LOGINโคแก่ปากร้าย ปะทะ หญ้าอ่อนหัดอ่อย รักที่คิดว่าจะกร่อยจึงแซบสะเด็ดเผ็ดมันซาบซ่านสุดซึ้งทุกอณูทรวง เด็กน้อยในอุปการะน่ารักน่าใคร่ขึ้นทุกวัน เธอยังแสดงออกว่าคิดเกินเลยกับเขา โรมรันไม่อยากขึ้นชื่อว่าเลี้ยงต้อย เป็นสมภารกินไก่วัด ก่อนตบะแตก จึงตัดใจส่งเธอออกไปอยู่ไกลตัว ด้วยแอบปลื้ม แอบรักผู้มีอุปการะคุณอย่างเขา เธอถึงยอมเสนอตัวให้ หากเขากลับฉีกหน้า ซ้ำเสือกไสส่งเธอออกไปจากไร่ เธอตั้งใจไว้จะไม่กลับมาให้เขาเห็นหน้าอีกตลอดชีวิต “ผัวทั้งคนนะแม่คู้ณ ช่วยให้ความสำคัญกันมั่ง” คนหน้าไม่อายโวยวายลั่นบ้าน ชนิดไม่คิดถึงหน้าสวยๆ แสนบอบบางของสาวน้อย ป่านนี้คนทั้งไร่คงได้ยินเสียงแหกปากของเขาหมดแล้ว พุดแก้วกัดปาก ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ตบมือข้างเดียวดังที่ไหน “รึเธอยึดสุภาษิตสมัยใหม่ มีเงินท่วมหัวไม่มีผัวยังได้ คิดงี้ใช่มั้ย เวลาเห็นผู้หญิงพวกนั้นมาเกาะแกะฉัน ถึงได้ไม่สนใจ” คนโวยวายพาลซ้ำ หน้าบูดหน้าบึ้ง ด้วยความฉุนเฉียว คิดดู อุตส่าห์จะทำให้หึง ให้หวง ให้ห่วง แบบผัวฉันใครอย่าแตะ แต่แม่เจ้าประคุณมองเฉย “นี่ผัวนะ ผู้ชายคนเดียวที่เธอต้องสนใจ จับให้มั่นคั้นให้ตาย ไม่รู้รึไง”
View Moreทำไงดี!
จะทำยังไง เธอไม่อยากไปจากที่นี่ ไม่อยากไปจากบ้านไร่เขียวขจีแห่งนี้
กรุงเทพฯ เป็นยังไงก็ไม่รู้ อยู่คนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว ข่าวร้ายต่างๆ มากมายออกทีวีบ่อยๆ ปล้น ฉุด ฆ่า ข่มขืน วิ่งราว ลักขโมย ไหนจะรถติดเป็นแพ เธอจะมีเพื่อนไหม จะกินจะอยู่ยังไง ชีวิตในบ้านไร่ตอนนี้ก็สุขสบายดีแล้ว ช่วยทำงาน ทำไร่ ดูแลฟาร์ม เธอทำได้หมด ทำไมเขาต้องอยากให้เธอไปด้วย
“ไปเหอะพุด พี่ยังอยากไป อยากเห็นกรุงเทพฯ อยากเห็นรถไฟฟ้า เวลาขึ้นไปนั่งมันจะเหมือนรถไฟธรรมดาหรือเปล่า โอ๊ย! พูดแล้วพี่ก็ยิ่งอยาก อิจฉาเอ็งจริงๆ จะปฏิเสธทำไมวะ”
พี่น้อมพูดอย่างลิงโลดแกมอิจฉา พี่น้อมหรือประนอมวัยยี่สิบสามปี ออกอาการเสียดายแกมคะยั้นคะยอให้เธอไป เมืองใหญ่เมืองฟ้าอมรที่คนบ้านไร่บ้านนาแถวบ้านพากันส่งลูกส่งหลานไปเรียนบ้าง ไปทำงานบ้าง
