Share

บทที่ 568

Author: โม่เสียวชี่
ฉู่จืออี้ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับข้อเสนอของเจ้าหก

เพราะเมื่อคราวก่อนที่แสร้งเมามาย พวกเขาได้ยินว่าเฉียวเนี่ยนไปเรียกให้ป้าชุนมาดูแลก็ล้วนแล้วแต่เกิดความชื่นชมในตัวนางไม่น้อย

วันนี้ เขาบอกพวกเขาเกี่ยวกับฐานะของเฉียวเนี่ยน แน่นอนว่าเรื่องราวของนางก็เล่าร่วมไปด้วย แต่ละคนฟังแล้วล้วนรู้สึกหวาดหวั่น ไม่อยากจะเชื่อ

ยิ่งมีสายสัมพันธ์กับจิ่งเหยียนเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขายิ่งอดรู้สึกเวทนาในใจมิได้

ทว่าเรื่องที่เจ้าหกจะยกให้เฉียวเนี่ยนเป็นน้องสาวบุญธรรมนี้ ฉู่จืออี้ก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกเช่นกัน

จึงได้แต่หันไปมองเฉียวเนี่ยน พลางกล่าวเสียงราบเรียบ “เจ้าหกก็พูดไปอย่างนั้น หากเจ้ามิเต็มใจ ก็ไม่มีผู้ใดบังคับเจ้าได้”

“ใช่ ๆ ข้าก็พูดลอย ๆ ไปตามใจเท่านั้น คุณหนูเฉียวอย่าได้รู้สึกกดดันเลย!”

พวกเขาอยากยกให้นางเป็นน้องสาวบุญธรรม กลับมิได้เอ่ยถามความสมัครใจของนางก่อน

ทว่าคำพูดของเจ้าหกยังไม่ทันจบดี เฉียวเนี่ยนก็ยิ้มออกมา “พี่หกกล่าวเพียงลอย ๆ ข้ากลับเก็บเอาไปคิดจริงจังแล้วเจ้าค่ะ”

องครักษ์พยัคฆ์อันเป็นตำนานในใจของราษฎรแห่งแคว้นจิ้ง จะยอมรับนางเป็นน้องสาวบุญธรรม ถือเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่

จะไม่ยินด
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (7)
goodnovel comment avatar
teamhirun
เหิงเออร์ คิดให้มาก อย่าได้เอาศีลธรรม ศักดิ์ศรีแลกกับคนที่ไม่รักเจ้าอีกแล้ว
goodnovel comment avatar
Vavar
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ กำลังเข้าที่เข้าทางดี เฉียวเนี่ยนได้รับความอบอุ่นแล้วการต้อนรับที่ดีบ้าง รู้สึกดีไปด้วย
goodnovel comment avatar
RATTINAN TREERATANA
พี่เหอยังมีหวังไหม ถ้าท่านอ๋องรับเนี่ยนเนี่ยนเป็นน้องบุญธรรม?
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 572

    สถานการณ์ของเซียวเหอกับนาง ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงหากจะกล่าวว่านางคือคนที่ถูกทุกผู้ทอดทิ้ง เช่นนั้นแล้วเขาก็คือคนที่ได้รับความรักจากผู้คนแม้จะเป็นอัมพาตมาห้าปี ทว่าเมื่อราชครูชิวได้พบเขา ก็ยังอดตื้นตันไม่ได้ และให้เกียรติเขาเสมอแม้แต่ฮ่องเต้ เมื่อทราบว่าเขาหายดี ก็รีบมีรับสั่งเรียกเข้าเฝ้า แสดงความห่วงใยในฐานะบุตรชายคนโตของตระกูลเซียว ท่านพ่อเซียวก็รักเขา ท่านแม่เซียวก็เอ็นดูเขายิ่งนักเซียวชิงหน่วนก็เคารพนับถือเขาเป็นอย่างมากแม้แต่เซียวเหิง เมื่อวางแผนการใด ก็ยังไม่กล้าทำร้ายเขาแม้แต่น้อย ยาที่จัดหามาให้ก็ล้วนมีแต่เพื่อฟื้นฟูร่างกายของเขาทั้งนั้นความรัก เป็นถ้อยคำที่งดงามที่สุดในโลกนี้มันสามารถเป็นเกราะกำบังที่แข็งแกร่งที่สุด และก็สามารถเป็นจุดอ่อนที่บอบบางที่สุดได้เช่นกันเฉียวเนี่ยนก้มหน้ามองฝ่ามือตนเองที่วางอยู่บนโต๊ะ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ให้ข้ากลับเมืองหลวงกับท่านพี่เซียวงั้นหรือเจ้าคะ?”“ไม่กลับก็ได้!” เซียวเหอรีบเอ่ยขึ้นทันที “เจ้าจะไปที่ใด ข้าก็จะไปกับเจ้า ไม่ว่าไกลสุดขอบฟ้าก็ตาม ขอเพียงเจ้าอยากไป…”นี่เป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจไว้แต่แรกแล้ว!แต่ไม่คิดว่า

