Share

บทที่ 9

Author: หมึกย้อมแผ่นดิน
ลั่วฝานก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นี่เป็นอะไรไปอีก? เหตุใบหน้าใดจึงแดงก่ำแล้ว

อู่ชิง จูอีโหรว และซ่างกวนถิง ทั้งสามคนล้วนไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อลั่วฝาน เป็นเพียงโชคชะตาเล่นตลกเท่านั้น เพื่อความอยู่รอดจึงจำเป็นต้องลดตัวมาแต่งงานกับลั่วฝาน

แม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันมาเป็นเดือนแล้ว แต่คนที่ร่วมห้องกับลั่วฝานจริงๆ มีเพียงจูอีโหรวเท่านั้น และนี่ก็เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน หลังจากที่จูอีโหรวคิดอยู่นานครึ่งค่อนวัน จึงตัดสินใจมอบกายให้ลั่วฝาน

ร่างกายของเจ้าของร่างเดิมถูกสุรานารีสูบจนเสื่อมโทรมไปนานแล้ว ประกอบกับติดการพนันเป็นชีวิตจิตใจ หลังจากแต่งงานกับภรรยาคนงามทั้งสาม เขาก็มุดหัวอยู่ในบ่อนนานกว่าครึ่งเดือน

ทุกครั้งที่กลับบ้านก็ไม่เคยใกล้ชิดทั้งสามคน เอาแต่จะไถเงิน ไถสินเดิมไปขายเพื่อเอาเงิน แถมอู่ชิงแม้จะเป็นสตรีคนหนึ่ง แต่กลับมีพละกำลังมาก บนตัวพอมีวรยุทธ์อยู่บ้าง

ทุกครั้งที่ลั่วฝานคิดจะร่วมหลับนอน ก็มักจะถูกอู่ชิงขัดขวางไว้ไม่ยอมให้ทำ

เมื่อคืนจูอีโหรวเห็นว่าลั่วฝานเปลี่ยนไปมาก และก็อยากให้ทั้งสามคนใช้ชีวิตกันดีๆ จึงเรียกอู่ชิงและซ่างกวนถิงมา ตกลงกันว่าจะผลัดกันปรนนิบัติลั่วฝานคนละหนึ่งคืน ทั้งสามคนจึงจับฉลากกัน เดิมทีคืนแรกควรจะเป็นของซ่างกวนถิง ทว่านางมีระดูมาอีก

จูอีโหรวจึงเสนอให้เรียงตามลำดับอาวุโส ตนเองเป็นคนแรก วันที่สองคืออู่ชิง

ใบหน้างดงามของอู่ชิงแดงก่ำ กัดฟันแน่นแล้วจึงเข้าไปในห้องก่อน

ลั่วฝานไม่ได้คิดอะไรมาก เขามอบเงินห้าตำลึงให้จูอีโหรว แล้วสั่งการสองสามคำ “น้องหญิง พรุ่งนี้เจ้าไปซื้อผ้าห่มมาสองผืน อากาศจะหนาวแล้ว ผ้าห่มสองผืนที่บ้านใช้จนเกือบจะเปื่อยหมดแล้ว ไม่ได้ให้ความอบอุ่นเลย”

จูอีโหรวจ้องมองเงินห้าตำลึงในมือ บนใบหน้าเผยความไม่อยากจะเชื่อ

ห้าตำลึง?

เมื่อก่อน ขอเพียงลั่วฝานมีเงินอยู่ในมือ เขาก็จะเอาไปเล่นพนัน ไม่เคยเหลือเงินให้ที่บ้านแม้แต่แดงเดียว แต่ตอนนี้ ลั่วฝานกลับให้เงินนางถึงห้าตำลึง...

