ฉันหอบถุงพะรุงพะรังขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้อง พอพี่นพเห็นก็รีบวิ่ง
มาช่วยถือ รู้งี้ชวนพี่นพไปด้วยดีกว่า กะจะไปถอยรถใหม่มาจอดทิ้งไว้สักสองคัน คนมันรวย อิอิมาถึงห้องคุณเซ็นก็เปิดแอร์ไว้เย็นช่ำ ฉันนั่งลงโซฟา ตามด้วยพี่นพที่เอาของเข้ามาวางให้ ก่อนจะหลบไปยืนอีกมุม
เช็คของหน่อยสิ ฉันพิถีพิถันเปิดกล่องสีส้มอย่างถนุถนอม พร้อมหยิบกระเป๋าราคาแพงขึ้นมาจัดถ่ายรูปอัพลง I* รัว ๆ Hermes Kelly สามสิบห้าเซนติเมตรสีชมพูบานเย็น กับสีดำ ใช่ฉันซื้อมาสองสี ด้วยความที่ตัดสินใจไม่ได้
จริง ๆ เลยซื้อมาทั้งสองใบ พอลง I* ปุ๊บคอมเม้นก็เด้งรัวมาก เพราะราคากระเป๋าใบนี้ ใบละ 5 แสนกว่าบาท 2 ใบก็ 1 ล้านหน่อย ๆ รวย ๆ แบบนี้ถึงไม่ใช่ชมพู่ แต่กูก็ทำได้ (ยิ้มอย่างผู้ชนะ)“ข้อความในมือถือฉันเด้งไม่หยุด...” เสียงนิ่งดังขึ้นข้างหลังทำฉันตกใจ โทรศัพท์หลุดมือ หล่นตุบ ไปกองกับพื้น
ฉันไม่เก็บโทรศัพท์ แต่หันไปส่งยิ้มสวย ๆ ให้เขาแทน
“เผอิญ ผัวรวย ทำไมคะเลี้ยงไม่ไหวล่ะซิ ยกเลิกสัญญาเลยมั้ย ฉันช้อปเก่งนะ เนี่ยเบา ๆ พรุ่งนี้จะไปซื้อรถสักสองสามคัน เปิดเทอมไม่อยากขับรถซ้ำ ๆ
ไปเรียน” เขากอดอกมองของที่ฉันซื้อนิ่ง ๆ ฉันก็เดาไม่ถูกจริง ๆ ว่าเขาจะว่าอะไร ต่อจากนี้“ซื้อสักสิบคันกำลังดี นพพรุ่งนี้พาณีเวียไปซื้อรถสักสิบคันนะ”
“คะ ครับนาย” พี่นพตอบรับทันที
ฉันได้แต่ยื่นนิ่ง เพราะคิดว่าแผนตัวเองคงไม่สำเร็จแน่ ๆ เขาไม่สนใจที่ฉันรูดบัตรเขาไปเกือบสองล้าน แถมยอกย้อนคำพูดฉันหน้าตาเฉย ใครเขาจะซื้อรถมาใช้คนเดียวเป็นสิบคันตลก
“นี่ต้องซื้อของกี่บาทคุณถึงจะหมดตัว” ฉันหมั่นไส้เขาจริง ๆ อุตส่าห์ทำตัวให้เหมือนผู้หญิงเก่า ๆ ที่เขาเบื่อแล้ว ทั้งแต่งตัวโป๊ ทั้งผลาญเงิน ทำไมเขาไม่ยอมเบื่อ และไล่ฉันไปไกล ๆ สักที
“อยากให้ฉันหมดตัวเหรอ” เขาเดินเข้ามาชิดตัวฉัน จนฉันรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขา
“นพ ออกไป ล็อคประตูให้ฉันด้วย” เขาสั่งพี่นพในขณะที่ยังจ้องหน้าฉันไม่ละสายตา พี่นพรีบวิ่งออกไปล็อคประตูทันที เดี๋ยวพี่นพช่วยณีเวียด้วย! ฮือ~
“เปล่าสักหน่อยแค่ถามดู” เขาเอามือมาโอบหลังฉันแล้วดันเข้าหาตัวเอง จนจมูกเราสองคนชนกัน
“ชอบถูกทำโทษสินะ?”
