ไม่นานหลังจากนั้น ซูมามาก็เคาะประตูเรือนเล็กเมื่อเห็นว่าเป็นซูมามา หนิงซวงทั้งตกใจทั้งดีใจ รีบจูงมือซูมามาเดินเข้าไปข้างในยังไม่ทันได้เข้าไปในเรือน ก็เริ่มร้องเรียก "คุณหนู ท่านดูซิว่าใครมาแล้ว!"เฉียวเนี่ยนได้ยินเสียงหนิงซวงดีใจขนาดนี้ ก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าใครมา จึงมองไปทางประตูทันทีก็เห็นซูมามาสวมชุดชาวบ้านธรรมดา เกล้ามวยข้าที่เรียบง่ายที่สุด ในมือยังถือห่อผ้าเล็กๆ อยู่ จึงเข้าไปต้อนรับทันที "ซูมามามาได้อย่างไรกัน?""บ่าวมาดูคุณหนูหน่อยเจ้าค่ะ" ซูมามายิ้มจนตาหยี เอ่ยว่า "บ่าวกะว่าจะมาขอรบกวนคุณหนูสักสองสามวัน หวังว่าคุณหนูจะไม่รังเกียจนะเจ้าคะ"เฉียวเนี่ยนรีบพูด "ข้าจะรังเกียจได้อย่างไร! ข้าดีใจยังไม่ทันเลย!"พูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ต้อนรับซูมามาเข้าไปในบ้านนางรินน้ำหนึ่งแก้วให้ซูมามา แล้วถามว่า "การแต่งตัวของมามา จะขอลาแก่กลับบ้านเกิดหรือ?"ซูมามารับน้ำมา ดื่มไปอึกหนึ่งแล้วจึงพูดว่า "เจ้าค่ะ เดิมทีคิดจะไปตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนแล้ว ต่อมารู้สึกว่า จัดการพิธีของฮูหยินเฒ่าเสร็จแล้วค่อยไปก็ยังไม่สาย คนอื่นไปจัดการ อย่างไรข้าก็ไม่วางใจ"ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเฉียวเนี่ยนก็อดไม่
ซูมามาพยักหน้าเล็กน้อย "จวนโหวไม่มีของดีๆ มาประคองสถานการณ์ให้คุณหนูรองหรอกเจ้าค่ะ!"แม้จะบอกว่า ซูมามาก็ไม่อยากเห็นจวนโหวเลวร้ายเช่นนั้นแต่ยังไงก็ต้องเตือนเฉียวเนี่ยนก่อนเฉียวเนี่ยนกุมมือซูมามาไว้ พูดอย่างจริงจังว่า "ซูมามาวางใจเถิด ของที่ท่านย่ามอบให้ข้า นั่นก็คือของข้า ไม่ว่าใครจะมาเอา ข้าก็จะไม่ให้ทั้งนั้น"เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ซูมามาจึงพยักหน้าอย่างพอใจ "เช่นนั้น พรุ่งนี้มามาจะเริ่มจัดการให้ท่าน รับรองว่าท่านจะแต่งงานอย่างสง่างามแน่นอน!"หนิงซวงที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่สามารถสอดปากได้จึงรีบพูดว่า"ข้าก็จะช่วยด้วยเจ้าค่ะ ข้าเป็นสาวใช้ที่ติดตามคุณหนูแต่งงานไป ข้าก็ต้องช่วยจัดการงานให้ด้วยเจ้าค่ะ!"ซูมามาอดหัวเราะไม่ได้ "ใช่ๆ สาวน้อยอย่างเจ้าก็คือสินเดิมที่ล้ำค่าที่สุดของคุณหนูเจ้า!"ได้ยินดังนั้น หนิงซวงก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย แต่ก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในใจกลับแอบคิดว่าหากนางสามารถอยู่กับคุณหนูของนางได้เหมือนซูมามาที่อยู่กับฮูหยินเฒ่าตลอดไปก็คงดีไม่น้อย!ค่ำคืนนั้นที่จวนโหวท่านโหวหลินและฮูหยินหลินนั่งล้อมวงอยู่หน้าโต๊ะ มองดูสมุดบัญชีของจวนโหวครั้งแล้วครั้งเล่าท่านโหวหลิน
