พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 3
5.00 AM
"จะกลับแล้วเหรอคะ" คาร่าที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเดินเข้ามากอดชายหนุ่มจากด้านหลังเมื่อเห็นว่าเขากำลังสวมเสื้อผ้ากลับสู่สภาพเดิม ริมฝีปากอวบอิ่มจูบที่แผ่นหลังแกร่งเบาๆและระบายยิ้มออกมา เพราะก่อนหน้านี้ทั้งเขาและเธอได้ปลดปล่อยกันอย่างเต็มที่จนข้าวของในห้องกระจัดกระจายมันกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอไปแล้วเพราะชายหนุ่มที่เธอกำลังกอดเป็นคนดิบเถื่อนในเรื่องเซ็กส์
"อืม"จัสตินตอบเพียงสั้นๆ นิ้วแกร่งติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างลวกๆ
"คาร่าอยากให้คุณนอนที่นี่จังเลยค่ะ หรือไม่ก็ให้คาร่าไปนอนบ้านคุณก็ได้ คาร่าสัญญาว่าจะไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของคุณ แต่คาร่าอยากดูแลปรนนิบัติคุณตลอดเวลา"
"เธอน่าจะรู้จักนิสัยฉันดี เธอรู้ว่าฉันไม่ชอบอะไร ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตที่สุขสบายไม่กลับไปนอนรูหนูเน่าๆเหมือนเดิมก็อย่าล้ำเส้นฉันให้มาก" จัสตินพูดพร้อมกับหันมาประจันหน้าพริตตี้สาวด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง สายตาแข็งกร้าวจ้องไปที่ใบหน้าของพริตตี้สาว
"การที่ฉันเอาเธอหลายครั้งไม่ได้แปลว่าเธอเป็นเมียฉัน การที่เธออยากไปอยู่ที่บ้านฉันมั่นใจว่าต้องการอย่างที่พูดออกมา ไม่ใช่ต้องการชูคอให้สูงกว่าผู้หญิงคนก่อนๆที่ฉันนอนด้วยหรอกเหรอ"
จัสตินจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น แค่เขามองตาเธอก็รู้ว่าความจริงคืออะไร เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะโดนผู้หญิงอย่างเธอหลอกง่ายๆ
"ไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะคะ คาร่าจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว คาร่ารู้สถานะตัวเองดีค่ะ คุณจะให้คาร่าอยู่แบบนี้ไปตลอดก็ยอมค่ะ ขอแค่อย่าเฉดหัวคาร่าทิ้งก็พอ คาร่ายอมทำตามคุณทุกอย่าง คาร่ารักคุณจัสตินนะคะ" พริตตี้สาวปั้นสีหน้าเศร้าทันทีเมื่อถูกจับได้ และสวมกอดชายหนุ่มเพื่อเลี่ยงสายตาจับผิดของเขา
"แบบนี้ค่อยสมเป็นเธอหน่อย" จัสตินดันตัวหญิงสาวออกด้วยความรำคาญ "เงินค่าตัววันนี้จะเข้าบัญชีเธอเหมือนเดิม กระเป๋าใบใหม่ที่เธออยากได้พรุ่งนี้จะมีคนเอามาให้"
"ขอบคุณนะคะ คาร่าจะเป็นนางบำเรอให้คุณไปตลอดเลยค่ะ" พริตตี้สาวฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคที่ถูกใจ เธอแค่อ้อนเขาเรื่องกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ใบละหลายหมื่นตอนที่อยู่ในรถระหว่างกลับมาที่คอนโดไม่กี่ชั่วโมงก่อน หลังจากนั้นก็ได้ยินประโยคนี้จากปากชายหนุ่ม "คุณใจดีกับคาร่าเสมอเลยค่ะ"
