Home / รักโบราณ / พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก / บทที่5 พันธะริมสระบัว

Share

บทที่5 พันธะริมสระบัว

last update Last Updated: 2025-08-12 16:30:05

เมื่อครู่หวงเชียนเล่อพากั่วรั่วชิงทะยานมายังเกาะกลางสระ หากจะกลับไปที่เดิมพวกเขาต้องข้ามสะพานแล้วเดินอ้อมไปอีกทาง

หญิงสาวเยื้องย่างตามหลังแม่ทัพหนุ่มในระยะที่ไม่ห่างเหิน และไม่ใกล้ชิดจนเกินไป เพียงแค่พอให้สนทนากันได้เท่านั้น

ในระหว่างที่ข้ามสะพานนางมองไปยังจุดที่ตนเองเกือบจะพลัดตกลงสระ เห็นว่ายามนี้กัวจิ้งอีกับโจวจื่อหมิงก็ยังอยู่ตรงนั้น

แม้กัวรั่วชิงรู้อยู่แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็อดทอดถอนใจไม่ได้ เพราะตั้งแต่นางต้องแต่งให้โจวจื่อหมิงแทนกัวจิ้งอี ทำให้ไม่ว่าเกิดเหตุอันใดระหว่างตนกับชายหญิงคู่นั้นทุกคนล้วนพร้อมใจกันชี้หน้าแล้วตัดสินว่านางเป็นคนผิดเสมอ เพียงเพราะเห็นใจสงสารคู่เหมยเขียวม้าไม่ไผ่ที่ถูกสตรีร้ายกาจเช่นตนตัดวาสนา

“ไยเจ้าถอนหายใจเยี่ยงนั้นเล่า” แม้จะเพียงแผ่วเบา แต่ประสาทหูของผู้ฝึกวรยุทธย่อมไม่ธรรมดา

“ผู้น้อยไม่ต้องการให้เรื่องนี้ลุกลามใหญ่โต เพราะอย่างไรคู่กรณีก็เป็นพี่สาวแท้ๆ กับสามีของผู้น้อย”

“ไยพูดเยี่ยงนั้น ข้าไม่มีทางปล่อยคนผิดให้ลอยนวลไปได้แน่”

“ตั้งแต่แรกท่านแม่ทัพคิดจะมอบความเป็นธรรมให้ผู้น้อย?” ดวงตาหงส์พลันเบิกกว้าง ไม่แน่ใจว่าตนเองหูฟาดไปหรือไม่ นางไม่พบพานคนที่มีน้ำใจไมตรีเยี่ยงนี้มาสักพักแล้ว

“ย่อมแน่อยู่แล้ว ไม่ว่าเจ้ากับพี่สาวจะทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องใด โจวจื่อหมิงก็ไม่ควรกระทำรุนแรงถึงขั้นลงไม่ลงมือกับภรรยา หรือเจ้ากลัวว่าเขาจะได้รับโทษถึงได้ปริวิตก” 

“มิใช่ แต่ยังไงผู้น้อยก็อยากปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปจริงๆ”

“ปล่อยผ่านรึ เหลวไหล! หากข้ามิได้มาพบเห็นเหตุการณ์ เจ้าคิดหรือไม่ว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพเยี่ยงไร”

กัวจิ้งอีให้ซาบซึ้งใจ แต่ก็กล่าวตอบไปด้วยเหตุผลที่ตนยึดถืออยู่ในยามนี้ เพราะหากทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ระยะเวลาที่นางต้องเก็บตัวเงียบหลังกำแพงจวนคงยืดยาวต่อไปอีก ทั้งหมดนี้นางคิดเพื่อตัวเอง ไม่ใช่อยากจะขอร้องแทนผู้อื่นเลย

“บางคราคนเราก็ต้องเป็นเสมือนต้นหญ้าเหนือกำแพง หากแข็งขืนยืนต้นราวไม้ใหญ่อยู่ร่ำไป รั้งแต่จะถูกพายุพัดพาจนโค่นลงในสักวัน”

“เจ้าจะยอมให้พวกนั้นรังแกเฉยๆ จริงหรือ”

