แชร์

บทที่ 945

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
แต่นางกลับนึกถึงฉู่จืออี้ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

หากวันนี้ฉู่จืออี้อยู่ละก็ ย่อมไม่มีทางปล่อยให้ไอ้หัวหงอกนั่นพาตัวนางไปได้แน่

ถึงแม้จะถูกพาตัวไปจริงๆ ก็คงจะหานางเจออย่างรวดเร็ว

ถึงแม้จะไม่รวดเร็ว อย่างน้อยในตอนนี้ เขาก็จะต้องบอกนางว่า อย่าคิดมาก

คิดถึงตรงนี้ ใจของนางก็สงบลงอย่างไม่มีเหตุผล

เฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ หลับตาลง แล้วในที่สุดก็ค่อยๆ หลับไป

เช้าวันถัดมา นางก็นอนเต็มอิ่มจริงๆ

เมื่อลุกออกจากห้องก็ล่วงเลยถึงช่วงสาย

ด้านล่างของโรงแรมมีคนนั่งอยู่ไม่น้อย เฉียวเนี่ยนกวาดตามอง ส่วนมากเป็นคนของตระกูลมู่

แต่มู่ซ่างเสวี่ยกับมู่หงเสวี่ยกลับไม่อยู่

นางก็ไม่ได้ถามมากความ หันไปที่ห้องของพี่ห้าแทน

วันนี้พี่ห้าดูดีกว่าเมื่อวานมาก

พอเห็นเฉียวเนี่ยน เขาก็อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ว่า “เมื่อวานไอ้แก่นั่นได้ทำอะไรให้เจ้าลำบากใจหรือไม่?”

เฉียวเนี่ยนเดินไปตรวจชีพจรให้พี่ห้า แล้วจึงพูดว่า “ไม่ เขาบอกว่าอยากรับข้าเป็นศิษย์ ข้าปฏิเสธ เขาก็เลยปล่อยข้าไว้บนดาดฟ้า”

พอนึกถึงเรื่องนี้ ใจเฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะเดือดดาล

เจ้าเฒ่านั่นเจ้าเล่ห์เสียจริง

พี่ห้าก็มีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกั
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ลิ้นจี่ Generation
ในช่วงแรก ๆ ของนิยายท่านย่าเคยบอกกับเนียนเนียนแล้วว่า นางหน้าตาไม่เหมืนทั้งพ่อหรือแม่เลย แต่นางหน้าต่เหมือนย่าสมัยสาว ๆ อย่างกับแกะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1448

    “เจ้าว่ากระไรนะ!?” ดวงตาของเฉียวเนี่ยนเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนก นางผุดลุกขึ้นนั่งจากหัวเตียงโดยไม่รู้ตัว!ทว่าการขยับกายอย่างรุนแรงฉุดกระชากบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าท้องเข้าอย่างจัง ความเจ็บปวดรวดร้าวแล่นพล่านไปถึงขั้วหัวใจประหนึ่งร่างทั้งร่างจะฉีกขาดออกจากกันอีกครา!นางเจ็บปวดจนหน้ามืดตาลาย สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ร่างกายร่วงหล่นกลับลงไปบนเตียงอย่างมิอาจควบคุม มือเรียวกดบาดแผลไว้แน่นราวกับจะช่วยบรรเทาความทรมานให้ทุเลาลงได้บ้างหัวใจของฉู่จืออี้บีบแน่นขึ้นมาทันที คิ้วเข้มขมวดมุ่น “เป็นอะไรหรือไม่?”เฉียวเนี่ยนส่ายหน้าช้า ๆ พลางหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ผ่านไปครู่ใหญ่กว่านางจะรวบรวมสติที่เกือบจะหลุดลอยเพราะความเจ็บปวดเจียนตายกลับคืนมาได้ นางเบนสายตาไปทางอิ๋งชี น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “...เจ้าว่าผู้ใดนะ? เซียวเหิง หรือว่าเซียวเหอ?!”อิ๋งชีมีสีหน้าเคร่งขรึม ตอบกลับเสียงขรึม “คือรุ่ยอ๋อง เซียวเหอขอรับ”เฉียวเนี่ยนหันขวับไปมองเกอซูอวิ๋นโดยสัญชาตญาณเห็นเพียงใบหน้าของอีกฝ่ายซีดเผือดไร้สีเลือด ริมฝีปากขาวซีด มือที่ประคองถ้วยโจ๊กสั่นเทาเล็กน้อยหนิงซวงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เหตุใด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1447

