LOGINวันต่อมา
ของขวัญเดินทอดน่องเข้าไปในพื้นที่ของคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างเร่งรีบ ชุดนักศึกษาถูกคลุมเอาไว้ด้วยเสื้อกันหนาวคอเต่าอีกชั้นเพื่อปิดบังรอยจ้ำทั้งที่อากาศค่อนข้างร้อน ใบหน้าสวยถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากากอนามัยราวกับกลัวว่าใครจะจำหน้าได้
เธอทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนสนิทที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ
“ของขวัญ”
เพลินตา เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของของขวัญ เอ่ยเรียกอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักว่าใช่เพื่อนของเธอหรือเปล่า แต่ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนสาวสุดโก๊ะของเธอที่ชอบทำตัวแปลกประหลาดอยู่บ่อย ๆ
“เป็นอะไรทำไมต้องใส่แมส แล้วนี่ไม่ร้อนเหรอใส่เสื้อกันหนาวซะมิดชิดเชียว”
เพลินตาเอ่ยถามเพื่อนสาว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะท่าทางของเธอ
“ไม่สบายนิดหน่อย กลัวเพื่อนจะติดไข้” ลดหน้ากากอนามัยลงก่อนจะยิ้มเจื่อนให้เพื่อนแล้วตอบเสียงเบา
“เออ! แล้วเป็นยังไงบ้าง จ๊อบวันเสาร์เรียบร้อยไหม”
เพลินตาเอ่ยถามถึงงานพิเศษที่เพื่อนสาวรับจ๊อบเอาไว้เมื่อวันเสาร์ มีคนจ้างให้เธอไปเสิร์ฟอาหารในงานวันเกิดของคุณยายวัยเกษียณ แต่ทว่าพอเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว กลับเจอเข้ากับแก๊งขององศา คู่อริเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายของเธอ
คิดขึ้นมาแล้วก็รู้สึกโมโหสุดขีด หากคืนนั้นเธอหนีออกมาไม่ได้ คงได้กลายเป็นเมียมัน เผลอๆ อาจได้เป็นเมียของเพื่อนมันไปด้วย เธอรู้สึกคับแค้นใจไม่หาย
“ว่าไง เรียบร้อยไหม” เพลินตาถามย้ำ
“เพลิน จำไอ้องศาได้ไหม คนที่เราเคยเล่าให้ฟังว่ามันเล่นงานเราไม่เลิกอะ”
“จำได้ ทำไมเหรอ”
“วันนั้นเป็นมันที่หลอกเราไป พวกมันตั้งใจจะข่มขืนเรา”
“จริงเหรอ แล้วขวัญเป็นอะไรไหม”
“ไม่เป็นไร พอดีเราหนีออกมาได้”
“ทำไมมันถึงตามรังควานเธอไม่เลิกสักทีนะ” เพลินตาเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ
ของขวัญครุ่นคิด ทั้งที่ความจริงแล้วเธอกับองศาเป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมต้น แต่ไม่ได้สนิทกันสักเท่าไหร่เพราะเธอเป็นพวกเด็กตั้งใจเรียนถึงแม้จะเรียนไม่ค่อยเก่งก็เถอะ ส่วนองศาเป็นพวกเด็กเกเร ชอบรีดไถเงินคนในโรงเรียนไปทั่วไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็ก
แต่ช่วงมอปลาย องศามาสารภาพรักกับเธอต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนแต่ถูกเธอปฏิเสธ มันคงทำให้เขารู้สึกเสียหน้า จึงคิดอยากเอาคืนเธอหลายเท่า
เมื่อปีก่อนองศาเคยจะฉุดกระชากลากเธอเข้าไปในรถ ดีที่ทิศเหนือผ่านมาเห็นเข้าจึงช่วยเอาไว้ ตอนนั้นทิศเหนืออัดองศาซะน่วมไปทั้งตัว มันเลยยิ่งไปเพิ่มความแค้นให้องศามากขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นองศาก็หาวิธีเล่นงานเธอสารพัด ตาของเธอเคยพาไปแจ้งความที่โรงพัก แต่ตำรวจก็ทำอะไรมันไม่ได้ เพราะเขาเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลในละแวกนั้น
หลังจากวันนั้นของขวัญจึงตัดสินใจย้ายมาเช่าหอพักอยู่ใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยเพื่อหนีมัน แต่สุดท้ายมันก็ยังตามมาเล่นงานเธออีกจนได้
“ไม่รู้เมื่อไหร่มันจะเลิกตามจองเวรเราสักที เฮ่อ!”