“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่อยากมอบความเป็นธรรมให้ แต่ผู้น้อยก็มีความลำบากใจของผู้น้อย” ต่อให้เขาตัดสินว่านางถูก แต่อย่างไรก็คงไม่พ้นต้องแบกหม้อดำ[1] ที่สองคนนั้นโยนมาให้อยู่ดี ไม่สู้ยอมถอยเพื่อจะได้รุกในวันหน้าดีกว่า

“นี่เจ้าต้องเจออะไรมาบ้าง ถึงได้ไม่เชื่อว่าข้าสามารถให้ความเป็นธรรมกับเจ้าได้”

“แต่ว่าสิ่งที่ผู้น้อยต้องการตอนนี้หาใช่ความเป็นธรรม ผู้น้อยเพียงต้องการที่จะอยู่เงียบๆ อย่างไร้เรื่องไร้ปัญหาต่อไปอีกสักพักต่างหาก”

ต่อให้งานนี้ทุกคนตัดสินว่านางเป็นคนถูก แต่ฝีมือการกลับขาวให้เป็นดำของกัวจิ้งอีก็ไม่อาจดูแคลนได้ ไหนจะเสี่ยงถูกโจวจื่อหมิงเกลียดชังหนักขึ้นกว่าเดิม หากเป็นเช่นนั้นนางคงอยู่ในจวนจวงเซียงป๋ออย่างสงบต่อไปมิได้แน่

“อีกสักพัก?”

“ถูกต้องแล้ว”

“นี่คือความลำบากใจของผู้น้อยที่เจ้าว่างั้นรึ”

กัวจิ้วอีพยักหน้า

“จะบอกว่าเจ้ามีความคิดของตัวเอง?” นัยน์ตาพยัคฆ์กวาดสำรวจดวงหน้างามพริ้มเพราเพื่อหาคำตอบ

หญิงสาวพยักหน้าเบาๆ อีกครั้ง นางไม่ต้องการทำตัวเป็นจุดสนใจใดๆ จนกว่าจะแน่ใจว่าควรจะเคลื่อนไหวต่อในรูปแบบใด

หวงเชียนเล่อรู้สึกวูบวาบในอกอย่างบอกไม่ถูก แต่ถึงกระนั้นก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ เพราะพอจะคาดเดาได้แล้วว่า กั่วรั่วชิงมิได้เห็นโจวจื่อหมิงเป็นท้องฟ้าดังที่คนเป็นภรรยาควรจะเห็น

ถ้าอย่างนั้นเสียงเล่าลือว่าคุณหนูรองสกุลกัวเล่นเล่ห์จนได้ซื่อจื่อจวงเซียงป๋อมาครอง ดูเหมือนจะเชื่อถือมิได้เสียแล้ว

“ได้ ข้ารับปากว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เจ้าต้องการ”

“ขอบคุณท่านแม่ทัพ บุญคุณในครั้งนี้ ข้ากัวรั่วชิงสลักไว้ในใจแล้ว”

“แต่ข้ายังมีข้อแม้อีกสามข้อ”

คิ้วเรียวเคลื่อนมาชนกัน กั่วรั่วชิงรู้สึกว่าตนเองพลาดท่าเสียแล้ว ก็อย่างว่า ใครเล่าจะช่วยผู้อื่นเปล่าๆ โดยไม่หวังสิ่งใด แต่เป็นเช่นนี้ก็ดี หากนางทำตามเงื่อนไขของเขาครบ ก็ถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณ ไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีก

“หากข้อแม้นั้นไม่ใช่เรื่องขัดกับกฎหมายบ้านเมือง ผู้น้อยก็ยินดีรับปากเจ้าค่ะ”

หวงเชียนเล่อหัวเราะเบาๆ ให้กับความรอบคอบของโฉมงาม ดูท่าตอนนี้เขาคงจะกลายเป็นพวกว่านพืชหวังผลสำหรับนางไปแล้วกระมัง

“ได้ข่าวว่าเจ้าเปิดร้านเครื่องประทินผิวในเมืองด้วยมิใช่หรือ”

“เจ้าค่ะ แต่ก็แค่ร้านเล็กๆ เท่านั้น มิได้โด่งดังเช่นร้านของสกุลชุน”

“อีกสามวันให้หลัง ข้าจะไปรับเครื่องประทินผิวที่ดีที่สุดของร้านชุดหนึ่ง เพื่อนำไปมอบแด่เต๋อเฟย รบกวนฮูหยินเตรียมของเอาไว้ด้วย”