‘ตึก ตึก ตึก’ ฉันไม่ตอบอะไร ได้ยินแต่เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เบา ๆ สิเจ้าหัวใจ เดี๋ยวเขาก็รู้หรอก…
“เปล่า ปล่อยเถอะค่ะ” ฉันพยายามหลบสายตาเขา ที่เอาแต่จ้องตาฉัน เขาคงรู้แล้วว่าหัวใจฉันเต้นแรงแค่ไหน เพราะหน้าอกหน้าใจตูม ๆ ของฉัน แนบชิดเขาจนไม่เหลือทรงเดิม
มือหนาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปหลังสาปเสื้อ ปลดตะขอบราลูกไม้ตัวโปรดฉัน ด้วยมือเพียงข้างเดียว...
“อยากให้เก่งเหมือนช้อปปิ้ง” เขากระซิบข้างหูฉันเสียงแผ่วเบา ฉันตัวแข็งทื่อเหมือนถูกเสียงมหาเสน่ห์สะกดวิญญาณ…
‘ตึก ตึก ตึก’ เสียงหัวใจฉันเอง... ทำไมเขาต้องมาทำตัวเซกซี่เร่าร้อนใส่ฉันด้วยเนี่ย
เขาประทับจูบลงเบา ๆ ก่อนริมฝีปากนุ่มจะเลื่อนลงมาซุกไซร์คอจนฉันเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย มือขวานั้นมิวายอยู่นิ่ง ยังส่งนิ้วชี้แสนซนมาบดขยี้เม็ดสาว
กลางอก อื้ม~ มันกระตุ้นความรู้สึกเสียวกระสัน...จนฉันอยาก... อยากรับรสสัมผัสจากเขามากขึ้นอีก
--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
ฉันนั่งมองหมวยน้อยกับณีเวีย ก็อดยิ้มตามไม่ได้ แตงโมคลอดธรรมชาติ! ไม่อยากจะเชื่อ ฉันหน่ะสิ สามคนในท้อง หากคลอดธรรมชาติฉันอาจจะขาดใจตายก่อน ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ไม่ต้องถามว่าท้องใหญ่แค่ไหน มันใหญ่จนฉันเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฮ่องกงถูกแคนเซิลถาวร ไม่มีกำหนดไป แต่ได้หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเบนซ์เอสคลาสเป็นของขวัญแต่งงานนะจ๊ะ ฉันนั่งคุยกับเพื่อนสักพัก เพื่อรอสามีออกเวร สลับไปห้องแตงโมบ้าง ห้องณีเวียบ้าง ณีเวียเจ็บแผลคุณเซ็นจึงเป็นคนเลี้ยงลูก วุ่นวายจนต้องเอางานมาทำที่โรงพยาบาล เห็นแล้วน่ารักดี แต่ก็แอบขำ ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ หมอนายเปิดประตูเข้ามา เดินมาตรวจแผลณีเวีย “อย่าหัวเราะดังนะ ระวังแผลฉีก” ณีเวียตกใจเอามือปิดปากทันที “ค่ะ อิอิ จะพยายาม” หมอนายยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาฉัน เขานั่งลง เอามือสองข้างโอบท้องฉันไว้ “ไงครับ ลูกพ่อ” เท่านั้นล่ะ! ตุบ ๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจุก! ลูกถีบหนักมาก รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวทันที เมื่อได้ยินเสียงพ่อเขา “โอ้ย เบา ๆ ลูก แม่จุกแล้ว” ฉันลูบท้องปราม ณีเวี
ฉันอยากจะบ้า อยากจะบ้าจริง ๆ ฉันทรมานมากตอนนี้ “ใช่สิสามชั่วโมงผ่าไม่ได้ แตงโมกินเยอะไหม” หมอนายถามฉันอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือดู… “เรื่อย ๆ ค่ะ คุยไปกินไป ฮือ ๆ” ฉันหลับตาปี๋ ปวดทรมานไปหมด “งั้นประมาณ หกชั่วโมง ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อน” ฮือ ๆ หกชั่วโมง กับยาแก้ปวด โอ้ย! แล้วมันหายปวดเป็นปลิดทิ้งมั้ยล่ะ! “หมอคะ เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ไออุ่นเริ่มถีบท้องฉันรัวแล้ว