    เฉียวเนี่ยนจับจ้องใบหน้าด้านข้างที่ซีดขาว บอบบาง ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความดื้อรั้นนั้น ก็พลันเข้าใจในใจว่านางต้องมีความลับที่มิอาจบอกกล่าวเป็นแน่นางมิได้ซักไซ้ไล่เลียงต่อ เพียงกุมมือที่เย็นเฉียบของเกอซูอวิ๋นไว้อย่างแผ่วเบา เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมทว่าเจือความอ่อนโยน “องค์หญิง ท่านยังจำวาจาที่เคยกล่าวกับข้าในค่ายทหารได้หรือไม่? ท่านกล่าวว่าข้าคือสหายที่ดีที่สุดของท่าน ในเมื่อเป็นสหายรักกัน ก็ไม่ควรปิดบังเรื่องอาการเจ็บป่วยเช่นนี้กับข้า!”เมื่อได้ยินโทสะจาง ๆ ที่เจืออยู่ในน้ำเสียงของเฉียวเนี่ยน เกอซูอวิ๋นก็ก้มหน้าลงประหนึ่งเด็กน้อยที่ทำความผิด “ขะ ข้าเพียงแต่ยังหาโอกาสบอกเจ้ามิได้...”นับตั้งแต่มาเยือนเมืองถังจิง ก็มีเรื่องราวมากมายประดังเข้ามาเฉียวเนี่ยนต้องกลัดกลุ้มกังวลใจด้วยเรื่องของเซียวเหิงมากพออยู่แล้ว นางจึงมิอยากหาเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจไปเพิ่มภาระให้อีกยามเห็นเกอซูอวิ๋นยอมรับผิดอย่างว่าง่ายเช่นนี้ เฉียวเนี่ยนไหนเลยจะหักใจตำหนินางได้ลงคอ จึงผ่อนน้ำเสียงลงทันใด พลางเอ่ยว่า “เช่นนั้นครานี้ข้าจะมิถือสา แต่หากมีคราวหน้าอีก ข้าจะโกรธท่านจริง ๆ และจะไม่สนใจท่านอีกเลย!”เฉียวเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1446

    เฉียวเนี่ยนและฉู่จืออี้ต่างสังเกตเห็นความผิดปกติระหว่างคิ้วและท่าทีอึกอักคล้ายมีวาจาแต่ไม่กล้าเอ่ยของนาง ทั้งสองสบตากันเพียงครู่เดียวก็เข้าใจความหมายในใจกระจ่างแจ้งเฉียวเนี่ยนละสายตากลับมา เอ่ยกับหนิงซวงว่า “หนิงซวง ข้าเริ่มหิวแล้ว อยากกินโจ๊กข้าวจิงหมี่ฝีมือเจ้า”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงซวงก็ดีใจจนเนื้อเต้น!รู้สึกว่าคุณหนูของตนนั้นขาดตนไม่ได้จริง ๆ จึงรีบรับคำ “เจ้าค่ะ บ่าวจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ นางก็หันไปมองเกอซูอวิ๋น “วันนี้องค์หญิงเองก็ไม่ค่อยได้กินเท่าใด บ่าวจะทำมาเผื่อเยอะหน่อย ท่านกับคุณหนูของบ่าวจะได้ทานกันให้มากเจ้าค่ะ!”นางพูดพลางเดินออกไปนอกประตูฉู่จืออี้เป็นคนรู้ความยิ่งนัก เห็นดังนั้นจึงวางถ้วยยาลง เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “พวกเจ้าพี่น้องคุยกันเถิด ข้าจะไปจัดการธุระพอดี” เขาส่งสายตาปลอบประโลมให้เฉียวเนี่ยนคราหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปประตูห้องปิดลงแผ่วเบา ภายในห้องเหลือเพียงเฉียวเนี่ยนและเกอซูอวิ๋นตามลำพังเฉียวเนี่ยนเอนกายพิงหมอนนุ่มที่หัวเตียง สายตาทอดมองใบหน้าของเกอซูอวิ๋นอย่างนิ่งสงบ ก่อนจะเอ่ยขึ้นช้า ๆ “เข้ามานี่ ยื่นมือของท่านมาให้ข้า”เกอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1445

    น้ำเสียงของนางเจือไว้ด้วยความอิดโรยบางเบาที่ยากจะสังเกตเห็นหนิงซวงแค่นเสียง กล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บแค้น “ให้มันจริงอย่างที่ว่าเถอะ! บ่าวล่ะอยากจะเห็นนัก หากวันใดที่เขานึกขึ้นได้ แล้วรู้ว่าตนเองลงมือแทงคุณหนูของบ่าวด้วยมือคู่นั้น จนทำให้คุณหนูต้องไปเดินวนหน้าประตูนรกมารอบหนึ่ง ข้าอยากจะรู้นักว่าเขาจะสำนึกเสียใจสักเพียงใด!” สิ้นเสียงนั้น กลับไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากเกอซูอวิ๋นเป็นเวลานานหนิงซวงจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเกอซูอวิ๋น ถึงได้ตระหนกว่าสีหน้าของอีกฝ่ายดูย่ำแย่ผิดปกติ จึงรีบเอ่ยถามด้วยความร้อนรน “องค์หญิง ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ? เหตุใดสีหน้าถึงได้ดูแย่เพียงนี้!”เกอซูอวิ๋นฝืนยิ้มบาง ๆ ออกมา น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นไร... คงเพราะเป็นห่วงเนี่ยนเนี่ยน อีกทั้งยังไม่ได้นอนทั้งคืน ตอนนี้เลยรู้สึกเพลียอยู่บ้าง…”“ตายจริง เช่นนั้นจะได้อย่างไรเจ้าคะ!” หนิงซวงรีบลุกขึ้นประคองเกอซูอวิ๋นพาเดินไปที่เตียงอย่างระมัดระวัง “เช่นนั้นท่านรีบนอนพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ! รักษาสุขภาพสำคัญที่สุด!”จวบจนได้เอนกายลงบนเตียง เกอซูอวิ๋นจึงค่อยรู้สึกสบายตัวขึ้นที่บริเวณท้องน้อยหนิงซวงจัดผ้าห่มให้กระชับร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1444