กัวรั่วชิงไม่ได้เขลาเสียจนไม่รู้ว่า หวงเชียนเล่อมิได้สนใจเครื่องประทินผิวของร้านนางจริงๆ หากแต่ข้อแม้ของเขาคงไม่สะดวกที่จะตกลงกันที่นี่มากกว่า

“เช่นนั้นยามอู่ในอีกสามวันให้หลัง เชิญท่านแม่ทัพมารับของที่ร้านจื่อชิง(หอมละมุน) ผู้น้อยจะเตรียมไว้รอ”

“ดี ตกลงตามนี้”

หลังจากพูดคุยกันเรียบร้อยทั้งสองพลันเยื่องย่างต่อไปโดยไร้บทสนทนา

[1] แบกหม้อดำ เป็นสำนวนหมายถึง ต้องแบกรับความผิด ความอยุติธรรม

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Boonchob
นางเอกดี ดีมาก ดีเหมือนไม่ใช่คน ชื่อเป็นจีนแต่เนื้อเรื่องน้ำเน่าเหมือนนิยายไทย
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่130 ความร้อนรุ่มในศาลาสวนไผ่

    หูจวี๋เผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่หา “ได้ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ซึ้ง” เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าลง บรรจงจุมพิตที่ริมฝีปากของกัวลี่ลี่อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบที่ดูดดื่มและร้อนแรงตามความรู้สึกที่ได้ยินมาจากห้องหอ ใช้ความชำนาญที่สั่งสมมาเพื่อปลุกเร้าความรู้สึกที่ซ่อนเร้นของนาง มือของเขากอดประคองเอวบางไว้แน่น แต่ไม่ได้ล่วงเกินไปมากกว่านั้นกัวลี่ลี่ส่งเสียงครางเบาๆ ในลำคออย่างห้ามไม่อยู่ นางสับสนกับความรู้สึกที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่ความรู้สึกที่ก่อตัวนี้ทำให้นางร้อนรุ่ม และรู้สึกดีมากจนต้องตอบสนองหูจวี๋หูจวี๋รับรู้ถึงการตอบสนองที่ไร้เดียงสาของกัวลี่ลี่ เขาหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ ลิ้นของเขา ลาดเลียริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่มและเนิ่นนาน เพิ่มความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามความตื่นเต้นที่ก่อตัว เขาใช้มือข้างหนึ่งโอบประคองเอวบางไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็เลื่อนไปเชยคางมนของนาง ให้แหงนเงยรับจูบของเขาอย่างเต็มที่กัวลี่ลี่รู้สึกราวกับว่ามีกระแสไฟวาบหวามพุ่งขึ้นจากปลายเท้าไปสู่ศีรษะ ตัวอ่อนยวบยาบจนต้องเกาะบ่าแข็งแรงของหูจวี๋ไว้แน่น นางแทบไม่เหลือสติที่จ

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่129 เสียงรักร้อนเร่าที่เล็ดลอด

    ทว่าความอ่อนโยนของน้ำอุ่น และกลิ่นหอมของกลีบดอกไม้กลับไม่ได้ช่วยให้ไฟปรารถนาของหวงเชียนเล่อลดลง มีแต่จะยิ่งคิดเตลิดไปไกล ร่างกายส่วนล่างของเขาที่แนบชิดกับนางเริ่มแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง เขาซบหน้าลงกับลำคอขาวผ่องแล้วขบเม้มอย่างยั่วยวน พลางเคลื่อนฝ่ามือร้อนลงไปลูบไล้เนินเนื้ออ่อนนุ่มที่อยู่ใต้น้ำอย่างเชื่องช้า“ท่านพี่... ท่านไม่เหนื่อยบ้างหรือ” กัวรั่วชิงถามเสียงสั่น เพราะความรู้สึกวาบหวามที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง“อยู่กับเจ้าไม่เหนื่อยเลย สบายกว่าตอนไปรบเยอะ” เขาตอบอย่างหนักแน่น พลางพลิกนางให้หันหน้ามาหาตนเอง แล้วก้มลงบรรจงจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มอย่างดูดดื่ม ก่อนจะช้อนขาเรียวของนางข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบ่าอย่างคล่องแคล่วหวงเชียนเล่อไม่รอช้า ใช้แรงจากสะโพกดันแก่นกายเข้าสู่ร่องสวาทของนางอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง น้ำในอ่างกระฉอกสาดกระเซ็น เมื่อทั้งคู่เริ่มเคลื่อนไหว เขาจับเอวบางไว้มั่น แล้วกระแทกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะภายในอ่างน้ำอุ่นที่เปรียบเสมือนรังรักอีกแห่งหนึ่ง“อ๊ะ... เชียนเล่อ... เชียนเล่อ...” กัวรั่วชิงเรีย