หญิงสาวย่นคิ้วคิดหนัก
เที่ยงวัน
ของขวัญเดินลงจากตึกเรียนพร้อมกับเพื่อนสาว พวกเธอกำลังมุ่งหน้าไปที่โรงอาหารของคณะ
แต่ทว่าร่างบางต้องหยุดชะงักแล้วหันหลังขวับ เมื่อเห็นว่าด้านหน้าทางเข้าโรงอาหารมีกลุ่มของทิศเหนือยืนอยู่
“ของขวัญเป็นอะไร จู่ ๆ หยุดเดินทำไม”
“พอดีเรานึกขึ้นมาได้ว่าลืมของน่ะ เพลินเข้าไปก่อนเลยนะเดี๋ยวเรากลับไปเอาของแล้วจะรีบตามไป”
พูดเสร็จก็แยกตัวออกมาจากเพื่อน พอลับตาเพื่อนเธอก็เดินเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำบริเวณนั้น หน้าสวยชะโงกออกมาดูกลุ่มคนหน้าโรงอาหารอยู่เรื่อย ๆ เพื่อคอยสังเกต
ทางด้านของทิศเหนือ หลังกินข้าวเสร็จเขาและพวกเพื่อน ๆ กำลังนัดแนะกันเรื่องงานปาร์ตี้อยู่ตรงด้านหน้าของโรงอาหาร
ระหว่างนั้นสายตาคู่คมเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนของเธอ แม้เธอจะใส่หน้ากากอนามัยปกปิดไว้เป็นอย่างดิบอย่างดี แต่รูปร่างของเธอดูคุ้นตาชะมัด
แต่จู่ ๆ เธอกลับหยุดชะงักแล้วหันหลังวิ่งออกไปเสียอย่างนั้น
ทิศเหนือรู้สึกสนใจผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาทันที ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าจะใช่อย่างที่เขาคิดเอาไว้หรือเปล่า
ร่างสูงรีบแยกตัวออกมาจากเพื่อนแล้วเดินย่องเข้าไปแถว ๆ ห้องน้ำ
ของขวัญชะโงกหน้าออกมาจากห้องน้ำอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ครั้งสุดท้ายจะเห็นว่าอีกคนไม่ได้ยืนอยู่ตรงบริเวณนั้นแล้ว เธอจึงเดินออกมาจากที่ซ่อน
เธอมองไปที่หน้าโรงอาหารอีกครั้งเพื่อเช็กให้แน่ใจ มือเล็กยกขึ้นมาทาบไว้ตรงอกด้านซ้ายก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“เฮ่อ! โล่งอกไปที”
หมับ!
เดินออกมาจากห้องน้ำเพียงไม่กี่ก้าว ก็ถูกใครบางคนกระชากอย่างแรงจนตัวแทบปลิว แรงกระชากทำให้ร่างเธอกระทบเข้ากับคนตัวสูงเสียงดัง ปึก!
