พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 3
5.00 AM
"จะกลับแล้วเหรอคะ" คาร่าที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเดินเข้ามากอดชายหนุ่มจากด้านหลังเมื่อเห็นว่าเขากำลังสวมเสื้อผ้ากลับสู่สภาพเดิม ริมฝีปากอวบอิ่มจูบที่แผ่นหลังแกร่งเบาๆและระบายยิ้มออกมา เพราะก่อนหน้านี้ทั้งเขาและเธอได้ปลดปล่อยกันอย่างเต็มที่จนข้าวของในห้องกระจัดกระจายมันกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอไปแล้วเพราะชายหนุ่มที่เธอกำลังกอดเป็นคนดิบเถื่อนในเรื่องเซ็กส์
"อืม"จัสตินตอบเพียงสั้นๆ นิ้วแกร่งติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างลวกๆ
"คาร่าอยากให้คุณนอนที่นี่จังเลยค่ะ หรือไม่ก็ให้คาร่าไปนอนบ้านคุณก็ได้ คาร่าสัญญาว่าจะไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของคุณ แต่คาร่าอยากดูแลปรนนิบัติคุณตลอดเวลา"
"เธอน่าจะรู้จักนิสัยฉันดี เธอรู้ว่าฉันไม่ชอบอะไร ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตที่สุขสบายไม่กลับไปนอนรูหนูเน่าๆเหมือนเดิมก็อย่าล้ำเส้นฉันให้มาก" จัสตินพูดพร้อมกับหันมาประจันหน้าพริตตี้สาวด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง สายตาแข็งกร้าวจ้องไปที่ใบหน้าของพริตตี้สาว
"การที่ฉันเอาเธอหลายครั้งไม่ได้แปลว่าเธอเป็นเมียฉัน การที่เธออยากไปอยู่ที่บ้านฉันมั่นใจว่าต้องการอย่างที่พูดออกมา ไม่ใช่ต้องการชูคอให้สูงกว่าผู้หญิงคนก่อนๆที่ฉันนอนด้วยหรอกเหรอ"
จัสตินจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น แค่เขามองตาเธอก็รู้ว่าความจริงคืออะไร เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะโดนผู้หญิงอย่างเธอหลอกง่ายๆ
"ไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะคะ คาร่าจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว คาร่ารู้สถานะตัวเองดีค่ะ คุณจะให้คาร่าอยู่แบบนี้ไปตลอดก็ยอมค่ะ ขอแค่อย่าเฉดหัวคาร่าทิ้งก็พอ คาร่ายอมทำตามคุณทุกอย่าง คาร่ารักคุณจัสตินนะคะ" พริตตี้สาวปั้นสีหน้าเศร้าทันทีเมื่อถูกจับได้ และสวมกอดชายหนุ่มเพื่อเลี่ยงสายตาจับผิดของเขา
"แบบนี้ค่อยสมเป็นเธอหน่อย" จัสตินดันตัวหญิงสาวออกด้วยความรำคาญ "เงินค่าตัววันนี้จะเข้าบัญชีเธอเหมือนเดิม กระเป๋าใบใหม่ที่เธออยากได้พรุ่งนี้จะมีคนเอามาให้"
"ขอบคุณนะคะ คาร่าจะเป็นนางบำเรอให้คุณไปตลอดเลยค่ะ" พริตตี้สาวฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคที่ถูกใจ เธอแค่อ้อนเขาเรื่องกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ใบละหลายหมื่นตอนที่อยู่ในรถระหว่างกลับมาที่คอนโดไม่กี่ชั่วโมงก่อน หลังจากนั้นก็ได้ยินประโยคนี้จากปากชายหนุ่ม "คุณใจดีกับคาร่าเสมอเลยค่ะ"