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่128 ยังอวบอวลด้วยความปรารถนา

    หวงเชียนเล่อรู้ว่านางกังวลอะไร แต่นี่คือจวนแม่ทัพในเมืองหลวง คนที่ใหญ่ที่สุดที่นี่คือเขา เรื่องธรรมเนียมหยุมหยิม หากเขาเห็นว่าไม่ควรใส่ใจ ก็คือไม่จำเป็นต้องเคร่งครัด“ชิงเอ๋อร์... ไม่ต้องคิดมาก ยอมให้ข้ารักเจ้าอีกก็พอ” เขาคำรามเสียงต่ำ พลางใช้ลิ้นไล้เลียยอดถันสีชมพูที่ตั้งชันอยู่บนเนินอกอิ่มอย่างยั่วยวน เขาดูดดึงอย่างรุนแรงจนกัวรั่วชิงส่งเสียงครางหวานซ่านออกมาชายหนุ่มที่ถูกความต้องการกัดกินไม่คิดจะรอนาน เขาจัดท่าทางให้นางอ้าขาออกเล็กน้อย ก่อนจะกดแก่นกายใหญ่โตอันแข็งขืนเข้าสู่ช่องทางรักที่เพิ่งถูกใช้งานไปเมื่อคืนอย่างช้าๆ การรุกรานที่ช้าแต่หนักแน่น ทำให้กัวรั่วชิงต้องจิกผ้าปูเตียงด้วยความเสียวซ่านที่รุนแรงกว่าครั้งแรก“อ๊ะ... ท่านพี่... มัน... มันแน่น” นางกระซิบเสียงสั่น“มันควรเป็นเช่นนี้” หวงเชียนเล่อยิ้มกริ่มอย่างสมใจ แล้วเริ่มขยับสะโพกในจังหวะที่รุนแรงและเร่าร้อนมากขึ้น แก่นกายแกร่งเข้าลึกสุดลำทุกจังหวะ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วห้องหอ บ่งบอกถึงความหลงใหลอย่างเต็มที่“อ๊า... ท่าน

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่127 เสน่หาล้นเรือน

    หวงเชียนเล่อซบหน้าลงกับไหล่ของนางด้วยความอ่อนล้าปนความสุขสม เขายังคงไม่ถอดถอนกายออกมา ร่างทั้งสองแนบชิดเป็นหนึ่งเดียว ท่ามกลางกลิ่นหอมของเครื่องหอมมงคลและแสงเทียนสีแดงที่ส่องสว่างจนเกือบจะดับมอดลง“ขอบคุณที่อดทนเพื่อข้า ชิงเอ๋อร์” เขาพึมพำกับนางด้วยความรักใคร่ และรู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของค่ำคืนนี้เท่านั้นรอจนกระทั่งลมหายใจของทั้งคู่เริ่มกลับมาเป็นปกติ หวงเชียนเล่อจึงค่อยถอนตัวออกมาอย่างช้าๆ หวงเชียนเล่อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของภรรยา ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยไฟแห่งความปรารถนาซึ่งยิ่งแรงกล้าหลังการร่วมรักครั้งแรก เขาไม่รอช้าที่จะบรรจงจุมพิตที่เต็มไปด้วยความเสน่หา ร้อนแรงกว่าครั้งใดๆ ที่เคยมีมา บดเบียดริมฝีปากลงไปอย่างหนักหน่วงและดูดดื่ม ลิ้นร้อนสอดประสานเข้าไปตักตวงความหอมหวานอย่างไม่รู้จักพอกัวรั่วชิงตอบรับจูบนั้นอย่างโหยหา มือของนางยกขึ้นประคองใบหน้าของเขาไว้ จูบนี้ไม่ใช่แค่การแสดงความรัก แต่เป็นการยืนยันความผูกพันที่ร้อนแรงและลึกซึ้งยิ่งกว่าคำมั่นสัญญาใดๆครั้นจุมพิตจนร่างอ่อนระทวยไปทั้งร่าง หวงเชียนเล่อจึงค่อยตัดใจลุกขึ้น