พูดถึงกรุงเทพฯ ใครๆ ก็อยากไปเห็น เมืองที่มีตึกสูงใหญ่ มีรถไฟวิ่งบนฟ้า แถมยังมีรถไฟใต้ดินอีก คนไปเรียนก็กลับมาเมาท์โม้ให้คนไม่ได้ไปฟัง คนไปทำงานก็หอบเงินกลับมาเวลาเทศกาล พร้อมๆ กับการฉลอง กินเหล้ากินเบียร์ปาร์ตี้กันจนเงินแทบไม่เหลือค่ารถกลับ
“พุดไม่อยากไปนี่พี่ อยากทำงานช่วยที่นี่มากกว่า”
“โอ๊ย นังพุด แกนี่คิดอะไรตื้นๆ อยากหน้าดำทำไร่ ไม่กี่ปีก็มีผัวเป็นไอ้พวกถึกพวกนั้นรึไงฮะ คิดไกลๆ คิดยาวๆ อีน้อง ถ้าแกเรียนจบกลับมาก็ช่วยงานคุณเขาได้มากกว่ามานั่งกวาดขี้วัวขี้ควายนะเอ็ง”
“แหม พี่น้อมก็พูดซะ ทั้งไร่ทั้งฟาร์มออกใหญ่ พุดจบ ม.6 แล้วคงช่วยอะไรได้มากกว่านั้นหรอกน่ะ ไปอยู่โน่นพุดจะอยู่ยังไงคนเดียว”
“คนเดียวที่ไหน คนเต็มมหาลัย สอบติดแล้วก็ไปเรียนสิ บางทีเอ็งอาจจะเจอโอกาสดีๆ ได้ทำงานดีๆ นั่งในห้องแอร์เย็นๆ นะโว้ยนังพุด”
ประนอมทำเสียงเหนื่อยหน่ายที่สาวรุ่นน้องดื้อดึงนัก เป็นเธอหน่อยไม่ได้ เสียดายที่ตอนอายุเท่านี้ เธอไม่ชอบเรียน ก็เพราะคิดว่า มีงานทำ มีที่อยู่ ไม่อดตายแบบที่พุดแก้วกำลังคิดนี่แหละ
ความสนิทสนมเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เกิด ทำให้พุดแก้วเลือกเล่าความอึดอัดใจกับประนอมมากกว่าใคร หลายปีนับจากไม่มีพ่อแม่ ประนอมก็คอยดูแลเธอเหมือนพี่สาว ยังมีพ่อแม่ของประนอม ยายปลิวกับตาสมบัติ ที่เอ็นดูและคอยดูแลเธอมาตลอด
“พุดเกรงใจคุณเข้มนี่พี่”
พูดแล้ว หน้าสวยหวานก็หมองลง คุณเข้มต้องจ่ายเงินไปไม่น้อยที่ผ่านมา ในการส่งเสียอุปการะเธอ ทั้งที่เธอไม่ใช่ลูกหลาน ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องของเขาด้วยซ้ำ
“โอ๊ย คิดมากอีกแล้ว แค่เงินไม่เท่าไหร่ คุณเข้มขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกนังพุด แกอย่าเว่อร์ ไปๆ อย่ามาพูดเรื่องไม่ไปกับพี่ ถ้าแกไม่อยากไป คนเดียวที่ตัดสินใจได้คือคุณเข้มเท่านั้น แต่พี่กับแม่แล้วก็คนอื่นๆ อยากให้แกไปเรียนนะ แกจะได้มีโอกาส มีชีวิตที่ดีกว่าเป็นเด็กในไร่แบบนี้”
คำพูดของประนอมยังดังก้องรูหู แม้ว่าคุยกันมากว่าครึ่งวันแล้ว พุดแก้วคิดไม่ตก นอนดิ้นไปดิ้นมา พลิกหน้าพลิกหลัง ถ้าตัดสินใจไป เดือนหน้าเธอก็ต้องจากบ้านไร่ จากฟาร์มแห่งนี้ และที่สำคัญจากเขา...