"แค่เธออยู่ในพื้นที่ของตัวเอง เธอก็จะได้สิ่งที่ต้องการ" จัสตินพูดพร้อมกับหันหลังเดินออกจากห้องของพริตตี้สาวไปทันที ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งไม่ได้รู้สึกอะไร เขาแค่ต้องการระบายความต้องการของตัวเองก็เท่านั้น สิ่งของและเงินทองที่ให้ไปก็คือค่าตอบแทน ไม่ได้หลงเสน่ห์พริตตี้สาวแม้แต่นิดเดียว แค่ตอนนี้เขายังไม่เบื่อเธอก็เท่านั้น
ภายในรถสปอร์ตคันหรู
จัสตินมองนาฬิกาพลางครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกจากคอนโดหรูใจกลางเมือง รถสปอร์ตสีแดงเพลิงขับด้วยความเร็วบนท้องถนน แสงพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงสว่างบ่งบอกถึงเช้าวันใหม่ มันกลายเป็นเรื่องปกติของเขาไปแล้วที่ได้เห็นแสงแรกของทุกวัน ต่อให้จัสตินมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้หญิงมาหลายคนแต่ก็ป้องกันตลอด ยกเว้นแค่คนเดียวในตอนนั้นที่เขาสดกับเธอ เพราะเขาได้พรากความบริสุทธิ์จากตัวเธอมา แต่ความเบื่อก็เข้ามาทักทายทำให้เขาเลือกที่จะทิ้งเธอไปอย่างไร้เยื่อใย ตั้งแต่นั้นมาทั้งเขาและเธอก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย
ไม่นานรถสปอร์ตคันหรูก็ขับมาจอดในคฤหาสน์หลังใหญ่ ร่างสูงเดินลงจากรถพร้อมกับของเล่นในมืออย่างเช่นเคยเขามักจะซื้อเตรียมไว้ในรถอยู่เป็นประจำ ทำให้เวลามาที่นี่ก็มักจะมีของเล่นมาฝากหลานชายสุดที่รักเสมอ
"มาแต่เช้าไม่ได้แหกตาดูนาฬิกาเหรอไง หัดเกรงใจเจ้าของบ้านบ้าง มารยาทไม่เคยมีในตัวมึงเลยเหรอไง บอกกูทีว่าสภาพมึงตอนนี้ไม่ใช่เอาผู้หญิงมาแล้วมาหาหลาน" ชาร์ลที่นั่งเล่นกับลูกชายสุดที่รักในห้องนั่งเล่นพูดอย่างไม่ไว้หน้าแขกที่มาประจำจนน่ารำคาญ แถมตอนนี้พึ่งจะเจ็ดโมงเช้าชาวินท์พึ่งตื่นได้ไม่นาน และหน้าที่ในการดูลูกตอนเช้าจะเป็นชาร์ลเสมอ
"พูดมากฉิบ" จัสตินไม่สนใจคำพูดของชาร์ลแต่กลับคว้าตัวหลานจากท่อนแขนของชาร์ลมาอุ้มเอง
"วันนี้อาซื้อของเล่นชิ้นใหม่มาให้ชาวินท์ด้วยนะ ซึมซับนิสัยแม่มาเยอะล่ะ นิสัยเลวๆของพ่ออย่าไปเอามา" จัสตินพูดแดกดันชาร์ล เพราะเขาอยู่กับอลินดามาตั้งแต่รู้ว่าท้องอ่อนๆ จนตอนนี้อลินดาคลอดลูกน้อย และมีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ก็ยังไม่ชอบขี้หน้าพ่อของหลานอยู่ดี
"อย่าไปเอานิสัยเลวๆของอาจัสตินมาเหมือนกันนะลูก พึ่งไปเอาผู้หญิงมากลิ่นคาวยังไม่ทันหลายก็มาหาลูกกูซะแล้ว"
"ไอ้พวกร้องไห้เหมือนหมากลัวเมียจะไม่ยกโทษให้ไม่ควรพูดมากนะ"
"ไอ้สั..." ชาร์ลรีบหยุดคำพูดที่จะด่าจัสติน เพราะเขาไม่อยากให้ลูกได้ยินคำหยาบจากปากตัวเอง
"หึ" จัสตินหัวเราะในลำคอและอุ้มหลานชายที่กำลังมองเขาก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ สายตาคมกริบมองหน้าหลานชายสุดที่รักอย่างหวงแหน
"หาเมียสักคน แล้วทำลูกตัวเองซะ จะได้ไม่ต้องมาขอความรักจากลูกกูมาก"
"ไม่ต้องมาบงการชีวิตกู อลินดาไปไหน"
"ไม่ต้องยุ่งกับเมียกู"
"เถียงอะไรกันแต่เช้าคะ ได้ยินไปถึงข้างบนเลย" อลินดาเดินลงมาจากชั้นบนก็เห็นชายหนุ่มสองคนยืนคุยกันอยู่ แต่การคุยของทั้งคู่เหมือนเปิดศึกสงครามมากกว่า เธอไม่ได้ตกใจที่เห็นจัสตินมาแต่เช้า เพราะมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