"แค่เธออยู่ในพื้นที่ของตัวเอง เธอก็จะได้สิ่งที่ต้องการ" จัสตินพูดพร้อมกับหันหลังเดินออกจากห้องของพริตตี้สาวไปทันที ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งไม่ได้รู้สึกอะไร เขาแค่ต้องการระบายความต้องการของตัวเองก็เท่านั้น สิ่งของและเงินทองที่ให้ไปก็คือค่าตอบแทน ไม่ได้หลงเสน่ห์พริตตี้สาวแม้แต่นิดเดียว แค่ตอนนี้เขายังไม่เบื่อเธอก็เท่านั้น
ภายในรถสปอร์ตคันหรู
จัสตินมองนาฬิกาพลางครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกจากคอนโดหรูใจกลางเมือง รถสปอร์ตสีแดงเพลิงขับด้วยความเร็วบนท้องถนน แสงพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงสว่างบ่งบอกถึงเช้าวันใหม่ มันกลายเป็นเรื่องปกติของเขาไปแล้วที่ได้เห็นแสงแรกของทุกวัน ต่อให้จัสตินมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้หญิงมาหลายคนแต่ก็ป้องกันตลอด ยกเว้นแค่คนเดียวในตอนนั้นที่เขาสดกับเธอ เพราะเขาได้พรากความบริสุทธิ์จากตัวเธอมา แต่ความเบื่อก็เข้ามาทักทายทำให้เขาเลือกที่จะทิ้งเธอไปอย่างไร้เยื่อใย ตั้งแต่นั้นมาทั้งเขาและเธอก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย
ไม่นานรถสปอร์ตคันหรูก็ขับมาจอดในคฤหาสน์หลังใหญ่ ร่างสูงเดินลงจากรถพร้อมกับของเล่นในมืออย่างเช่นเคยเขามักจะซื้อเตรียมไว้ในรถอยู่เป็นประจำ ทำให้เวลามาที่นี่ก็มักจะมีของเล่นมาฝากหลานชายสุดที่รักเสมอ
"มาแต่เช้าไม่ได้แหกตาดูนาฬิกาเหรอไง หัดเกรงใจเจ้าของบ้านบ้าง มารยาทไม่เคยมีในตัวมึงเลยเหรอไง บอกกูทีว่าสภาพมึงตอนนี้ไม่ใช่เอาผู้หญิงมาแล้วมาหาหลาน" ชาร์ลที่นั่งเล่นกับลูกชายสุดที่รักในห้องนั่งเล่นพูดอย่างไม่ไว้หน้าแขกที่มาประจำจนน่ารำคาญ แถมตอนนี้พึ่งจะเจ็ดโมงเช้าชาวินท์พึ่งตื่นได้ไม่นาน และหน้าที่ในการดูลูกตอนเช้าจะเป็นชาร์ลเสมอ
"พูดมากฉิบ" จัสตินไม่สนใจคำพูดของชาร์ลแต่กลับคว้าตัวหลานจากท่อนแขนของชาร์ลมาอุ้มเอง
"วันนี้อาซื้อของเล่นชิ้นใหม่มาให้ชาวินท์ด้วยนะ ซึมซับนิสัยแม่มาเยอะล่ะ นิสัยเลวๆของพ่ออย่าไปเอามา" จัสตินพูดแดกดันชาร์ล เพราะเขาอยู่กับอลินดามาตั้งแต่รู้ว่าท้องอ่อนๆ จนตอนนี้อลินดาคลอดลูกน้อย และมีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ก็ยังไม่ชอบขี้หน้าพ่อของหลานอยู่ดี
"อย่าไปเอานิสัยเลวๆของอาจัสตินมาเหมือนกันนะลูก พึ่งไปเอาผู้หญิงมากลิ่นคาวยังไม่ทันหลายก็มาหาลูกกูซะแล้ว"
"ไอ้พวกร้องไห้เหมือนหมากลัวเมียจะไม่ยกโทษให้ไม่ควรพูดมากนะ"
"ไอ้สั..." ชาร์ลรีบหยุดคำพูดที่จะด่าจัสติน เพราะเขาไม่อยากให้ลูกได้ยินคำหยาบจากปากตัวเอง
"หึ" จัสตินหัวเราะในลำคอและอุ้มหลานชายที่กำลังมองเขาก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ สายตาคมกริบมองหน้าหลานชายสุดที่รักอย่างหวงแหน
