Compartilhar

บทที่ 102

Autor: โม่เสียวชี่
ก็เพราะไม่สามารถเอาชีวิตของนางได้ เขาถึงได้ใช้ท่านย่าของนางมาข่มขู่ให้นางไม่แพร่งพรายอะไรออกไป!

เฉียวเนี่ยนสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า "หากท่านอ๋องไม่ต้องการชีวิตของข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว"

นางไม่ได้เห็นเครื่องมือทรมานใดๆ ในห้องนี้ สิ่งเดียวที่เหมือนเครื่องมือทรมานก็คือแส้ในมือหมิงอ๋อง

ช่วงสามปีที่อยู่ในกรมซักล้าง นางถูกตีไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง

สามปีที่ผ่านมานั้นนางรอดมาได้ วันนี้ นางก็เชื่อว่านางจะต้องทนผ่านมันไปได้

เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่กลัวตายของนางเช่นนี้ ความตื่นเต้นในใจหมิงอ๋องแทบจะระเบิดออกจากดวงตาของเขา

เขาค่อยๆ ลุกขึ้นเดินไปทางเฉียวเนี่ยน "ข้าเคยบอกแล้วว่าชอบท่าทางแบบนี้ของเจ้าที่สุด"

เขาพูดพลางยกมือขึ้นลูบเส้นผมของเฉียวเนี่ยนที่ตกลงมาใกล้หู แล้วเกี่ยวมันไปข้างหลังเหมือนที่เคยทำในวัง

เพียงแต่ว่าครั้งนี้ เขากระชากต่างหูจากหูเฉียวเนี่ยนอย่างแรง และดึงมันออกมา

“อ้าก!”

เฉียวเนี่ยนร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดทันที แล้วยกมือขึ้นกุมหูของตัวเอง มือของนางชุ่มไปด้วยความร้อนจากเลือดที่ไหลออกมา

ขณะที่หมิงอ๋องมองต่างหูในมือของเขา ซึ่งมีเลือดหยดออกมาในอกเขาก็เริ่มเต้น
Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App
Capítulo bloqueado

Último capítulo

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1216

    เศษหินร่วงกราวลงมากระทบชายอาภรณ์ของทั้งสองที่ซ้อนทับกัน กายเฉียวเนี่ยนสั่นเทา ทั้งเพราะหวาดกลัว ทั้งเพราะดีใจที่ได้เขาคืนมาอีกครั้งน้ำตาไหลไม่หยุด คำพูดมากมายที่เอ่ยไม่ออกติดค้างอยู่ในลำคอ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นเบาๆปลายนิ้วของนางกำแน่นที่ชายเสื้อของฉู่จืออี้ซึ่งยังซึมเลือดอยู่ ราวกับเพียงคลายมือออกแม้เพียงน้อย คนตรงหน้าก็จะสลายไปเป็นทรายหลุดร่วงจากปลายนิ้วมองเห็นนางเป็นเช่นนั้น หัวใจของฉู่จืออี้ก็ปวดร้าวราวกับถูกกัดกินเขายกมือขึ้น นิ้วที่เปื้อนเลือดสอดเข้าไประหว่างเส้นผมที่กระจายยุ่งเหยิงของเฉียวเนี่ยนลูกกระเดือกกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่เสียงกลับอบอุ่นอ่อนโยนราวสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดไหว “ไม่เป็นไรแล้ว อย่ากลัว”ถึงจะพยายามข่มเสียงให้เป็นปกติ แต่เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ยินถึงความยากลำบากในน้ำเสียงนั้นนางสะอื้นเบาๆ พลางถอยออกจากอ้อมแขนของฉู่จืออี้ “พวกเราออกไปกันก่อนเถอะ” เฉียวเนี่ยนสูดน้ำมูก แล้วเอาแขนของฉู่จืออี้พาดบ่าตัวเอง พยุงฉู่จืออี้เดินออกไปเจ้าสำนักราชาโอสถเคยกล่าวไว้ คุกหินนี้คือด่านสุดท้าย หากผ่านไปได้ เปิดประตูบานนั้นไป ก็จะสามารถออกจากสำนักราชาโอสถได้ฉู่จือ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1215

