Home / รักโบราณ / พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก / บทที่7 พบสหายเก่าผู้ไร้เดียงสา

Share

บทที่7 พบสหายเก่าผู้ไร้เดียงสา

last update Last Updated: 2025-08-14 23:46:17

กัวรั่วชิงจำได้ว่าทางสายนี้นำไปยังภูเขาจำลอง ซึ่งนางกับคุณหนูเล็กสกุลเหยาชอบมาเล่นซ่อนแอบกันบริเวณนี้เป็นประจำ ด้วยที่นี่มีความพิเศษกว่าภูเขาจำลองของที่อื่น ตรงที่ถูกจัดวางเอาไว้เสมือนกับวงกต หากใครไม่รู้ทางแล้วเผลอเดินเข้าไปก็จะหลงอยู่ในนั้น

โชคดีที่นางจำทางได้ ไม่ว่าจะเจอคนหรือไม่ก็ไม่มีทางหลง และแล้วเมื่อนางไปตามเส้นทางคดเคี้ยวสักระยะ ก็พบสตรีงดงามในชุดกระโปรงหรูฉวินสีเขียวตัดกับสีกลีบบัวกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเก็บดอกไม้ที่ริมน้ำ

“เหยาหลิงเจิน! เจินเจิน เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย” คนได้เจอสหายเก่าก้าวเท้าไวๆ ไปหาเหยาหลิงเจินด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความยินดี

“จะ...เจินเจินงั้นเหรอ” ดวงตาดุจลูกวางสุกใสจดจองกัวรั่วชิงด้วยความไม่แน่ใจ “เจ้ารู้จักข้า?”

“แน่นอนว่าต้องรู้จัก ข้าคือชิงชิงอย่างไรเล่า”

“ชิงชิง?” เหยาหลิงเจินที่เหมือนจำอะไรไม่ได้พลันหันไปขอความช่วยเหลือจากคนสนิทข้างกาย

หลังจากกระซิบกระซาบกันอยู่ครู่หนึ่ง สาวใช้คนสนิทของเหยาหลิงเจินก็เดินหน้าขึ้นมากล่าวกับกัวจิ้งอี “คุณหนูของเราเพิ่งหายจากอาการป่วยได้ไม่นาน อาจจะยังมีอาการหลงลืมอยู่ ขอฮูหยินอย่าได้ถือสาเลยเจ้าค่ะ”

“เจ้าจะบอกว่านางจำข้าไม่ได้แล้วงั้นรึ” ใบหน้าที่ประดังยิ้มในคราแรกพลันหม่นหมอง นางกับเหยาหลิงเจินเรียกได้ว่าโตมาด้วยกัน การที่ถูกลืมเช่นนี้ย่อมกระทบกระเทือนจิตใจ

“นี่ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ” “เจ้าเพิ่งได้บินกับพี่ชายสุดเท่แท้ๆ”

“เจ้าเห็นรึ”

“เห็นสิ ข้าน่ะอยากลองบินแบบนั้นบ้าง แต่ก็ทำไม่ได้ เจ้ามีอะไรให้เศร้ากัน”

“นั่นเพราะเจ้าจำข้ามิได้แล้วต่างหาก”

“เหยาปิงเพิ่งบอกไปนี่ว่าพี่สาวไม่สบาย น้องสาวจะเอาอะไรกับคนป่วย”

“แต่ว่าเมื่อก่อนเราสนิทกันมากนะ เจ้าจะไม่เหลือความทรงจำดีระหว่างเราสักเรื่องเลยได้อย่างไร”

เหยาหลิงเจิ้นถอนหายใจหนักๆ “เหตุใดน้องสาวถึงให้ความสำคัญกับอดีตนักเล่า เพียงแต่ข้าจำเรื่องเก่ามิได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะสร้างความทรงจำใหม่ดีๆ อีกไม่ได้ หากมี อืม...อะไรนะ อ่อ หากมีวาสนาต่อกัน เจ้ากับข้าคงได้เป็นเพื่อนสนิท”

“เจ้าพูดถูก เป็นข้าที่ยึดติดเกินไป”

“แต่ว่ายามนี้ข้าเป็นเพียงคนเขลาผู้หนึ่ง น้องสาวแน่ใจหรือว่าอยากสนิทสนมกับข้า”