"หาเมียสักคน แล้วทำลูกตัวเองซะ จะได้ไม่ต้องมาขอความรักจากลูกกูมาก"
"ไม่ต้องมาบงการชีวิตกู อลินดาไปไหน"
"ไม่ต้องยุ่งกับเมียกู"
"เถียงอะไรกันแต่เช้าคะ ได้ยินไปถึงข้างบนเลย" อลินดาเดินลงมาจากชั้นบนก็เห็นชายหนุ่มสองคนยืนคุยกันอยู่ แต่การคุยของทั้งคู่เหมือนเปิดศึกสงครามมากกว่า เธอไม่ได้ตกใจที่เห็นจัสตินมาแต่เช้า เพราะมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
"มีผัวปากหมาแบบนี้เธอไม่ควรแต่งงาน อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะถึงงานแต่ง ยกเลิกงานยังทันนะ"
อลินดายิ้มให้กับคำพูดแดกดันของจัสตินที่มีต่อสามี พลางส่ายหัวเบาๆ ถึงทั้งคู่จะไม่ได้เป็นศัตรูกันแล้วแต่ก็ยังพูดจาแบบนี้ใส่กันเสมอ
"รอมึงมีเมียก่อนเถอะ กูจะล้างบัญชีให้หมดเลย"
"พี่ชาร์ลคะพอได้แล้วค่ะ ขึ้นไปอาบน้ำและไปทำงานได้แล้วค่ะ" อลินดาจ้องสามีตาเขม็ง
"ก็ได้ครับ" ชาร์ลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่างจากเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง แต่ก็สังเกตเห็นสีหน้าของจัสตินที่หัวเราะเยาะเขาอยู่เบาๆ
"นายก็อีกคนนะจัสติน อยากให้หลานเห็นว่าพ่อกับอาพูดจาไม่ดีใส่กันเหรอไง" อลินดาพูดหลังจากเห็นว่าสามีเดินออกไปแล้ว
"ฉันรู้ไม่ต้องมาสั่ง เธอเป็นเมียไอ้ชาร์ลไม่ใช่เมียฉันสักหน่อย" จัสตินพูดและยังอุ้มหลานเล่นไปมา ริมฝีปากหนาระบายยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาของหลานชายตัวน้อย
"ฉันเบื่อที่จะเถียงกับนายแล้ว ว่าแต่เมื่อไหร่จะมีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที ฉันเห็นนายอุ้มชาวินท์ก็อยากเห็นนายอุ้มลูกตัวเองบ้าง สายตาที่นายมองชาวินท์มันอ่อนโยนมากเลยนะจัสติน ถึงคำพูดนายจะแดกดันทุกคนไปทั่วแต่พอกับหลานนายกลับทะนุถนอมจนฉันอดที่จะเชียร์ให้นายมีครอบครัวจริงๆจังๆเหมือนคนอื่นสักที เป็นเพลบอยไปก็เท่านั้น ไม่เห็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นของฉันกับชาร์ลเหรอไง"
"เป็นแม่คนที่สองฉันเหรอไง บ่นอยู่ได้ มาหาหลานทีไรก็บ่นฉันเรื่องนี้ตลอดไม่เบื่อบ้างเหรอ ขนาดฉันฟังเธอบ่นยังเบื่อเลย" เพราะเขาเจออลินดาทีไรก็จะบ่นเรื่องผู้หญิงทุกที
"เฮ้อ..." อลินดาถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ไม่ต้องมาเหนื่อยใจเรื่องของฉันหรอก แค่เธอเลี้ยงลูก และเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวในวันแต่งงานก็พอ ฉันก็ยังเป็นเพื่อนเธอเสมอ ถ้าวันไหนฉันมีเมียฉันจะพามาหาเธอเอง ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากได้เมียนิสัยเหมือนเธอนะอลินดา" จัสตินมองหญิงสาวร่างเล็กตรงหน้า ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เขามีความรู้สึกดีๆกับเธอ แต่สุดท้ายเขาก็หยุดความคิดพวกนั้นเพราะรู้ดีว่าอลินดารักชาร์ลมากแค่ไหน เขากับเธอก็เป็นได้แค่เพื่อนสนิทเท่านั้น
