อย่าบอกนะว่าเสี่ยจะเอาเรามาเชือดแล้ว ทำยังไงดีหรือเราจะหนี แต่เราจะหนีได้ยังไงคนของเสี่ยเต็มบ้านแบบนี้ ..โทรขอความช่วยเหลือจากพ่อดีกว่า
แต่พอจะโทรจริงๆ ก็กลัวพ่อคิดมาก แถมงานของพ่อก็เพิ่งจะเข้าที่
ถ้างั้นเราคงต้องช่วยตัวเองแล้วล่ะ ข้าวสวยมองหาอาวุธไว้ช่วยเหลือตัวเอง ยังไงเธอก็จะไม่ยอมตกเป็นของทั้งพ่อและลูกหรอก
"คุณผู้หญิงถือแจกันเข้ามาด้วยทำไมคะ"
"ฉันเห็นว่ามันน่ารักดีจะเอาเข้ามาไว้เป็นของตกแต่งในห้องนี้ด้วย"
"อ๋อค่ะ ถ้าอยากได้ดอกไม้บอกนะคะเดี๋ยวจะไปตัดมาให้ใส่แจกันค่ะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
ห้องนี้ก็อยู่ตรงข้ามกับห้องนั้นทำไมต้องย้ายด้วย ข้าวสวยเข้ามาแล้วก็เดินดูห้องว่ามันมีอะไรพิเศษกว่ากัน แต่มันก็เหมือนกันหมด
"ป้าออกไปเถอะค่ะที่เหลือเดี๋ยวฉันจะจัดการเอง"
"ไม่ได้ค่ะคุณผู้หญิงเข้าไปอาบน้ำแช่ตัวให้สบายเถอะค่ะ ตรงนี้ป้าจะทำกับแม่บ้านให้เสร็จค่ะ" แม่บ้านอีกคนเตรียมน้ำไว้ให้ในห้องน้ำแล้ว ข้าวสวยเลยเข้าไปแช่ตัวในอ่างจากุชชี่
แช่น้ำอยู่เป็นชั่วโมงๆ ออกมาแม่บ้านก็จัดของเข้าที่เสร็จแล้ว เธอเลยเลือกชุดออกมาใส่
ตอนที่ใส่เสื้อผ้าได้ยินเสียงรถแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก เพราะคงเป็นรถของลูกน้องเสี่ยหรือไม่ก็ลูกชายคนเล็กของเสี่ยกลับบ้านมา
"......." ภูเบศลงจากรถแล้วเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นพ่อนั่งอ่านนิตยสารอยู่ ท่านแค่มองผ่านๆ และก็หันกลับไปสนใจนิตยสารในมือ เขาเลยสงสัยว่าพ่อไม่แปลกใจเหรอว่าทำไมเขาถึงกลับบ้าน
หลังจากวันเข้าหอที่เขาแอบปีนหนีลงทางหน้าต่าง ก็ครบอาทิตย์หนึ่งพอดีที่เขากลับมาบ้านเห็นว่าพ่อทำเฉยเขาเลยเดินไปทิ้งตัวลงนั่งโซฟาข้างๆ ท่าน
"แล้วเจ้าสาวของผมล่ะครับ"
"ยังจำได้อยู่หรือว่าตัวเองแต่งงานแล้ว"
"ก็ไม่อยากจะจำหรอกครับ"
"ใครเขาจะอยู่รอแก ตอนนี้ย้ายของกลับบ้านไปแล้ว"
"หึหึ" เสียงขำแบบพอใจหายไปเมื่อมองไปเห็นว่ามีผู้หญิงเดินลงมาจากชั้นบน "?" ตอนที่ลูกชายมองตาค้างคนเป็นพ่อก็แอบมองเขาอยู่เหมือนกัน
"??" ไม่ได้ตกใจแค่ภูเบศหรอกข้าวสวยก็ตกใจเช่นกันที่เห็นเขาอยู่บ้าน
"ทำไมผู้หญิงคนนี้ยังอยู่ที่นี่ครับ?!"