สาวน้อยหน้าร้อน ใจกระหวัดถึงผู้ปกครองคนเดียวของเธอ เขา... เจ้าของไร่และฟาร์มพฤกษ์พนาแห่งนี้
คุณเข้ม หรือโรมรัน พฤกษ์พนา เจ้าของร่างบึกบึนหนา สูงใหญ่ ตาดุคม เขามองมาทีไร ใจน้อยๆ ของพุดแก้วแทบจะเหวอะหวะเพราะตาคมนั้นกรีดหัวใจเธอให้ไหวสั่น
ใช่แล้ว พุดแก้วแอบมองเขา แอบหวั่นไหว แอบมีใจ
คุณเข้มเป็นผู้ชายที่ดูเถื่อน ดุดัน หยาบกระด้าง หากความหล่อเข้มแบบนั้นก็ดึงดูดสาวน้อยสาวใหญ่ สาวจริง สาวสอง ไปถึงเกย์ให้หลงใหลใฝ่ปอง ถ้าเธอไม่อยู่ เกิดวันหนึ่งมีใครทำให้เขาสนใจได้ เธอจะทำยังไง
สาวน้อยคิดกระวนกระวาย เธอยอมรับกับใจตัวอย่างไม่อายว่าแอบชอบผู้ชายถึกทนหยาบกระด้างคนนั้นนับแต่ยังเป็นเด็กน้อย เธอเกิด เติบโตในไร่แห่งนี้ เคยเจอเคยเห็นโรมรันไม่บ่อยนัก เพราะเขาไปเรียนต่อที่จังหวัดอื่น กลับมาบ้านนับครั้งได้ กระนั้นเธอก็ชอบแอบมอง กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝัน ขณะที่เธอกำลังจะจบ ป.5 พ่อแม่เธอและพ่อแม่ของโรมรัน มาจากไปพร้อมกันเพราะอุบัติเหตุ
ก่อนนั้นไร่พฤกษ์พนายังไม่กว้างใหญ่ เจริญงอกงามเหมือนทุกวันนี้ ผลผลิตจากไร่คือการปลูกอ้อย ปลูกข้าวโพดและผักอีกสองสามชนิด คนงานมีไม่มาก คุณวสันต์กับคุณรำพาจึงต้องมาช่วยลูกน้องหยิบจับงานที่พอทำได้
วันนั้นมีฝนตกไปก่อนที่คุณวสันต์กับคุณรำพาและพ่อแม่ของเธอจะพากันขับรถหกล้อบรรทุกอ้อยไปส่งโรงงาน ซึ่งพวกท่านทำแบบนั้นบ่อยๆ แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน รถที่ขับตามกันไป ลื่นถนนพลิกคว่ำ พรากชีวิตคนทั้งสี่ไปทันที
อุบัติเหตุนั้นเอง ดึงโรมรันกลับมาไร่พฤกษ์พนา เขาเรียนจบแล้วหลายปี แต่ขอทำงานตามความชอบ นั่นคือการตระเวนวาดรูปถ่ายภาพแบบที่เขารัก แต่เมื่อกิจการของครอบครัวไม่มีคนดูแล เขาจึงกลับมารับหน้าที่นี้
นั่นเป็นสาเหตุที่เธอกลายมาเป็นเด็กในปกครอง หลังจากที่เขาพบว่า สิ้นพ่อแม่แล้ว เธอตัวคนเดียว ไม่มีใคร จึงอุปการะเธอไว้ ส่งเสียให้เรียนหนังสือ ให้พักในบ้านของเขา โดยมีประนอมกับยายปลิวคอยดูแลเธออีกที ขณะที่เขาหันมาศึกษาการทำเกษตรแบบจริงจัง และพลิกฟื้นผืนดินมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้
นับจากวันนั้น พุดแก้วได้เห็นได้เจอโรมรันบ่อยขึ้น เพราะต้องอยู่ร่วมบ้าน เธอไม่สนิทกับเขา ไม่กล้าเข้าไปตีสนิท ได้แค่แอบมอง แอบมีโรมรันในหัวใจ ตามประสาเด็กน้อยที่เห็นเขาเป็นฮีโร่ในเวลานั้น เขาเองก็ไม่มาสุงสิงสนิทสนมกับเธอมากไปกว่าการถามไถ่ ถึงการเรียน หรือเธอขาดเหลืออะไรให้บอกน้อมกับยายปลิว เขาจะช่วยดูแลจัดหาให้ แค่นั้น ...