ของขวัญเงยหน้าขึ้นช้า ๆ เพื่อมองหน้าคนที่กระชากข้อมือของเธอว่าเป็นใคร
“ค...คุณ”
เผลอเรียกคนตรงหน้าด้วยความตกใจ
ทิศเหนือแสยะยิ้มมุมปากจ้องมองคนตัวเล็ก ก่อนจะยกมือขึ้นมากระชากหน้ากากอนามัยของเธอออกในทันที
“หึ”
เสียงแค่นหัวเราะดังออกมาเบาๆ อย่างพอใจ คิดแล้วไม่มีผิดว่าต้องใช่เธอจริง ๆ
ของขวัญยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาปิดหน้าตัวเองอย่างลนลานราวกับคนกลัวความผิด ก่อนจะก้มหน้าหลบตาคนที่พยายามจะจับผิด แอบหวังว่าบางทีเขาอาจจะจำเธอไม่ได้
“ขอตัวนะคะ” สะบัดแขนแล้วรีบเดินออกมา
“เดี๋ยว”
ข้อมือเล็กถูกคว้าเอาไว้อีกครั้งแล้วกระชากเบา ๆ ให้เธอหยุด
หญิงสาวหันกลับมามองเขา ย่นหัวคิ้วเล็กน้อยแล้วถามขึ้น
“อะไรคะ”
“เสื้อฉันอยู่ไหน”
“ฮะ”
มองเขาอย่างไม่เข้าใจ แค่จะทวงเสื้อจากเธอหรอกเหรอ ถึงจะไม่ได้อยากได้ของของเขาก็เถอะ แต่คนรวยอะไรก็ไม่รู้ขี้หวงชะมัด กะอีแค่เสื้อยืดตัวหนึ่งกับเสื้อแจ็กเกตหนังตัวหนึ่งแค่นั้นเอง เธอคืนให้ก็ได้ ไม่ได้อยากได้สักหน่อย
คิดแล้วก็ตวัดสายตามองเขา ก่อนจะรีบเอ่ย
“อยู่ที่ห้องค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอามาคืนให้”
“ฉันจะเอาวันนี้”
“ก็ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันจะคืนให้คุณได้ยังไงล่ะคะ”
ขมวดคิ้วมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ
“เอาเบอร์โทรมา เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะไปเอาที่ห้องเธอ”
เขาเอ่ยพร้อมกับยื่นมือถือราคาแพงให้เธอ หญิงสาวมุ่ยหน้าใส่เขาแล้วรับมือถือมากดเบอร์ของตัวเองลงไปในนั้นก่อนจะยื่นมันคืนให้เขา
หลังจากรับมือถือคืนมา ทิศเหนือก็กดโทรออกทันที เขาต้องเช็กให้แน่ใจว่าเบอร์ที่เธอให้มา เธอไม่ได้กดสุ่มมั่ว ๆ
ครืด! ครืด! ครืด!
ยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินเสียงมือถือในกระเป๋าสะพายข้างของหญิงสาวดังขึ้น หลังจากนั้นจึงกดวางสาย
“ไม่มีอะไรแล้วฉันไปนะคะ”
ของขวัญเอ่ยบอกแล้วตั้งท่าจะเดินออกมา แต่ทว่า
หมับ!