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 571

    แต่หากดูเพียงแค่ภายในเรือนหลังนี้ เจ้าของเรือนที่ทรุดโทรมหลังนี้น่าจะเป็นบุรุษผู้หนึ่ง“พี่ไป๋ออกไปล่าสัตว์เจ้าค่ะ”เฉียวเนี่ยนเอ่ยขึ้นในที่สุด นางมองเห็นแววพินิจและความสงสัยในดวงตาของเซียวเหอเซียวเหอจึงละสายตากลับมามองเฉียวเนี่ยน สีหน้าผ่อนคลายลง “ผู้ที่ช่วยเจ้าไว้ เป็นนายพรานงั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเบา ๆ แต่หาได้เอื้อนเอ่ยวาจา“แซ่ไป๋งั้นรึ? เป็นแซ่ที่หายากนัก”ได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วน้อย ๆ มิอยากให้เซียวเหอเกิดความสนใจในตัวฉู่จืออี้มากเกินไป จึงเปลี่ยนเรื่องเอ่ยว่า “ท่านพี่เซียวตามหาข้ามานานหรือเจ้าคะ?”เซียวเหอลอบสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย หลุบตาลง มุมปากเผยรอยยิ้มขื่นขม “ตั้งแต่ที่เจ้าตกลงไปในแม่น้ำฉางหยาง ข้าก็ไม่เคยหยุดตามหาเลย”แม้ว่าเขาจะหลุบตาลงแล้ว ทว่าเฉียวเนี่ยนก็ยังมองเห็นแววหม่นเศร้าที่แวบผ่านดวงตาคู่นั้นอย่างชัดเจนจากวันที่นางพลัดตกลงไปในแม่น้ำฉางหยางจนถึงบัดนี้ คงผ่านมาราวเดือนครึ่งแล้วตอนที่นางยังไม่ฟื้นคืนสติ เขาก็กำลังตามหานางตอนที่นางเพลิดเพลินกับความสงบของชนบท เขายังคงตามหานางอยู่นางไม่อาจรู้ว่าเขาผ่านช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังมาแล้วกี่ค

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 570

    ที่ปากทางหมู่บ้าน หลี่ต้าหนิวกำลังนำคนกลุ่มหนึ่งเดินตรงมาเขาเดินกระเผลกแต่ก็พยายามเร่งฝีเท้าของตนให้เร็วขึ้น คอยพยักหน้าโค้งให้อย่างนอบน้อมกับคนที่เดินเคียงข้างคนที่เดินข้างเขานั้นรูปร่างสูงโปร่ง บุคลิกองอาจเย็นชา แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของผู้สูงศักดิ์ที่ไม่เข้ากับทิวทัศน์ชนบทแม้แต่น้อยเฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าควรตกใจหรือควรดีใจดีชายผู้นั้น คือเซียวเหอ...“อยู่ตรงนั้นแหละขอรับ บ้านเก่า ๆ หลังนั้น!” หลี่ต้าหนิวเดินกระเผลกด้วยความเร็วผิดปกติ สีหน้าก็เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและอารมณ์รุนแรงเมื่อสองวันก่อนเขาถูกส่งตัวไปยังจวนขุนนาง ยังนึกว่าคงต้องติดคุกหลายปี ใครจะคิดว่าดันได้เห็นภาพวาดในมือของเจ้าหน้าที่คนเฝ้าประตูเพียงแค่แวบเดียว เขาก็จำได้ทันทีเขารีบรายงานคนเฝ้าประตูเช้าวันนี้ คนสำคัญผู้นี้ก็มาหาเขา ให้พามาหาคนในภาพเซียวเหอมองตามที่หลี่ต้าหนิวชี้ไปก็เห็นคนสองคนยืนอยู่ในรั้วเรือนหลีปาเงาร่างนั้น เขาคุ้นเคยมากแม้จะยังห่างอยู่ แม้นางจะแต่งตัวเป็นสาวบ้านนา เขาก็จำได้ทันทีว่านางคือใครในอกพลันพลุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้นเจอแล้ว!ในที่สุดเขาก็หานางเจอแล้ว!ฝีเท้าเริ่มเร็วขึ้น