ทว่า... ผ่านมากว่าเจ็ดปี ความรู้สึกในใจก็ยิ่งพอกเพิ่ม
วันนี้เธอจบ ม.6 แล้ว โรมรันต้องการให้เธอไปเรียนกรุงเทพฯ เมื่อเธอสอบติดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของรัฐ ในสาขาวิชาการจัดการ
ท่ามกลางแรงขับเคี่ยวเร่าร้อน เสียงกระซิบน้ำคำอ่อนหวานแว่วอยู่ริมหู ตามมาด้วยจูบหวานฉ่ำเร้ารัญจวน กับการเคลื่อนคลึงเอาใจ สลับด้วยพายุสวาทเร่าร้อน“พุดรู้ พุดเป็นของคุณเข้มค่ะ รักคุณ...ที่รักของพุด”“ดีมาก เด็กดีของฉัน”โรมรันตอบสนองความน่ารักน่าใคร่ด้วยบทเพลงรักหนักหน่วงเร่าร้อน เร้าใจ ทุกบทตอน ทุกท่วงทำนองที่เลือกมาขานขับก็เพื่อบำเรอรักเมียสาว ความสุขคือสิ่งเดียวที่พุดแก้วต้องได้รับ...สุขกาย สบายใจ และมีชีวิตที่มั่นคง ท่ามกลางครอบครัวอบอุ่น...เสียงครวญผสานเสียงเรือนกายที่กระทบกระแทกกันดังเป็นจังหวะกลับกลายเป็นเสียงดนตรีอันไพเราะที่คนฟังไม่รู้เบื่อ ความใคร่ที่งดงามด้วยความรักขับลำนำบทเพลงแล้วบทเพลงเล่า และทุกครั้ง โรมรันจะเกี่ยวก้อยจับจูงเมียรักทะยานสู่หลักชัยด้วยความสุขสมจนตาพร่าพราย...พันแสงเปิดประตูเข้าห้องมาก็พบว่าสามสหายแสนซนหลับใหลอยู่บนฟูกไปเรียบร้อย เขาจึงหลีกทางให้หมึกเข้ามาอุ้มลูกสาวกลับไปนอนห้อง“ขืนให้นอนที่นี่ ตื่นมาร้องลั่นแน่” หมึกพูดยิ้มๆ จ้องมองดวงหน้าเล็กๆ อย่างแสนรักใครจะคิดว่า เรื่องที่เกิดเพราะอารมณ์ชั่ววูบจะนำพาเขากับแสงเดือนกลายมาเป็นผัวเมียที่ร่วมสร้างครอบคร
โรมรันครางแหบโหยในลำคอ ดับความเสียวสยิวด้วยการกินนุ่มเนื้อหวานหนักหน่วงแนบแน่น เธอก็เอาคืนด้วยการดูดรูดรัดเขาแรงๆ ทั้งครูดเบียดโนมเนื้อทรวงอกอวบกับลอนท้องแข็งแน่น ชายหนุ่มแทบบ้า ร่างกายสั่น กระแสสวาทอัดแน่นที่แก่นลำ เมียรักตัวน้อยก็ช่างร้ายกาจขึ้นทุกวันเสียแล้วพุดแก้วเร่งเร้าปรนเปรอเท่าที่ประสบการณ์จากสามีสั่งสอนมา ทั้งรับรู้ความบาดแหลมที่ซอกขา เวลาเรียวลิ้นใหญ่ฉกฉวัดใส่อย่างฉกาจฉกรรจ์มีชั้นเชิง จวบจนอารมณ์คล้ายทนไม่ไหวพุ่งสูง ความเข้มแข็งในกำมือแข็งจัด กระตุกไหว บอกความนัย หญิงสาวขัดใจสามีอีกครั้ง ด้วยการกระชากตัวเธอออกจากบ่วงสวาทที่กำลังเร่งเร้า ปลดปล่อยตัวเขาให้ค้างเติ่งกลางหุบเหว“พุด!” เสียงห้าวโหยเข้มเครียด ผงกศีรษะมองเมียรักอย่างขัดใจกายงามเคลื่อนเข้าคร่อมหน้าขา มือสวยประคองแก่นความเป็นชาย จดจ่อนุ่มเนื้องามก่อนจะกดตัวลงละเลียดต่ำกลืนกินความรวดร้าวของเขาเสียจนสิ้น ด้วยหน้าตาที่แดงก่ำ ปากเม้มแน่น สองมือกดลอนหน้าท้องของโรมรันอย่างแรงเสียงถอนหายใจลึกประสานเสียงอุทานอย่างซ่านเสียวดังออกมาพร้อมกันทันทีที่นวลเนื้อแนบชิดสนิทกันทุกองคุลี“พุดอยากได้น้องขิม...”เสียงสั่นๆ จากกลีบปากงา