"นายอาจจะได้เมียที่ดีกว่าฉันก็ได้ เวลานายเจอผู้หญิงที่คิดว่าใช่กับตัวเองแล้วก็อย่าทำให้เขาเสียใจล่ะ นายอยู่ทุกสถานการณ์ของฉันกับชาร์ล นายเห็นตัวอย่างแล้วใช่ไหม ถ้ารักใคร ถูกใจใคร ก็อย่าทำลายหัวใจของผู้หญิงคนนั้นนะ ชีวิตนายกำลังมีความสุขกับเรื่องผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่นายอย่าลืมมองย้อนกลับไปที่ตัวผู้หญิงด้วยล่ะว่าเขาจริงใจกับนายด้วยหัวใจจริงๆหรือเปล่า ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นรักนายจากตัวตนของนายจริงๆ เธอคงเสียใจมากถ้าเห็นนายควงผู้หญิงอื่นต่อหน้าเธอ ผู้หญิงที่ไม่หวังเงินทอง และชื่อเสียงของนาย ฉันว่านั่นคือผู้หญิงที่นายควรเอามาเป็นเมียนะจัสติน"
จัสตินไม่ได้เถียงอะไรอลินดากลับไป คำพูดของเธอทำให้เขานึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่าน ทุกคนที่เข้ามามักต้องการชื่อเสียง เงินทอง และความสุขสบายกันทั้งนั้น แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยต้องอะไรจากเขาเลยนอกจากความรัก สุดท้ายเขาก็ทำลายความรักของเธอลงเพราะความสนุกของตัวเอง
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 4หลายวันต่อมา..@โรงพยาบาลเอกชนฉันเดินเข้ามาในโรงพยาบาลในช่วงเช้าของใหม่ วันนี้ฉันเข้าเวรช่วงเช้าทำให้เมื่อคืนได้หลับเต็มที่และตื่นมาสดใสในเช้าวันนี้ ร่างกายของฉันตอบสนองกับการทำงานเช้ามากกว่าทำงานตอนกลางคืนเสียอีกทั้งที่ฉันทำงานในโรงพยาบาลมาสองปีแล้วก็ยังไม่ชินสักที ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อระบายยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างเป็นมิตร"สวัสดีค่ะหมอนับดาว""สวัสดีค่ะ""วันนี้หมอหน้าตาสดใสเป็นเพราะเข้าเวรเช้าใช่ไหมคะ""รู้ทันกันตลอดเลยนะคะ" ฉันยิ้มให้กับพยาบาลรุ่นน้อง"พวกเราว่าจะชวนคุณหมอไปทานโจ๊กหน้าโรงพยาบาล แต่คงมีคนของใจทำข้าวเช้ามาให้แล้ว อิจฉาคนมีแฟนจังเลยนะคะ ดูพวกเราสิต้องออกไปหากินกันเอง""หมออานนท์เข้าแล้วเหรอคะ""แหมๆ พอบอกว่าแฟนก็นึกถึงหมออานนท์เลยนะคะ แสดงว่าหมอนับดาวกับหมออานนท์นี่ตกลงเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมคะ" กลุ่มพยาบาลสาวต่างลุ้นกับคำตอบของหมอนับดาว ทุกคนรู้ดีว่าหมออานนท์ตามจีบหมอนับดาวมานานแล้ว และคอยเป็นห่วงกันเสมอ เวลาพักถ้าตรงกันมักเห็นภาพที่หมออานนท์ไปกินข้าวกับหมอนับดาวอยู่บ่อยๆ"ก็ทุกคนหมายถึงหมออานนท์กันอยู่แล้วนิ ไม่ต้องมาจับผิดนับเลยน