"แล้วทำไมจะอยู่ไม่ได้ล่ะเธอคืออภิวัฒนาก็ต้องอยู่ที่นี่สิ"
"อะไรนะ? อย่าบอกนะว่าพ่อ?" นี่พ่อเขาหูหนวกตาบอดหรือไงถึงขั้นจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนี้เลยหรือ ..ด้วยความที่เขาไม่เห็นหน้าเจ้าสาวตัวเองและไม่ได้สนใจมองชื่อตอนที่เธอจดทะเบียนสมรส เลยไม่รู้ว่าเจ้าสาวคือข้าวสวย เขายังคิดเหมือนเดิมว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของพ่อ
"ลงมาก็ดีแล้วฉันให้แม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารไว้แล้ว" ภูริลุกแล้วเดินเข้าไปจูงมือข้าวสวยเข้าไปในห้องอาหาร
"พ่อ!!" จะเอายังไงกับผู้หญิงคนนี้ดียังหน้าด้านหน้าทน พ่อไม่คิดหรือไงที่เธอหายตัวไปอาจจะเสร็จผู้ชายคนอื่นไปแล้ว ถ้าเอามาเป็นผู้หญิงชั่วครั้งชั่วคราวเขาไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่ถึงขั้นจดทะเบียนสมรสให้ใช้นามสกุลด้วยเลยนี่นะ
ยิ่งเสี่ยภูริทำแบบนี้มันยิ่งยืนยันความคิดของเธอ ถึงขั้นเรียกลูกกลับมาเพื่อดูตัวเองทำอะไรกับเราเนี่ยนะ
"วันนี้เสี่ยให้แม่บ้านทำอาหารที่หนูชอบ ทานเยอะๆ นะ" เสี่ยภูริตักอาหารวางใส่จานให้กับข้าวสวย
"ขอบคุณมากค่ะ" เธอไหว้ขอบคุณก่อนจะตักอาหารนั้นใส่ปาก
"อร่อยไหม" เสี่ยยังคงพูดเหมือนเอ็นดูเธอ
"อร่อยมากค่ะ"
"ถ้างั้นก็ทานอันนี้ด้วย"
"ผมว่าพ่อกินบ้างเถอะครับอีกหน่อยก็คงเคี้ยวอาหารไม่ไหวแล้ว"
"แกแช่งพ่อเหรอ"
"เปล่าครับมัวแต่เทคแคร์คนที่ไม่มียาง"
"?" เขาหมายถึงเราไร้ยางอายหรือเปล่า
นั่งทานข้าวไปได้ไม่กี่คำข้าวสวยก็วางช้อนแล้วบอกว่าอิ่มแล้ว ไม่ชอบสายตาที่เขามองเธอเลยขอตัวขึ้นบ้าน
และพอข้าวสวยเดินขึ้นบันไดภูเบศก็บอกว่าอิ่มแล้วเช่นกัน แล้วก็รีบเดินตามเธอขึ้นไป
"เสี่ยฉลาดมากเลยครับ" ชาติชายที่ยืนรอรับใช้อยู่แถวนั้นเดินเข้ามาเมื่อเห็นบุตรชายของท่านเดินตามฝ่ายหญิงขึ้นไป ..แต่ถ้าไม่ฉลาดท่านคงไม่มายืนอยู่จุดนี้ได้
ภูเบศเดินเข้ามาก็เห็นว่าเธอเปิดประตูห้องของพ่อ ใช่แล้วห้องที่ข้าวสวยย้ายไปอยู่ใหม่คือห้องเดิมของเสี่ยภูริ ตอนนี้ภูริย้ายไปอยู่อีกห้องหนึ่งก่อนเพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้ลูกชาย
"อุ้ย" จังหวะที่ข้าวสวยปิดประตูภูเบศที่เดินตามมาก็ใช้เท้าดันประตูไว้ "เอาเท้าของคุณออกไปนะ"
"เจอหนักขนาดนั้นยังหน้าทนใช้ชีวิตอยู่บ้านหลังนี้อย่างสุขสบายอีกหรือ"
ข้าวสวยคิดว่าเขาหมายถึงตอนงานแต่งที่เขาหนีไปก่อน "อยากว่าอะไรก็ว่าไปเถอะค่ะ ถอยฉันจะปิดประตู"
"แกติดต่อไปหาภูผาหรือยัง งานที่ให้ทำไปถึงไหนแล้ว" เสียงนี้ดังแว่วมาจากทางขึ้นบันได
ตุ๊บ! ตอนเขาเผลอเธอก็เตะเข้าที่หน้าแข้งจนภูเบศต้องขยับเท้าออกจากประตู ข้าวสวยถึงปิดประตูได้
"ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น" ขึ้นมาถึงชั้นบนก็เห็นลูกชายลูบหน้าแข้งตัวเองอยู่หน้าห้อง แต่ที่จริงแล้วภูริจงใจขึ้นมาขัดจังหวะ
"สนใจผมด้วยหรือครับ นึกว่าสนใจแต่เมียเด็ก" ว่าแล้วภูเบศก็เปิดประตูเข้าห้องตัวเองแบบอารมณ์เสีย
เขายืนรออยู่หน้าประตูพอได้ยินเสียงปิดประตูห้อง ภูเบศถึงได้เปิดออกมาดู และคิดว่าพ่อเข้าห้องที่ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งเข้าไป
"มีความสุขซะให้พอยังไงฉันก็ไม่ปล่อยเธอไปแน่" เขาเลยปิดประตูกลับเข้าห้อง
วันต่อมา..
"สงสัยว่าจะมีพายุเข้า"
"ทำไมครับเสี่ย"
"ก็ไอ้ลูกชายของฉันอยู่บ้านไง"
"ผมอยู่บ้านพ่อไม่ชอบหรือไงครับ"
"ไม่ใช่ไม่ชอบแต่ฉันคิดว่ามันแปลกๆ หลายปีแล้วที่ไม่เห็นแกอยู่บ้านแบบนี้" แต่พอภูรินั่งลงข้างๆ ลูกชายไม่นานข้าวสวยก็ลงมาข้างล่าง เห็นว่าเขาอยู่บ้านเธอเลยไม่อยากอยู่ จะลงมาขอเสี่ยออกไปข้างนอก
"ได้สิจะไปไหนก็บอกคนรถได้เลย"
"ขอบคุณมากนะคะเสี่ย"
"บัตรใบใหม่เอาไว้ใช้" ตอนที่ข้าวสวยกำลังจะเดินออกไปเสี่ยภูริก็ล้วงเอาบัตรเครดิตออกมาส่งให้ต่อหน้าลูกชาย
"เอ่อ.." เธอยังไม่กล้ารับเพราะเห็นสายตาเขามอง
"เอาไปใช้เถอะอยากได้อะไรก็รูดได้ตามสบายเลย" เสี่ยภูริจับมือของเธอมารับบัตรด้วยมือของท่านเอง และไม่ลืมที่จะลูบผมโชว์ลูกชาย
"ขอบคุณมากค่ะเสี่ย" หญิงสาวไหว้ขอบคุณก่อนจะขอตัวออกไป
"อ้าวแล้วนั่นแกจะไปไหน ไหนบอกว่าจะอยู่บ้านไง" แต่พอข้าวสวยออกไป ภูเบศก็จะออกไปเช่นกัน
"ไม่รู้เรื่องของผมสักเรื่องกินข้าวไม่อร่อยหรือไงครับ"
ด้วยความที่เมื่อคืนดื่มหนักพอขึ้นเครื่องเขาก็หลับ เพราะแบบนี้แหละบนเครื่องบินส่วนตัวของเขาเลยต้องมีเตียงนอนไว้ให้ด้วย และเดินทางไม่นานก็มาถึงที่หมาย"นี่คุณภูเบศตื่นได้แล้วค่ะ""อืมม!" ชายหนุ่มพลิกตัวแล้วเอาหมอนขึ้นมาปิดหูตัวเองไว้"จะนอนอยู่นี่ใช่ไหม ถ้างั้นฉันไปคนเดียวก็ได้""อะไรของเธอวะ!" เขาเลยจำเป็นต้องลุก เดินลงมาจากเครื่องก็มีรถมาจอดรอรับอยู่แล้ว"สวัสดีครับนายหัว""โผล่หัวมาได้แล้วหรือพวกมึง""ขอโทษครับนายหัวพวกเราถูกคุมกำเนิดครับ""เดี๋ยวกูไล่ออกให้หมดเลยนี่ พวกมึงเป็นลูกน้องใครกันแน่วะระหว่างกูกับพ่อกู""เป็นลูกน้องนายหัวครับ แต่ไม่กล้างัดข้อกับเสี่ยครับ"เธอก็อยากรู้อยู่หรอกว่าอีตาบ้าเนี่ยไปมีเรื่องมีราวอะไรกับพ่อตัวเอง เพราะเธอก็เห็นอยู่ว่าพ่อของเขารักเขามากขนาดไหนใช้เวลานั่งรถมาร่วมชั่วโมงก็มาถึงปางไม้ตอนรถวิ่งเข้ามาเธอก็รู้สึกใจคอไม่ดี เพราะเหตุการณ์ครั้งแรกที่ถูกเขาพาตัวมาอยู่ที่นี่มันยังคงฝังใจ แต่ครั้งนี้เธอมาในฐานะภรรยาของเขา คงไม่เป็นแบบครั้งนั้นหรอกมั้ง"นายหัวคะ" เห็นรถที่ออกไปรับนายหัววิ่งเข้ามามะนาวก็รีบมารับหน้า "?" แต่พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นติ
