Share

บทที่ 595

Author: โม่เสียวชี่
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮ่องเต้กลับเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ หันไปมองฉู่จืออี้ด้วยความไม่อยากเชื่อ “เจ้าคิดว่า ข้าอยากฆ่าเจ้าอย่างนั้นหรือ?”

ฉู่จืออี้ไม่พูดอะไร เบือนสายตากลับมา แต่กำหมัดแน่นเล็กน้อย

เขารู้ดีว่าคำพูดเมื่อครู่ของตนอาจล้ำเส้นเกินไป

แต่เขาก็อยากรู้คำตอบ

เขาอยากรู้ว่าเขาเคยถูกพี่ชายเพียงคนเดียวของตนทอดทิ้งหรือไม่

เสียงฝนพรำด้านนอกห้องทรงอักษร ตีซ้ำลงบนหัวใจของฉู่จืออี้ไม่หยุด

ฮ่องเต้ค่อย ๆ เดินมาหาเขา แล้วยกมือขึ้น ตบไหล่เขาเบา ๆ

“ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า แต่อี้เอ๋อร์ เจ้าฟังข้านะ ข้าไม่มีพี่น้องคนอื่นอีกแล้ว นอกจากเจ้า!”

คำว่า “อี้เอ๋อร์” ทำให้ฉู่จืออี้นึกถึงเรื่องราวในอดีตที่แสนไกล

ในตอนนั้น เพราะมารดาไม่ได้รับความโปรดปราน เขามักถูกเหล่าองค์ชายคนอื่นกลั่นแกล้ง จนกระทั่งรัชทายาทในขณะนั้น นั่นก็คือฮ่องเต้ในตอนนี้ ได้ก้าวออกมาช่วยเขา

ตั้งแต่นั้นมา ภายในวังอันเงียบงัน คนที่เรียกชื่อเขาได้ ก็มีเพิ่มขึ้นอีกคน นอกจากพระมารดา

เมื่อครั้งอยู่ในวัง เขากับฮ่องเต้ถือว่าสนิทกันที่สุดในบรรดาพี่น้อง แต่เมื่อเขาออกไปประจำการแถบชายแดนหลายปี ความสัมพันธ์นั้นก็ค่อย ๆ จางหายไป

ตอนนี้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1058

    ดังนั้น ทหารกว่าพันแปดร้อยนายจึงมิได้สละชีพไปโดยเปล่าประโยชน์พวกเขาใช้ชีวิตของตนเองชิงเอาผังการป้องกันนี้กลับคืนมา รักษาชีวิตชาวเมืองอู้เอาไว้ทั้งเมืองฉู่จืออี้ถอนหายใจเบาๆ เก็บผังการป้องกันไว้ แล้วจึงมองไปที่เซียวเหิง “แต่ที่เจ้าหุนหันพลันแล่น ก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน”ได้ฟังดังนั้น สีหน้าของเซียวเหิงก็เปลี่ยนไป “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”ฉู่จืออี้ค่อยๆ ลุกขึ้น ดวงตาลึกซึ้งทอดมองไปยังมุมหนึ่งของม่านกระโจม ก่อนจะหันกลับมาทางเซียวเหิง “อ๋องผู้นี้เห็นว่า เจ้าไม่เหมาะสมจะเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาป้อมปราการแห่งเมืองอู้อีกต่อไป ตั้งแต่บัดนี้ อำนาจการบังคับบัญชาทหารในมือเจ้าจะอยู่ในความดูแลของอ๋องผู้นี้”“ฉู่จืออี้!” เซียวเหิงโกรธเกรี้ยว “เจ้าคิดจะแย่งชิงอำนาจของแม่ทัพเช่นข้าหรือ?!”ฉู่จืออี้สีหน้าเย็นชา แค่นหัวเราะเบาๆ “ทำไม? อ๋องผู้นี้จักแย่งชิงไม่ได้หรือ?”เซียวเหิงถูกยั่วยุจนโกรธถึงขีดสุด รีบดึงดาบยาวออกมาฟาดใส่ฉู่จืออี้ทันทีดีที่ฉู่จืออี้เตรียมระวังไว้ก่อนแล้ว จึงหยิบดาบขึ้นมาขวางรับได้ทันภายในกระโจม เสียงอาวุธกระทบกันดังแหลมก้องกังวานด้านนอกมีคนกรูกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว“โอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1057

    อวี๋วั่นซูถอยไปทันที รองแม่ทัพตู้ก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋องโปรดทอดพระเนตรเถิดพ่ะย่ะค่ะ เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพเซียวเป็นเพราะจมอยู่ในเรื่องรัก จึงหุนหันพลันแล่นและฉุนเฉียว เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะนำทัพเราอีกต่อไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวเหิงถูกองครักษ์พยัคฆ์ขวางไว้ฉู่จืออี้จึงหันไปมองเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว มองไปทางเซียวเหิงครั้งหนึ่ง ชั่วขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีหากเป็นหลินเนี่ยนวัยสิบห้าที่ได้ยินคำพูดของอวี๋วั่นซู คงดีใจจนกระโดดโลดเต้นแต่ตอนนี้ นางได้ยินถ้อยคำเหล่านี้แล้วกลับไม่มีความรู้สึกใดๆ เกิดขึ้นเลยฉู่จืออี้จึงละสายตากลับมา ยกมือโบกนิดหนึ่ง “ออกไปให้หมด เซียวเหิงอยู่ก่อน”เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างก็ทำความเคารพแล้วขานรับแม้แต่เฉียวเนี่ยนก็ออกไปด้วยนางไม่อยากอยู่ต่อจริงๆจนกระทั่งทุกคนออกไปหมด ภายในกระโจมก็เหลือเพียงฉู่จืออี้กับเซียวเหิงเห็นสีหน้าโกรธเคืองของเซียวเหิงยังไม่คลาย ฉู่จืออี้จึงเอ่ยเสียงต่ำว่า “นั่ง”น้ำเสียงฟังไม่ออกว่าดีหรือร้ายเซียวเหิงมองฉู่จืออี้ครั้งหนึ่ง จึงนั่งลงดาบในมือถูกเก็บไป เซียวเหิงไม่เอ่ยคำใดเลยแต่ไม่คาดคิดว่าฉู่จืออี้กลับ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1056

    ขณะกำลังคิดอยู่ ฉู่จืออี้ก็เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “เข้าไปข้างในค่อยพูด”เซียวเหิงไม่ได้ขานรับ แต่ก็หลีกทางให้ฉู่จืออี้จึงพาเฉียวเนี่ยนเดินเข้าไปข้างในตอนที่เดินผ่านข้างกายเซียวเหิง สายตาของเขาหยุดลงบนมือที่ฉู่จืออี้กุมมือเฉียวเนี่ยนไว้แน่น ดวงตาก็พลันร้อนระอุ จนกระทั่งฉู่จืออี้กับเฉียวเนี่ยนเข้าไปในกระโจมทหารแล้ว เขาถึงได้บังคับตัวเองให้ละสายตากลับมามีเพียงฟ้าดินที่รู้ เพียงชั่วพริบตาเมื่อครู่นั้น เขาอยากจะตัดมือของฉู่จืออี้ทิ้งเพียงใดพยายามสูดลมหายใจลึกหลายครั้ง กดความหุนหันพลันแล่นในใจลงไปได้ เซียวเหิงถึงได้ก้าวตามเข้าไปในกระโจมทหารภายในกระโจม อวี๋วั่นซูกับรองแม่ทัพตู้ก็อยู่ด้วยการมาครั้งนี้ของฉู่จืออี้ก็เพื่อสอบถามเรื่องที่ก่อนหน้านี้เซียวเหิงหุนหันพลันแล่น ออกคำสั่งมั่วไป ดังนั้นเวลานี้เขาจึงไม่ได้พูดคุยทักทาย แต่เปิดประเด็นตรงๆ “ว่ามาเถอะ เรื่องมันเป็นอย่างไร”อวี๋วั่นซูเหลือบมองไปทางเซียวเหิง เห็นว่าเขาไม่มีท่าทีจะเอ่ยปาก จึงก้าวออกมาโค้งคำนับ “กราบทูลท่านอ๋อง หนึ่งเดือนก่อน แคว้นถังจู่ๆ ก็เปิดศึกบุกเมืองอู้ แม่ทัพเซียวเป็นผู้นำพวกกระหม่อมป้องกันเมือง ชนะศึกอย่างเห็นได้ชั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1055

    มีความเป็นไปได้สูง ว่าก็คือเพื่อสมบัติล้ำค่าอะไรนั่นเฉียวเนี่ยนในใจก็พอจะเดาได้แล้ว เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมานางเพียงหันไปถามมู่หงเสวี่ยอีกว่า "แล้วครั้งนี้ท่านพี่ตั้งใจส่งรถม้ามาให้ แถมยังมอบแผนที่เส้นทางลัดมาให้อีก เพื่อให้พวกเราสามารถรีบไปถึงเมืองอู้ได้โดยเร็ว นี่ก็เพื่อสิ่งใดกันเล่า? ในเมื่อแคว้นจิ้งกับแคว้นถังตอนนี้กำลังทำสงครามกันอยู่ ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าพวกเรามาเมืองอู้ครั้งนี้เพื่ออะไร เหตุใดถึงยังออกหน้าช่วยเหลือ?"มู่หงเสวี่ยเพียงยิ้มบาง "ก็แน่นอนว่าย่อมอยากให้เนี่ยนเนี่ยนจำได้ถึงคุณความดีของตระกูลมู่ เช่นนี้แล้ว เมื่อถึงคราวตระกูลมู่เดือดร้อน เจ้าถึงจะยื่นมือเข้าช่วยบ้าง"ว่ากันตามจริง เหตุผลนี้ก็ฟังขึ้นอยู่เพียงแต่เฉียวเนี่ยนยังคงรู้สึกว่ามู่หงเสวี่ยไม่ได้พูดความจริงทั้งหมดอย่างไรก็ตาม แผนที่เส้นทางที่เขาให้มา กลับเป็นของจริงเส้นทางลับหลายเส้นที่คนทั่วไปไม่คุ้นเคย รถม้าก็ยังสามารถวิ่งผ่านได้พอดี ส่งผลให้เวลาเดินทางจริงนั้น สั้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงราวห้าวันเมื่อไปถึงเมืองอู้ ก็เป็นเวลาเย็นย่ำพอดีรถม้าเพิ่งจอดลงตรงนอกค่ายทหาร เซียวเหิงที่ได้รับข่าวก็ก้าวออกมาอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1054