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 569

    ฟังคำพูดของเฉียวเนี่ยน พี่รองที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา “ทุกคนระวังกันหน่อย อย่าให้เห็นรอยสักก็พอ ไม่ว่าจะอย่างไร พวกเราก็อยู่ที่นี่มานานแปดปีแล้ว ไม่มีทางสงสัยพวกเราง่าย ๆ หรอก”เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ พี่รองก็มองไปทางเฉียวเนี่ยนแล้วกล่าวว่า “เจ้าก็ไม่ต้องกังวล ภาพวาดนั้นยังแจกจ่ายอยู่แค่ในตัวเมือง ยังไม่แพร่หลาย พี่ ๆ ที่อาศัยอยู่ในเมืองก็จะคอยสังเกตให้ ถ้ามีอะไรผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย ก็จะรีบมาบอกทันที”ทั้งที่เป็นพี่ใหญ่ที่เพิ่งรู้จักกัน แต่ก็เริ่มปกป้องนางเสียแล้วในอกของเฉียวเนี่ยนพลันเอ่อล้นไปด้วยความอบอุ่นเล็ก ๆนางมองไปทางพี่รอง พยักหน้าเบา ๆ“ไอย่าพูดเรื่องพวกนี้อีกเลย วันนี้พวกเราได้มีน้องสาวมาคนหนึ่ง ควรดีใจสิ มาเถอะ กินเยอะ ๆ หน่อย!” เจ้าห้าพูด แต่แล้วก็รู้สึกว่าแปลก ๆ “แต่จะให้เรียกแต่น้องสาวตลอดก็คงไม่ได้ มันแปลก ๆ อยู่นะ”เฉียวเนี่ยนก้มหน้ายิ้ม “พี่ ๆ จะเรียกข้าว่าเนี่ยนเนี่ยนก็ได้”“เนี่ยนเนี่ยน อื้ม เพราะดี! ชอบกินน่องไก่ไหม? นี่คือาหารขึ้นชื่อของโรงเตี๊ยมฟูไหลเลยนะ!” เจ้าห้าคีบน่องไก่วางลงในชามของเฉียวเนี่ยน จากนั้นคนอื่นๆ ก็เริ่มคีบอาหารกันบ้าง กินกันอย่างคึกคั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 568

    ฉู่จืออี้ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับข้อเสนอของเจ้าหกเพราะเมื่อคราวก่อนที่แสร้งเมามาย พวกเขาได้ยินว่าเฉียวเนี่ยนไปเรียกให้ป้าชุนมาดูแลก็ล้วนแล้วแต่เกิดความชื่นชมในตัวนางไม่น้อยวันนี้ เขาบอกพวกเขาเกี่ยวกับฐานะของเฉียวเนี่ยน แน่นอนว่าเรื่องราวของนางก็เล่าร่วมไปด้วย แต่ละคนฟังแล้วล้วนรู้สึกหวาดหวั่น ไม่อยากจะเชื่อยิ่งมีสายสัมพันธ์กับจิ่งเหยียนเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขายิ่งอดรู้สึกเวทนาในใจมิได้ทว่าเรื่องที่เจ้าหกจะยกให้เฉียวเนี่ยนเป็นน้องสาวบุญธรรมนี้ ฉู่จืออี้ก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกเช่นกันจึงได้แต่หันไปมองเฉียวเนี่ยน พลางกล่าวเสียงราบเรียบ “เจ้าหกก็พูดไปอย่างนั้น หากเจ้ามิเต็มใจ ก็ไม่มีผู้ใดบังคับเจ้าได้”“ใช่ ๆ ข้าก็พูดลอย ๆ ไปตามใจเท่านั้น คุณหนูเฉียวอย่าได้รู้สึกกดดันเลย!”พวกเขาอยากยกให้นางเป็นน้องสาวบุญธรรม กลับมิได้เอ่ยถามความสมัครใจของนางก่อนทว่าคำพูดของเจ้าหกยังไม่ทันจบดี เฉียวเนี่ยนก็ยิ้มออกมา “พี่หกกล่าวเพียงลอย ๆ ข้ากลับเก็บเอาไปคิดจริงจังแล้วเจ้าค่ะ”องครักษ์พยัคฆ์อันเป็นตำนานในใจของราษฎรแห่งแคว้นจิ้ง จะยอมรับนางเป็นน้องสาวบุญธรรม ถือเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่จะไม่ยินด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 567