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 35.00 AM "จะกลับแล้วเหรอคะ" คาร่าที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเดินเข้ามากอดชายหนุ่มจากด้านหลังเมื่อเห็นว่าเขากำลังสวมเสื้อผ้ากลับสู่สภาพเดิม ริมฝีปากอวบอิ่มจูบที่แผ่นหลังแกร่งเบาๆและระบายยิ้มออกมา เพราะก่อนหน้านี้ทั้งเขาและเธอได้ปลดปล่อยกันอย่างเต็มที่จนข้าวของในห้องกระจัดกระจายมันกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอไปแล้วเพราะชายหนุ่มที่เธอกำลังกอดเป็นคนดิบเถื่อนในเรื่องเซ็กส์"อืม"จัสตินตอบเพียงสั้นๆ นิ้วแกร่งติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างลวกๆ"คาร่าอยากให้คุณนอนที่นี่จังเลยค่ะ หรือไม่ก็ให้คาร่าไปนอนบ้านคุณก็ได้ คาร่าสัญญาว่าจะไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของคุณ แต่คาร่าอยากดูแลปรนนิบัติคุณตลอดเวลา""เธอน่าจะรู้จักนิสัยฉันดี เธอรู้ว่าฉันไม่ชอบอะไร ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตที่สุขสบายไม่กลับไปนอนรูหนูเน่าๆเหมือนเดิมก็อย่าล้ำเส้นฉันให้มาก" จัสตินพูดพร้อมกับหันมาประจันหน้าพริตตี้สาวด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง สายตาแข็งกร้าวจ้องไปที่ใบหน้าของพริตตี้สาว"การที่ฉันเอาเธอหลายครั้งไม่ได้แปลว่าเธอเป็นเมียฉัน การที่เธออยากไปอยู่ที่บ้านฉันมั่นใจว่าต้องการอย่างที่พูดออกมา ไม่ใช่ต้องการชูคอให้สูงกว่าผู
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 2 สนามแข่งรถบรื้น บรื้น บรื้น...เฮ้...เฮ้...เสียงคำรามของรถแข่งในสนามดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามพร้อมกับเสียงเชียร์ของผู้คนนับหมื่นคนที่จดจ้องอยู่ที่รถแข่งหมายเลขเก้า รถแข่งคันหรูที่ถูกเสริมเติมแต่งด้วยอุปกรณ์ราคาแพงทั้งคัน ทุกอย่างที่ว่าดีอยู่ในรถคันนี้ทั้งหมด นอกจากรถแข่งคันหรูที่ผู้คนตื่นตาตื่นใจแล้วก็หนีไม่พ้นเจ้าของรถแข่งคันนี้ สาวๆหลายคนต่างจดจ้องและคาดหวังว่าสักวันจะได้เป็นตุ๊กตาหน้ารถให้กับชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาสไตล์ลูกครึ่ง บุคคลที่ทุกคนกล่าวขานว่าเขาคือนักซิ่งแห่งสนามทั่วประเทศไทยและต่างประเทศ"เห็นแค่รถยังรู้เลยว่าคนขับเท่แค่ไหน รอยสักที่คอชั่งกร้าวใจซะเหลือเกิน""คิดจะเป็นเมียต้องแย่งชิงกับฉันก่อนย่ะ ไปต่อแถวโน่นเลย""แย่งกันไปก็เท่านั้น เห็นพริตตี้ที่ยืนอยู่หน้ารถนั่นไหมล่ะ เขาพูดกันว่ากำลังขั้วกันอยู่ แต่ดูจากท่าทางหล่อนแล้วคงเรื่องจริง เพราะดูเชิดหน้าเหมือนมีคนสนับสนุนอยู่""หมายถึงขั้วอยู่กับ จัสติน นะเหรอ โอ้แม่เจ้า แต่มองไปมองมาผู้หญิงคนนั้นก็คงแซ่บไม่เบา ดูจากการแต่งตัวก็ไม่ต่างจากแก้ผ้าโชว์แขก นั่นนมหรือหัวเด็กทารก ไม่แปลกที่จะมีความสัม
