“จ้ะ แต่ก็ไม่ต้องอายที่จะขอความช่วยเหลือหรือการสนับสนุนนะ” แม่พูด
“หนูรู้ค่ะ” ธาริกากินอาหารเช้าให้เสร็จ จากนั้นก็ไปหยิบกระเป๋าและกุญแจรถ “หนูไปแล้วนะคะ”
“ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรมาบอกพ่อกับแม่นะ” มารินีย้ำกับลูกสาวอีกที
ธาริกาโบกมือลาพ่อกับแม่ก่อนที่จะขึ้นรถแล้วขับออกมา เธอถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ตอนแรกคิดแน่นอนว่าพ่อจะยืนกรานที่จะไปกับเธอ แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาเริ่มให้อิสระกับเธอมากขึ้น
เพราะฉะนั้นเธอแค่ต้องทำให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวัง
**********
ในหลายเดือนต่อมา เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น บิดามารดาของธาริกาและจักรินทร์ต่างพยายามอย่างยิ่งที่จะปรับความเข้าใจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันส่วนทางญาติของจักรินทร์ก็แสดงไมตรี และกล่าวคำขอโทษต่อธาริกา สำหรับวิธีการที่พวกเขาเคยใช้จัดการปัญหาในอดีตจักรินทร์บอกกับพวกเขาว่า เขาไม่อยากจะรับฟังคำแก้ตัวใด ๆ อีก แต่ก็ยินยอมที่จะรับคำขอโทษนั้นไว้ แน่นอนว่าเรื่องราวไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น พวกญาติ ๆ ของเขายังคงติดต่อมาหาเขาอีกครั้ง พร้อมกับของขวัญเพื่อแสดงไมตรีจิต และธาริกาก็ช่วยเกลี้ยกล่อม ให้เขาพยายามประนีประนอมและคืนดีกับครอบครัวของเขาด้วยแม้ว่าทุกอย่างจะยังไม่ราบรื่นถึงขั้นนั้น แต่จักรินทร์ก็เริ่มเปิดใจพยายามแล้ว บางครั้งเขาจะยอมไปทานอาหารเย็นกับที่บ้าน หรือในบางครั้ง พวกเขาก็จะมาทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ของพวกเขาถึงแม้ว่าภายหลัง จักรินทร์จะบ่นให้ธาริกาฟังอยู่บ่อยครั้ง ถึงคำพูดเสียดสี หรือการดูถูกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ยังคงแฝงอยู
การคลอดลูกเป็นความเจ็บปวดที่สุดที่เธอเคยประสบมา มันใช้เวลาหลายชั่วโมง ซึ่งเธอรู้ว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เวลาดูเหมือนจะยืดยาวออกไปเรื่อย ๆ เธอเพียงแต่หวังว่าทุกอย่างจะจบลงเสียที เพื่อที่เธอจะได้อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนและหลับไปพร้อมกับจักรินทร์ที่อยู่ข้าง ๆเขาอยู่ที่นั่นตลอดเวลา คอยปลอบใจเธอให้ผ่านความเจ็บปวด ในขณะที่หมอแพรวาบอกให้เธอรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเบ่ง และอธิบายความคืบหน้าของการขยายตัวของปากมดลูกธาริกาไม่เคยรู้สึกใกล้ชิดกับจักรินทร์มากไปกว่านี้ มันรู้สึกเหมือนว่าเธอสามารถเชื่อได้อย่างลึก ๆ แล้วว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไป ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องชั่วคราวสำหรับเขาแม้ว่าเธอจะเจ็บปวด แต่เธอก็รู้สึกมีความสุขด้วยเอวากำลังรอเธออยู่กับเพื่อนของจักรินทร์ในห้องรอใกล้ ๆ เพื่อนสาวแวะเข้ามาดูเธอบ่อย ๆ แม้ว่าหมอแพรวาจะพยายามไล่เธอออกไป เพราะไม่อยากให้มีอะไรมารบกวนเธอมากเกินไปในที่สุด ปากมดลูกของเธอก็ขยายพอที่ลูกน้อยจะออกมาได้ เธอรู