"มีผัวปากหมาแบบนี้เธอไม่ควรแต่งงาน อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะถึงงานแต่ง ยกเลิกงานยังทันนะ"
อลินดายิ้มให้กับคำพูดแดกดันของจัสตินที่มีต่อสามี พลางส่ายหัวเบาๆ ถึงทั้งคู่จะไม่ได้เป็นศัตรูกันแล้วแต่ก็ยังพูดจาแบบนี้ใส่กันเสมอ
"รอมึงมีเมียก่อนเถอะ กูจะล้างบัญชีให้หมดเลย"
"พี่ชาร์ลคะพอได้แล้วค่ะ ขึ้นไปอาบน้ำและไปทำงานได้แล้วค่ะ" อลินดาจ้องสามีตาเขม็ง
"ก็ได้ครับ" ชาร์ลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่างจากเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง แต่ก็สังเกตเห็นสีหน้าของจัสตินที่หัวเราะเยาะเขาอยู่เบาๆ
"นายก็อีกคนนะจัสติน อยากให้หลานเห็นว่าพ่อกับอาพูดจาไม่ดีใส่กันเหรอไง" อลินดาพูดหลังจากเห็นว่าสามีเดินออกไปแล้ว
"ฉันรู้ไม่ต้องมาสั่ง เธอเป็นเมียไอ้ชาร์ลไม่ใช่เมียฉันสักหน่อย" จัสตินพูดและยังอุ้มหลานเล่นไปมา ริมฝีปากหนาระบายยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาของหลานชายตัวน้อย
"ฉันเบื่อที่จะเถียงกับนายแล้ว ว่าแต่เมื่อไหร่จะมีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที ฉันเห็นนายอุ้มชาวินท์ก็อยากเห็นนายอุ้มลูกตัวเองบ้าง สายตาที่นายมองชาวินท์มันอ่อนโยนมากเลยนะจัสติน ถึงคำพูดนายจะแดกดันทุกคนไปทั่วแต่พอกับหลานนายกลับทะนุถนอมจนฉันอดที่จะเชียร์ให้นายมีครอบครัวจริงๆจังๆเหมือนคนอื่นสักที เป็นเพลบอยไปก็เท่านั้น ไม่เห็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นของฉันกับชาร์ลเหรอไง"
"เป็นแม่คนที่สองฉันเหรอไง บ่นอยู่ได้ มาหาหลานทีไรก็บ่นฉันเรื่องนี้ตลอดไม่เบื่อบ้างเหรอ ขนาดฉันฟังเธอบ่นยังเบื่อเลย" เพราะเขาเจออลินดาทีไรก็จะบ่นเรื่องผู้หญิงทุกที
"เฮ้อ..." อลินดาถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ไม่ต้องมาเหนื่อยใจเรื่องของฉันหรอก แค่เธอเลี้ยงลูก และเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวในวันแต่งงานก็พอ ฉันก็ยังเป็นเพื่อนเธอเสมอ ถ้าวันไหนฉันมีเมียฉันจะพามาหาเธอเอง ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากได้เมียนิสัยเหมือนเธอนะอลินดา" จัสตินมองหญิงสาวร่างเล็กตรงหน้า ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เขามีความรู้สึกดีๆกับเธอ แต่สุดท้ายเขาก็หยุดความคิดพวกนั้นเพราะรู้ดีว่าอลินดารักชาร์ลมากแค่ไหน เขากับเธอก็เป็นได้แค่เพื่อนสนิทเท่านั้น
"นายอาจจะได้เมียที่ดีกว่าฉันก็ได้ เวลานายเจอผู้หญิงที่คิดว่าใช่กับตัวเองแล้วก็อย่าทำให้เขาเสียใจล่ะ นายอยู่ทุกสถานการณ์ของฉันกับชาร์ล นายเห็นตัวอย่างแล้วใช่ไหม ถ้ารักใคร ถูกใจใคร ก็อย่าทำลายหัวใจของผู้หญิงคนนั้นนะ ชีวิตนายกำลังมีความสุขกับเรื่องผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่นายอย่าลืมมองย้อนกลับไปที่ตัวผู้หญิงด้วยล่ะว่าเขาจริงใจกับนายด้วยหัวใจจริงๆหรือเปล่า ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นรักนายจากตัวตนของนายจริงๆ เธอคงเสียใจมากถ้าเห็นนายควงผู้หญิงอื่นต่อหน้าเธอ ผู้หญิงที่ไม่หวังเงินทอง และชื่อเสียงของนาย ฉันว่านั่นคือผู้หญิงที่นายควรเอามาเป็นเมียนะจัสติน"