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่126 คืนรัญจวน ตรึงใจมิรู้ลืม

    ครั้นเห็นนางสงบลงแล้ว เขาก็เคลื่อนกายขึ้นทาบทับ พลางยกตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยๆ สอดแทรกตัวตนของเขาเข้าไปในร่องสวาทของนางอย่างช้าๆกัวรั่วชิงนิ่วหน้าเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวด นางกัดริมฝีปากแน่นจนซีดเผือด “อูย... เจ็บ...” นางกระซิบเสียงสั่นเครือหวงเซียนเล่อหยุดชะงักทันที เขาก้มลงมองใบหน้าของนาง แล้วใช้ปลายนิ้วเกลี่ยริมฝีปากของนางอย่างอ่อนโยน เพื่อให้นางหายเกร็ง“อดทนหน่อยนะชิงเอ๋อร์... ข้าจะไปอย่างช้าๆ” เขากระซิบปลอบโยน ก่อนขยับกายเข้าออกอีกครั้งอย่างแผ่วเบาเพื่อให้นางปรับตัวได้ เขาก้มลงจุมพิตซอกคอและลาดไหล่ ไล่ลงมาจนถึงปทุมถันคู่งาม เขาดูดดึงขบกัดเบาๆ บนยอดสีชมพูจนนางสะท้าน ขณะที่ขยับสะโพกส่งลำเอ็นเข้าไปในร่องสวาทพร้อมกันแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นทำให้กัวรั่วชิงต้องจิกเล็บลงบนหลังของเขาแน่น หวงเซียนเล่อสอดแก่นกายเข้าลึกขึ้นเรื่อยๆ จนสุดลำ เมื่อฝากฝังตัวตนใหญ่ยาวนั้นเข้าไปจนหมดแล้ว เขาจึงค่อยๆ โอบกอดร่างระหงที่สั่นระริกเอาไว้แน่นและพึมพำกับนางว่า “ชิงเอ๋อร์ เจ้าอดทนได้ดีมาก”ดวงตาของกัวรั่วชิงเปียกชื้นด

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่125 ผูกพันรักใต้แสงเทียน

    เมื่อประตูห้องหอสีแดงถูกปิดลง เสียงอึกทึกจากงานเลี้ยงฉลองด้านนอกก็เลือนหายไปจนเหลือเพียงความเงียบสงบ กัวรั่วชิงนั่งรออยู่บนเตียงไม้สลักที่ปูด้วยผ้าไหมสีแดงสด มือทั้งสองข้างประสานกันแน่นบนหน้าตัก แม้นี่จะเป็นครั้งที่สองที่นางได้เข้าพิธีแต่งงาน แต่ความรู้สึกกลับต่างกันลิบลับชุดแต่งงานที่ประดับประดาอย่างหรูหรานั้นหนักอึ้ง ทั้งความประหม่าและความอับอายทำให้ใบหน้าของกัวรั่วชิงแดงเรื่อไม่ต่างจากสีของชุด หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องนั่งนิ่งๆ เช่นนี้จนกว่างานเลี้ยงด้านนอกจะสิ้นสุดในที่สุดหวงเชียนเล่อก็หลีกหนีจากแขกเหรื่อที่พยายามขอดื่มสุราร่วมกับเขาเหล่านั้นจนได้ เขาเปิดประตู แล้วส่งสัญญาณให้กัวลี่ลี่ที่ยืนรอรับใช้กัวรั่วชิงอยู่นั้นออกไปกัวลี่ลี่ยิ้มบางๆ แล้วเดินออกจากห้องหอไป โดยไม่ลืมปิดประตูให้เรียบร้อยยามนี้ห้องหอถูกตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงและอบอุ่นเหลือเพียงเงาร่างของบ่าวสาว หวงเชียนเล่อเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ครั้นหยุดยืนตรงหน้ากัวรั่วชิง เขาก็ยกก้านคันชั่งหยกขึ้นมา ค่อยๆ ใช้มันเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกอย่างอ่อนโยน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status