“เดี๋ยวก่อน”
เขาดึงรั้งข้อมือเธอไว้อีกครั้ง
“มีอะไรอีกคะ”
หันกลับมาแล้วใช้น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ถามเขา
“คืนเงินที่เธอขโมยไปด้วย”
“ฮะ”
กลั้นอารมณ์โมโหเอาไว้แล้วล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมาเปิด หยิบเงินแบงก์พันหนึ่งใบยื่นให้คนตรงหน้า ก่อนจะชักสีหน้าแสดงอาการไม่พอใจใส่เขาแล้วรีบเดินออกมา
อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นคนรวยประเภทไหนกัน ทำไมถึงขี้งกได้ขนาดนี้ หรือแท้จริงแล้วเป็นพวกคนรวยจอมปลอมกันแน่
ทิศเหนือมองตามร่างเล็กที่เดินสะบัดก้นออกไป มุมปากยกยิ้มอย่างพอใจกับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของหญิงสาวเขายกมือถือขึ้นมาดูเบอร์ที่เพิ่งกดโทรออก ตั้งใจจะบันทึกเอาไว้แต่ก็ลืมไปว่ายังไม่รู้จักชื่อเธอริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขากดพิมพ์คำว่า ‘ยัยหัวขโมย’ ใช้แทนชื่อของเธอแล้วกดบันทึกเอาไว้ช่วงเย็นของขวัญเดินลงจากตึกเรียนในช่วงเวลาใกล้ค่ำเพียงลำพัง เนื่องจากต้องอยู่วาดงานสีน้ำส่งอาจารย์ในท้ายคาบแต่เพราะฝีมือของเธอยังอ่อนหัดจึงทำเสร็จช้ากว่าเพื่อน ๆ ทำให้ต้องอยู่เลยเวลาไปเกือบชั่วโมงเมื่อเดินมาถึงทางเดินหน้าตึกเธอก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูทันทีหญิงสาวกดเข้าแอปพลิเคชันไลน์ที่เพิ่งมีคนเพิ่มเพื่อนเข้ามา เพื่อนใหม่ของเธอตั้งโปรไฟล์เป็นรูปเข็มทิศที่ปลายเข็มชี้ไปยังตัว N ดูก็รู้ว่าเป็นใครนิ้วเล็กกดเข้าไปเปิดอ่านข้อความที่เพื่อนใหม่ส่งมาให้ทิศเหนือ : อยู่ไหนทิศเหนือ : รอนานแล้วนะทิศเหนือ : ฉันชักจะหมดความอดทนแล้วนะ ถ้าภายในสิบนาทียังไม่ตอบ เธอได้เห็นดีแน่ยัยหัวขโมยนั่นคือข้อความสุดท้ายที่เขาส่งมาหาเธอเมื่อแปดนาทีที่แล้วใช้สายตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะพิม
วันต่อมาของขวัญเดินทอดน่องเข้าไปในพื้นที่ของคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างเร่งรีบ ชุดนักศึกษาถูกคลุมเอาไว้ด้วยเสื้อกันหนาวคอเต่าอีกชั้นเพื่อปิดบังรอยจ้ำทั้งที่อากาศค่อนข้างร้อน ใบหน้าสวยถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากากอนามัยราวกับกลัวว่าใครจะจำหน้าได้เธอทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนสนิทที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ“ของขวัญ”เพลินตา เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของของขวัญ เอ่ยเรียกอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักว่าใช่เพื่อนของเธอหรือเปล่า แต่ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนสาวสุดโก๊ะของเธอที่ชอบทำตัวแปลกประหลาดอยู่บ่อย ๆ“เป็นอะไรทำไมต้องใส่แมส แล้วนี่ไม่ร้อนเหรอใส่เสื้อกันหนาวซะมิดชิดเชียว”เพลินตาเอ่ยถามเพื่อนสาว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะท่าทางของเธอ“ไม่สบายนิดหน่อย กลัวเพื่อนจะติดไข้” ลดหน้ากากอนามัยลงก่อนจะยิ้มเจื่อนให้เพื่อนแล้วตอบเสียงเบา“เออ! แล้วเป็นยังไงบ้าง จ๊อบวันเสาร์เรียบร้อยไหม”เพลินตาเอ่ยถามถึงงานพิเศษที่เพื่อนสาวรับจ๊อบเอาไว้เมื่อวันเสาร์ มีคนจ้างให้เธอไปเสิร์ฟอาหารในงานวันเกิดของคุณยายวัยเกษียณ แต่ทว่าพอเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว กลับเจอเข้ากับแก๊งขององศา คู่อริเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายของเธอคิดขึ้นมาแล้ว