โอ้ยลูก! อย่าซน ใจเย็น ๆ ลูกแม่ปวด “ไม่ได้จริง ๆ ปกติ ต้องงดข้าวงดน้ำหนึ่งวันเต็ม ๆ” “หมอ แตง... โอ้ย ๆ แตงแจ้งตั้งแต่ฝากครรภ์แล้ว ฮือ ๆ ว่าจะผ่า ไม่คลอดธรรมชาติเด็ดขาด” หมอนายเดินมาใกล้ ๆ ฉัน “ทำไม คลอดธรรมชาติมันปลอดภัยกว่านะ แผลหายเร็วด้วยเจ็บแป๊บเดียว ปวดขนาดนี้ลองเบ่งดูก่อนไหม” ฉันกุมท้องนอนร้องไห้ ในใจนึกโกรธสามี ทำไมฉันต้องมาทรมานคนเดียวด้วย อิตาเอส! “หมอ... ฮือ ๆ ขอยาแก้ปวดก่อนค่ะ ๆ ด่วน” ฉันถูกเข็นไปอีกห้อง และได้ยาแก้ปวดเรียบร้อย อาการทุเลาลง แต่ถามว่ายังปวดไหม ปวดสิ! “พยาบาล
ฉันยืนมองณีเวียและคุณเซ็น ยิ้มกันมีความสุข ก็อดยิ้มตามไม่ได้เลย ลูก ๆ พวกเขาน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เยี่ยมเพื่อนและหลาน ๆ เสร็จ ฉันกับตาเอสก็ออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถฉันก็คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จะเจ็บแค่ไหนนะ! ณีเวียบอกกับฉันว่าตอนปวดท้องคลอด มันปวดมาก ปวดเหมือนจะตาย ตุบ ๆ นั่นไง พอนึกถึงเรื่องนี้ ลูกสาวตัวดีของฉันก็ดิ้นใหญ่ ฉันลูบท้องเบา ๆ จนสามีเอื้อมมือมาลูบด้วย “ลูกสาวพ่อ พร้อมหรือยัง” ถามแม่บ้างเถอะ! กลัวชะมัด “ฉันยังไม่พร้อม! อย่าเพิ่งสิ” ตาเอสหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มฉัน “หมวยเธอมันพลังช้างอยู่แล้ว เบ่งเลยสะใจ” “นายลองไปนอนเบ่งดูไหมล่ะตาบ้า!” เขาหัวเราะชอบใจ หน้ากวน ๆ หันมายักคิ้วให้ฉัน “หรือจะผ่าก่อน… จะได้ไม่ต้องเจ็บสองทาง” ฉันหันไปมองเขาทันที เจ็บสองทางงั้นเหรอ “ถ้าถึงกำหนดคลอดก็คลอดเลยสิ ถ้าไม่ปวดก่อน” เอ๊ะก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่สามีกวน ๆ ของฉัน ทำไมรู้ดีนัก “รู้ดีนะ” เขายักคิ้วยิ้มกริ่ม
23.56 ฉันเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น สามีนักธุรกิจของฉัน เขายังคงนั่งทำงานที่ห้องทำงานอีกฝั่ง ส่วนฉันตอนนี้ไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ว่าตัวเองท้องเสีย หรือจะคลอด ทำไมปวดท้องแบบนี้ ฉันค่อย ๆ จับผนังหวังประคองตัวเองเปิดประตู อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณเซ็นให้อุ่นใจ แต่ซ่า... นะ น้ำอะไร ฉันไม่ได้ฉี่ราดนะ หรือมันจะเป็น... เป็นน้ำคล่ำ! “กรี๊ด...” ฉันจับประตูกรี๊ดลั่น ดังทั้งเพนท์เฮ้าส์ จนสามีวิ่งออกมาจากห้องทำงาน “เป็นอะไร! เห้ย…” คุณเซ็นวิ่งมาประคองฉันทันที ตอนนี้ฉันเหงื่อท่วมตัว อาการปวดท้องหน่วงมันเริ่มหนักขึ้น หนักจนฉันพรรณนาออกมาไม่ได้! “ไม่ไหว ปวดท้องแล้ว ปวดแล้ว! ฮือ!” ฉันบีบมือเขาแน่น น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม คุณเซ็นรีบโทรหาคนขับรถ และโรงพยาบาลทันที “ผมเซ็นดิณภัทร! ณีเวียภรรยาผม เธอปวดท้องครับ หมอเจ้าไข้ หมอนาย ขอบคุณครับ” เขารีบวางสายแล้วโทรอีกครั้ง “นพเตรียมรถด่วน!” โอ้ย! อะไรนักหนา พาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! ไม่ไหวแล้ว! “คุณ ไปโร