    ที่นี่มิใช่เมืองหลวง หากแต่คือหมู่บ้านเหอวานที่นี่ไม่มีอ๋องผิงหยาง มีเพียงพรานป่าไป๋อวี่เท่านั้นเห็นฉู่จืออี้ไม่ถือมารยาทพิธีรีตองอันใด เฉียวเนี่ยนจึงไม่กล่าวอะไรอีก เข้าไปในเรือนโดยดุษฎีครานั้นเฉียวเนี่ยนอาจนอนดึกเกินไป กระทั่งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตะวันก็ลอยสูงอยู่กลางฟ้าแล้วป้าชุนกำลังนั่งเย็บปะเสื้อผ้าอยู่ในร่ม เห็นเฉียวเนี่ยนลืมตาตื่นก็รีบลุกขึ้นไปตักโจ๊กมาให้ “ไป๋อวี่บอกว่าเจ้ารู้สึกไม่สบาย สั่งข้าอย่าเพิ่งรบกวน วันนี้เจ้าดีขึ้นหรือยัง?”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเบา ๆ เหลือบมองลานบ้านหน้าเรือนอันว่างเปล่าแล้วหัวเราะเบา ๆ “พี่ไป๋ออกไปทำงานกับฝูวั่งอีกแล้วหรือเจ้าคะ?”แต่ป้าชุนกลับส่ายหน้า “เปล่าหรอก ไป๋อวี่ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ เห็นทีจะมีเรื่องที่ต้องจัดการในตัวเมือง ส่วนฝูวั่งเมื่อวานปวดไปทั้งตัว ตอนนี้ยังนอนอยู่เลย!”ฟังดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างลางสังหรณ์ของนางบอกว่าการที่ฉู่จืออี้ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ น่าจะเกี่ยวข้องกับตัวนางเองเขาคงไม่ถึงขั้นไปแจ้งความจับนางหรอกกระมัง?ความรู้สึกเสียใจค่อย ๆ คืบคลานขึ้นมา เมื่อคืน นางเปิดเผยทุกอย่างกับฉู่จืออี้ไปอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 566

    ฉู่จืออี้ถูกเฉียวเนี่ยนทำให้งุนงง“เฉียวเนี่ยน? เจ้าไม่ใช่น้องสาวของจิ่งเหยียนหรอกหรือ?”เฉียวเนี่ยนมีท่าทีประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้น แต่ก็เข้าใจในทันที เดิมทีฉู่จืออี้เข้าใจว่านางคือจิ่งโหรว นางจึงยิ้มมุมปากแล้วกล่าวว่า “หม่อมฉันเป็นคู่หมั้นของจิ่งเหยียนเพคะ”ภายใต้แสงราตรี ดวงตาคมกริบคู่นั้นฉายแววประหลาดใจฉู่จืออี้ลุกขึ้นแล้วก้าวเข้ามา ประคองเฉียวเนี่ยนให้ลุกขึ้นก่อนจะกล่าวว่า “เช่นนั้น จิ่งเหยียนตายด้วยน้ำมือของโจรภูเขากลุ่มนั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย นางรับรู้ความโกรธที่แฝงในน้ำเสียงของฉู่จืออี้พวกโจรภูเขาเฮงซวยนั่น ฆ่าพวกพ้องของเขา แล้วยังทำลายชื่อเสียงของเขากับหน่วยองครักษ์พยัคฆ์อีก!ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ ฉู่จืออี้ก็ถามต่อว่า “แล้วเจ้ากับเซียวเหอมีความสัมพันธ์เช่นไร?”เฉียวเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็นึกได้ว่านางเคยแสดงฝีมือยิงลูกหินให้ฉู่จืออี้เห็นมาก่อน จึงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เซียวเหอ เคยเป็นสามีของหม่อมฉันเพคะ”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกจากปาก เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกได้ว่าสายตาของฉู่จืออี้ที่มองนางเปลี่ยนไปเดี๋ยวก็เป็นคู่หมั้นของจิ่งเหยียน เดี๋ยวก็เป็