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 18.00 น. "คุณหมอคนสวยวันนี้ทานอะไรดีคะ" แม่ค้าพูดทักทายหมอสาวด้วยท่าทางเป็นกันเอง"โกหกนับอีกแล้วนะจ๊ะ สภาพพึ่งออกเวรตอนเช้าไม่หลงเหลือความสวยเลยค่ะ"ฉันออกเวรและเลือกซื้ออาหารกับขนมในตลาดช่วงเช้าหน้าโรงพยาบาล มันเป็นเรื่องปกติก่อนที่จะกลับคอนโด หมออย่างฉันกินข้าวไม่เคยตรงเวลา พักผ่อนไม่เหมือนคนอื่น อย่างเช่นวันนี้ที่คนอื่นเร่งรีบเข้างานกันแต่เช้า แต่ตัวฉันพึ่งเลิกงานด้วยสภาพที่อิดโรย เวลาเข้าเวรดึกทีไรร่างกายฉันมันอ่อนล้ามากกว่าปกติ"ป้าก็ยังมองว่าคุณหมอนับดาวสวยเสมอ ต่อให้ออกเวรเช้าหรือออกเวรเย็น""พูดแบบนี้อยากเหมาหมดเลยจ้ะ" ฉันพูดหยอกล้อกับแม่ค้าด้วยท่าทางสนิทสนมเพราะเป็นร้านที่ฉันซื้อกับข้าวประจำ ฉันจะเลือกซื้อกับข้าวแค่สองอย่าง เพราะฉันใช้ชีวิตอยู่คนเดียว บ้านของฉันอยู่แถวชานเมืองไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองถ้าจะไปกลับบ้านโรงพยาบาลก็ค่อนข้างไกล ฉันเลยเลือกที่จะอยู่คอนโดไม่ไกลจากโรงพยาบาลไปกลับสะดวกกว่าอีกอย่างก็สามารถเดินไปได้โดยที่ไม่ต้องนั่งรถโดยสารหรือใช้รถส่วนตัวให้วุ่นวายคอนโดใจกลางเมืองติ๊ง...ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นเป้าหมาย คอนโดที่ฉันอยู่
บทนำ : พลั้งรักมาเฟียร้าย@โรงพยาบาลเอกชนหว่อ วี่ หว่อ วี่ หว่อ....เสียงไซเรนของรถพยาบาลดังขึ้นในช่วงกลางดึก และขับมาจอดหน้าโซนของตึกอุบัติเหตุฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว เหล่าเจ้าหน้าที่พยาบาลต่างทำงานกันอย่างคล่องแคล่วเพราะมันคือเรื่องปกติตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าของหมอสาววิ่งเข้ามาด้วยความเร็วเพื่อมารับเคสอุบัติเหตุฉุกเฉิน"คนไข้โดนอะไรมาคะ"“โอ๊ยยยย….” เสียงของคนเจ็บร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด"คนไข้รถล้มครับ" เจ้าหน้าที่กู้ภัยของโรงพยาบาลรีบแจ้งสถานการณ์ให้หมอรับรู้จะได้ทำการรักษาได้ถูกวิธี"เข้าห้องฉุกเฉินได้เลยค่ะ"เจ้าหน้าที่พยาบาลผู้ชายรีบเข็นเตียงคนไข้เข้าห้องฉุกเฉินตามที่หมอสาวสั่ง"เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อม""ได้ค่ะคุณหมอนับดาว"ภายในห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน "โอ๊ยเจ็บ...คุณหมอผมเจ็บ"เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ถูกเข็นเข้ามาร้องโอดโอยเมื่อถูกล้างแผลด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโดยหมอสาวคนสวย ต่อให้เธอมีใบหน้าสวยหวานแต่น้ำหนักมือของเธอไม่ได้อ่อนโยนเหมือนหน้าตาแม้แต่นิดเดียว แต่การรักษาของเธอทุกคนต่างยอมรับว่าเธอเป็นหมอที่เก่งและชำนาญในการรักษาเป็นอย่างมาก"ทนค่ะ ถ้าไม่ล้างให้สะอาดแผลจะติดเชื้อ ถ้า