“สำหรับข้าแล้วไม่ว่าเจ้าจะเป็นเยี่ยงไร เจ้าก็คือสหายของข้าเสมอ”

เหยาหลิงเจินเหลือบมองไปทางคนสนิทเล็กน้อย ก่อนตอบ “หากน้องสาวไม่รังเกียจ พี่สาวก็ยินดี”

กัวรั่วชิงยิ้มยินดี แม้เหยาหลิงเจินจะจำตนเองไม่ได้ก็ตาม แต่นางในแบบนี้ยังดีกว่าแบบที่นั่งนิ่งไม่รับรู้เหมือนตุ๊กตาไร้วิญญาณในตอนนั้นเป็นร้อยเท่า

“เอาล่ะพี่สาวหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันดีกว่า” เหยาหลิงเจินลูบท้อง

“เดี๋ยวก่อน เจ้ากับข้าอายุเท่ากัน เรียกข้าว่าชิงเอ๋อร์ดีกว่านะ”

“ก็ได้ๆ ชิงเอ๋อร์ ชิงเอ๋อร์ ชิงเอ๋อร์ ทีนี้เราไปหาอะไรเติมกะเพาะได้หรือยัง”

“ได้แล้วๆ”

เดิมเหยาหลิงเจินไม่อยากไปร่วมงานเลี้ยง จึงให้เหยาปิงไปนำอาหารมาจัดไว้ที่ศาลากลางเกาวงกต เพื่อไม่ให้คนตามมารบกวน ถึงสุดท้ายกัวรั่วชิงจะเข้ามาได้ แต่นางรู้สึกว่าสตรีผู้นี้เป็นมิตรแตกต่างจากคุณหนูคนอื่นๆ ที่เคยพบตอนมาเมืองหลวงใหม่ๆ จึงอยากผูกมิตรด้วยเหมือนกัน

“นี่ชิงเอ๋อร์ เห็นเหยาปิงของข้าเรียกเจ้าว่าฮูหยิน เจ้าแต่งงานแล้วงั้นเหรอ”

คำถามของเหยาหลิงเจินทำให้กัวรั่วชิงชะงักเล็กน้อย ใบหน้าเรียวสวยฉายแววครุ่นคิด นางมองสหายตรงหน้าดุจเดียวกับมองกระต่ายน้อยไร้เดียงสา เมื่อเหยาหลิงเจินอยู่ในสภาพเช่นนี้ บางทีการเปิดใจเล่าความจริงอาจจะดีกว่าเก็บงำไว้ นางไม่จำเป็นต้องระแวดระวังคำพูด เพราะต่อให้หลิงเจินจดจำรายละเอียดได้ นางก็คงไม่เข้าใจความซับซ้อนของโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว

“ใช่แล้ว ข้าแต่งงานแล้ว แต่เรื่องราวไม่ใช่แบบที่คนทั่วไปเข้าใจนักหรอก” นางเว้นช่วงเล็กน้อยแล้วเล่าต่อด้วยน้ำเสียงที่เจือความขมขื่น “อันที่จริง... ผู้ที่ถูกหมั้นหมายกับโจวจื่อหมิง คือพี่สาวของข้า กัวจิ้งอี”

“เล่าต่อๆ” ดวงตาของเหยาหลิงเจินกะพริบปริบๆ คล้ายกำลังประมวลผล แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจเกินไปนัก ยังคงมองมาด้วยแววตาใสซื่อ

“พี่หญิงใหญ่ของข้า... นางไม่เคยพอใจแค่โจวจื่อหมิง นางหมายปองตำแหน่งที่สูงกว่านั้น” กัวรั่วชิงกัดริมฝีปาก พลางนึกถึงความเจ็บปวดที่ผ่านมา “นางจึงวางแผนให้ข้าถูกพบอยู่ในห้องนอนกับโจวจื่อหมิง เขาจึงไม่มีทางเลือกต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับข้าแทน”

“จริงหรือ?” เหยาหลิงเจินเบิกตาโต

กัวรั่วชิงพยักหน้าหน้า มองเหยาหลิงเจินที่ฟังเรื่องราวของตนอย่างตั้งใจ นางจึงเล่าต่อด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ “แต่ถึงกระนั้น พี่สาวที่แสนดีของข้าก็แสร้งทำตนเป็นเหยื่อ ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ว่านางเป็นผู้ถูกแย่งคู่หมั้น ถูกน้องสาวทรยศหักหลัง ด้วยเหตุนี้ คนทั้งเมืองหลวงจึงดูแคลนข้า กล่าวหาว่าข้าเป็นนางร้าย เป็นสตรีไร้ยางอาย ที่ใช้เล่ห์เพทุบายแย่งชิงคู่หมั้นพี่สาวมา” นางบีบมือตัวเองแน่น ภาพความอับอายยังคงติดตา

เหยาหลิงเจินฟังเงียบๆ จนจบ ก่อนจะยื่นมือมาจับมือกัวรั่วชิงเบาๆ พลางตบบนหลังมือเพื่อนอย่างปลอบโยน ดวงตาที่เคยดูว่างเปล่าฉายแววสงสารวูบหนึ่งอย่างรวดเร็วจนกัวรั่วชิงแทบมองไม่เห็น ก่อนจะกลับมาใสซื่อดังเดิม

“โอ๋ๆ ชิงเอ๋อร์ ไม่ร้องนะ ไม่เป็นไรหรอก” เหยาหลิงเจินพูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา “คนพวกนั้นเขาอาจจะ... หลงทางอยู่ในวงกตเหมือนกันมั้ง” นางหัวเราะคิกคักเบาๆ คล้ายเด็กน้อยที่เจอเรื่องขำขัน

กัวรั่วชิงได้ยินดังนั้นก็ถึงกับยิ้มขื่น พยักหน้ากับตนเองว่าเพื่อนรักของนางคงปัญญาอ่อนไปเสียแล้วจริงๆ แต่คำปลอบโยนที่ออกมาจากใจจริงแม้จะฟังดูประหลาด กลับทำให้ความหนักอึ้งในอกนางคลายลงได้บ้าง

“เจ้าพูดถูก เจินเจิน ขอบคุณนะ” กัวรั่วชิงกล่าวเสียงเบา

“ไม่เป็นไรหรอก เราเป็นเพื่อนกันนี่นา” เหยาหลิงเจินยิ้มกว้าง “ถึงแม้คนอื่นจะไม่ชอบชิงเอ๋อร์ แต่ข้าชอบชิงเอ๋อร์นะ” น้ำเสียงไร้เดียงสาแต่จริงใจทำให้กัวรั่วชิงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

“ตอนนี้พี่สาวก็หิวแล้ว เราไปหาอะไรเติมท้องดีกว่า” เหยาหลิงเจินลูบท้อง “แต่คงต้องรอไปเที่ยวในเมืองวันหลังนะ วันนี้บ้านข้ามีงานเลี้ยงนี่นา” นางกล่าวพลางชี้ไปยังทิศทางที่จากมา

“ได้สิ” กัวรั่วชิงยิ้มตอบอย่างยินดี ความมืดมิดในใจพลันจางหายไปชั่วขณะเมื่อได้อยู่กับเพื่อนที่ไร้พิษภัยเช่นนี้ “เอาไว้ข้าว่างเมื่อไหร่ ข้าจะไปหาเจ้าที่จวนนะเจินเจิน”

“ดีเลย เจินเจินจะรอชิงเอ๋อร์นะ” เหยาหลิงเจินพยักหน้าหงึกหงักอย่างร่าเริง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสดใสราวกับไม่เคยมีความทุกข์ใดๆ มาก่อน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่7 พบสหายเก่าผู้ไร้เดียงสา

    กัวรั่วชิงจำได้ว่าทางสายนี้นำไปยังภูเขาจำลอง ซึ่งนางกับคุณหนูเล็กสกุลเหยาชอบมาเล่นซ่อนแอบกันบริเวณนี้เป็นประจำ ด้วยที่นี่มีความพิเศษกว่าภูเขาจำลองของที่อื่น ตรงที่ถูกจัดวางเอาไว้เสมือนกับวงกต หากใครไม่รู้ทางแล้วเผลอเดินเข้าไปก็จะหลงอยู่ในนั้นโชคดีที่นางจำทางได้ ไม่ว่าจะเจอคนหรือไม่ก็ไม่มีทางหลง และแล้วเมื่อนางไปตามเส้นทางคดเคี้ยวสักระยะ ก็พบสตรีงดงามในชุดกระโปรงหรูฉวินสีเขียวตัดกับสีกลีบบัวกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเก็บดอกไม้ที่ริมน้ำ“เหยาหลิงเจิน! เจินเจิน เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย” คนได้เจอสหายเก่าก้าวเท้าไวๆ ไปหาเหยาหลิงเจินด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความยินดี“จะ...เจินเจินงั้นเหรอ” ดวงตาดุจลูกวางสุกใสจดจองกัวรั่วชิงด้วยความไม่แน่ใจ “เจ้ารู้จักข้า?”“แน่นอนว่าต้องรู้จัก ข้าคือชิงชิงอย่างไรเล่า”“ชิงชิง?” เหยาหลิงเจินที่เหมือนจำอะไรไม่ได้พลันหันไปขอความช่วยเหลือจากคนสนิทข้างกายหลังจากกระซิบกระซาบกันอยู่ครู่หนึ่ง สาวใช้คนสนิทของเหยาหลิงเจินก็เดินหน้าขึ้นมากล่าวกับกัวจิ้งอี “คุณหนูของเราเพิ่งหายจากอาการป่วยได้ไม่นาน อาจจะยังมีอาการหลงลืมอยู่ ขอฮูหยินอย่าได้ถือสาเลยเจ้าค่ะ”“เจ้าจะบอกว่านางจ

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่6 ที่แท้พี่หญิงใหญ่ผู้แสนดีงามนัดพบผู้ชายเอาไว้หรอกรึ

    ปกติหวงเชียนเล่อเป็นคนเดินเร็วยิ่งกว่าอะไรดี แต่ในครั้งนี้เขากลับทอดน่องสบายๆ กว่าจะวกกลับมาถึงจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก็เล่นเอากัวจิ้งอีกับโจวจื่อหมิงรอจนขาแทบแข็งเลยทีเดียวครั้นทั้งสองมาถึง หวงเชียนเล่อมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของกัวจิ้งอีกับโจวจื่อหมิง ถึงใจจะรู้สึกชิงชังคนประเภทนี้เยี่ยงไร แต่ดวงหน้าคมเข้มกลับฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มบาง“ดีที่ซื่อจื่อช่วยคุณหนูใหญ่สกุลกัวเอาไว้ก่อน เพราะต่อให้ข้ามีใจ แต่ก็คงไม่สามารถช่วยคนได้พร้อมกันถึงสองคน อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องสุดวิสัย หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสาที่ข้าถูกเนื้อต้องตัวฮูหยินของเจ้าใช่หรือไหม”เดิมทีหากไม่มีพยานรู้เห็น ต่อให้กัวรั่วชิงตกน้ำไป เขากับกัวจิ้งอีย่อมทำให้คนเชื่อได้ว่านี่เป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่พอมีหวงเชียนเล่อเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาคงยากจะพ้นข้อหาทำร้ายคน และคนผู้นั้นก็มิใช่ใครอื่น แต่เป็นภรรยาเอกที่กราบไหว้ฟ้าดินอย่างถูกต้อง ต่อให้ชาวบ้านจะเห็นใจเรื่องเขากับกัวจิ้งอี ทว่าการทำร้ายภรรยาเพื่อสตรีอื่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนจะยอมรับได้ เมื่อครู่เขาหวาดหวั่นแทบตาย ว่าจะอธิบายอย่างไรให้หวงเชียนเล่อเชื่อว่าตนไม่ได้ตั้งใจลงไม้ลงมือกับ

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่5 พันธะริมสระบัว

    เมื่อครู่หวงเชียนเล่อพากั่วรั่วชิงทะยานมายังเกาะกลางสระ หากจะกลับไปที่เดิมพวกเขาต้องข้ามสะพานแล้วเดินอ้อมไปอีกทางหญิงสาวเยื้องย่างตามหลังแม่ทัพหนุ่มในระยะที่ไม่ห่างเหิน และไม่ใกล้ชิดจนเกินไป เพียงแค่พอให้สนทนากันได้เท่านั้นในระหว่างที่ข้ามสะพานนางมองไปยังจุดที่ตนเองเกือบจะพลัดตกลงสระ เห็นว่ายามนี้กัวจิ้งอีกับโจวจื่อหมิงก็ยังอยู่ตรงนั้นแม้กัวรั่วชิงรู้อยู่แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็อดทอดถอนใจไม่ได้ เพราะตั้งแต่นางต้องแต่งให้โจวจื่อหมิงแทนกัวจิ้งอี ทำให้ไม่ว่าเกิดเหตุอันใดระหว่างตนกับชายหญิงคู่นั้นทุกคนล้วนพร้อมใจกันชี้หน้าแล้วตัดสินว่านางเป็นคนผิดเสมอ เพียงเพราะเห็นใจสงสารคู่เหมยเขียวม้าไม่ไผ่ที่ถูกสตรีร้ายกาจเช่นตนตัดวาสนา“ไยเจ้าถอนหายใจเยี่ยงนั้นเล่า” แม้จะเพียงแผ่วเบา แต่ประสาทหูของผู้ฝึกวรยุทธย่อมไม่ธรรมดา“ผู้น้อยไม่ต้องการให้เรื่องนี้ลุกลามใหญ่โต เพราะอย่างไรคู่กรณีก็เป็นพี่สาวแท้ๆ กับสามีของผู้น้อย”“ไยพูดเยี่ยงนั้น ข้าไม่มีทางปล่อยคนผิดให้ลอยนวลไปได้แน่”“ตั้งแต่แรกท่านแม่ทัพคิดจะมอบความเป็นธรรมให้ผู้น้อย?” ดวงตาหงส์พลันเบิกกว้าง ไม่แน่ใจว่าตนเองหูฟาดไปหรือไม่ นางไม่พบพานคนท

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่4 แม่ทัพฉีหลิงปรากฏตัว

    สองพี่น้องสกุลกัวพัวพันกันอยู่ริมตลิ่ง คนหนึ่งยื้อยุด คนหนึ่งพยายามดิ้นหนี แต่มองจากไกลๆ ประกอบกับเสียงกรีดร้องของกัวจิ้งอีที่หากใครเข้ามาเห็นเหตุการณ์ขณะนี้ย่อมต้องนึกว่ากัวรั่วชิงกำลังพยายามจะผลักพี่สาวตนเองลงสระบัวอยู่แน่นอน“กัวรั่วชิง! เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือไง หยุดเดี๋ยวนี้นะ” โจวจื่อหยวนพลันตวาดลั่น เขาไม่เห็นกัวจิ้งอีในงานเลยออกมาตามหาเผื่อว่าจะพบคนที่ใจคิดถึง กระทั่งเข้ามาพบเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี แต่ไม่ว่าจะร้องห้ามเท่าไรคนสองคนตรงหน้ายังไม่มีทีท่าว่าจะแยกจากกัน“พี่จื่อหยวน ช่วยข้าด้วย” กัวจิ้งอีส่งเสียงเรียกสามีของน้องสาวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ข้าบอกให้เจ้าปล่อยอีเอ๋อร์อย่างไรเล่า”โจวจื่อหยวนเห็นกัวจิ้งอีเป็นเช่นนั้น ก็ให้ปวดใจเหลือประมาณ และเพื่อจะช่วยเหลือสตรีในดวงใจจากนางจิ้งจอกอย่างกัวรั่วชิง เขาพุ่งกายออกไปราวลูกธนูที่หลุดออกจากแล่ง ชายหนุ่มคลั่งรักคว้าสตรีในดวงใจเข้าสู่อ้อมแขน พร้อมกับผลักคนที่ตนนึกรังเกียจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไปทางสระบัวอย่างไม่ไยดีแทน“ว้าย!!!”กัวรั่วชิงไม่อาจต้านแรงผลักของโจวจื่อหยวนได้ นางพลันเสียหลักซวนเซ จนเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่3 ข้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านแล้วงั้นรึ

    ฉินหวางเฟย เยี่ยนเยว่ฉีเดินนวยนาดเข้ามา ทุกคนเห็นเช่นนั้นก็พากันลุกขึ้นต้อนรับสตรีสูงศักดิ์ที่สุดผู้หนึ่งในแคว้นหานอย่างพร้อมเพรียง“พวกเรากำลังชื่นชมของขวัญที่เจิ้นหนิงโหวฮูหยินมอบให้ฮูหยินซื่อจื่อท่านนี้อยู่เพคะ” ถางซือเซียนซึ่งสนิทสนมกับชายาฉินอ๋องมากที่สุดตอบคำถามแทนทุกคน“ข้ากับท่านโหวกลับมาไม่ทันร่วมแสดงความยินดีกับบุตรสาวของสหาย วันนี้ได้พบหน้าจึงถือโอกาสมอบของขวัญให้เพคะ” ฮูหยินเจิ้นหนิงโหวอธิบายถึงที่มาของการมอบของขวัญให้กัวรั่วชิง“เป็นเช่นนี้เอง” เยี่ยนเยว่ฉีคลี่ยิ้มงดงามปานล่มเมือง พลางมองไปที่ข้อมือของกัวรั่วชิงแล้วพยักหน้าน้อยๆ “เจ้าเป็นคนรูปร่างหน้าตาอ่อนหวานหมดจด พอสวมหยกมันแพะไร้ตำหนิเยี่ยงนี้เข้าไป ยิ่งดูงดงามมากขึ้นจริงๆ”“ขอบพระทัยหวางเฟยที่ทรงชื่นชมเพคะ” กัวรั่วชิงกล่าวกับผู้สูงศักดิ์ที่สุดในที่นี้อย่างนอบน้อม“ไม่ต้องมากพิธี ข้าก็แค่พูดไปตามความจริงเท่านั้นแหละ” ว่าแล้วเยี่ยนเยว่ฉีก็เดินตรงไปยังที่นั่งของตนเอง ไม่ใส่ใจเรื่องนี้อีกพอเห็นเช่นนั้น จงกงโหวฮูหยินที่บรรลุเป้าหมายของตนเองแล้วจึงกล่าวว่า “ยามนี้ดอกไม้ที่จวนกำลังเบ่งบานหอมกรุ่น หากพวกเจ้ากินอาหารกันอิ่มแ

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่2 งานเลี้ยงน้ำชาที่ไร้รส

    ตามหลักการเรื่องชายหญิงไม่อาจใกล้ชิด เวลาจัดงานเลี้ยงจึงต้องแยกส่วนรับรอง ถึงแม้จะต้องทำตามธรรมเนียม แต่หลายครั้งเจ้าของงงานเลี้ยงก็เพียงตั้งกระโจมห่างกันไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างครานี้ เจิ้นหนิงโหวใช้คูน้ำทางเชื่อมภายในเป็นตัวแยกอาณาเขตระหว่างบุรุษและสตรี ทำให้หากมองไป ก็ยังคงเห็นความเคลือนไหวของฝั่งตรงข้ามได้อยู่เนืองๆหลังหญิงนำทางจากไปแล้ว กัวรั่วชิงเดินนำกัวลี่ลี่สาวใช้คนสนิทไปคารวะเจิ้นหนิงโหวฮูหยินเป็นอันดับแรกตามมารยาท แน่นอนว่านางพยายามไม่ให้ความสนใจกับสายตาของบรรดาฮูหยินจวนอื่นๆ ที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่กับเจ้าบ้าน รวมไปถึงกัวจิ้งอีพี่สาวของนางด้วยครั้นเห็นน้องสาวก้มหน้าก้มตา ไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน สีหน้าของกัวจิ้งอีพลันหม่นหมอง พาให้คนมองรู้สึกสงสารนางมากยิ่งขึ้น แล้วให้ตำหนิกัวรั่วชิงในใจแทนแต่นายหญิงของที่นี่กลับทักทายผู้มาใหม่อย่างเป็นมิตรยิ่ง“คุณหนูรองสกุลกัวนี่เอง” ผู้อาวุโสรับการคารวะด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจอกันเสียหลายปี ตอนนี้กลายเป็นฮูหยินซื่อจื่อจวงเซียงป๋อไปแล้วใช่หรือไม่”“เจ้าค่ะ” กัวรั่วชิงตอบรับสั้นๆ ด้วยท่าทางสำรวม“เสียดายข้ากับท่านโหวกลับมาไม่ทันงานมงคลของเจ้า ไม่อย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status