ฝ่าบาทก็ทรงทราบว่าความจริงคงจะทำให้เขาต้องเสื่อมเสียเกียรติ ดังนั้นพระองค์เลยสูดหายใจเข้าลึกและตรัส "จำเอาไว้ หมิงอ๋องพลีชีพเพื่อปกป้องเจ้า"เฉียวเนี่ยนรับคำในทันที "หม่อมฉันจะจำไว้เพคะ"พูดนางจบ ฝ่าบาทก็ทรงเงียบพระองค์พิเคราะห์มองเฉียวเนี่ยนผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็เปียกโชก สีหน้าก็ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคืนฝนตก หญิงสาวคนนี้คงฝ่ามรสุมมาไม่น้อยดังนั้นพระองค์เลยโบกพระหัตถ์ "เอาล่ะ เจ้ากลับไปเถอะ!""ขอบพระทัยฝ่าบาท" เฉียวเนี่ยนถวายบังคมอีกครั้ง ลุกขึ้นและออกจากท้องพระโรงไปไม่นานนัก เงาร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านหลังท้องพระโรง ถวายบังคมแก่ฝ่าบาท "ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณพะยะค่ะ"ฝ่าบาททรงเหลือบไปมอง "เดิมไม่ใช่ความผิดนาง แต่ว่าเซียวเหิง เจ้าทำไปเพราะหวังดีกับนาง ทำไมถึงตั้งใจปกปิดนาง?"เมื่อคืนเซียวเหิงฝ่าฝนเข้ามาในวัง บอกว่าต้องการทูลข่าวการจากไปของหมิงอ๋อง ทว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นการขอความเห็นใจให้เฉียวเนี่ยนไม่งั้น เขาซึ่งเป็นถึงเจ้าแผ่นดิน จำเป็นต้องแสดงละครตบตากับเฉียวเนี่ยนให้ข้าราชบริพารดูด้วย?ตอนนี้ทุกคนทราบว่าหมิงอ๋องเป็นคนสละชีวิตปกป้องเฉียวเนี่ยนไว
ทางด้านจวนโหวเฉียวเนี่ยนเพิ่งลงมาจากรถม้า ฮูหยินหลินรีบเข้ามาหา "เนี่ยนเนี่ยน!"ฮูหยินหลินคว้าแขนทั้งสองข้างของเฉียวเนี่ยนไว้แน่น มองเฉียวเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า "ให้แม่ดูหน่อย บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?"เสื้อผ้าของเฉียวเนี่ยนยังไม่แห้ง นางสะดุดล้มในป่าหลายครั้ง ชายกระโปรงสกปรกเปื้อนไม่น้อย สภาพดูน่าเวทนาเฉียวเนี่ยนจงใจเข้าไปในวังโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า ยิ่งนางดูน่าเวทนาน่าสงสาร ฝ่าบาทก็จะทรงยิ่งเห็นใจแม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ก็ทำให้นางรอดชีวิตมาได้นางไม่ได้ทำเพื่อฮูหยินหลินพอเห็นหยาดน้ำตาไหลอาบลงมาอย่างกระทันหันของฮูหยินหลิน เฉียวเนี่ยนก็ปัดมือฮูหยินหลินออกอย่างแข็งขืนพร้อมกับกล่าว "ข้าไม่เป็นไร"พูดจบนางก็เดินเข้าไปในจวนนางจงใจไม่หันไปมองหลินยวนและหลินเย่ว์ที่อยู่ข้างๆถึงอย่างไรนางก็ทรมานทรกรรมมาทั้งคืน เหนื่อยมาก ไม่มีกะจิตกะใจพูดคุยกับพวกเขายิ่งไปกว่านั้น นางอยากรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่า!ระฆังพิธีพระบรมศพในวังใกล้จะดังแล้ว ข่าวการจากไปของหมิงอ๋องไม่อาจปิดฮูหยินเฒ่าได้ นางควรอยู่ข้างกายฮูหยินเฒ่า ปลอบประโลมฮูหยินเฒ่า นางจะได้ไม่ร้อนอกร้อนใจจนอาการก
เฉียวเนี่ยนเลยหันไปมองหลินเย่ว์ "แน่นอนท่านโหวน้อยไม่กล้าวางแผนทำร้ายท่านอ๋อง อย่างมากก็แค่ทำร้ายข้า!"คำพูดของเฉียวเนี่ยนแทงใจดำทว่าตอนนี้ หลินเย่ว์กลับตกใจจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวได้แต่ฟังเฉียวเนี่ยนพูดต่อ "แต่ข้าหวังว่าท่านโหวน้อยจะเข้าใจ กระต่ายเวลามันจนตรอกก็กัดคนได้ หากเจ้ากล้าหาเรื่องข้าอีก ข้าก็ไม่รังเกียจจะถูกลากตัวไปตัดหัวที่อู่เหมินพร้อมกับพวกเจ้า!"ก็แค่ประหารทั้งชั่วโคตร!นางคนเดียวแลกกับทั้งตระกูลหลิน ถือว่ากำไรไม่ใช่หรอ?ตอนนี้หลินเย่ว์ถึงกับพูดไม่ออก อีกทั้งยังตกใจกับคำพูดของเฉียวเนี่ยนจนขาอ่อนแม้เซียวเหิงเป็นคนเสนอความเห็นให้หมิงอ๋องไปสำนักราชาโอสถ แต่คนที่ดำเนินแผนการก็คือเขา!เขาไม่เหมือนเซียวเหิงที่มีวีรกรรมสงครามโดดเด่น ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทหากฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้ ฝ่าบาทคงลงมือจัดการเขาเป็นอย่างแรก ส่วนจวนโหวก็จะต้องพบเจอโศกนาฏกรรมฆ่าล้างโคตร!พอเห็นหลินเย่ว์กลัวจนหน้าซีดเผือด หลินยวนก็ทนมองต่อไปไม่ไหว รีบพูดขึ้นมา "ท่านพี่ ทุกคนล้วนเป็นห่วงเจ้า พี่ชายก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ทำไมเจ้าถึง...""เมื่อคืนจมอยู่ในน้ำยังไม่พอรึ?" เฉียวเนี่ยนพูดขัดหลินย
ลายมือตัวหนังสือหวัดเล็กน้อย ขนาดคำว่า 'ผี' ก็ยังเขียนผิด 'ผ' ดันเขียนเป็น 'ฝ'เฉียวเนี่ยนขยำกระดาษแผ่นนั้นจนเป็นก้อนไว้ในกำมือ ในหัวปรากฎภาพของหลิ่วเหนียงกระดาษแผ่นนี้เป็นไปได้มากว่าหลิ่วเหนียงเป็นคนเขียนดังนั้นคนที่คิดอยากให้นางกับหมิงอ๋องแต่งงานผีจะต้องเป็นเต๋อกุ้ยเฟย!หมิงอ๋องเป็นโอรสเพียงคนเดียวของเต๋อกุ้ยเฟย ตอนนี้หมิงอ๋องจากไปแล้ว เต๋อกุ้ยเฟยคงตัดสินใจทำแบบนี้เพราะความเศร้าเสียใจเฉียวเนี่ยนถอนใจยาว นางกล่าวขอบคุณกับพ่อบ้าน จากนั้นก็เดินไปยังเรือนของฮูหยินเฒ่าหนิงซวงเดินตามหลังนางด้วยความกังวลใจเล็กน้อย "คุณหนูเจ้าคะ กระดาษแผ่นนั้น..."นางอยากถามเฉียวเนี่ยนว่าต่อจากนี้จะทำอย่างไร?หากมีพระราชโองการจากในวังให้เฉียวเนี่ยนแต่งงานผีกับหมิงอ๋อง แบบนั้นก็หมายความว่าต้องตายไปพร้อมกับหมิงอ๋องไม่ใช่หรอ?เฉียวเนี่ยนพูดขัดหนิงซวง "ไม่ว่าลมคลื่นจะพัดเซให้เอียงแค่ไหนพอถึงเวลาจอดที่ท่า เรือมันก็จอดตรงของมันเอง"ตอนนี้รีบไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่าก่อนดีกว่าตอนเฉียวเนี่ยนมาถึง ฮูหยินเฒ่าก็ตื่นแล้วระฆังพิธีพระบรมศพดังไปแล้ว ดังนั้นฮูหยินเฒ่าจึงทราบข่าวการตายของหมิงอ๋องพอได้เห็นเฉียวเน