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 565

    “ข้าไม่ได้คิดจะฆ่าท่าน” เสียงของเฉียวเนี่ยนสั่นเทา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจ็บ หรือเพราะเสียใจ น้ำตาก็ร่วงลงมา “ข้าแค่ต้องการล้างแค้นให้คู่หมั้นของข้าเท่านั้น!”คิ้วของฉู่จืออี้ขมวดเข้าหากันทันที “คู่หมั้นของเจ้า?”ในหัวของเขา มีใบหน้าหลายสิบหลายร้อยผุดขึ้นมาในพริบตา แต่เขาสังหารคนไปมากเสียจนจำไม่ได้เลยว่าคู่หมั้นของนางคือใครเฉียวเนี่ยนรู้ดีว่าวันนี้ตนไม่มีทางแก้แค้นได้สำเร็จแล้ว แต่ก็หาได้หวาดกลัวไม่ “ข้ารู้ว่าท่านคือผู้มีพระคุณของข้า แต่ท่านมีความเกี่ยวพันกับพวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ย! พวกเขาฆ่าคน ปล้นชิง ล้างบางหมู่บ้าน ทำทุกอย่างที่เลวร้ายที่สุด! ท่านเรียกพวกมันว่าพี่น้อง แบบนี้ก็ไม่ใช่คนดีอะไร!”ฉู่จืออี้ถึงเพิ่งเข้าใจว่าเฉียวเนี่ยนเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นโจรภูเขาเขาปล่อยนางทันที แล้วถอยหลังไปสองก้าวเฉียวเนี่ยนก็ลุกขึ้นนั่งตาม ขอบตาตาแดงกล่ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม นางมองเห็นฉู่จืออี้ก้มหน้าดึงเข็มเย็บปักออกจากร่าง ก็ได้แต่กัดริมฝีปากไว้แน่น ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อยตอนนางเข้าโจมตีเขาขณะนอนหลับ นางยังไม่ชนะ ตอนนี้เขาตื่นเต็มตา นางยิ่งไม่ใช่คู่มือ“ข้าไม่ใช่โจรภูเขา พี่น้องของข้าก็เช่นกัน” ฉ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 564

    ป้าชุนเห็นดังนั้นก็รีบพูดขึ้น “โอย ตายแล้ว! ข้าไปหยิบผ้ามาให้เช็ดก่อนนะ” พูดจบก็รีบเดินออกจากเรือนไปฝูวั่งเองดูเหมือนจะไม่อยากอยู่กับฉู่จืออี้นัก ก็เลยเดินตามป้าชุนออกไปด้วยฉู่จืออี้หันไปมองชายหนุ่มแวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าว “ในตู้มีเสื้ออยู่ เอามาเปลี่ยนเถอะ”เรือนของฉู่จืออี้เป็นทั้งห้องนอนและห้องโถงรวมกัน ตู้เก็บเสื้อผ้าจึงอยู่ไม่ไกลดูเหมือนเขาจะเข้าใจเจตนาของฉู่จืออี้ดี เขาเดินไปที่ตู้ หยิบเสื้อผ้าหยาบ ๆ ตัวหนึ่งออกมา แล้วก็เปลี่ยนเสื้อต่อหน้าเฉียวเนี่ยนทันทีรอยสักหัวเสือกลางหน้าอก เด่นชัดเป็นที่สุดเหมือนกับว่าความสงสัยบางอย่างได้รับการยืนยัน ความสับสนว้าวุ่นในใจของเฉียวเนี่ยนกลับค่อย ๆ สงบลงนางกลับไปนั่งที่เดิม แล้วเริ่มกินอาหารคำแล้วคำเล่าอย่างไม่ลังเล เมื่อป้าชุนกลับเข้ามาอีกครั้ง ใบหน้าของนางก็ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติชายหนุ่มรับผ้าขนหนูมาเช็ดตัว พลางเงยหน้าสบตาฉู่จืออี้อย่างไม่ได้นัดหมาย บางสิ่ง…ไม่ต้องพูด ก็เข้าใจตรงกันหลังมื้ออาหาร ฉู่จืออี้ก็ยังไปยืมเกวียนตามที่พูด ทว่าเฉียวเนี่ยนบอกว่านางรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ไม่อยากเข้าเมือง ฉู่จืออี้จึงไม่ได้ฝืนใจ และนำเกวียนไปคื

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status