สามวันต่อมา ตระกูลเซียวก็ได้ส่งสารสมรสมาให้สิ่งที่มาพร้อมกับสารสมรส ยังมีขุนนางสู่ขอหกนาย หีบเงินทอง เครื่องประดับ ผ้าไหมกว่าสิบหีบ รวมถึงสัตว์ใช้งานเฉียวเนี่ยนไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เมื่อเห็นว่าเรือนเล็กๆ ของนางถูกผู้คนเบียดเสียดจนแน่นขนัด นางก็พลันรู้สึกไม่รู้จะทำเช่นไรดีโชคดีที่ซูมามายังคงจัดการทุกอย่างได้อย่างคล่องแคล่ว นางสั่งการให้บ่าวไพร่นำของเข้าคลังไปพลาง สอนเฉียวเนี่ยนถึงพิธีสู่ขอไปพลางกว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้น เวลาก็ล่วงเลยไปถึงสองชั่วยามแล้วเฉียวเนี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ อย่างอ่อนล้า หนิงซวงรีบเข้ามายืนด้านหลังนาง พลางนวดบ่าให้อย่างเบามือจี้เยว่เห็นดังนั้นจึงก้าวเข้ามาแล้วคารวะเฉียวเนี่ยน "คุณชายใหญ่ไม่สะดวกออกมา ต้องลำบากแม่นางเฉียวแล้ว"เฉียวเนี่ยนเพียงยิ้มเล็กน้อยและส่ายศีรษะซูมามาและหนิงซวงต่างก็รู้ดีว่าครั้งนี้เซียวเหอช่วยเฉียวเนี่ยนไว้มาก จึงไม่ได้ถือสาที่เขาไม่ได้มาปรากฏตัวเพียงแต่เมื่อมองไปยังเหล่าบ่าวไพร่ที่กำลังขนของหมั้นอยู่ไม่ไกล ซูมามาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไปกระซิบถามจี้เยว่เสียงเบา "ตระกูลเซียวของพวกเจ้าหมั้นหมายสองบ้านในวันเดียวกันห
เฉียวเนี่ยนสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที "งั้นก็ให้เข้าพบเถอะ หากหลบเลี่ยงไป คงดูเหมือนข้ากลัวอะไรสักอย่าง"พูดจบ นางก็สั่งให้ทหารองครักษ์พาคนเข้ามาเมื่อฮูหยินหลินเข้ามา ซูมามากำลังอ่านรายการของกำนัลให้เฉียวเนี่ยนฟัง ท่าทีเหมือนไม่รู้ตัวว่าฮูหยินหลินมาแล้ว ซูมามาจึงอ่านรายการของกำนัลจนจบก่อนจะหันไปมองฮูหยินหลิน แล้วแสดงสีหน้าแปลกใจ "อ้าว ฮูหยินมาทำอะไรที่นี่?"การแสดงดูเหมือนจะไม่ค่อยสมจริงนักหนิงซวงอดไม่ได้ที่จะกลั้นยิ้มแล้วเม้มปากตัวเอง ส่วนเฉียวเนี่ยนก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยังคงรักษาท่าทางที่จริงจังเอาไว้กลับเป็นฮูหยินหลินที่ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย "ไม่คิดเลยว่าซูมามาจะอยู่ที่นี่ ข้าคิดว่าเมื่อวันนี้ตระกูลเซียวได้ทำการหมั้นหมายแล้ว เนี่ยนเนี่ยนคงไม่มีใครช่วยดูแล ข้าจึงมาที่นี่เพื่อจะมาดูสักหน่อย พอเห็นซูมามาอยู่ที่นี่ ข้าก็สบายใจแล้ว"ซูมามาก็หัวเราะตามไปด้วย "ฮูหยินคิดมากไปแล้ว มีพระราชโองการหมั้นหมายมาแล้วหลายวัน ที่นี่จะไม่มีใครช่วยดูแลได้อย่างไร?"คำพูดนี้แฝงไว้ด้วยการเสียดสีการแสดงออกของฮูหยินหลินนั่นเอง!มีพระราชโองการมาแล้วหลายวัน แต่กลับไม่ได้คิดจะส่งคน