"ขอโทษครับนาย" มาถึงวัลลภก็โค้งลำตัวขอโทษยกใหญ่เลย"มึงได้รับโทษแน่" ตอนนี้อยู่ที่สาธารณะถ้าทำอะไรลงไปเดี๋ยวคนก็มองเลยต้องทดไว้ในใจก่อน"แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ""มึงติดต่อรถพยาบาลมาหรือยัง""ติดต่อมาแล้วครับเดี๋ยวก็คงมาถึง""ให้รถพยาบาลรับตัวเธอเข้าไปรักษา""ดูนายจะเป็นห่วงเธอจังเลยนะครับ""เรื่องของมึงยังไม่เคลียร์ไม่ต้องมาเสือกเรื่องคนอื่น""ขอโทษครับนายหัว" จะพูดก็พูดไม่ได้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฝีมือของเสี่ยพ่อของนายหัวนั่นแหละ เพราะภูริสั่งไว้ห้ามพูดให้ลูกชายฟัง รวมไปถึงเรื่องสถานที่ที่ถูกจัดไว้ให้ก็เป็นฝีมือของเสี่ยภูริเช่นกันข้าวสวยถูกพาตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในตัวกรุงเทพฯ ส่วนภูริก็แยกจากเธอตั้งแต่ตอนที่รถพยาบาลมารับตัวแล้ว"เป็นไงบ้างวะชีวิตมีความสุขดีอยู่หรือเปล่า""ก็เรื่อยๆ""วันนี้ต้องการเด็กกี่คนบอกมาได้เลยเดี๋ยวจัดให้""กูแค่อยากมาดื่ม มึงมาดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อยสิวะ""มีเรื่องกับพ่ออีกแล้วใช่ไหมเนี่ย""เปล่าหรอก""ถ้างั้นเดี๋ยวกูไปเคลียร์งานก่อนจะมานั่งดื่มเป็นเพื่อน อย่าเพิ่งเมาก่อนแล้วกัน" ว่าแล้วอัศวินก็ออกจากห้อง VIP ไป ที่ห้องทำงานส่วนทางด
"โอ๊ย กัดลงมาได้ยังไงวะ!" ขณะที่กำลังเร่งความเร็ว ข้าวสวยก็กัดลงที่ต้นแขนของเขา จนภูเบศต้องถอดมันออกก่อนเพราะหมดอารมณ์"ออกไปนะ!" เธอรีบขยับตัวให้ออกห่างเขามากที่สุด"ไม่ไปโว้ย" "ฉันบอกให้ออกไปไง!" หญิงสาวควานหาของทุ่นแรงที่จะใช้ไล่เขาออกไป แต่ในมุ้งนี้นอกจากหมอนกับพัดลมแล้วก็ไม่มีอะไร ถ้าจะเอาพัดลมปาเดี๋ยวก็ไม่มีพัดลมใช้เธอเลยต้องใช้หมอน"ไปก็ได้วะ" ภูเบศเก็บของสงวนเข้าที่ไว้ก่อน จะให้เอาอีกก็คงไม่มีอารมณ์แล้ว เจ็บก็เจ็บกัดลงมาได้ยังไง ดีนะเนื้อไม่ขาดติดปากไปด้วย"ไอ้บ้าไอ้เลว" ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่เสร็จสมอารมณ์หมายแต่มันก็ทำให้เธอเจ็บจุกได้ กระแทกขนาดนั้น