ขอบตาของจูอีโหรวพลันแดงก่ำขึ้นมา เมื่อนึกถึงความลำบากที่เคยได้รับในอดีต ก็เผลอร้องไห้ออกมาเบาๆ

“น้องหญิง เจ้าเป็นอะไรไป? ร้องไห้ทำไมกัน?” ลั่วฝานลนลานขึ้นมาทันที

“ไม่มีอะไร ข้าแค่ดีใจ” จูอีโหรวเช็ดน้ำตาที่หางตา พลางเอ่ยเสียงเบาๆ

หลังจากมอบเงินให้จูอีโหรวแล้ว ลั่วฝานก็กลับมาที่ห้องของตนเอง เพิ่งจะเดินไปนั่งลงที่ขอบเตียง

ก็ได้ยินเสียงร้องโอ๊ยดังขึ้น

ลั่วฝานกระเด้งตัวลุกขึ้นทันที

เขาลองคลำดูใต้ผ้าห่ม ถึงได้พบว่า อู่ชิงกำลังนอนคลุมโปงอยู่ในผ้าห่มนั่นเอง

“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ลั่วฝานกล่าวอย่างประหลาดใจ

อู่ชิงโผล่ศีรษะออกมา ที่หางตายังมีคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่ “วันนี้ถึงตาข้าปรนนิบัติท่าน”

อู่ชิงพูดพลางหันหน้าไปอีกทาง หางตาของนางมีน้ำตาใสหยดหนึ่งไหลผ่าน

เมื่อเห็นท่าทางของอู่ชิงในตอนนี้ บนใบหน้าของลั่วฝานก็เผยความจนปัญญา จึงนั่งลงตามสัญชาตญาณ

และในชั่วพริบตาที่ลั่วฝานนั่งลง อู่ชิงก็เกร็งขึ้นมาทันที แล้วหดตัวตามสัญชาตญาณ

ลั่วฝานเห็นดังนั้น ก็รู้ว่าในใจของอู่ชิงยังคงยอมรับตนไม่ได้ จึงกล่าวว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องฝืนใจตัวเอง ข้าก็จะไม่บังคับเจ้าเช่นกัน เดิมทีพวกเราก็เป็นสามีภรรยาที่จำใจต้องแต่งงานกันเพราะความลำบาก ไม่ได้มีพื้นฐานความรู้สึกอะไรต่อกัน”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ของลั่วฝาน ดวงตางดงามของอู่ชิงก็สั่นไหวเล็กน้อย นางมองลั่วฝานอย่างประหลาดใจ

นี่มันช่างแตกต่างจากความเข้าใจที่นางมีต่อลั่วฝานคนก่อนหน้าราวฟ้ากับเหว

“เจ้านอนบนเตียงเถอะ วันนี้ข้าจะนอนที่พื้นเอง” ลั่วฝานยิ้มจางๆ แล้วเอ่ยขึ้น

อู่ชิงยังคงกำผ้าห่มไว้แน่นด้วยความประหม่า แล้วพยักหน้าเล็กน้อย

ลั่วฝานเองก็รู้สึกจนปัญญาอยู่บ้าง เขาเตรียมจะปูที่นอนบนพื้น แต่กลับพบว่าที่บ้านไม่มีผ้าห่มสำรองเลย

ตอนนี้อากาศก็เริ่มหนาวเย็นลงเรื่อยๆ การนอนบนพื้นโดยไม่มีผ้าห่มสักคืน วันรุ่งขึ้นคาดว่าคงจะหนาวตายพอดี

อู่ชิงเองก็สังเกตเห็นความกระอักกระอ่วนนี้เช่นกัน นางทนเห็นลั่วฝานหนาวทั้งคืนไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง เอ่ยเสียงเบาราวกับยุงว่า “ท่านกลับมานอนบนเตียงเถอะ”
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 30

    ระยะเวลาในการแช่ไม้ไผ่ โดยทั่วไปยิ่งนานยิ่งดี กระดาษก็จะยิ่งอ่อนนุ่มแม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เพื่อดึงดูดลูกค้า ลั่วฝานก็ยังยืนกรานที่จะแช่ไว้ครึ่งเดือน ถึงจะเริ่มขั้นตอนที่สองนั่นคือการนึ่ง“จางเหลียว หม่าเหลียง พยายามกำจัดสิ่งเจือปนออกไปให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่นิดเดียว” ลั่วฝานขมวดคิ้ว สั่งการหม่าเหลียงและจางเหลียวค่อนข้างมีความสามารถ อีกทั้งยังฉลาดมาก ส่วนจางหู่กลับดูซื่อ ๆ ไปบ้าง แต่ก็สามารถข่มขวัญคนที่คิดไม่ซื่อได้“เถ้าแก่ กระดาษของเรานี้เรียกว่าอะไรหรือขอรับ”หม่าเหลียงมองเยื่อไผ่ที่นึ่งไปแล้วสามครั้ง เอ่ยถามขึ้น“คิดไว้แล้ว เรียกว่ากระดาษเหวินหย่าเซวียน!”“จิ๊ ๆ ช่างเป็นชื่อที่ดีจริง ๆ”หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ในที่สุดการผลิตชุดใหม่ก็เสร็จสิ้น ผลิตได้ทั้งหมดหนึ่งหมื่นกว่าแผ่น หักที่ต้องให้โรงกระดาษหยางจี้ห้าพันแผ่น ยังเหลืออีกห้าพันแผ่น ลั่วฝานตั้งใจจะเก็บไว้หาคู่ค้าเพิ่มอีกสักสองสามรายขนกระดาษหนึ่งหมื่นแผ่นขึ้นรถม้า ลั่วฝานพาหม่าเหลียงและจางหู่มุ่งหน้าไปยังเมืองลวี่วั่งออกจากบ้านแต่เช้า พอใกล้ถึงตอนเที่ยงก็มาถึงเมืองลวี่วั่ง ลั่วฝานอาศัยความทรงจำตามหาโรงก

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 29

    อีกทั้งลั่วฝานยังรู้ดีว่าหลี่หน้าบากไม่มีทางมีเงินมากขนาดนี้ได้ เป็นไปได้เพียงว่ามีคนว่าจ้างให้หลี่หน้าบากมาฆ่าคน“ให้ตายเถอะ เงินแท้ตั้งสองร้อยห้าสิบตำลึง หลี่หน้าบากไปร่ำรวยมาจากไหนตั้งแต่เมื่อใดกัน?” จางหู่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความประหลาดใจเมื่อหวนนึกถึงเถ้าแก่ร้านขายธัญพืชที่จงใจถ่วงเวลาเมื่อครู่ ลั่วฝานก็แสยะยิ้มเย็นชา “ดูท่าว่า พวกเขาคงวางแผนกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คิดจะดักปล้นฆ่าพวกเรากลางทาง”“เถ้าแก่ ท่านหมายความว่าเถ้าแก่ร้านขายธัญพืชคนนั้นมีปัญหาหรือขอรับ?” จางเหลียวขมวดคิ้วกล่าว“จางเหลียว เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าเจ้ารู้จักกับเถ้าแก่ร้านขายธัญพืช?” สีหน้าของจางหู่เปลี่ยนไปทันที ตวาดเสียงกร้าว“จางหู่” ลั่วฝานพูดขัดจางหู่ขึ้นมา ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่จางเหลียว เมื่อครู่ในมือของจางเหลียวถือมีดตัดฟืน ทั้งยังอยู่ข้างกายข้าตลอดเวลา หากเขามีความคิดไม่ดี ข้าคงตายไปนานแล้ว”จางเหลียวประสานหมัดกล่าว “ขอบคุณเถ้าแก่มากขอรับ”จางหู่ตะโกนอย่างเดือดดาล “หากข้ารู้นะว่าไอ้สารเลวหน้าไหนมันคิดร้ายต่อพี่ชายของข้า ข้าจางหู่จะชกมันให้ตายไปเลย”“กลับเข้าเมืองก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อย ๆ คิ