ฮูหยินหลินตกตะลึงนางคาดคิดไว้ว่าการมาครั้งนี้คงไม่ราบรื่นนัก แต่ไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะมีบารมีแก่กล้าเช่นนี้นางคิดว่าเฉียวเนี่ยนอาจจะมีความคับแค้นในใจ อาจจะตำหนินาง หรือแม้กระทั่งพูดคำพูดที่บาดใจเช่นเคยหากเป็นเช่นนั้น นางก็จะทำเช่นเคย น้ำตาสักสองสามหยดคงทำให้เฉียวเนี่ยนใจอ่อน แล้วอาจจะได้พระพุทธรูปหยกมาแต่บัดนี้ เฉียวเนี่ยนที่นั่งเผชิญหน้ากับนางผู้เป็นฮูหยินแห่งจวนโหวอยู่ตรงนั้น กลับมีท่าทีสง่าราวกับผู้เหนือกว่าในช่วงเวลาที่หลุดพ้นจากความคิดนั้น นางกลับรู้สึกเหมือนกับว่าตำแหน่งและสถานะของตนเองยังไม่เทียบเท่าเฉียวเนี่ยนเลย!แต่จะเป็นไปได้เช่นไร?ในเมื่อนางเป็นถึงมารดาของเฉียวเนี่ยน!ฮูหยินหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะแสดงท่าทีแบบผู้ใหญ่ กล่าวขึ้นว่า "แน่นอนว่านั้นเป็นสินเดิมที่ท่านย่าให้แก่เจ้า แต่ยวนเอ๋อร์ก็คือน้องสาวของเจ้าด้วย เจ้าจะใจร้ายมองดูนางสียหน้ากลางงานแต่งงานได้อย่างไร?""ข้าไม่เคยยอมรับนางว่าเป็นน้องสาวข้า" เฉียวเนี่ยนขัดคำพูดของฮูหยินหลินด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาของนางแฝงความเย้ยหยันไว้ "ยิ่งไปกว่านั้น ข้าได้ตัดสายสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว เรื่องของจวนโหวนั้นไม่เก
เมื่อพูดจบ ทหารองครักษ์ก็เดินเข้ามาทันที เขาคำนับฮูหยินหลินแล้วกล่าวว่า "โปรดตามข้าน้อยไปเถิด!"ทหารองครักษ์เหล่านี้ ล้วนเป็นคนของเซียวเหอ พวกเขาฟังคำสั่งจากเซียวเหอเพียงผู้เดียวเซียวเหอให้พวกเขามาคุ้มครองเฉียวเนี่ยน ดังนั้นตอนนี้พวกเขาก็ย่อมฟังคำสั่งของเฉียวเนี่ยนอย่าว่าแต่ฮูหยินของจวนโหวเลย แม้แต่ท่านโหวหลินเอง หากเฉียวเนี่ยนพูดว่าให้ส่งแขก ทหารองครักษ์ก็สามารถเชิญออกไปได้โดยไม่มีความลังเลสุดท้ายฮูหยินหลินก็เดินจากไปพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลไม่นาน หนิงซวงก็เดินเข้ามาเห็นเฉียวเนี่ยนยังนั่งอยู่ที่เดิม มือถือถ้วยชาที่เย็นชืดไปนานแล้วหยิบขึ้นมาเล่นไปมา ใจของหนิงซวงก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นนางก้าวไปข้างหน้า เรียกเสียงเบาๆ "คุณหนู…"ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลเฉียวเนี่ยนจึงกลับมามีสติอีกครั้ง นางยกมุมปากแล้วหันไปยิ้มให้หนิงซวง "ข้าเคยคิดว่าข้าคงจะไม่เสียใจ"แต่พอเห็นมารดาผู้ที่รักและทะนุถนอมตนเองมาเกือบสิบห้าปี ต้องเป็นเช่นนี้ ต่ำต้อยเช่นนี้ เสียหน้าขนาดนี้ แม้กระทั่งพูดจาร้ายๆ ใส่ตนเพื่อหลินยวน นางก็ยังรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างไม่สามารถควบคุมได้หนิงซวงกอดเฉียวเนี่ยนไว้อย่างอ่อนโย