โรมรันไขว้แขนกระตุกเสื้อถอดออกแล้วโยนไปปลายเตียง เนื้อตัวเปล่าเปลือยแน่น เข้มแข็งด้วยกล้ามเนื้อสวย ปรากฏต่อสายตาเมียรัก“ชอบอ่อย” คนมองส่งสายตาค้อน หากก็เลื่อนฝ่ามือสำรวจตรวจตราผิวเนื้อแน่นที่ลำไหล่ไล่มาตามบ่ากว้างเข้าหาลำคอหญิงสาวใจเต้นแรง เช่นทุกครั้ง... เรือนกายแกร่งกำยำของโรมรันกระชากลมหายใจ กระตุ้นไฟปรารถนาในตัวเธอเสมอมุมปากได้รูปกดยิ้ม ตาพราวแสง กองไฟปรารถนาค่อยๆ ลุกเรืองอยู่ในนั้น“ไม่อ่อยแล้วเด็กจะหลงเหรอ”“เด็กที่ไหนคะ หรือเด็กสาวๆ เมื่อกลางวัน”หน้างอๆ ตาเขียวปัด เรียกเสียงหัวเราะในลำคอหนา ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาสะอาดเริ่มครึ้มเครานิดๆ เมื่อไม่ได้ทำความสะอาด ฝ่ามือเรียวบางจึงถูกับข้างแก้มและกรามแกร่งไปมาอย่างชอบใจ“เด็กคนนี้ต่างหาก กำลังกอดอยู่นี่ อุตส่าห์ลงทุนอ่อยทุกวัน เช้ากลางวันเย็น สามเวลายังจะแกล้งงอนกันอีกนะพุด เห็นเธอชอบมองเนื้อตัวฉันเหลือเกินนี่ เลยใส่เสื้อแบบที่มันมองถนัดๆ ไม่ดีเหรอ”“ชิ ไม่อยากคุยกับคนแก่หลงตัวเอง พุดไปหาขามดีกว่า” คนบ้า พูดเหมือนว่าเธอโรคจิต ถึงจะชอบมองชอบลูบไล้กล้ามเนื้อแน่นๆ ของเขาก็เถอะแก้มใสซับสีระเรื่อ ปากอิ่มยื่นอย่างแง่งอน“ไม่อยากได้น้องข
“มากับแม่เหรอเนี่ย พี่นึกว่ามากับพี่สาวซะอีก”“อืม แม่ขามสวย พ่อเลยดุมากฮับ”“ขาม! เอ่อ ขอตัวนะคะ” พุดแก้วรีบปรามลูกชาย ยิ้มแหยให้หนุ่มแปลกหน้า รีบจ่ายเงินแล้วพาลูกชายออกจากร้าน เดินห่างออกมาจากร้านพอควร ก็หยุดสอนลูกชายเรื่องคุยกับคนแปลกหน้าโรมรันเดินเกือบจะถึงเมียกับลูกแล้ว พอเห็นทั้งสองออกจากร้าน เขาเสแวะร้านขายน้ำแทน เพื่อไม่ให้พุดแก้วคิดว่า เขาตามมาหึงหวงเธอ ถึงมันจะจริงก็เถอะเมียใคร ใครก็รักก็ห่วงนี่หว่า... ยิ่งเห็นไอ้หนุ่มคนนั้นตาละห้อยด้วยความเสียดายด้วยแล้ว โรมรันยิ่งไม่อยากปล่อยให้เธอห่างสายตา“ต๊าย ดูผู้ชายคนนั้นสิแก แมนเว่อร์ หุ่นเป๊ะโคตร”เสียงกรี๊ดกร๊าดกันเบาๆ ดังมาจากด้านหลังของพุดแก้ว“นั่นสิแก ใส่เสื้อยืดบางๆ แบบนี้ แกเห็นซิกซ์แพ็กนั่นไหม มันน่าลูบน่าซบเป็นบ้า”พุดแก้วค่อยๆ มองซ้ายมองขวาเพราะอยากรู้เหมือนกันว่า หุ่นน่าซบน่าลูบจะเทียบสามีของเธอได้หรือเปล่า มองแล้วก็ไม่เห็นมีใคร นอกเสียจาก...โรมรัน“เออว่ะพวกแก หุ่นก็แมน หน้าก็คมเข้ม ฉันว่าพวกเราไปสีเขาดูดีกว่า เผื่อคืนนี้จะได้ซบหุ่นแมนๆ นั่นบ้าง”“หูย กล้าว่ะแก”“กลัวอะไร อยากได้ใจต้องกล้า หญิงยุคใหม่ เป้าหมายมีไว้พุ่