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 28

    จากนั้นก็ทะยานพรวดขึ้น โถมเข้าใส่ม้าตัวนั้น ฉากต่อมา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึงจนอ้าปากค้างเห็นจางหู่กอดรวบหัวม้าไว้ คำรามลั่นแล้วเหวี่ยงออกไปสุดแรง!ม้าชั้นดีที่หนักไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันชั่ง ถูกจางหู่เหวี่ยงกระเด็นไปไกลถึงสิบเมตรหัวหน้าโจรป่าที่นั่งอยู่บนหลังม้า ถูกม้าทับอยู่ใต้ท้องในทันที กระอักเลือดออกมาคำโต ไม่นานก็สิ้นใจตายโจรป่าที่เหลืออีกสองสามคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงอย่างหนัก แววตาฉายแววหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัดจางหู่ในยามนี้ ในสายตาของพวกเขา ไม่ต่างอะไรไปจากอสูรสงครามตนหนึ่งเลย“จางหู่ ลั่วฝาน พวกเจ้าจงไปตายเสีย!” โจรป่าสองสามคนคำรามลั่น ควบม้าเงื้อดาบพุ่งเข้าใส่จางหู่ลั่วฝานเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่นคนเหล่านี้รู้ชื่อของข้าได้อย่างไร หรือว่าจะเป็นคนรู้จักกัน?ลั่วฝานมัวแต่คิดไม่ตก พลันเห็นจางหู่คำรามลั่นแล้วพุ่งเข้าใส่คนทั้งห้าเห็นเพียงจางหู่พลิกตัวหลบคมดาบยาวที่ฟันเข้ามาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ชกหมัดตรงเข้าที่ท้องของม้าอย่างจังม้าร้องโหยหวนออกมาเสียงหนึ่ง ร่างกายอ่อนยวบ โซซัดโซเซล้มลงกับพื้นจางหู่ฉวยโอกาสนั้นจับโจรที่อยู่บนหลังม้า ทุ่มลงกับพื้นจนมึนงงไป

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 27

    เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชยิ้มประจบประแจง “นั่นน่ะสิขอรับ ใครบ้างจะไม่รู้ว่ากระดาษของเฉิงซินถังตระกูลหวังนั้นดีที่สุดในเมืองหย่งอัน ไอ้คนสิ้นไร้ไม้ตอกนั่นมันจะไปนับเป็นอะไรได้ ถึงกล้ามาแย่งธุรกิจกับตระกูลหวัง”“ฮ่า ๆ พูดได้ดี”ชายร่างผอมบางมองไปยังเถ้าแก่ร้านขายธัญพืช “เจ้าวางใจได้ ต่อไปธัญพืชของตระกูลหวังข้า จะให้เจ้าเป็นคนจัดหาให้”เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชได้ยินดังนั้น บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มตื่นเต้นยินดีในทันที “ขอบคุณเถ้าแก่หวังมากขอรับ”ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม พอออกมาจากตำบลได้ราวสองลี้ ลั่วฝานก็พลันสังเกตเห็นว่ามีคนติดตามอยู่รอบ ๆลั่วฝานสงสัยอย่างมากว่า เมื่อครู่เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชจงใจถ่วงเวลา ทำให้ตอนนี้ฟ้ามืดแล้วก็ยังไม่สามารถกลับไปถึงเมืองหย่งอันได้“เถ้าแก่ ไม่น่าไว้วางใจเลยขอรับ” จางเหลียวขมวดคิ้ว กวาดตามองไปรอบทิศ“มีอันใดหรือ? มีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ?” ลั่วฝานเอ่ยถาม“ด้านหน้าคล้ายกับมีคนอยู่ขอรับ อาจจะเป็นพวกโจรป่าดักปล้น” จางเหลียวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินคำพูดของจางเหลียว ลั่วฝานก็ทอดสายตาไปเบื้องหน้า พลันเห็นคบเพลิงสี่ห้าอันสว่างวาบขึ้นท่ามกลางความมืดยามค่ำคืนช่วงเวลาเช