เวลาผ่านไปไม่นาน ครึ่งเดือนที่ยุ่งเหยิงก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเช้าวันนี้ ฟ้ายังไม่สาง ซูมามาก็ลากเฉียวเนี่ยนออกจากเตียง "คุณหนูของข้า ฟ้าจะสางแล้วนะเจ้าคะ ถ้าไม่ลุกตอนนี้คงจะไม่ทันแล้ว!"จากนั้นจึงเริ่มการล้างหน้าแต่งตัว เมื่อฟ้าสางแล้ว เฉียวเนี่ยนก็แต่งตัวเสร็จและนั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลืองแล้วใบหน้าถูกแต่งแต้มโดยช่างแต่งหน้าที่เซียวเหอส่งมา ลวดลายดอกไม้ที่หว่างคิ้วดูราวฝีมือจากสวรรค์ เพิ่มความงดงามและความเป็นสิริมงคลให้กับใบหน้าของเฉียวเนี่ยนได้อย่างลงตัวทรงผมถูกทำโดยท่านยายผู้จัดการพิธีมงคลที่เซียวเหอหามาให้ ปีนี้ท่านยายผู้จัดการพิธีมงคลหกสิบแปดแล้ว แต่ยังคงหูตาสว่าง ใจดี มีครอบครัวที่อบอุ่น ถือเป็นท่านยายผู้จัดการพิธีมงคลที่มีความสุขที่สุดในเมืองหลวงซูมามามองใบหน้าเฉียวเนี่ยนที่สะท้อนในกระจกทองเหลืองอย่างพอใจ กล่าวชมออกมาอย่างไม่อาจหยุดได้ "คุณชายเซียวให้ความสำคัญกับคุณหนูจริงๆ วันนี้ ท่านฮูหยินเฒ่าคงจะสบายใจแล้ว"เมื่อได้ยินน้ำเสียงของซูมามาที่มีความเศร้าปะปนอยู่ เฉียวเนี่ยนก็รีบหันไปจับมือซูมามา ดวงตาของนางเริ่มร้อนผ่าว "มามา ร้องไห้ทำไม? วันนี้เป็นวันดีของข้านะ ควรจะดีใ
"เจ้าสาวควบม้าอย่างองอาจสง่างามนัก เทียบกับเกี้ยวเจ้าสาวที่พบเห็นได้ทั่วไปแล้ว แบบนี้ช่างน่าชมยิ่งกว่า"ท่ามกลางฝูงชน มีผู้เปล่งเสียงร้องขึ้นว่า "เจ้าสาวช่างงดงามนัก!""ขออวยพรให้สมรสเป็นมงคล!"เสียงแซ่ซ้องแสดงความยินดีดังกึกก้องมิขาดสายหนิงซวงหยิบเหรียญกษาปณ์ทองแดงที่เตรียมไว้ล่วงหน้าโปรยไปยังฝูงชนชั่วขณะนั้น เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังก้องไปทั่วท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องและคำสรรเสริญ เฉียวเนี่ยนควบม้าไปข้างหน้า มุ่งตรงสู่ตระกูลเซียวอย่างเชื่องช้าขบวนทัพรับเจ้าสาวนำหน้า เฉียวเนี่ยนควบม้าตามหลัง ส่วนด้านหลังของนางนั้น คือขบวนทัพส่งเจ้าสาวที่ทยอยออกมาจากเรือนเล็กมิขาดสายชาวบ้านที่มัวแต่ก้มเก็บเหรียญกษาปณ์ทองแดงเมื่อครู่ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็ถึงกับตะลึงงันกับขบวนทัพส่งเจ้าสาวตรงหน้า"โอ้สวรรค์! สินเดิมมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?""นึกว่าแม่นางเฉียวออกจากจวนโหวแล้วจะกลายเป็นหญิงเดียวดายเสียอีก คาดไม่ถึงเลยว่านางจะจัดเตรียมสินเดิมได้ถึงเพียงนี้!""ดูสิ ยังไม่หมดอีก! ขบวนทัพนี้ยาวเกือบถึงท้ายถนนแล้ว!"……อันที่จริง เฉียวเนี่ยนเองก็มิอาจรู้ได้ว่าซูมามาได้จัดเตรียมสินเดิมใ
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด