Share

บทที่ 703

Author: โม่เสียวชี่
พูดจบ ก็กล่าวเป็นนัยว่า “คนอื่นก็ไม่แน่หรอกนะ”

เฉียวเนี่ยนคิดว่า คนอื่นในห้องนี้คงเป็นนางล่ะมั้ง!

น่าเสียดายที่นางยังไม่มีความกล้าจะต่อต้านฮองเฮา เวลานี้ก็แค่คิดจะจัดการองค์หญิงเท่านั้น

ดังนั้นจึงไม่ได้เอ่ยอะไรตอบ

คาดไม่ถึงว่าองค์หญิงซูหยวนกลับมองเฉียวเนี่ยนด้วยแววตาเต็มไปด้วยความตำหนิ “เฉียวเนี่ยน เจ้าเป็นอะไรถึงไม่พูดไม่จา?”

เวลานี้ไม่ใช่ว่าควรจะต้องรีบคุกเข่าแสดงความจงรักภักดีหรือ?

เฉียวเนี่ยนแสดงสีหน้าไม่รู้เรื่อง มององค์หญิงซูหยวน “หม่อมฉันควรจะพูดอะไรหรือเพคะ?”

องค์หญิงซูหยวนถึงกับชะงัก

เสด็จแม่แทบจะชี้จมูกเฉียวเนี่ยนกล่าวว่านางมีใจคิดร้าย นางกลับไม่เข้าใจ?

ช่างโง่เง่าสิ้นดี!

แต่เวลานั้นก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองฮองเฮาแวบหนึ่ง

ฮองเฮาจึงมองไปทางเฉียวเนี่ยน เอ่ยเสียงเข้มว่า “ทั่วทั้งวังหลวงต่างเล่าลือกันว่าแม่นางเฉียวสืบทอดวิชาจากหมอเทวดา มีวิชาแพทย์ยอดเยี่ยม ยามนี้ยิ่งได้ความไว้วางใจจากซูหยวน จึงได้เข้าวังมาเป็นหมอหญิง แต่เจ้าเพิ่งออกจากกรมซักล้างยังไม่ถึงปี วิชาแพทย์ของเจ้า ข้าไม่อาจเชื่อได้”

แม้ขาจะของบุตรชายคนโตแห่งตระกูลเซียวจะหายดีก็เพราะนางรักษา แต่ในใจฮองเฮาก็ย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 916

    บรรยากาศช่างน่าอึดอัดยิ่งนักพี่ห้าซึ่งนั่งอยู่ข้างเฉียวเนี่ยนรีบลุกขึ้น ยกแขนโอบไหล่หลินเย่ว์ไว้แล้วหัวเราะพลางกล่าวว่า “โธ่เอ๊ย วันนี้ทุกคนกำลังอารมณ์ดี เนี่ยนเนี่ยนดื่มมากหน่อยก็ช่างเถอะ เจ้าอย่าทำลายความสนุกเลย! หากเมาจริงๆ แม่หนูหนิงซวงนั่นก็ดูแลนางได้มิใช่หรือ?”กล่าวจบก็พาหลินเย่ว์กลับไปยังที่นั่งเดิม “เจ้าจะไม่ไว้ใจข้า และจะไม่ไว้ใจท่านอ๋องด้วยหรือ? ท่านอ๋องจะปล่อยให้เนี่ยนเนี่ยนเป็นอะไรได้ไปอย่างไง? วางใจเถอะๆ มา ข้าดื่มเป็นเพื่อนเจ้า!”พลางกดหลินเย่ว์ให้นั่งลง แล้วยัดไหสุราใส่มือเขาในอกของหลินเย่ว์อึดอัดราวจะระเบิดเขายกไหขึ้นกระดกสุราสองคำติดกันแต่ลมหายใจยังคงไม่สงบสิ่งที่ทำให้เจ็บปวดยิ่งกว่า คือในสถานการณ์เช่นนี้ เขาโทษใครไม่ได้เลยได้แต่โทษตนเอง โทษตนเองที่ตาถั่ว แยกแยะน้องสาวตัวจริงของตนเองไม่ออกโทษตนเองที่บุ่มบ่ามไร้สมอง ทำเรื่องมากมายที่ทำร้ายน้องสาวโทษตนเองที่สามปีนั้นมัวแต่รักษาหน้าตาจวนโหว ไม่เคยไปดูนางแม้แต่ครั้งเดียวความเสียใจในใจ แผ่กระจายออกมาอีกครั้งอย่างบ้าคลั่งเขาคิดว่า หากสามปีนั้น เขาเพียงแค่หาทางไปดูนางสักครั้งต่อให้แอบไปแค่ครั้งเดียวก็

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 915

    ได้ยินเช่นนั้น แววตาของฉู่จืออี้พลันหม่นลงเล็กน้อยที่นางไม่เห็นด้วยไม่ใช่เพราะกังวลชื่อเสียงของตนเอง แต่เพราะกลัวจะกระทบต่อเกียรติของเขาหัวใจของเขาสั่นไหวเพราะคำพูดประโยคนั้น ฉู่จืออี้หลุบตาลงเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆแล้วก็ได้ยินเฉียวเนี่ยนพูดต่อ “อีกอย่าง ข้าก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้พี่ๆ ผลัดกันมาเฝ้าข้า ทุกวันนี้ยังไม่มีวี่แววนักลอบสังหาร ข้าว่าปล่อยโอกาสให้เขาสักหน่อย ก็นับว่าดี”ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนจึงเข้าใจว่าเฉียวเนี่ยนต้องการใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ให้นักลอบสังหารที่ซ่อนตัวอยู่เผยตัวออกมา!นี่นับว่าเป็นแผนการที่ดีแต่เพราะมันอันตรายเกินไป เหล่าองครักษ์พยัคฆ์จึงไม่เคยคิดจะใช้วิธีนี้ไม่คาดว่าเฉียวเนี่ยนกลับเสนอขึ้นมาเองชั่วขณะนั้น ทุกคนต่างเงียบงัน แม้แต่พี่รองก็ยังเก็บรอยยิ้มไป มองเฉียวเนี่ยนด้วยแววตาชื่นชมนี่ไม่ใช่สตรีเช่นที่เขาเคยพบเจอเขารู้มาแต่แรกว่านางไม่ธรรมดาแต่วันนี้ นางก็ยังมอบความประหลาดใจให้เขาอีกครั้งท้ายที่สุด ก็เป็นฉู่จืออี้ที่ตัดสินใจ “เช่นนั้นก็ทำตามนี้”พูดจบ เขายกไหสุราขึ้น ส่งสัญญาณไปยังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนเข้าใจทันที ยกสุราในมือ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 914

    ได้ยินเสียงนั้น ร่างกายของฉู่จืออี้ก็ชะงักไปเล็กน้อยเจ้ารองที่นั่งอยู่ข้างเขาสังเกตอาการได้ทันที จึงอดหัวเราะเบาๆ ออกมาไม่ได้บรรดาพี่น้องที่กำลังเล่นทอยมือดื่มเหล้าอยู่ ต่างก็เพิ่งสังเกตเห็นเสียงหัวเราะของเจ้ารอง พากันหันมามองเขากับฉู่จืออี้ แล้วจึงเห็นเฉียวเนี่ยนพี่ห้าก็โบกมือเรียกเฉียวเนี่ยน “เนี่ยนเนี่ยน หนิงซวง มานั่งนี่!”ที่พี่ห้าชี้นั้น ก็คือที่ว่างข้างๆ ฉู่จืออี้พวกนางมาช้ากว่าคนอื่น จึงไม่มีที่อื่นให้เลือกนั่งเฉียวเนี่ยนมองแผ่นหลังของฉู่จืออี้ แล้วจึงจูงหนิงซวงเดินไปนั่งลงพี่สามยัดไหสุราใส่มือเฉียวเนี่ยน แล้วจึงหันมามองฉู่จืออี้กับเจ้ารอง “เมื่อกี้พวกท่านคุยอะไรกัน? ไยพี่รองถึงได้หัวเราะมีความสุขนัก ส่วนพี่ใหญ่นี่ก็ทำหน้าราวกับใครติดหนี้!”ได้ยินพี่สามพูดเช่นนี้ คนอื่นๆ ก็พากันหันมามองฉู่จืออี้ ต่างก็รู้สึกว่า สีหน้าในตอนนี้ของฉู่จืออี้นั้นประหลาดอยู่จริงๆแม้แต่เฉียวเนี่ยนก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองเขาฉู่จืออี้รู้ชัดว่าคนข้างตัวกำลังจ้องมองเขาอยู่ แต่กลับไม่แม้แต่จะเหลือบสายตามาทางนางเพียงแต่ขมวดคิ้วแล้วกล่าวเสียงต่ำ “ข้ากำลังคิดเรื่องนักลอบสังหาร”ได้ย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 913

    ช่วงเวลาอันน่าอึดอัดเหล่านี้ ล้วนทำให้ใจคนเต้นแรงดังนั้น...ตอนนี้นางถึงกับใจเต้นแรงทุกครั้งที่เห็นฉู่จืออี้อย่างนั้นหรือ?อืม ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆเพราะฉะนั้นแค่รอให้ช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไปก็คงจะดีขึ้น!ความรู้สึกที่นางมีต่อฉู่จืออี้ก็เพียงความเคารพนับถือเท่านั้นเขาคือเทพสงครามแห่งแคว้นจิ้ง เป็นท่านอ๋องผู้สูงส่งที่เขายอมรับนางเป็นน้องสาวบุญธรรม ทั้งหมดก็เพราะเห็นแก่จิ่งเหยียนนางจะกล้าคิดอะไรเกินเลยได้อย่างไร!เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็สูดหายใจลึก ตัดสินใจจะโยนอารมณ์สับสนพวกนี้ทิ้งไปให้หมดนางวางแผนมาชายแดน ก็เพื่อรักษาทหารในสนามรบ และเพื่อซื้อพิษเยือกมรณะจากสำนักราชาโอสถ เพื่อเอายาถอนพิษไปช่วยชีวิตท่านพี่เซียว!เรื่องอื่นที่ไม่สำคัญ ห้ามคิดอีกเด็ดขาด!ในค่ายทหาร ตอนนี้มีใบงาขี้ม้อนมากเพียงพอแล้วหลังจากดื่มยามาหลายวัน บรรดาทหารที่อาการไม่หนักก็หายขาดแล้ว ส่วนผู้ที่อาการหนักก็สามารถลุกเดินได้แล้วดังนั้น บรรดาทหารจึงตัดสินใจจัดงานเลี้ยงรอบกองไฟเพื่อฉลองกันเมื่อราตรีมาเยือน ก็ได้จุดกองไฟขึ้นหลายสิบกองในค่ายทหารฉู่จืออี้นั่งล้อมวงอยู่กับพี่น้ององครักษ์พยัคฆ์ กินเนื

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 912

    เฉียวเนี่ยนอยากจะบอกฉู่จืออี้ว่านางไม่มีความคิดที่ไม่ควรใดๆ กับเขา หวังเพียงว่าฉู่จืออี้จะไม่เข้าใจผิด ไม่หลบหนีจากนาง ไม่เมินเฉยนางแต่กลับไม่เห็นว่าภายนอกรถม้า เมื่อฉู่จืออี้ได้ยินถ้อยคำนั้น สายตาของเขาก็พลันหม่นลงทันใดจากนั้นจึงแค่นหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ แล้วจึงเอ่ยตอบ “อืม”แน่นอนว่าเป็นพี่ใหญ่ที่ดีตลอดไปด้วยรูปลักษณ์ที่อัปลักษณ์เพียงนี้ อายุที่มากเพียงนี้ เขาจะเหมาะสมยืนอยู่เคียงข้างนางได้อย่างไร?ไม่ใช่พี่ใหญ่ที่แสนดี แล้วจะเป็นอะไรได้อีกเล่า?ราตรีเงียบงันลงแสงจันทร์ส่องทอดลงบนถนน มีเพียงรถม้าคันหนึ่งที่เคลื่อนไปอย่างช้าๆ ล้อไม้บดทับก้อนหิน ส่งเสียงดังก๊อกแก๊ก คล้ายตอกย้ำลงบนใจของคนทั้งสองเย็นวันถัดมา เฉียวเนี่ยนกับฉู่จืออี้ก็กลับมาถึงค่ายทหารในที่สุดรถม้าค่อยๆ หยุดลง เฉียวเนี่ยนยกม่านรถขึ้นแล้วจะก้าวลงไปแต่ในสายตากลับปรากฏฝ่ามือใหญ่ๆ ยื่นมาฉู่จืออี้ยืนอยู่ข้างรถม้า สีหน้าไร้อารมณ์ กล่าวเพียงเบาๆ ว่า “มา ระวังด้วย”รถม้าของตระกูลมู่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ จึงสูงกว่ารถม้าทั่วไป เขากลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะลื่นแม้หลังจากคืนวาน ทั้งสองจะยังพูดคุยกันตามปกติ แต่เฉียวเนี่ยนก็

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 911

    รถม้าของตระกูลมู่แม้จะใหญ่ ทว่ากลับมั่นคงเป็นอย่างมาก แทบไม่มีการสั่นคลอนเลยแม้แต่น้อยภายในรถม้าปูด้วยเบาะนุ่มหอมละมุน เคล้ากลิ่นหอมของสมุนไพรที่ลอยออกมาจากกล่องไม้ข้างๆ ยิ่งทำให้เฉียวเนี่ยนรู้สึกสบายเป็นพิเศษเฉียวเนี่ยนขยับไปนั่งข้างประตูรถม้าราวกับนึกอะไรขึ้นได้ นางยกม่านขึ้น มองไปทางฉู่จืออี้ เอ่ยถามว่า “พี่ใหญ่คิดว่า พี่ใหญ่ทั้งสองของตระกูลมู่เป็นอย่างไรบ้าง?”“ดูเหมือนไม่มีเล่ห์กลในใจอะไร” ฉู่จืออี้ตอบตามความจริง เฉียวเนี่ยนก็เห็นด้วยกับข้อนี้ จึงพยักหน้าแต่แล้วก็ได้ยินฉู่จืออี้กล่าวต่อ “แต่ตระกูลมู่มีสมบัติมากมายถึงเพียงนี้ คนของตระกูลมู่จะไม่มีเล่ห์เหลี่ยมเลยได้อย่างไร?”ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นมู่ซ่างเสวี่ยหรือมู่หงเสวี่ย ความอ่อนโยนและพูดคุยด้วยง่ายในวันนี้ เกรงว่าจะเป็นการแสดงทั้งนั้นเฉียวเนี่ยนย่อมเห็นว่าความคิดของฉู่จืออี้มีเหตุผลนางพิงเบาะรถม้า สายตาเหม่อมองออกไปในรัตติกาล “แต่พวกเขาก็ยอมมอบสมุนไพรให้เราง่ายๆ ทั้งยังรู้อยู่แล้วว่าวิชาแพทย์ของข้าไม่ธรรมดา ไม่น่าจะกล้าลงมือทำอะไรตุกติกกับสมุนไพร”ถึงอย่างไร หากคิดจะลงมือ ก็ต้องถูกนางจับได้แน่“จากที่เห็นวันนี้ พวกเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status