จักรินทร์ได้โทรจองไว้ล่วงหน้าเพื่อให้พนักงานตกแต่งตามที่เขาต้องการ ด้วยดอกไม้และเทียนทุกที่ วงดนตรีกำลังเล่นเพลงรักเบา ๆ“ฉันรู้ว่ามันไม่มาก แต่ฉันอยากทำให้วันนี้พิเศษสำหรับเธอ”“นี่มันสุดยอดมากเลยค่ะ”“ฉันรู้ว่าเธอจะชอบ”เขาโน้มตัวเข้ามาเพื่อจูบที่หน้าผากของเธอ แล้วพาเธอไปที่โต๊ะที่จัดไว้สำหรับทั้งห้าคนของว่างรออยู่บนโต๊ะแล้ว ปลาหมึกทอดและสลัด ผักย่างและตะกร้าฟรายส์กูร์เมต์ ชีสละลายพร้อมสำหรับจิ้ม ปากของเขาน้ำลายสอเมื่อเห็น และเขาได้ยินเสียงท้องของธาริการ้องข้าง ๆเมื่อพวกเขานั่งลง เขาหัวเราะเล็กน้อย “ดูดีไหม”เธอพยักหน้า “ฉันหิวมากเลยค่ะ”“ฉันหวังว่าทุกคนคงจะหิว เพราะเรามีคอร์สอาหารและเครื่องดื่มอีกหลายอย่างรออยู่ แต่ไม่ต้องรีบ เรามีเวลาทั้งวัน”“นายจองทั้งร้านไว้ทั้งวันเลยเหรอ” ชัชชนดูประหลาดใจ
แม้จักรินทร์จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่พ่อแม่ของธาริกาก็ยังไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขา ทั้งคู่พูดคุยกับเธอบ้าง แต่เป็นการพูดคุยสั้น ๆ และไม่บ่อยนัก แม่ของเธอจะส่งข้อความมาถามไถ่เป็นครั้งคราว ส่วนพ่อของเธอก็ส่งข้อความมาเป็นระยะ ๆ ในช่วงแรก โดยเฉพาะจะถามเธออยู่บ่อย ๆ ว่าเธอเปลี่ยนใจหรือยัง แต่เธอบอกอย่างหนักแน่นให้หยุดถามเรื่องนั้นเสียที และในที่สุดบวรพจน์ก็หยุด หลังจากนั้นข้อความจากเขาก็เริ่มห่างหายขึ้น จักรินทร์สงสัยว่ามารินีเป็นคนที่ผลักดันให้สามีพูดคุยกับธาริกาทั้งคู่ไม่ยอมพูดคุยกับจักรินทร์ แม้ว่าเขาจะพยายามโทรหาพวกเขาบ่อย ๆ เพื่อแจ้งเรื่องราวของธาริกา พยายามแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเขาเป็นคนที่ไว้ใจได้และเหมาะสมกับลูกสาวของพวกเขาธาริกาอยากให้พ่อแม่ของเธอมาที่อำเภอในวันที่พวกเขาจดทะเบียนสมรส แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นเธอพยายาม แต่แม่ของเธอบอกว่าเนื่องจากเธอและบวรพจน์ไม่เห็นด้วย พวกเขาจึงไม่มาในวันที่พวกเขานัดหมายเพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นทางการ จักรินทร
“เชิญเลยค่ะ”ธาริกาโน้มตัวเข้าหาจุมพิตของชายหนุ่ม ขณะที่เขาก้มลงมาทาบทับร่างของเธอ มือแกร่งทั้งสองข้างเท้าลงบนเตียง คร่อมร่างของเธอไว้ เธอแหงนคอขึ้น ปล่อยให้เขาประทับจูบลงมาตามลำคอระหง ปลุกปั่นให้ผิวเนื้อบริเวณที่เขาเคยฝากรอยเขี้ยวคำรามไว้ก่อนหน้านี้ ให้กลับมาส่งเสียงครวญครางด้วยความรัญจวนอีกครั้ง“อืม...อา...”ทันทีที่สัมผัสลมหายใจร้อนรินรดแผ่ซ่านลงมา ธาริกาก็พลันเปล่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ยังคงโหยหาความสุขสมที่เขาเคยปรนเปรอให้ก่อนหน้านี้“ชอบไหม ที่รัก”ธาริกาพยักหน้า“ว่ายังไง”“ชอบค่ะ แด๊ดดี้ขา”“ดีมาก”เสียงทุ้มครางต่ำในลำคออย่างพึงพอใจ พลางขยับตัวเลื่อนร่างของธาริกาขึ้นไปบนเตียง และตามขึ้นมาทาบทับร่างของเธออีกครั้ง“อยากให้ฉั
“ของแด๊ดดี้ค่ะ” ธาริกาพูดพร้อมเสียงคราง รู้ว่าอีกไม่นานเธอจะถึงจุดสุดยอด “ฉันเป็นของแด๊ดดี้”“ใช่แล้ว และฉันจะไม่ปล่อยเธอไปไหน”จักรินทร์ยังคงเล่นกับปุ่มสวามของหญิงสาวต่อไปอีกหลายนาที จนเธอทนไม่ไหว เธอกัดฟันเพื่อกลั้นเสียงร้องไว้เมื่อความสุขครั้งแรกถาโถมเข้ามา“อ๊า...คุณหมอไนล์!” เธอหลุดปากออกมา เขามองเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“ฉันทำให้เธอรู้สึกดีไหม”“ดีมากค่ะ”จักรินทร์ยิ้มมุมปาก ถอนหายใจก่อนที่จะเอนตัวกลับ“ฉันอยากจะทำต่อในรถ แต่เกรงว่าจะไม่มีที่พอ และฉันต้องระวังไม่ให้รุนแรงเกินไปด้วย”หญิงสาวทำปากยู่ ส่งเสียงครางขัดใจเล็ก ๆ“ฉันสัญญาว่าจะทำต่อทันทีเมื่อเรากลับถึงบ้าน ฉันจะพาเธอตรงเข้าห้องนอนและทำให้เธอครางจนเสียงแห้งไปเลย”ชายหนุ่มผละออกมาและกลับไปนั่งตัวตรงอีกครั้ง ธาริกา