    ฉู่จืออี้รู้สึกหวาดกลัวสุดขีด กลัวว่าตนเองจะทนไม่ไหว กลัวว่าเมื่อก้อนหินยักษ์ตกลงมา จะพาเฉียวเนี่ยนตายไปพร้อมกับเขาร่างกายที่เมื่อครู่รู้สึกใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว ในชั่วขณะนั้นกลับไม่รู้ว่าพลังมาจากไหน ถึงสามารถยกก้อนหินนั้นขึ้นไปได้อีกเล็กน้อยแต่เฉียวเนี่ยนกลับไม่รู้สึกตัว นางเอาแต่มองเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่บนร่างของฉู่จืออี้ ใจของนางปวดร้าวจนเกินจะกล่าวแต่ก็เข้าใจดี ว่าการจะช่วยฉู่จืออี้ได้ ต้องไขปริศนาให้ได้ก่อนดังนั้นนางจึงรีบเอ่ยถาม “ปริศนาอยู่ที่ไหน?”ฉู่จืออี้ขมวดคิ้วแน่น มองไปทางผนังหินด้านข้าง “ตรงนั้น”เฉียวเนี่ยนจึงเห็นว่าที่ผนังหินไม่ไกลมีอักษรสลักอยู่นางคลานออกมาจากใต้ก้อนหิน เข้าไปใกล้ผนังหิน เพ่งมองอย่างละเอียดพื้นผิวหินสีเขียวปรากฏลวดลายภาพร้อยพืชที่เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างจากแสงเรืองๆ ในที่มืดปลายนิ้วของเฉียวเนี่ยนลูบผ่านภาพดอกไม้สี่ฤดูบนผนังหิน ที่รากของดอกแปะเจียกมีลวดลายกลไกทองสัมฤทธิ์ฝังอยู่ นางพลันนึกถึงบันทึกในชิ้นส่วน 'ตำรับยาพันเหรียญทอง' ที่กล่าวว่า “ต้นช้องฟ้ารุ่งเติบโตในหุบเหวลึก ใบของมันสามารถแก้พิษบุปผาเจ็ดภพได้...”“ณ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตำแหน่ง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1214

    เฉียวเนี่ยนถึงกับตกใจ หันไปมองเจ้าสำนักราชาโอสถโดยไม่รู้ตัว เห็นอีกฝ่ายสีหน้าเคร่งเครียด “ข้าก็รู้อยู่แล้ว ว่าเขาคงทนไม่ได้นานนัก!”เฉียวเนี่ยนสุดจะกลั้น นางถามออกมา “คุกหินคือที่แบบไหนกัน?”พอได้ยินเช่นนั้น เจ้าสำนักราชาโอสถเหลือบมองเฉียวเนี่ยนแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรคนรับใช้กล่าวตอบ “เรียนคุณหนูเฉียว คุกหินนั้นเป็นหนึ่งในค่ายกลที่ท่านเจ้าสำนักสร้างขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เป็นด่านสุดท้ายก่อนจะออกจากสำนัก ผู้ใดบุกเข้าไปในคุกหินต้องไขปริศนาที่ท่านเจ้าสำนักวางไว้ให้ได้ถึงจะผ่าน หากฝืนบุกเข้าไป คุกหินจะมีหินยักษ์ถล่มลงมาช้าๆ ทับผู้กล้าที่บุกด่านนั้นจนเละเป็นเนื้อบดขอรับ!”คำพูดของคนรับใช้ทำให้เฉียวเนี่ยนผงะลุกจากเตียงทันทีนางรีบมองไปทางเจ้าสำนักราชาโอสถ “ขอถามท่านเจ้าสำนัก คุกหินอยู่ที่ใดเจ้าคะ?”เจ้าสำนักราชาโอสถปรายตามองเฉียวเนี่ยนอย่างไม่แยแสนัก แล้วจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูแคลน “ทำไม? เจ้าจะไปรนหาที่ตายรึ? สถานที่ที่ไอ้เจ้าหนุ่มฉู่จืออี้นั่นบุกมานานยังผ่านไม่ได้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำได้อย่างนั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนใจเต้นระส่ำ ได้แต่ฝืนตั้งสติ “ไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไร ข้าก็ต้องลอง! ที่ท่านอ๋องฝืนบ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1213

    เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เฉียวเนี่ยนรู้สึกแยกไม่ออกว่าข้างนอกนั้นคือแสงอรุณหรือแสงยามสนธยาทั้งร่างงงงันอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยรู้ตัวว่ามีอะไรเกิดขึ้นนางอดพึมพำขึ้นมาไม่ได้ “เจ้าแก่ประหลาดนี่ จุดกำยานสะกดวิญญาณในเรือนของตนเองทำไมกัน?”“เจ้าจะมายุ่งอะไรกับข้าด้วย!”ทันใดนั้นเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างๆ เฉียวเนี่ยนสะดุ้งโหยงไปทั้งตัว เพิ่งเห็นว่าเจ้าสำนักราชาโอสถนั่งอยู่ไม่ไกลนักการพูดนินทาผู้อื่นลับหลังย่อมรู้สึกกระดากอยู่บ้างเฉียวเนี่ยนขยี้จมูกตนเอง ทว่ากลับนึกถึงประโยคที่ได้ยินก่อนหมดสติ ใจของนางพลันหวนตึงขึ้นมา “ท่านอ๋องเล่า?”เจ้าสำนักราชาโอสถกลับมีท่าทีแปลกใจ “โอ้โฮ พอตื่นมาก็คิดถึงคนรัก ไม่สนใจร่างกายตัวเองเลย ดูท่าความสัมพันธ์ของพวกเจ้าคงลึกซึ้งนัก!”เฉียวเนี่ยนฟังแล้วงงงัน แต่ก็คิดถึงกลิ่นควันสะกดวิญญาณที่ไม่ธรรมดานั้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว จึงก้มมองมือตนเอง ก็เห็นว่ากลางฝ่ามือมีจุดดำคล้ำขนาดเท่าก้อนหินเล็กอยู่เจ้าสำนักราชาโอสถเห็นสีหน้าตกตะลึงของเฉียวเนี่ยนก็พอใจนัก ลูบเคราตนเองแล้วยิ้มกล่าวว่า “อย่ามองว่าในตอนนี้มันเป็นเพียงก้อนหินเล็กๆ รอให้มันโตเท่าไข่ไก่เมื่อไร ชีวิตเจ้าก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1212