เราจะท้องไหมเนี่ย แต่มันยังไม่ปล่อยน้ำคงไม่ท้องหรอกมั้งภูเบศลงมาข้างล่างก็เลยต้องใช้โต๊ะไม้ที่อยู่ข้างล่างเป็นที่นอน แต่โต๊ะไม้ทำขึ้นมาเพื่อนั่งพอใช้เป็นที่นอนก็อึดอัด เพราะความยาวของมันไม่เท่าความยาวของร่างกายเขาเลย ไอ้วัลลภมึงอย่าให้กูเจอตัวมึงนะ กูจะเอาให้มึงหยอดน้ำข้าวต้มเลยคอยดูสิ วันที่สามแล้วยังไม่เข้ามาดูเลยว่าเจ้านายเป็นยังไง แต่ขณะที่กำลังคิดโมโหให้ลูกน้องเขาก็คิดไปถึงเรื่องเมื่อสักครู่ ทำไมจะดูไม่ออกว่าเธอยังไม่มีอะไ
"แอะๆ กรี๊ดดดด" หญิงสาวพยายามจะขึ้นจากน้ำแต่เหมือนมีคนดึงตัวเธอไว้เลยถีบเข้าให้ พอเป็นอิสระเธอก็โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ"โอ๊ยย ถีบมาได้ยังไงวะ!""คุณ?!""ก็กูน่ะสิ!!""คุณเล่นบ้าอะไรล่ะ""ถ้าไม่ทำแบบนี้เธอจะลงมางมหอยช่วยฉันเหรอ""ใครจะลงมางมหอยช่วยคุณ" ที่จริงเธอไม่ได้กระโดดลงมาดูเขาด้วยซ้ำแต่ลื่นตกลงมาเอง ข้าวสวยกำลังจะปีนขึ้นไปแต่ถูกเขาดึงตัวกลับลงมาจนผ้าถุงที่เธอใส่อยู่หลุดออก"กรี๊ดดด" หญิงสาวรีบคว้าดึงผ้าถุงไว้ แต่เขาก็ยังแกล้งดึงปลายผ้าถุงไม่ให้เธอใส่กลับคืนไปได้"คุณภูเบศอย่าเล่นแบบนี้สิ!""จะช่วยฉันเก็บหอยไหมล่ะ""ช่วยก็ได้ปล่อยผ้าถุงฉันก่อน" เขาเลยยอมปล่อยผ้าถุงให้เธอใส่มันให้เรียบร้อยทั้งสองช่วยกันงมหอย ภูเบศงมน้ำลึกหน่อยส่วนเธองมช่วงริมตลิ่ง"กรี๊ดดด" ขณะที่ใจจดใจจ่อกับการงมหอยอยู่ดีๆ ขาของเธอก็เหมือนมีอะไรมาจับ"อ้าว ฉันนึกว่าได้ปลา ที่ไหนได้ขาคนหรือนี่""คนบ้าฉันตกใจหมดเลย!""ฮ่าาๆ" ที่จริงเขามองเห็นแล้วล่ะ ตั้งใจอยากจะแกล้งมากกว่า "อ้าวแล้วนั่นจะไปไหน""จะขึ้นน่ะสิ""พอแล้วเหรอ""คุณงมต่อไปเลยนะ!" ข้าวสวยเอาที่เขางมได้ขึ้นมาด้วย พอเดินมาถึงบ้านเธอก็หุงข้าวทิ้งไว้ก่อนเลยระห
อืมมม ทานเข้าไปคำแรกก็รู้สึกถึงความเผ็ดของพริกและกระเทียม แต่ก็ตัดเค็มด้วยน้ำปลามะนาวแถมยังมีรสหวานติดปลายลิ้นเล็กน้อยข้าวสวยก็ไม่ได้มองเขาแบบเต็มตาหรอกแค่แอบชำเลืองมอง เห็นว่าเขาเริ่มตักคำที่สอง คำที่สามคิดว่าเขาคงกินได้แหละแบบนี้ก็กินได้ด้วยเหรอ กินไปจนข้าวจะหมดจานก็ยังมีคำถามเดิมผุดเข้ามาในหัว