จัสตินไม่ได้เถียงอะไรอลินดากลับไป คำพูดของเธอทำให้เขานึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่าน ทุกคนที่เข้ามามักต้องการชื่อเสียง เงินทอง และความสุขสบายกันทั้งนั้น แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยต้องอะไรจากเขาเลยนอกจากความรัก สุดท้ายเขาก็ทำลายความรักของเธอลงเพราะความสนุกของตัวเอง
ตอนพิเศษ 4 สองอาทิตย์ต่อมา...เป็นวันแรกที่ได้กลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อหลังจากอยู่โรงพยาบาลเกือบสองอาทิตย์ ฉันไม่เคยต้องนอนโรงพยาบาลนานขนาดนี้มาก่อนแม้จะเคยคลอดอันดามาแล้วเพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก แต่ครั้งนี้สามีเป็นคนบังคับให้อยู่ยาวจนมั่นใจเพราะอยากให้ฉันกับลูกอยู่ใกล้หมอ ส่วนอันดาต้องเรียนหนังสือระหว่างที่ฉันพักฟื้นร่างกายก็ต้องกลับมาอยู่บ้านคุณยาย อันดากลายเป็นพี่สาวที่พูดรู้เรื่องแม้จะได้เจอน้องเพียงสองอาทิตย์เท่านั้น ไม่มีร้องงอแง ไม่มีอ้อน และที่สำคัญไม่มีท่าทีอิจฉาน้องที่ได้อยู่กับฉันและจัสติน และวันนี้เจ้าพี่คนแสบก็ยิ้มหน้าบานที่จะได้อยู่กับน้องจริงจังสักทีตลอดเวลาที่ฉันอยู่โรงพยาบาลก็ได้จัสตินคอยช่วยเหลือทุกอย่าง ทำทุกอย่างให้ลูกด้วยตัวเอง จัสตินเรียนรู้จากฉันและเรียนรู้จากพยาบาลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำ สระผม ชงนม แม้กระทั่งเช็ดอึให้ลูก จัสตินก็ทำได้โดยไม่อิดออดและไม่มีความรังเกียจแม้แต่น้อย เวลามองสามีทำอะไรเพื่อตัวเองและลูกมันทำให้ฉันภูมิใจที่ได้เขาเป็นสามี เหมือนตอนนี้ที่ได้เห็นเขากำลังอุ้มอันนาเข้าอกและร้องเพลงกล่อมเบาๆ ใครจะคิดว่าแบดบอยจะฮัมเพลงกล่อมให้ลูกหลับได
ตอนพิเศษ 3 เข้าสู่เดือนที่เก้า ห้องทำคลอด"ไหวไหมคะ" นับดาวถามจัสตินด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าของเขาซีดเผือดตั้งแต่เข้ามาในห้องคลอด และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ลูกสาวตัวน้อยจะได้ลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก สำหรับฉันเป็นครั้งที่สองกับการคลอดลูกก็ยังคงมีความตื่นเต้นแต่ก็รู้วิธีการต่างๆทั้งหมดทำให้เบาใจไปเยอะ แต่คนที่น่าเป็นห่วงก็หนีไม่พ้นว่าที่พ่อลูกสองทั้งตื่นเต้นและดีใจตั้งแต่ฉันเจ็บท้อง จนถึงตอนนี้จัสตินเข้ามาในห้องคลอดกับฉันเขาก็ยังวิตกกังวลอย่างหนัก ใบหน้าคมคายมีแต่ความตึงเครียดจนเหงื่อไหลตามกรอบหน้า กลับกลายเป็นฉันเองที่ต้องคอยถามเขาตลอดมือหนาประสานมือคนตัวเล็กไว้แน่น หัวใจแกร่งเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งตอนเธอเข้ามานอนในห้องคลอดเขายิ่งสติแตกแต่พยายามคุมตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้ เขานับถือใจนับดาวที่คลอดอันดาอย่างโดดเดี่ยวในตอนนั้นจริงๆ พอเห็นแบบนี้แล้วเขาต้องดูแลเธอและลูกให้เป็นอย่างดีและรักเธอกับลูกมากกว่าชีวิตตัวเอง คุณค่าของความเป็นแม่มันยิ่งใหญ่มากเหลือเกิน"หมอจะทำการกรีดปากช่องคลอดแล้วนะครับ นับหายใจเข้าลึกๆนะ พี่จะ
ตอนพิเศษ 2"ดูสิคะ ตัวแสบคนโตมารอของฝากจากที่พ่อกับแม่หนีเที่ยวแล้ว" แค่เพียงรถตู้คันหรูขับเข้ามาในคฤหาสน์ก็เห็นสาวน้อยยืนยิ้มร่าอยู่หน้าประตูบ้าน ราวกับรู้ล่วงหน้าว่าพ่อกับแม่จะกลับมาแล้ว และที่สำคัญคงรู้ว่าจะได้ของฝากแน่นอนไม่ชุดก็กระเป๋าแบรนด์เนมตามสไตล์ที่พ่อคนโปรดจะจัดสรรให้ลูกได้ริมฝีปากหนาระบายยิ้มกว้างมองตามที่นับดาวบอกและคอยประคองนับดาวลงจากรถ"อันดาช่วยถือของค่ะ""ช่วยแบบหวังรางวัลไหมคะ" ฉันอดที่จะแซวอันดาไม่ได้เพราะความเจ้าเล่ห์มีเต็มเปี่ยม"ไม่หวังค่ะเพราะรู้ว่าต้องได้อยู่แล้ว""ตัวแค่นี้แก่นใหญ่แล้วนะเรา""พ่อจะลืมของรางวัลคนสวยได้ยังไงกันล่ะ ทั้งหมดนี่ของอันดาครับ ว่าแต่ที่พ่อเคยสอนไว้ว่าถ้าของใครคนนั้นต้องถือเข้าไปเองจำได้ไหมนะ" จัสตินทำลอยหน้าลอยตาพยายามรื้อฟื้นความทรงจำลูก แต่เขารู้ว่ายังไงอันดาต้องถือของไปเองอยู่แล้ว"พี่ๆไม่ต้องช่วยค่ะ เดี๋ยวอันดาถือของอันดาเข้าเอง พี่ๆยกของน้องกับของแม่นับดาวเข้าไปได้เลยค่ะ ส่วนของพ่อจัสตินไม่ต้องค่ะ เพราะพ่อจัสตินบอกของใครคนนั้นต้องถือเอง แต่แม่นับดาวท้องน้องอยู่เลยยกไม่ไหวไม่เป็นไรค่ะ แม่นับดาวไม่ต้องถือ" อันดาพูดเจื้อยแจ้วและส่
ตอนพิเศษ 1 ห้าเดือนต่อมา...หน้าท้องน้อยๆของนับดาวยื่นออกมาอย่างชัดเจน ผิวพรรณเปล่งปลั่งกลายเป็นคุณแม่ลูกสองที่ใครๆก็ชมว่าสวยกันทั้งนั้น ออร่าเปล่งประกายจนทุกคนเหลียวมองไปตามๆกัน แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ถูกใจกับสิ่งนี้ ใบหน้าบูดบึ้งตลอดเวลาเมื่อพานับดาวออกมาข้างนอก ไม่ว่าจะโรงพยาบาลหรือช็อปปิ้ง ไม่เคยมีรอยยิ้มบนใบหน้าคมคายมีแต่จ้องจะหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว"มองอะไรกันนักหนา คนนี้เมียกู มองก็ไม่ได้ ยิ้มก็ไม่ได้ ห้ามแตะต้อง" จัสตินพูดกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มองเมียสุดที่รัก อีกทั้งยังกล้ายิ้มให้นับดาวต่อหน้าต่อตาเขา"ขอโทษครับ ผมแค่เคยรักษาแผลกับคุณหมอคนสวย" วัยรุ่นหนุ่มรีบก้มหัวให้และวิ่งแจ้นไปเลย"พี่จัสตินคะ อีกแล้วนะ เด็กคนนั้นนับเคยทำแผลให้ตอนเขารถล้มค่ะ น้องเขาแค่ทักทายหมอคนที่ทำให้แผลเขาหายเฉยๆ" ฉันถึงกับกลอกตามองบนเมื่อได้เห็นพฤติกรรมโผงผางของสามีราวกับจงอางหวงไข่ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จัสตินจะเป็นแบบนี้เสมอเพียงเพราะฉันออกมาข้างนอก เขาจะตามติดเป็นปลิงและคอยหาเรื่องคนที่มองฉันทุกคน จนบางครั้งกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนต้องให้ลูกน้องมาเคลียร์ถ้าจัสตินเคลียร์เอ