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 26

    ธัญพืชสิบสือ ก็คือหนึ่งพันชั่งในยุคโบราณ นี่ถือเป็นการค้าที่ใหญ่มากอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ร้านขายธัญพืชเองก็ใช่ว่าจะหาธัญพืชจำนวนมากขนาดนี้ออกมาได้ง่าย ๆ“เถ้าแก่ รอไม่ได้ ตอนนี้บ้านเมืองกำลังวุ่นวายเพราะภัยสงคราม ยามค่ำคืนเกรงว่าจะมีพวกโจรออกอาละวาด” จางเหลียวขมวดคิ้วมุ่นเตือนสติลั่วฝานได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า “เถ้าแก่ ตอนนี้ท่านมีธัญพืชอยู่เท่าใด?”เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชกล่าวว่า “มีธัญพืชไม่ถึงสามสือขอรับ หากพวกท่านต้องการ ข้าก็สามารถขายให้พวกท่านได้ทั้งหมด”ธัญพืชสามสือก็ไม่น้อยแล้ว ตอนนี้ที่บ้านมีคนกินข้าวอยู่สิบกว่าชีวิต ในแต่ละวันต้องบริโภคข้าวสารสิบกว่าชั่ง สามสือก็พอจะประทังไปได้หนึ่งเดือนทว่า ในขณะที่ลั่วฝานกำลังคิดจะจ่ายเงินแล้วกลับเข้าเมืองนั้นเอง เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชก็พลันกล่าวขึ้นว่า “เดี๋ยวจะมีธัญพืชมาส่งอีกชุดหนึ่งแล้วขอรับ ท่านรออีกเพียงหนึ่งชั่วยามก็พอ น่าจะมีสักประมาณห้าสือ”หนึ่งชั่วยามหรือ? ลั่วฝานหันไปมองจางเหลียว แล้วกล่าวว่า “จะสามารถกลับไปถึงเมืองหย่งอันก่อนฟ้ามืดได้หรือไม่?”จางเหลียวเงยหน้ามองดูสีของท้องฟ้า พยักหน้าแล้วตอบว่า “ก็น่าจะทันอยู่ขอรับ”เม

  • พลิกชะตาคุณชายตกอับ   บทที่ 25

    “ออกไปนอกเมืองหรือขอรับ?” สีหน้าของจางเหลียวตกตะลึง“มีอันใดหรือ?” ลั่วฝานเอ่ยถาม“เถ้าแก่ ท่านอาจยังไม่ทราบ ตอนนี้ด้านนอกเมืองหย่งอันวุ่นวายไปหมดแล้วขอรับ ได้ยินมาว่าด่านชายแดนถูกตีแตกแล้ว ช่วงนี้จึงมีผู้อพยพจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกันอยู่ที่นอกเมือง” จางเหลียวขมวดคิ้วกล่าว“ผู้อพยพ?” ลั่วฝานได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ฉายแววระมัดระวังขึ้นมา“พวกเราจำเป็นต้องออกไปนอกเมืองจริง ๆ หรือขอรับ?” จางเหลียวเอ่ยถามลั่วฝานพยักหน้า “เจ้าก็รู้ว่าราคาข้าวสารอาหารแห้งในเมืองมันแพงเพียงใด คนสิบกว่าชีวิตต้องกินต้องใช้ ธัญพืชถือเป็นรายจ่ายก้อนโตทีเดียว”หากคิดจะประหยัดต้นทุน ก็ทำได้เพียงออกไปรับซื้อธัญพืชตามหมู่บ้านนอกเมืองเท่านั้น แต่ตอนนี้ด้านนอกเมืองมีผู้อพยพอยู่ เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดลั่วฝานก็ยังคงตัดสินใจที่จะออกไปนอกเมืองความมั่งคั่งย่อมต้องเสาะหามาจากในภยันตราย หากปราศจากความกล้า ก็อย่าได้คิดทำการใหญ่“พวกเราฟังเถ้าแก่ขอรับ” จางเหลียวกล่าวลั่วฝานพยักหน้า เตรียมตัวจะออกจากบ้าน ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันหลังเดินกลับไปบอกจูอีโหรวว่า “ตอนกลางวันข้า

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status