ทิศเหนือตื่นขึ้นมาในช่วงบ่าย ร่างแกร่งขยับตัวอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ด้วยอาการสะลึมสะลือ แขนยาวเอื้อมไปอีกฝั่งของเตียงนอนเพื่อกอดคนข้าง ๆ เขาพยายามควานไปจนทั่วแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าเขาลืมตาตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ผงกศีรษะขึ้นมองด้านข้างเพื่อเช็กดูให้แน่ใจอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบ ๆ ห้อง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าหญิงสาวที่เขามีอะไรด้วยเมื่อคืนไม่ได้อยู่ในห้องนอนของเขาชายหนุ่มรู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันที เขาไม่เคยถูกผู้หญิงชิ่งหนีหลังจากที่มีอะไรกันมาก่อน แถมตอนนี้ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร แม้จะรู้สึกว่าคุ้นหน้าเธออยู่บ้างก็เถอะร่างสูงลุกออกจากเตียงนอน สายตาทอดมองไปที่คราบเปื้อนบนผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ราวกับสนามรบ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงเที่ยวกลางคืนอย่างเด็กนั่นจะยังบริสุทธิ์อยู่เขาแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงบทรักอันเร่าร้อนระหว่างเขาและเธอเมื่อคืน หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะเดินออกมาแต่งตัวที่หน้าตู้เสื้อผ้าเขาเลือกสวมเสื้อยืดกางเกงยีนขายาวตามสไตล์หนุ่มมาดเซอร์ ก่อนจะค้นหาเสื้อแจ็กเกตหนังตัวโปรดเพื่อมาสวมทับอีกที แต่ทว่าเขาค้นหาจนทั่วตู้เสื้อผ้าก็ยังไม่เจอ จำได้ว่าครั้งล่
ทิศเหนือก้มหน้าลงที่สองเนินอวบนูน ก่อนจะแลบลิ้นเลียวนเวียนอยู่บนเม็ดยอดทับทิมสีหวานที่ตั้งชูชันราวกับยั่วยวนเขา สองมือหนาบีบเคล้นทั้งสองเต้าป้อนเข้าปากแล้วดูดดึงสลับไปมาทั้งสองข้างเพื่อช่วยโลมเล้าอารมณ์ของเธอ ก่อนจะเลื่อนลงมาซุกไซ้ไปตามเรือนร่างนุ่มนิ่มพร้อมกับขบเม้ม จนเรือนร่างขาวนวลเกิดรอยจ้ำสีแดงตามจุดที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่าน“อ๊า~”หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง ทิศเหนือจึงอาศัยจังหวะที่เธอส่งเสียงคราง ดันแท่งเนื้อลำใหญ่เข้าไปทีเดียวจนมิดลำ ทำเอาเธอจุกหน่วงไปจนทั่วท้องน้อยชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสร้องโอดครวญ ปากหนารีบประกบจูบแล้วดูดดึงลิ้นเล็กทันทีสองมือทำหน้าที่บีบขยำสองเต้าไม่หยุดมือ ริมฝีปากก็ทำหน้าที่บดจูบอยู่ที่ริมฝีปากของเธอไม่หยุดปาก ส่วนเอวแกร่งก็ทำหน้าที่กระแทกกระทั้นส่งลำเอ็นเข้าออกร่องเธออย่างไม่หยุดเช่นกัน“อา~เสียวฉิบหาย”เสียงครางอย่างหยาบโลนดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอแกร่ง เขารู้สึกสยิวไปทั้งตัวเพราะร่องของหญิงสาวตอดรัดแท่งเอ็นจนเขาแทบทนไม่ไหวและคงเสร็จในไม่ช้าร่างสูงสอบเอวเข้าออกอย่างรัวเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าน้ำรักกำลังจะพุ่งทะยานออกมาเขากระแทกแรง ๆ อย่างลื