    มู่หงเสวี่ยไม่เคยคิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเป็นฝ่ายพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเขาคิดว่านางไม่เต็มใจ จึงจะเมินเฉย ไม่พูดถึง ทำราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นดังนั้น เมื่อเฉียวเนี่ยนพูดขึ้นมาในเวลานี้ เขากลับชะงักไปเพียงเห็นเฉียวเนี่ยนยิ้มตาพริ้ม “ท่านพี่อุตส่าห์ส่งรถม้ามาให้ ไม่ใช่เพื่อเรื่องสมบัติหรือเจ้าคะ?”มู่หงเสวี่ยมองเฉียวเนี่ยน กะพริบตาอยู่พักหนึ่งจึงหัวเราะเบาๆ อย่างจนใจพัดพับในมือดัง “ฟึ่บ” เปิดออกในทันทีมู่หงเสวี่ยส่ายพัดไปมาอยู่สองครั้งจึงเอ่ยขึ้น “ข้ารู้ เรื่องนี้สำหรับเจ้าแล้ว มันไม่ง่ายเลย...”“ข้าอยากรู้ความจริงเจ้าค่ะ” เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม ถึงแม้บนใบหน้ายังแต้มยิ้ม แต่ดวงตากลับเย็นชานักมู่หงเสวี่ยจึงได้ตระหนักว่า ที่แท้เขาก็ไม่ได้เข้าใจเฉียวเนี่ยนเลยจริงอยู่ เรื่องของเฉียวเนี่ยนเขาสืบจนกระจ่างแล้ว แต่เขาเคยคิดว่านางเป็นคนอ่อนโยนไหนเลย แม้ถูกตระกูลจวนโหวปฏิบัติถึงเพียงนั้น นางยังไม่เคยตอบโต้ดูราวกับว่านางเป็นเพียงฝ่ายถูกกระทำตลอดมาถูกกลั่นแกล้งถึงขั้นนั้นแล้ว...แต่บัดนี้ เมื่อสบดวงตาคู่นั้น เขากลับรู้ว่าตนคิดผิดนางเหมือนมีความคิดเป็นของตนเองมาโดย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1053

    “แต่ว่าคุณชายรองตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยลำบากเช่นนี้มาก่อน วันนี้ยังไม่รู้ว่าจะได้พักเมื่อใด บ่าวกลัวว่าคุณชายรองจะทนไม่ไหว”“พวกเขายังทนได้ ทำไมคุณชายของเจ้าจะอดทนไม่ได้?” มู่หงเสวี่ยคล้ายไม่พอใจนัก เหลือบตามองฉู่จืออี้กับองครักษ์พยัคฆ์ที่อยู่ไม่ไกลเด็กรับใช้เอ่ยด้วยความเป็นห่วง “คุณชายรองจะเหมือนพวกเขาได้อย่างไร? พวกเขาล้วนเป็นพวกหยาบกร้านที่คุ้นชินกับสนามรบ ส่วนท่านคือสุภาพบุรุษผู้สูงศักดิ์ที่เติบโตมาอย่างสุขสบาย หากทนไม่ไหวล้มป่วยลงมาจะทำเช่นไรเล่าขอรับ?”มู่หงเสวี่ยมีท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อย “แล้วเจ้าว่าควรทำเช่นไร? จะไปหารถม้าอีกคันมาให้ข้าหรือ?”“เอ่อ...” เด็กรับใช้ลำบากใจขึ้นมาแม้ตระกูลมู่จะมีร้านค้าไม่น้อยในแคว้นจิ้ง แต่ก็หาใช่ว่าทุกเมืองจะมีร้านค้าอยู่ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้มีร้านค้า ก็ใช่ว่าทุกร้านจะมีรถม้าใหญ่หรูหราเช่นนี้หามาได้ยากยิ่งนักขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ผ้าม่านรถม้าข้างๆ ก็ถูกยกขึ้นเฉียวเนี่ยนยิ้มอ่อนโยนต่อมู่หงเสวี่ย “ท่านพี่หากไม่รังเกียจ ก็เข้ามานั่งเถิด”ได้ยินดังนั้น เด็กรับใช้ดีใจนัก รีบหันมองมู่หงเสวี่ยเห็นมู่หงเสวี่ยเผยสีหน้ายินดีอยู่บ้าง แต่กลับเห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status