พอถึงตอนนั้น ฮูหยินเฒ่าไม่มีทางทนมองลูกหลานตัวเองรับโทษได้แน่เกรงว่าคงจะออกตัว ใช้ฐานะคุณหญิงตราตั้งปกป้องเกียรติยศของจวนโหวถึงตอนนั้นเฉียวเนี่ยนจะเอาเงินทรัพย์สมบัติของฮูหยินเฒ่าไปมีชีวิตเสวยสุขได้ยังไง?แน่นอนว่าคำตอบคือไม่เห็นฮูหยินเฒ่าหยุดพูด เฉียวเนี่ยนก็ยิ้มให้กับฮูหยินเฒ่า "ท่านย่าไม่ต้องเป็นห่วง เต๋อกุ้ยเฟยดีกับเนี่ยนเนี่ยนมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้เนี่ยนเนี่ยนจะเข้าไปพบกุ้ยเฟยในวัง คอยอยู่เคียงข้างผ่านช่วงที่ลำบากที่สุดของนาง เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป"เห็นได้ชัดว่าฮูหยินเฒ่าไม่เชื่อ "เต๋อกุ้ยเฟยปกติแม้จะอัธยาศัยดี แต่ใจคนยากลึกหยั่งถึง เนี่ยนเนี่ยน สตรีที่สามารถยืนหยัดในวังได้ล้วนไม่ธรรมดา!"แน่นอนเฉียวเนี่ยนทราบดี แต่เพื่อให้ฮูหยินเฒ่าเบาใจ นางเลยได้แต่พูดปลอบต่อไป "ท่านย่าอย่าห่วง เต๋อกุ้ยเฟยดีกับเนี่ยนเนี่ยนมากจริงๆ ก่อนหน้านี้นางยกห้องตัดเสื้อที่มีชื่อเสียงที่สุดให้กับหลานอยู่เลย!"พอได้ยิน ฮูหยินเฒ่าก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย "จริงรึ?""อืม ดังนั้น ขอแค่หลานปรนนิบัติดูแลกุ้ยเฟยให้ดี หลานก็จะไม่เป็นอะไร"เฉียวเนี่ยนยิ้มแก้มปริ ฮูหยินเฒ่าเห็นท่าทางของนางก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจ "เป
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉียวเนี่ยนไปเคารพศพของหมิงอ๋องที่โถงตั้งพระบรมศพก่อน จากนั้นก็ไปเรือนนอนของเต๋อกุ้ยเฟยพอเห็นเฉียวเนี่ยน สีหน้าของนางบ่าวก็ดูมีเลศนัยอย่างมากเฉียวเนี่ยนทำเป็นมองไม่เห็นนางบ่าวนำทางเฉียวเนี่ยนมาถึงยังเรือนนอนชั้นนอกของเต๋อกุ้ยเฟย ก่อนจะบอกให้นางเข้าไปเฉียวเนี่ยนผลักประตูเข้าไป มองผ่านผ้าม่านผืนบางก็จะเห็นเต๋อกุ้ยเฟยนั่งอยู่บนเตียง ข้างๆ มีสาวใช้คนหนึ่งคอยช่วยบีบนวดขมับให้กับเต๋อกุ้ยเฟยเฉียวเนี่ยนเดินเข้าไปหาและคุกเข่าคำนับ "หม่อมฉันถวายบังคมกุ้ยเฟยเพคะ"พอสิ้นเสียงกลับไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเฉียวเนี่ยนทราบว่าเต๋อกุ้ยเฟยทรงตื่นจากบรรทมแล้ว อีกทั้งเสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ ก็ยังดังมาเป็นระยะหลังจากได้ยินหลายครั้ง ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็พูดอย่างอดไม่ได้ "นายหญิงเพคะ ผู้ล่วงลับจากไปมิอาจหวน..."พอสิ้นเสียง ทันใดนั้นเต๋อกุ้ยเฟยก็เดินออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวผ้าม่านผืนบางเกือบจะหล่นลงมาเต๋อกุ้ยเฟยเดินมาอยู่ตรงหน้าของเฉียวเนี่ยนและตบหน้าไปฉาดอย่างไม่ใยดี "เพี๊ยะ""กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้?" เต๋อกุ้ยเฟยตวาดเสียงดัง เสียงคร่ำครวญแฝงไปด้วยความแค้น "เจ้าสัญญากับข้าแล้วว่าจะพา