แสดงว่าชาวบ้านที่ไม่มีกำลังทรัพย์ที่อยู่ตามหัวไร่ปลายนาเขาหากินกันแบบนี้เองเหรออิ่มแล้วข้าวสวยก็ยกเอาถ้วยข้าวตัวเองเข้าไปล้าง พอออกมาก็เห็นว่าเขาอิ่มแล้วเช่นกัน แต่เขาไม่เก็บถ้วยชามที่เหลือ "นี่คุณกินทิ้งไว้แบบนั้นไม่คิดจะเก็บเลยหรือไง" "ก็เก็บเองสิ""ที่นี่ไม่มีคนรับใช้ใครกินก็ต้องเก็บ ของที่เหลือคุณกินเสร็จคนสุดท้ายคุณก็ต้องเก็บ""เรื่องอะไร" ว่าแล้วภูเบศก็เดินออกไปจากบ้าน เขาเดินดูบรรยากาศรอบๆ ทำไมไอ้วัลลภถึงหาที่แบบนี้ได้เร็วจัง เรื่องนี้เขาก็คิดอยู่หรอก เพราะที่นี่มันบรรยากาศดีมากเลย แถมเครื่องอำนวยความสะดวกก็มีครบถึงแม้บ้านจะเป็นแค่บ้านไม้ชั้นล่างเปิดโล่งแต่ก็มีห้องครัวไว้ทำอาหาร ไม้ผนังห้องครัวยังใหม่ๆ อยู่เลยเห็นเขาไม่เก็บถ้วยชามข้าวสวยเลยต้องเป็นคนเก็บเอง เก็บเสร็จเธอก็ขึ้นไป
"ตามไปใช่ไหมครับ" เห็นนายหัวเดินมาขึ้นรถก็รู้แล้วว่าต้องตามรถคันนั้นไป "รู้แล้วมึงจะถามทำไมรีบตามไปสิ""แต่คนของเสี่ยคุ้มกันแน่นหนาเลยนะครับ""ตามไปก่อน ค่อยหาโอกาสอีกที""ครั้งนี้ถ้าเสี่ยรู้ว่านายหัวทำแบบเดิมผมกลัวว่า..""มึงไม่ต้องพูดมากได้ไหมกูบอกให้ตามไง!"รถคนของพ่อเขาขับพาเธอมาที่บริษัทแห่งหนึ่ง และภูเบศก็ตามมาจนถึงที่นี่"มาทำไมที่นี่วะ""ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ""สวัสดีค่ะคุณหนู" พนักงานต้อนรับรีบออกมาต้อนรับเหมือนเช่นเคย"สวัสดีค่ะ"ทุกครั้งคนของเสี่ยมาส่งที่นี่ก็จะรออยู่แถวนี้ แต่ครั้งนี้รถทั้งสองคันขับออกไป เลยเป็นโอกาสให้วัลลภได้เข้ามาสอบถามด้วยความกะล่อนของวัลลภถึงแม้พนักงานจะบ่ายเบี่ยงแต่ก็ยังชวนคุยจนรู้ว่าผู้หญิงที่เข้าไปเมื่อสักครู่เป็นลูกสาวของท่านประธาน และรู้ไปอีกว่า ท่านประธานคนนี้คือคนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่ง"หึ! คงจะเข้ามาเสพสุขกันทั้งครอบครัวเลยสิ ถึงกับยกบริษัทให้เลย""แล้วนายหัวจะเอายังไงต่อดีครับ""ครั้งนี้กูว่าลากลงใต้เลยดีกว่าไหม""จะใต้หรือเหนือตอนนี้เสี่ยก็รู้ที่กบดานของเราแล้วครับ""มึงมีหัวไว้กั้นหูเฉยๆ หรือวะช่วยกูคิดหน่อยสิ"หลังจากคุยกับพ่ออยู่ไม่นานข