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 61ช่วงเช้าของวันใหม่ ดวงตากลมโตมองที่ตรวจครรภ์ด้วยแววตาสั่นระริก มือบางสั่นเทากับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ริมฝีปากบางระบายยิ้มกว้างพร้อมกับหยดน้ำตาที่หยดลงบนที่ตรวจครรภ์พอดี"มาอยู่กับแม่แล้วนะตัวน้อย มาเป็นน้องของพี่อันดานะคะ แข็งแรงนะลูก" มือบางลูบหน้าท้องตัวเองพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ต่อให้ท้องนี้เป็นท้องที่สองแต่ก็ยังตื่นเต้นเหมือนเดิม ตั้งแต่กลับมาจากบ้านของชาร์ล ทั้งฉันและจัสตินก็นอนไม่ค่อยหลับได้แต่มองนาฬิกาเมื่อไหร่ฟ้าจะสว่างเพราะการตรวจตอนเช้าจะแม่นยำที่สุดทำให้เราอดใจรอ โดยเฉพาะจัสตินที่แทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน แต่มันไม่แปลกเลยเพราะสำหรับจัสตินความรู้สึกนี้คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสดวงตากลมโตมองกระจกเงาในห้องน้ำพร้อมกับระบายยิ้มกว้างราวกับคิดอะไรแผลงๆก่อนจะเปิดประตูออกไปแกร่ก"เป็นไงบ้างนับ ลูกมาไหม" จัสตินถามทันทีเมื่อเมียสุดที่รักเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขายืนลุ้นอยู่หน้าห้องจนใจจะขาด ร่างกายทุรนทุรายอย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืน แต่แล้วทุกอย่างก็เงียบลงเมื่อเห็นหน้านับดาวเศร้าและนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย หัวใจแกร่งกระตุกวูบ สีหน้าตื่นเต
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 60หลายเดือนต่อมา"มีอาการอะไรบ้างไหม" น้ำเสียงเข้มถามเมียสุดที่รักอย่างใจจดใจจ่อและแสดงสีหน้าลุ้นกับคำตอบเมียออกมาอย่างเปิดเผย"ไม่มีค่ะ ปกติทุกอย่าง" ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มก่อนจะนั่งลงบนตักแกร่ง ทำให้ท่อนแขนแกร่งของจัสตินโอบรั้งตัวฉันไว้อัตโนมัติหลังจากปฏิบัติการทำลูกในวันนั้นจนมาถึงตอนนี้เขายังคงถามถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวฉันอยู่ทุกวัน แต่พอได้คำตอบที่ไม่ถูกใจใบหน้าคมคายก็จะหงอยลงทันตาเห็น ในครั้งนั้นหนึ่งอาทิตย์เต็มที่ฉันกับเขามีอะไรกันแทบทุกเวลาแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนฉันต้องให้กำลังใจจัสตินมาเรื่อยๆจนตอนนี้ผ่านไปหลายเดือนก็ยังไม่มีปฏิกิริยาของลูกน้อย อดที่จะสงสารว่าที่คุณพ่อลูกสองไม่ได้จริงๆต่อจากเหตุการณ์ที่เขาขอแต่งงานสุดเร่าร้อนในคืนนั้นไม่ถึงเดือนเราก็จัดงานแต่งงานเล็กๆแบบอบอุ่น มีอันดาร่วมในงานพร้อมกับเพื่อนสนิทของเราและแม่ของฉันที่เข้าร่วมพิธีสำคัญในวันนั้น ทางครอบครัวของจัสตินเขาขอไม่พูดถึง ฉันก็เข้าใจเมื่อถูกจี้ใจดำเรื่องครอบครัว จัสตินเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังเหมือนเขาได้ระบายความรู้สึกจริงๆออกมาและมันก็น่าหดหู่สำหรับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่โตมาโดยไ