    แม้ร่างกายจะอ่อนแอ แต่สติสัมปชัญญะของเฉียวเนี่ยนยังคงแจ่มชัด นางส่ายหน้าเบ าๆ พลางกล่าวว่า “ต่อให้เซียวเหิงจะสูญเสียความทรงจำ แต่นิสัยที่รอบคอบรัดกุมและมักไตร่ตรองก่อนลงมือกระทำการใด ๆ ย่อมไม่แปรเปลี่ยนไปโดยง่าย หากเป็นเพียงคำยุยงใส่ความปากเปล่าจากผู้อื่นว่าข้าคือศัตรู ต่อให้เขาคลางแคลงใจ ก็ไม่มีทางลงมือสังหารข้าทันที โดยไร้ซึ่งหลักฐานหรือยังมิได้กระจ่างแจ้งในเรื่องราวเป็นแน่!”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่จืออี้ก็พยักหน้าเห็นพ้องด้วยทว่าในแววตาของเฉียวเนี่ยนกลับเต็มไปด้วยความสงสัย “ยามที่เขาลงมือกับข้า ท่วงท่าเด็ดขาดเหี้ยมเกรียม เห็นได้ชัดว่าปักใจเชื่อไปแล้วว่าข้าคือศัตรูคู่อาฆาต ทว่า เหตุใดเขาจึงมั่นใจถึงเพียงนั้นเล่า?”หนิงซวงสะอึกสะอื้น พึมพำอย่างไม่เข้าใจ “การสูญเสียความทรงจำก็คือจำอะไรมิได้เลยมิใช่หรือเจ้าคะ หรือว่าจะมีผู้ใดฉวยโอกาสยามที่แม่ทัพเซียวหมดสติ ทำการ... ปรับเปลี่ยนความทรงจำของเขา? ทำให้เขาเข้าใจไปว่าคุณหนูคือศัตรู?”“ปรับเปลี่ยนความทรงจำ?” เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็กระตุกวูบอย่างรุนแรง!ชั่วพริบตานั้น นางหวนนึกถึงบันทึกในตำราแพทย์โบราณที่หุบเขาโอสถเก็บรักษาไ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1443

    ขอบตาของเขาแดงก่ำในทันที ม่านน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงสั่นเครือจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ “เนี่ยน... เนี่ยนเนี่ยน... เจ้าฟื้นแล้ว…”เขากุมมือของเฉียวเนี่ยนที่วางทาบอยู่บนคิ้วของเขาไว้แน่น ราวกับเกรงกลัวว่าภาพตรงหน้าจะเป็นเพียงความฝันที่พร้อมจะแตกสลายได้เฉียวเนี่ยนยกยิ้มมุมปาก ทว่าด้วยร่างกายที่อ่อนแออย่างหนัก เพียงแค่รอยยิ้มบางเบาเช่นนี้ ก็ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าเต็มทีฉู่จืออี้ประคองมือของนางไว้ ก้มหน้าลง ปล่อยให้หยาดน้ำตายังคงรินไหล“ดีเหลือเกิน... ขอบใจเจ้า ขอบใจเจ้าจริง ๆ...”ขอบใจเจ้า ที่อดทนจนผ่านมาได้…ที่ด้านนอก หนิงซวงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจึงผลักประตูเข้ามา เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนฟื้นแล้ว น้ำตาก็ไหลพรากลงมาทันที “คุณหนู! ฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ?! ท่านทำเอาบ่าวตกใจแทบตาย!”เกอซูอวิ๋นที่พักผ่อนอยู่ห้องข้าง ๆ ก็รีบตามมาเช่นกัน เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนฟื้นแล้วจริง ๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแม้นางมิได้เอ่ยสิ่งใด ทว่าขอบตาก็พลอยร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยผู้อาวุโสซุนเองก็ได้รับข่าว จึงรีบรุดมา “เจ้าสำนัก!”เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนฟื้น ผู้อาวุโสซุนก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด นำทุกคนโ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status