พูดจาดิบเถื่อนใส่เธอแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ในขณะที่เอวสอบก็ทำหน้าที่ขยับไม่หยุดส่วนคนใต้ร่างแทบจะหยุดหายใจเพียงแค่ได้ฟังคำพูดลามกของเขา เธอต้องเบือนหน้าแดงระเรื่อหนีไปอีกทางเพื่อหลบสายตาหื่นกระหายที่มองมา“หึ~”เขาจับมือเธอออกจากแท่งเอ็นของตัวเอง ก่อนจะโน้มตัวเธอลงนอนแล้วขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงบดจูบริมฝีปากของหญิงสาวอย่างดุเดือดเร่าร้อน ลิ้นเรียวถูกสอดแทรกเข้าไปด้านในทั้งดูดทั้งเลียไปจนทั่วโพรงปาก มือสองข้างก็ทำหน้าที่เล้าโลมไปจนทั่วร่างบางตั้งแต่เต้าอวบเลื่อนไปจนถึงสะโพกมนสวย แล้วบีบขยำเล่นอย่างสนุกมือเขาใช้ประสบการณ์ที่ช่ำชองโลมเล้าร่างสวยอย่างชำนาญ ก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะปาดผ่านร่องกลีบที่ปิดสนิทเพื่อสะกิดจุดอ่อนไหวของหญิงสาว“อ๊ะ~”มีเสียงครางเล็ดลอดออกมาเบา ๆ จากลำคอระหง เธอพยายามดิ้นหนีจากการรุกล้ำที่เกินเลยของเขา แต่ทว่าแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้าน สัมผัสของเขาทำเธอวาบหวามอ่อนระทวยไปทั้งตัว“หึ หึ”คนตัวสูงดูจะถูกใจกับเสียงครางเบา ๆ ไม่น้อย เมื่อรู้จุดอ่อนไหวของเธอเขาล็อกเป้าหมายแล้วมุ่งโจมตีทันทีเขาหยัดตัวคุกเข่า มือหนาเอื้อมไปลูบวนตรงหว่างขาเรียวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะใช
หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มเข้าไปในบ้านสองชั้น ที่ด้านในตกแต่งไว้ด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราโอ่อ่าราวกับบ้านในละครหลังข่าวที่เธอเคยดูตอนเด็ก แม้จะพอรู้มาบ้างว่าครอบครัวของเขาคือตระกูลนักธุรกิจชื่อเสียงโด่งดังที่คนในประเทศต่างก็นับหน้าถือตา แต่พอได้มาเห็นของจริงก็อดตกตะลึงไม่ได้ เธอไม่คิดว่าเขาจะรวยขนาดนี้ของขวัญเดินตามทิศเหนือเข้ามาด้านในอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงกลางห้องขนาดใหญ่ที่จัดตกแต่งเอาไว้คล้ายกับห้องรับแขกส่วนเจ้าของบ้าน เขาเดินเข้าไปหยิบไวน์ในตู้เย็นออกมาเทใส่แก้วแล้วยกดื่มอย่างใจเย็น ก่อนจะเทอีกแก้วแล้วยื่นมันให้เธอ“ดื่มสิ”“ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ”“หึ เล่นบทใสซื่อสินะ”เขาแค่นหัวเราะแล้วกล่าวดูถูก ก่อนจะเดินเข้าใกล้แล้วจ่อแก้วไว้ที่ริมฝีปากของหญิงสาว“หรืออยากดื่มจากปากของฉัน”หญิงสาวรับแก้วจากมือของเขาแล้วรีบยกดื่มเธอทำหน้าเหยเกกับรสชาติของไวน์ที่เพิ่งดื่มเข้าไป มันทั้งขมและเฝื่อนจนอยากจะบ้วนทิ้ง แต่ต้องจำใจกลืนมันลงคอเพราะคนตรงหน้าจ้องเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อไม่รู้ว่าพวกคนรวยกินเข้าไปได้ยังไง รสชาติแสนห่วยแถมยังราคาแพงอีกต่างหากในระหว่างที่เธอให้ความสนใจกับไว







