Home / รักโบราณ / พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก / บทที่6 ที่แท้พี่หญิงใหญ่ผู้แสนดีงามนัดพบผู้ชายเอาไว้หรอกรึ

Share

บทที่6 ที่แท้พี่หญิงใหญ่ผู้แสนดีงามนัดพบผู้ชายเอาไว้หรอกรึ

last update Last Updated: 2025-08-14 23:45:49

ปกติหวงเชียนเล่อเป็นคนเดินเร็วยิ่งกว่าอะไรดี แต่ในครั้งนี้เขากลับทอดน่องสบายๆ กว่าจะวกกลับมาถึงจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก็เล่นเอากัวจิ้งอีกับโจวจื่อหมิงรอจนขาแทบแข็งเลยทีเดียว

ครั้นทั้งสองมาถึง หวงเชียนเล่อมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของกัวจิ้งอีกับโจวจื่อหมิง ถึงใจจะรู้สึกชิงชังคนประเภทนี้เยี่ยงไร แต่ดวงหน้าคมเข้มกลับฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มบาง

“ดีที่ซื่อจื่อช่วยคุณหนูใหญ่สกุลกัวเอาไว้ก่อน เพราะต่อให้ข้ามีใจ แต่ก็คงไม่สามารถช่วยคนได้พร้อมกันถึงสองคน อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องสุดวิสัย หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสาที่ข้าถูกเนื้อต้องตัวฮูหยินของเจ้าใช่หรือไหม”

เดิมทีหากไม่มีพยานรู้เห็น ต่อให้กัวรั่วชิงตกน้ำไป เขากับกัวจิ้งอีย่อมทำให้คนเชื่อได้ว่านี่เป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่พอมีหวงเชียนเล่อเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาคงยากจะพ้นข้อหาทำร้ายคน และคนผู้นั้นก็มิใช่ใครอื่น แต่เป็นภรรยาเอกที่กราบไหว้ฟ้าดินอย่างถูกต้อง ต่อให้ชาวบ้านจะเห็นใจเรื่องเขากับกัวจิ้งอี ทว่าการทำร้ายภรรยาเพื่อสตรีอื่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนจะยอมรับได้ เมื่อครู่เขาหวาดหวั่นแทบตาย ว่าจะอธิบายอย่างไรให้หวงเชียนเล่อเชื่อว่าตนไม่ได้ตั้งใจลงไม้ลงมือกับสตรีน่าชังผู้นั้นแท้ๆ

‘กัวรั่วชิง ดูเหมือนเจ้าคงอยากทำตัวเป็นคนดีเพื่อให้ข้าไม่เอาความที่เจ้าทำร้ายอีอีสินะ เลยโป้ปดแม่ทัพฉีหลิงว่าเมื่อครู่เป็นเพียงเหตุสุดวิสัย ก็ดีเหมือนกัน เจ้าไม่ต้องถูกข้าเอาความ ส่วนข้าก็รอดพ้นข้อครหาจากแม่ทัพ นับว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เช่นนั้นก็แล้วไป’

ครั้นตกลงใจได้โจวจื่อหมิงก็ยิ้มกล่าว “ท่านแม่ทัพอุตส่าห์ช่วยเหลือฮูหยินของข้าไว้ แล้วผู้อื่นจะถือสาท่านด้วยเรื่องธรรมเนียมหยุมหยิมนั้นได้อย่างไร”

“ดี ดีมาก ชื่อจื่อจวงเซียงป๋อช่างเป็นบุรุษมากด้วยคุณธรรมเสียจริง”

“ขะ...ข้าก็แค่คิดไปตามหลักของเหตุผล” คำชมที่ไม่เหมือนคำชมเมื่อครู่ทำเอาเขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“เช่นนั้น ข้าหวังว่าทุกอย่างจะจบลงที่ตรงนี้ ไม่มีการพูดถึงอีก เพราะข้าคงจะอารมณ์เสียไม่น้อยถ้าหากมีคนเล่าลือว่า แม่ทัพฉีหลิงแตะต้องสตรีของผู้อื่น เวลานั้นข้าคงไม่ยอมปล่อยให้ชื่อเสียงมัวมองแต่ผู้เดียวแน่ พวกเจ้าคงเข้าใจที่ข้าพูด ใช่หรือไม่”  

“ข้าขอรับรองว่าเรื่องเช่นนี้จะไม่มีทางแพร่งพรายออกไปแน่นอน” โจวจื่อหมิงรับคำเป็นหมั่นเป็นเหมาะ

กัวจิ้งอีเดินกระมิดกระเมี้ยนเข้ามาแล้วยอบกายคำนับหวงเชียนเล่อ “ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยเหลือน้องหญิงสามเอาไว้”

“ไม่เป็นไร ต่อไปพวกเจ้าควรระมัดระวังมากกว่านี้ อย่าได้หยอกล้อกันตรงริมตลิ่งอีก” พูดจบเขาก็หันหน้าไปหาโจวจื่อหมิง “ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัว เจ้าเองก็ควรรีบกลับเข้างานเลี้ยงไปได้แล้ว”

“เช่นนั้นเราก็ไปด้วยกันเถิด” หวงเชียนเล่อหมุนกายเดินนำ ส่วนโจวจื่อหมิงก็ต้องติดตามไปอย่างช่วยไม่ได้

กัวรั่วชิงไม่เสียเวลามองส่งผู้มีพระคุณกับสามี นางรีบหมุนกายหมายเดินไปยังเส้นทางที่เห็นเหยาหลิงจือลับหายไป

“นั่นเจ้าจะไปที่ใด” กัวจิ้งอีร้องถาม ทำท่าทางลุกลี้ลุกลน

กัวรั่วชิวเห็นท่าทางกัวจิ้งอีเหมือนไม่อยากให้ตนเองไปทางนั้น ก็นึกเอะใจขึ้นมา หรือว่าที่พี่สาวเข้ามาหาเรื่องนางตอนแรกยังมีสาเหตุอื่น

“น้องสาวจะไปพบคนที่อยากพบน่ะสิ”

“คนที่อยากพบ?”

“ข้าคงต้องไปแล้ว หาไม่คงต้องคลาดกับคนผู้นั้น หากครานี้ไม่ได้พบกันเกรงว่าอาจจะไม่มีโอกาสนั้นอีกในเร็ววัน พี่สาวได้โปรดหลีกทาง อย่าได้รั้งข้าไว้อีกเลย” 

“คนผู้นั้น คนผู้ไหน เจ้านัดแนะกับผู้ใดไว้ ตอบข้ามาเดี่ยวนี้นะ”

“ขออภัย น้องสาวมิอาจบอกได้จริงๆ” คำพูดยั่วยุได้ผล ให้ยามนี้กัวจิ้งอีโกรธจนตัวสั่น ถึงกับเดินเข้ามาแล้วชี้หน้านาง

“กัวรั่วชิง เจ้าคิดจะทำสิ่งใด ยังฉาวโฉ่ไม่พอหรอกรึ หากไม่นึกถึงศักดิ์ศรีของสามี ก็หัดคำนึงถึงหน้าบิดามารดาบ้าง”

“ว่าแต่ข้า แล้วพี่สาวเล่า ไม่ใช่มาอยู่ที่นี่เพราะนัดพบผู้ใดเอาไว้หรือกหรือ อย่าบอกนะว่าเป็น...คนผู้เดียวกับข้า”

“นังแพทศยากัวรั่วชิง! เจ้าช่างไร้ยางอาย นัดพบผู้ชายในที่ลับตา”

“ที่แท้พี่หญิงใหญ่ผู้แสนดีงามของข้านัดพบผู้ชายเอาไว้หรอกรึ เช่นนั้นคงไม่ใช่ผู้เดียวกับคนที่ข้าต้องการพบดอก เพราะผู้ที่ข้าตามหาอยู่คือคุณหนูเล็กสกุลเหยาต่างหาก” รอยยิ้มบางเบาประดับที่มุมปาก เนตรหงส์หลี่ลงคล้ายจะมองทะลุกัวจิ้งอีให้เป็นพรุน

“กัวรั่วชิงเจ้าหลอกข้า”

“น้องสาวไม่ได้ทำอันใดท่านเสียหน่อย ว่าแต่พี่สาวเถิดทิ้งความสุขุมไว้ที่ใด ดีที่ท่านเจอกับข้าไม่ใช่ผู้อื่น”

“นี่เจ้าเห็นอะไร!!!”

“พี่หญิงสบายใจเถิด ข้าไม่รู้ดอกว่าท่านจะกำลังจะปีนป่ายกิ่งสูงจากไม้ใหญ่ต้นไหน และข้าไม่คิดจะเข้าไปวุ่นวานกับเรื่องดีๆ ของท่าน เพราะถ้าเทียบกันระหว่างพี่หญิงใหญ่กับข้า ผู้ที่คำนึงถึงความเป็นพี่น้องมากกว่าก็คือข้า ท่านว่าไม่จริงรึ”

“นะ...นั่นเป็นความผิดพลาดของเจ้าเอง อย่ามาโทษข้า”

“สิ่งใดเป็นสิ่งใดพี่สาวย่อมรู้อยู่แก่ใจดี ในเมื่อตอนนี้ข้ายอมเดินไปตามเส้นทางที่ท่านแพ้วถางไว้ให้แล้ว ท่านก็ควรปล่อยข้าให้อยู่อย่างสงบได้แล้วมิใช่หรือไร เอาเป็นว่าเรื่องวันนี้ข้าไม่พูด ท่านไม่พูด เราต่างคนต่างทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ แล้วรักษาสายใยความเป็นพี่น้องที่ยังหลงเหลือเอาไว้จะดีกว่า”

กัวจิ้งอีมองมาอย่างขุนเคือง เดิมกัวรั่วชิงเป็นคนอ่อนหวาน ว่านอนสอนง่าย นางชี้แนะอะไรไม่เคยขัดข้อง แต่กลับปฏิเสธหัวชนฝาตอนที่นางขอร้องให้ยอมรับการหมั่นหมายจากสกุลโจวแทนนาง นางจึงจำเป็นต้องลงมือผลักอีกฝ่ายไปให้โจวจื่อหมิงด้วยวิธีที่ไม่สง่างามนัก ในเมื่อกัวรั่วชิงทำตัวของตัวเอง แล้วจะมาโทษนางว่าใจร้ายได้อย่างไร

“เจ้าขู่ข้า?”

“มิได้ น้องสาวเพียงแค่เสนอให้พี่หญิงใหญ่พิจารณาก็เท่านั้น ยังไงข้าก็มีสายเลือดสกุลกัว ข้าย่อมนึกถึงหน้าของบิดามารดาและพี่สาวอย่างท่าน”

กัวจิ้งอีช่างใจอยู่ครู่หนึ่ง เรื่องนิสัยใจคอน้องสาวเป็นเช่นไรนางย่อมตระหนักดีกว่าผู้อื่น “เห็นแก่ความเป็นพี่น้องข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง แต่ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าปากมากละก็ เจ้าจะต้องเสียใจแน่”

“หากท่านไม่มีธุระอะไรแล้ว เช่นนั้นรั่วชิงขอไปตามหาสหายก่อน” พูดจบนางก็หันกายเดินเลี้ยวไปตามทางที่อยากไป ทิ้งกัวจิ้งอีที่ยังหายใจฟึดฟัดอย่างเคืองขุ่นไว้เบื้องหลัง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่130 ความร้อนรุ่มในศาลาสวนไผ่

    หูจวี๋เผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่หา “ได้ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ซึ้ง” เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าลง บรรจงจุมพิตที่ริมฝีปากของกัวลี่ลี่อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบที่ดูดดื่มและร้อนแรงตามความรู้สึกที่ได้ยินมาจากห้องหอ ใช้ความชำนาญที่สั่งสมมาเพื่อปลุกเร้าความรู้สึกที่ซ่อนเร้นของนาง มือของเขากอดประคองเอวบางไว้แน่น แต่ไม่ได้ล่วงเกินไปมากกว่านั้นกัวลี่ลี่ส่งเสียงครางเบาๆ ในลำคออย่างห้ามไม่อยู่ นางสับสนกับความรู้สึกที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่ความรู้สึกที่ก่อตัวนี้ทำให้นางร้อนรุ่ม และรู้สึกดีมากจนต้องตอบสนองหูจวี๋หูจวี๋รับรู้ถึงการตอบสนองที่ไร้เดียงสาของกัวลี่ลี่ เขาหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ ลิ้นของเขา ลาดเลียริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่มและเนิ่นนาน เพิ่มความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามความตื่นเต้นที่ก่อตัว เขาใช้มือข้างหนึ่งโอบประคองเอวบางไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็เลื่อนไปเชยคางมนของนาง ให้แหงนเงยรับจูบของเขาอย่างเต็มที่กัวลี่ลี่รู้สึกราวกับว่ามีกระแสไฟวาบหวามพุ่งขึ้นจากปลายเท้าไปสู่ศีรษะ ตัวอ่อนยวบยาบจนต้องเกาะบ่าแข็งแรงของหูจวี๋ไว้แน่น นางแทบไม่เหลือสติที่จ

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่129 เสียงรักร้อนเร่าที่เล็ดลอด

    ทว่าความอ่อนโยนของน้ำอุ่น และกลิ่นหอมของกลีบดอกไม้กลับไม่ได้ช่วยให้ไฟปรารถนาของหวงเชียนเล่อลดลง มีแต่จะยิ่งคิดเตลิดไปไกล ร่างกายส่วนล่างของเขาที่แนบชิดกับนางเริ่มแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง เขาซบหน้าลงกับลำคอขาวผ่องแล้วขบเม้มอย่างยั่วยวน พลางเคลื่อนฝ่ามือร้อนลงไปลูบไล้เนินเนื้ออ่อนนุ่มที่อยู่ใต้น้ำอย่างเชื่องช้า“ท่านพี่... ท่านไม่เหนื่อยบ้างหรือ” กัวรั่วชิงถามเสียงสั่น เพราะความรู้สึกวาบหวามที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง“อยู่กับเจ้าไม่เหนื่อยเลย สบายกว่าตอนไปรบเยอะ” เขาตอบอย่างหนักแน่น พลางพลิกนางให้หันหน้ามาหาตนเอง แล้วก้มลงบรรจงจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มอย่างดูดดื่ม ก่อนจะช้อนขาเรียวของนางข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบ่าอย่างคล่องแคล่วหวงเชียนเล่อไม่รอช้า ใช้แรงจากสะโพกดันแก่นกายเข้าสู่ร่องสวาทของนางอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง น้ำในอ่างกระฉอกสาดกระเซ็น เมื่อทั้งคู่เริ่มเคลื่อนไหว เขาจับเอวบางไว้มั่น แล้วกระแทกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะภายในอ่างน้ำอุ่นที่เปรียบเสมือนรังรักอีกแห่งหนึ่ง“อ๊ะ... เชียนเล่อ... เชียนเล่อ...” กัวรั่วชิงเรีย

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่128 ยังอวบอวลด้วยความปรารถนา

    หวงเชียนเล่อรู้ว่านางกังวลอะไร แต่นี่คือจวนแม่ทัพในเมืองหลวง คนที่ใหญ่ที่สุดที่นี่คือเขา เรื่องธรรมเนียมหยุมหยิม หากเขาเห็นว่าไม่ควรใส่ใจ ก็คือไม่จำเป็นต้องเคร่งครัด“ชิงเอ๋อร์... ไม่ต้องคิดมาก ยอมให้ข้ารักเจ้าอีกก็พอ” เขาคำรามเสียงต่ำ พลางใช้ลิ้นไล้เลียยอดถันสีชมพูที่ตั้งชันอยู่บนเนินอกอิ่มอย่างยั่วยวน เขาดูดดึงอย่างรุนแรงจนกัวรั่วชิงส่งเสียงครางหวานซ่านออกมาชายหนุ่มที่ถูกความต้องการกัดกินไม่คิดจะรอนาน เขาจัดท่าทางให้นางอ้าขาออกเล็กน้อย ก่อนจะกดแก่นกายใหญ่โตอันแข็งขืนเข้าสู่ช่องทางรักที่เพิ่งถูกใช้งานไปเมื่อคืนอย่างช้าๆ การรุกรานที่ช้าแต่หนักแน่น ทำให้กัวรั่วชิงต้องจิกผ้าปูเตียงด้วยความเสียวซ่านที่รุนแรงกว่าครั้งแรก“อ๊ะ... ท่านพี่... มัน... มันแน่น” นางกระซิบเสียงสั่น“มันควรเป็นเช่นนี้” หวงเชียนเล่อยิ้มกริ่มอย่างสมใจ แล้วเริ่มขยับสะโพกในจังหวะที่รุนแรงและเร่าร้อนมากขึ้น แก่นกายแกร่งเข้าลึกสุดลำทุกจังหวะ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วห้องหอ บ่งบอกถึงความหลงใหลอย่างเต็มที่“อ๊า... ท่าน

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่127 เสน่หาล้นเรือน

    หวงเชียนเล่อซบหน้าลงกับไหล่ของนางด้วยความอ่อนล้าปนความสุขสม เขายังคงไม่ถอดถอนกายออกมา ร่างทั้งสองแนบชิดเป็นหนึ่งเดียว ท่ามกลางกลิ่นหอมของเครื่องหอมมงคลและแสงเทียนสีแดงที่ส่องสว่างจนเกือบจะดับมอดลง“ขอบคุณที่อดทนเพื่อข้า ชิงเอ๋อร์” เขาพึมพำกับนางด้วยความรักใคร่ และรู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของค่ำคืนนี้เท่านั้นรอจนกระทั่งลมหายใจของทั้งคู่เริ่มกลับมาเป็นปกติ หวงเชียนเล่อจึงค่อยถอนตัวออกมาอย่างช้าๆ หวงเชียนเล่อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของภรรยา ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยไฟแห่งความปรารถนาซึ่งยิ่งแรงกล้าหลังการร่วมรักครั้งแรก เขาไม่รอช้าที่จะบรรจงจุมพิตที่เต็มไปด้วยความเสน่หา ร้อนแรงกว่าครั้งใดๆ ที่เคยมีมา บดเบียดริมฝีปากลงไปอย่างหนักหน่วงและดูดดื่ม ลิ้นร้อนสอดประสานเข้าไปตักตวงความหอมหวานอย่างไม่รู้จักพอกัวรั่วชิงตอบรับจูบนั้นอย่างโหยหา มือของนางยกขึ้นประคองใบหน้าของเขาไว้ จูบนี้ไม่ใช่แค่การแสดงความรัก แต่เป็นการยืนยันความผูกพันที่ร้อนแรงและลึกซึ้งยิ่งกว่าคำมั่นสัญญาใดๆครั้นจุมพิตจนร่างอ่อนระทวยไปทั้งร่าง หวงเชียนเล่อจึงค่อยตัดใจลุกขึ้น

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่126 คืนรัญจวน ตรึงใจมิรู้ลืม

    ครั้นเห็นนางสงบลงแล้ว เขาก็เคลื่อนกายขึ้นทาบทับ พลางยกตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยๆ สอดแทรกตัวตนของเขาเข้าไปในร่องสวาทของนางอย่างช้าๆกัวรั่วชิงนิ่วหน้าเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวด นางกัดริมฝีปากแน่นจนซีดเผือด “อูย... เจ็บ...” นางกระซิบเสียงสั่นเครือหวงเซียนเล่อหยุดชะงักทันที เขาก้มลงมองใบหน้าของนาง แล้วใช้ปลายนิ้วเกลี่ยริมฝีปากของนางอย่างอ่อนโยน เพื่อให้นางหายเกร็ง“อดทนหน่อยนะชิงเอ๋อร์... ข้าจะไปอย่างช้าๆ” เขากระซิบปลอบโยน ก่อนขยับกายเข้าออกอีกครั้งอย่างแผ่วเบาเพื่อให้นางปรับตัวได้ เขาก้มลงจุมพิตซอกคอและลาดไหล่ ไล่ลงมาจนถึงปทุมถันคู่งาม เขาดูดดึงขบกัดเบาๆ บนยอดสีชมพูจนนางสะท้าน ขณะที่ขยับสะโพกส่งลำเอ็นเข้าไปในร่องสวาทพร้อมกันแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นทำให้กัวรั่วชิงต้องจิกเล็บลงบนหลังของเขาแน่น หวงเซียนเล่อสอดแก่นกายเข้าลึกขึ้นเรื่อยๆ จนสุดลำ เมื่อฝากฝังตัวตนใหญ่ยาวนั้นเข้าไปจนหมดแล้ว เขาจึงค่อยๆ โอบกอดร่างระหงที่สั่นระริกเอาไว้แน่นและพึมพำกับนางว่า “ชิงเอ๋อร์ เจ้าอดทนได้ดีมาก”ดวงตาของกัวรั่วชิงเปียกชื้นด

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่125 ผูกพันรักใต้แสงเทียน

    เมื่อประตูห้องหอสีแดงถูกปิดลง เสียงอึกทึกจากงานเลี้ยงฉลองด้านนอกก็เลือนหายไปจนเหลือเพียงความเงียบสงบ กัวรั่วชิงนั่งรออยู่บนเตียงไม้สลักที่ปูด้วยผ้าไหมสีแดงสด มือทั้งสองข้างประสานกันแน่นบนหน้าตัก แม้นี่จะเป็นครั้งที่สองที่นางได้เข้าพิธีแต่งงาน แต่ความรู้สึกกลับต่างกันลิบลับชุดแต่งงานที่ประดับประดาอย่างหรูหรานั้นหนักอึ้ง ทั้งความประหม่าและความอับอายทำให้ใบหน้าของกัวรั่วชิงแดงเรื่อไม่ต่างจากสีของชุด หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องนั่งนิ่งๆ เช่นนี้จนกว่างานเลี้ยงด้านนอกจะสิ้นสุดในที่สุดหวงเชียนเล่อก็หลีกหนีจากแขกเหรื่อที่พยายามขอดื่มสุราร่วมกับเขาเหล่านั้นจนได้ เขาเปิดประตู แล้วส่งสัญญาณให้กัวลี่ลี่ที่ยืนรอรับใช้กัวรั่วชิงอยู่นั้นออกไปกัวลี่ลี่ยิ้มบางๆ แล้วเดินออกจากห้องหอไป โดยไม่ลืมปิดประตูให้เรียบร้อยยามนี้ห้องหอถูกตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงและอบอุ่นเหลือเพียงเงาร่างของบ่าวสาว หวงเชียนเล่อเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ครั้นหยุดยืนตรงหน้ากัวรั่วชิง เขาก็ยกก้านคันชั่งหยกขึ้นมา ค่อยๆ ใช้มันเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกอย่างอ่อนโยน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status