    คงเพราะเร่งเดินทางต่อเนื่องหลายวัน เหน็ดเหนื่อยจนถึงขีดสุดหรือบางทีอาจเพราะได้พบคนที่อยากพบมาตลอด ใจที่หวั่นไหวก็พลันสงบลงคืนนั้น เฉียวเนี่ยนหลับสนิทลึกยิ่งนักรุ่งขึ้น เมื่อเฉียวเนี่ยนลืมตาตื่น ฟ้าข้างนอกก็สว่างจ้าแล้วผลักประตูออกไป ก็พลันตะลึงกับภาพเบื้องหน้าสำนักราชาโอสถตั้งอยู่ลึกที่สุดในหมู่ขุนเขาเขียวชอุ่มราวเกล็ดมรกต รอบด้านรายล้อมด้วยผาหินชันประหนึ่งถูกเทพเจ้าฟาดด้วยขวานใหญ่จนแยกออกเฉียวเนี่ยนมองเห็นผาหินสูงเสียดฟ้าเพียงแวบเดียว ก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกดทับอยู่บนหน้าอก หายใจไม่ทั่วท้องโดยไม่รู้สาเหตุในจังหวะนั้นเอง มีคนเดินเข้ามา“แม่นาง เจ้าสำนักให้มาเชิญ”เขาแต่งกายด้วยชุดสีครามเข้ม เหมือนกับพวกที่เมื่อคืนนั้นหามหลินเย่ว์ไป คงเป็นชุดประจำของสำนักราชาโอสถแน่เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเดินตามชายคนนั้นตรงไปยังเรือนหลังใหญ่ที่สุดทางด้านตะวันออกที่นั่น คือที่พำนักของเจ้าสำนักราชาโอสถทันทีที่ผลักประตูเรือนเข้าไป กลิ่นยาเข้มข้นก็พุ่งเข้าปะทะใบหน้าเฉียวเนี่ยนรีบยกมือขึ้นปิดปากและจมูกท่าทางนั้นกลับทำให้ผู้นำทางเหลือบตามองอย่างเหยียดหยาม“เจ้าสำนักของพวกเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1211

    เฉียวเนี่ยนมองเจ้าสำนักราชาโอสถอย่างตกตะลึง “ท่าน... เหตุใดกัน?”“ชีวิตแลกชีวิต แล้วจะมีประโยชน์อันใดแก่ข้า? เช่นนั้นก็เท่ากับขาดทุนอยู่ดี! เก็บชีวิตเจ้าต่อไปเถิด ยังจะมีประโยชน์เสียกว่า!” พูดจบ เจ้าสำนักราชาโอสถก็ลุกขึ้น เดินออกไปทางประตูเพิ่งเดินถึงหน้าประตู ก็หัวเราะพลางว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้ามาพอดีเลย พานางไปล้างเนื้อล้างตัวที สกปรกสิ้นดี! จิ๊ๆๆ!”เสียงแสดงความรังเกียจดังมา เฉียวเนี่ยนจึงหมดแรงวางมีดสั้นลง ร่างทั้งร่างทรุดลงกับพื้น ราวกับยังไม่อาจหลุดออกจากความสิ้นหวังและการตัดสินใจตายเมื่อครู่ได้แต่ไม่คาดคิดเลยว่า เบื้องหลังกลับมีเสียงที่คุ้นเคยมานานดังขึ้น"เนี่ยนเนี่ยน"เสียงทุ้มต่ำแต่หนักแน่น ดุจเดียวกับเจ้าของเสียงนั้นเฉียวเนี่ยนหันกลับไปมองทันที ก็เห็นเขายืนอยู่ตรงประตู ร่างสูงใหญ่แทบจะบดบังกรอบประตูไว้ทั้งบานภายในห้อง แสงเทียนไหวระยับฉู่จืออี้ไม่คิดเลยว่า การพบกันครั้งแรกหลังจากห่างหายกันไปเนิ่นนาน จะเป็นฉากเช่นนี้มวยผมของนางยุ่งเหยิงจนไม่เป็นทรง ใบหน้าเปรอะเปื้อน คราบน้ำตาที่เคยไหลทิ้งไว้ยิ่งดูเด่นชัดขึ้นชุดกระโปรงก็ขาดรุ่งริ่ง แม้แต่รองเท้ายังมีรูใหญ่ เผยให้เ

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status