"เพคะ!" บรรดานางบ่าวรับคำและออกไป ประตูห้องปิดลง ภายในห้องเงียบสงบลงในทันทีเฉียวเนี่ยนค่อยๆ เอ่ยพูด "หม่อมฉันตอนพบท่านอ๋อง ท่านอ๋องถูกโจรภูเขาทรมานมาเนิ่นนานจนบาดแผลเต็มตัว เขาคุกเข่าวิงวอนโจรภูเขาพวกนั้นให้ปล่อยเขาไป ข้อร้องอย่างกับหมาตัวหนึ่ง!"เต๋อกุ้ยเฟยอยากรู้ความจริงไม่ใช่รึไง?นี่คือความจริงโอรสหนึ่งเดียวของนาง โอรสสุดที่รัก พออยู่ต่อหน้าพวกโจรภูเขาก็ไร้ซึ่งความสง่าความหยิ่งทระนงในแบบฉบับท่านอ๋องแค่จินตนาการภาพเหตุการณ์นั้น หัวใจของเต๋อกุ้ยเฟยก็ปวดร้าวขึ้นมานางทราบดี การพลีชีพปกป้องอย่างที่เฉียวเนี่ยนกล่าวข้างต้นเทียบกับคำพูดของนางตอนนี้แล้ว น่าเชื่อถือยิ่งกว่าเฉียวเนี่ยนปล่อยมือเต๋อกุ้ยเฟยและลุกขึ้นมาส่วนเต๋อกุ้ยเฟยยังคงคุกเข่าอยู่ ราวกับนางสูญเสียเรี่ยวแรงไปทั้งหมดได้แต่ฟังเฉียวเนี่ยนพูดต่อ "กุ้ยเฟยทรงจำได้อยู่รึไม่ว่าในวังเคยมีนางบ่าวชื่อว่าเฉียนเอ๋อร์?"เฉียนเอ๋อร์?ไม่นานในหัวของเต๋อกุ้ยเฟยก็ปรากฎภาพนางบ่าวน่ารักคนหนึ่งยิ้มแย้ม ดวงตาโค้งงอราวกับพระจันทร์เสี้ยวทว่าต่อมานางบ่าวคนนั้นถูกหมิงอ๋องพาตัวไปเฉิงซีนางถึงกับใจหายและรีบหันไปมองเฉียวเนี่ยน "เจ้ารู้
เฉียวเนี่ยนใจหายไปที่ตาตุ่ม ยังไม่ทันที่นางจะรู้สึกตัว ทันใดนั้นเต๋อกุ้ยเฟยก็คว้าจับข้อมือของนางใบหน้าเปื้อนเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ตอนนี้กลับประดับด้วยรอยยิ้มของปีศาจ "เมื่อวานข้าให้นางออกวังไปซื้อของเคารพศพ วันนี้เจ้าเข้าวังมาทูลกล่าวกับข้า ทำไม กลัวข้าจะให้เจ้าแต่งงานผีตายไปพร้อมกับเจ๋อเอ๋อร์รึไง?"เฉียวเนี่ยนถอนหายใจยาว ยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาบนใบหน้าเต๋อกุ้ยเฟย "ใช่เพคะ แม้ชีวิตหม่อมฉันจะต้อยต่ำ แต่หม่อมฉันก็กลัวตาย"บนนิ้วของเฉียวเนี่ยนด้านจนเป้นตาปลาและลูบไล้บนใบหน้าเนียนนุ่มของเต๋อกุ้ยเฟย ทำเอาเต๋อกุ้ยเฟยขนลุกขนพองนางไม่เคยคิดว่ามือของผู้หญิงคนหนึ่งจะหยาบกร้านได้เพียงนี้ต่อให้เป็นบรรดานางบ่าวปรนนิบัติข้างกายก็ยังไม่หยาบกร้านเท่ากับมือของเฉียวเนี่ยนเพียงแต่เฉียวเนี่ยนไม่รู้ตัว อีกทั้งยังยิ้มอ่อนโยนให้กับเต๋อกุ้ยเฟย "คนตายไม่อยู่แล้ว ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องพยายามดิ้นรนมีชีวิต กุ้ยเฟยเข้าใจที่ข้าจะสื่อใช่ไหมเพคะ"หมิงอ๋องเป็นโอรสคนเดียวของเต๋อกุ้ยเฟย และเป็นที่พึ่งพาเดียวของนางตอนนี้หมิงอ๋องได้จากไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เต๋อกุ้ยเฟยต้องทำก็คือหาแหล่งพึ่งพาใหม่ หาทางทำให้ตัวนางเองอยู
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด