"ตามไปใช่ไหมครับ" เห็นนายหัวเดินมาขึ้นรถก็รู้แล้วว่าต้องตามรถคันนั้นไป
"รู้แล้วมึงจะถามทำไมรีบตามไปสิ"
"แต่คนของเสี่ยคุ้มกันแน่นหนาเลยนะครับ"
"ตามไปก่อน ค่อยหาโอกาสอีกที"
"ครั้งนี้ถ้าเสี่ยรู้ว่านายหัวทำแบบเดิมผมกลัวว่า.."
"มึงไม่ต้องพูดมากได้ไหมกูบอกให้ตามไง!"
รถคนของพ่อเขาขับพาเธอมาที่บริษัทแห่งหนึ่ง และภูเบศก็ตามมาจนถึงที่นี่
"มาทำไมที่นี่วะ"
"ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ"
"สวัสดีค่ะคุณหนู" พนักงานต้อนรับรีบออกมาต้อนรับเหมือนเช่นเคย
"สวัสดีค่ะ"
ทุกครั้งคนของเสี่ยมาส่งที่นี่ก็จะรออยู่แถวนี้ แต่ครั้งนี้รถทั้งสองคันขับออกไป เลยเป็นโอกาสให้วัลลภได้เข้ามาสอบถาม
ด้วยความกะล่อนของวัลลภถึงแม้พนักงานจะบ่ายเบี่ยงแต่ก็ยังชวนคุยจนรู้ว่าผู้หญิงที่เข้าไปเมื่อสักครู่เป็นลูกสาวของท่านประธาน และรู้ไปอีกว่า ท่านประธานคนนี้คือคนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่ง
"หึ! คงจะเข้ามาเสพสุขกันทั้งครอบครัวเลยสิ ถึงกับยกบริษัทให้เลย"
"แล้วนายหัวจะเอายังไงต่อดีครับ"
"ครั้งนี้กูว่าลากลงใต้เลยดีกว่าไหม"
"จะใต้หรือเหนือตอนนี้เสี่ยก็รู้ที่กบดานของเราแล้วครับ"
"มึงมีหัวไว้กั้นหูเฉยๆ หรือวะช่วยกูคิดหน่อยสิ"
หลังจากคุยกับพ่ออยู่ไม่นานข้าวสวยก็ลงมา
"คุณหนูจะกลับแล้วหรือคะ"
"ใช่ค่ะ"
"เดินทางปลอดภัยนะคะ"
ข้าวสวยเดินออกมาก็มีรถคันหนึ่งวิ่งมาจอดด้านหน้า แล้วเธอก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งเบาะหลังโดยไม่ได้สังเกตอะไรเลย เพราะรถคันนี้ก็คล้ายกับรถที่เธอนั่งมา
"ไปร้านเสริมสวยนะคะ" ยังไม่อยากกลับบ้านเลยจะไปแต่งเสริมเติมสวยสักหน่อย พอสั่งคนขับแล้วเธอก็นั่งมองดูความวุ่นวายด้านนอก เพราะไม่รู้ว่ารถใครเป็นรถใครรวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าริมทาง แต่ทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้มันก็มีเสน่ห์ของมันเอง
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่ตอนที่มองสิ่งรอบข้างตัวรถแล้ว
เราอยู่ที่ไหน? เธอจำได้ว่ากำลังนั่งอยู่บนรถและสั่งให้คนขับไปร้านเสริมสวย แต่ทำไมรอบข้างมันดูเงียบๆ จัง
"ช่วยด้วยค่ะแถวนี้มีใครอยู่ไหมคะ" ข้าวสวยลุกขึ้นมาแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างบ้านไม้ก็ไม่เห็นว่าแถวนี้จะมีคนอยู่เลย แต่พอจะออกมาเปิดประตูก็เปิดไม่ได้
ก๊อกๆ "ช่วยด้วย"
แกร็ก.. ตอนที่กำลังจะตะโกนให้คนช่วยอีกรอบประตูก็เปิดออกก่อน
"คุณ?" และคนที่เปิดประตูเข้ามาก็คือผู้ชายที่จดทะเบียนสมรสกับเธอนั่นเอง ว่าแต่เขาจะจับเรามาทำไมอีก เขาเป็นบ้าหรือเปล่าเนี่ย
"ชีวิตช่วงนี้คงสุขสบายมากสินะ"
"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?"
"เผอิญว่าฉันไม่ชอบเห็นใครมีความสุขอยู่บนกองสมบัติของฉัน"
"?" แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยากหรอกเพราะเขาไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับเธอแต่แรกแล้ว คนแบบนี้ไม่เหมาะสมที่จะมีครอบครัวหรอก
"งงอะไร"
"ฉันงงว่าคุณจะจับตัวฉันมาทำพระแสงอะไรอีก"
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ชอบเห็นใครสุขสบาย"
"เลยจะพาตัวฉันมาลำบากว่างั้น" ดีเหมือนกันเธอจะได้ไม่ระแวงพ่อของเขา ทุกวันนี้แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนกลัวว่าท่านจะเข้ามาหาในห้อง "แล้วที่นี่มันที่ไหน ใช่ปางไม้ของคุณไหม"
"ไม่ใช่" ถ้าพาตัวเธอไปที่ปางไม้พ่อก็ต้องตามเจออยู่แล้ว เขาเลยให้วัลลภเช่าสถานที่ที่ดูห่างไกลความเจริญหน่อย แล้วทำไมเขาต้องตอบเธอด้วยเนี่ย
"นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว"
"แหกตาดูพระอาทิตย์เองสิ"
"ฉันจะบอกว่าฉันหิว"
"หิวก็ไปจับปลาจับหอย"
"จับปลาจับหอย?"
"ใช่ข้างบ้านหลังนี้มีคลองน้ำ"
"คุณจะบ้าเหรอ"
"ทำไม พ่อฉันเลี้ยงเธอดีเกินไปจนเป็นง่อยทำอะไรไม่ได้งั้นหรือ"
ข้าวสวยผลักลำตัวของเขาออกจากทางแล้วเธอก็เดินลงมาข้างล่างดู
"ทุ่งนา?" ลงมาก็เห็นว่าบ้านหลังนี้มีทุ่งนาล้อมรอบ และมีคลองส่งน้ำ อยู่ข้างตัวบ้าน "คุณพาฉันมาที่จังหวัดไหนเนี่ย" คราวก่อนขึ้นเหนือยังพอรู้ได้
"อยากรู้ไปทำไม จะหาทางกลับไปหาตาแก่นั่นอีกเหรอ"
"คุณมีความแค้นอะไรกับพ่อนักหนา"
"คนที่รู้เรื่องนี้ส่วนมากเป็นปุ๋ยหมดแล้ว เธออยากรู้ไหมล่ะ"
"มะ.. ไม่อยากรู้ก็ได้" เห็นแววตาเขาจริงจังกับคำพูดเมื่อสักครู่มากเลยไม่กวนโมโหเขาดีกว่า "ฉันหิวจริงๆ นะ คุณหาอะไรให้ฉันกินก่อนได้ไหม" ไม่รู้ว่าเจอยาสลบเข้าไปนานแค่ไหนแล้ว แต่ไอ้บ้านี่มันโรคจิตหรือเปล่าลักพาตัวเมียตัวเองยังต้องใช้ยาสลบอีกเหรอ
"ก็บอกแล้วไงว่าให้ไปหาปลาหาหอยในคลอง"
พูดกับคนแบบนี้คงไม่รู้เรื่องหรอก เธอเลยมองดูว่าตรงไหนที่เป็นครัวบ้าง และมองไปเห็นห้องหนึ่งที่มีไม้ไผ่สานเพื่อกั้นเป็นห้องเลยไปเปิดดู
เปิดเข้ามาก็เห็นมีเครื่องครัวเตาแก๊ส แถมมีตู้เย็นด้วย ก็ไม่ได้กันดารอะไรมาก แต่พอเปิดดูตู้เย็นไม่มีอะไรเลยนอกจากน้ำดื่ม
"จะพามาอยู่ที่นี่ทั้งทีทำไมไม่ซื้ออะไรใส่ตู้เย็นบ้าง"
"ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะไม่ให้เธอสบาย" มาครั้งนี้เขาเล่นบทบาทใหม่ไม่เล่นบทบาทนายหัวเหมือนเดิมแล้ว และบ้านหลังนี้ก็มีแค่เขากับเธอ
แต่ข้าวสวยไม่สนใจหรอกว่าเขาจะทำอะไร เธอเลยลองค้นดูว่าในครัวมีข้าวสารพอจะหุงได้ไหมเพราะเห็นมีเครื่องครัวอยู่ครบเลย แล้วพอเปิดชั้นข้างล่างดูก็เห็นว่ามีข้าวสารอยู่จริงๆ ด้วย ก่อนอื่นต้องหุงข้าวก่อน แล้วค่อยหากับข้าวทีหลัง
"เธอทำพวกนี้เป็นด้วยเหรอ"
"ก็แค่หุงข้าวทำไมจะทำไม่เป็น" หุงข้าวเสร็จข้าวสวยก็ออกมาดูว่าแถวนี้มีผักพอให้เก็บไปลวกจิ้มกับน้ำพริกไหม จะให้หาปลาเธอคงหาไม่เป็นหรอก อุปกรณ์หาปลาก็ไม่มี ไม่รู้ว่าคลองนี้มีปลาหรือเปล่าด้วย
"เธอทำอะไร"
"เก็บผักบุ้งไง ยืนอยู่เฉยๆ ทำไมมาช่วยกันเก็บสิ"
"จะเอาไปทำอะไร"
เธอไม่ตอบหรอกมัวแต่พูดเดี๋ยวก็หิวตายกันพอดี เก็บยอดผักบุ้งจนคิดว่าพอแล้วข้าวสวยเลยเอาเข้ามาล้างทำความสะอาด แล้วต้มน้ำลวก
ตอนที่ลวกผักบุ้งเธอก็เอาพริกกระเทียมมาตำและก็ปรุงเครื่องปรุงแบบง่ายๆ
"ถ้ามีไข่สักฟองสองฟองก็คงจะดี คุณออกไปซื้อแถวนี้ได้ไหมล่ะ"
"เธอกล้าใช้ฉันเหรอ"
"พ่อคนขี้เก๊กเอ้ย"
"พูดอะไรนะ"
"เปล่าถอยไปสิฉันจะตักข้าว"
ภูเบศมองเธอนำอาหารกับข้าวสวยมาวางโต๊ะม้าหินอ่อน แล้วเธอก็ตักน้ำพริกที่ตำเมื่อสักครู่ราดกับข้าวและหยิบผักลวกขึ้นมาจิ้มน้ำพริก
"แบบนี้ก็กินได้เหรอ?" เกิดมาพ่อก็หาทุกอย่างไว้ให้หมดแล้วเขาเลยไม่มีความทุกข์ยากลำบากอะไร
"ถ้าหิวก็ไปตักข้าวมากิน จะยืนมองอยู่ทำไม" ว่าแล้วเธอก็ตักข้าวใส่ปากอีกคำแล้วก็เคี้ยว ก่อนจะหยิบผักบุ้งมาจิ้มและก็เคี้ยวตาม
ใครจะไปกินได้ ..แต่พอเห็นอีกฝ่ายกินแล้วก็รู้สึกอยากลองชิมดูเลยเข้าไปตักข้าวออกมาอีกจานหนึ่ง..
ด้วยความที่เมื่อคืนดื่มหนักพอขึ้นเครื่องเขาก็หลับ เพราะแบบนี้แหละบนเครื่องบินส่วนตัวของเขาเลยต้องมีเตียงนอนไว้ให้ด้วย และเดินทางไม่นานก็มาถึงที่หมาย"นี่คุณภูเบศตื่นได้แล้วค่ะ""อืมม!" ชายหนุ่มพลิกตัวแล้วเอาหมอนขึ้นมาปิดหูตัวเองไว้"จะนอนอยู่นี่ใช่ไหม ถ้างั้นฉันไปคนเดียวก็ได้""อะไรของเธอวะ!" เขาเลยจำเป็นต้องลุก เดินลงมาจากเครื่องก็มีรถมาจอดรอรับอยู่แล้ว"สวัสดีครับนายหัว""โผล่หัวมาได้แล้วหรือพวกมึง""ขอโทษครับนายหัวพวกเราถูกคุมกำเนิดครับ""เดี๋ยวกูไล่ออกให้หมดเลยนี่ พวกมึงเป็นลูกน้องใครกันแน่วะระหว่างกูกับพ่อกู""เป็นลูกน้องนายหัวครับ แต่ไม่กล้างัดข้อกับเสี่ยครับ"เธอก็อยากรู้อยู่หรอกว่าอีตาบ้าเนี่ยไปมีเรื่องมีราวอะไรกับพ่อตัวเอง เพราะเธอก็เห็นอยู่ว่าพ่อของเขารักเขามากขนาดไหนใช้เวลานั่งรถมาร่วมชั่วโมงก็มาถึงปางไม้ตอนรถวิ่งเข้ามาเธอก็รู้สึกใจคอไม่ดี เพราะเหตุการณ์ครั้งแรกที่ถูกเขาพาตัวมาอยู่ที่นี่มันยังคงฝังใจ แต่ครั้งนี้เธอมาในฐานะภรรยาของเขา คงไม่เป็นแบบครั้งนั้นหรอกมั้ง"นายหัวคะ" เห็นรถที่ออกไปรับนายหัววิ่งเข้ามามะนาวก็รีบมารับหน้า "?" แต่พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นติ
"ขอโทษครับนาย" มาถึงวัลลภก็โค้งลำตัวขอโทษยกใหญ่เลย"มึงได้รับโทษแน่" ตอนนี้อยู่ที่สาธารณะถ้าทำอะไรลงไปเดี๋ยวคนก็มองเลยต้องทดไว้ในใจก่อน"แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ""มึงติดต่อรถพยาบาลมาหรือยัง""ติดต่อมาแล้วครับเดี๋ยวก็คงมาถึง""ให้รถพยาบาลรับตัวเธอเข้าไปรักษา""ดูนายจะเป็นห่วงเธอจังเลยนะครับ""เรื่องของมึงยังไม่เคลียร์ไม่ต้องมาเสือกเรื่องคนอื่น""ขอโทษครับนายหัว" จะพูดก็พูดไม่ได้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฝีมือของเสี่ยพ่อของนายหัวนั่นแหละ เพราะภูริสั่งไว้ห้ามพูดให้ลูกชายฟัง รวมไปถึงเรื่องสถานที่ที่ถูกจัดไว้ให้ก็เป็นฝีมือของเสี่ยภูริเช่นกันข้าวสวยถูกพาตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในตัวกรุงเทพฯ ส่วนภูริก็แยกจากเธอตั้งแต่ตอนที่รถพยาบาลมารับตัวแล้ว"เป็นไงบ้างวะชีวิตมีความสุขดีอยู่หรือเปล่า""ก็เรื่อยๆ""วันนี้ต้องการเด็กกี่คนบอกมาได้เลยเดี๋ยวจัดให้""กูแค่อยากมาดื่ม มึงมาดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อยสิวะ""มีเรื่องกับพ่ออีกแล้วใช่ไหมเนี่ย""เปล่าหรอก""ถ้างั้นเดี๋ยวกูไปเคลียร์งานก่อนจะมานั่งดื่มเป็นเพื่อน อย่าเพิ่งเมาก่อนแล้วกัน" ว่าแล้วอัศวินก็ออกจากห้อง VIP ไป ที่ห้องทำงานส่วนทางด
"โอ๊ย กัดลงมาได้ยังไงวะ!" ขณะที่กำลังเร่งความเร็ว ข้าวสวยก็กัดลงที่ต้นแขนของเขา จนภูเบศต้องถอดมันออกก่อนเพราะหมดอารมณ์"ออกไปนะ!" เธอรีบขยับตัวให้ออกห่างเขามากที่สุด"ไม่ไปโว้ย" "ฉันบอกให้ออกไปไง!" หญิงสาวควานหาของทุ่นแรงที่จะใช้ไล่เขาออกไป แต่ในมุ้งนี้นอกจากหมอนกับพัดลมแล้วก็ไม่มีอะไร ถ้าจะเอาพัดลมปาเดี๋ยวก็ไม่มีพัดลมใช้เธอเลยต้องใช้หมอน"ไปก็ได้วะ" ภูเบศเก็บของสงวนเข้าที่ไว้ก่อน จะให้เอาอีกก็คงไม่มีอารมณ์แล้ว เจ็บก็เจ็บกัดลงมาได้ยังไง ดีนะเนื้อไม่ขาดติดปากไปด้วย"ไอ้บ้าไอ้เลว" ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่เสร็จสมอารมณ์หมายแต่มันก็ทำให้เธอเจ็บจุกได้ กระแทกขนาดนั้น เราจะท้องไหมเนี่ย แต่มันยังไม่ปล่อยน้ำคงไม่ท้องหรอกมั้งภูเบศลงมาข้างล่างก็เลยต้องใช้โต๊ะไม้ที่อยู่ข้างล่างเป็นที่นอน แต่โต๊ะไม้ทำขึ้นมาเพื่อนั่งพอใช้เป็นที่นอนก็อึดอัด เพราะความยาวของมันไม่เท่าความยาวของร่างกายเขาเลย ไอ้วัลลภมึงอย่าให้กูเจอตัวมึงนะ กูจะเอาให้มึงหยอดน้ำข้าวต้มเลยคอยดูสิ วันที่สามแล้วยังไม่เข้ามาดูเลยว่าเจ้านายเป็นยังไง แต่ขณะที่กำลังคิดโมโหให้ลูกน้องเขาก็คิดไปถึงเรื่องเมื่อสักครู่ ทำไมจะดูไม่ออกว่าเธอยังไม่มีอะไ
"แอะๆ กรี๊ดดดด" หญิงสาวพยายามจะขึ้นจากน้ำแต่เหมือนมีคนดึงตัวเธอไว้เลยถีบเข้าให้ พอเป็นอิสระเธอก็โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ"โอ๊ยย ถีบมาได้ยังไงวะ!""คุณ?!""ก็กูน่ะสิ!!""คุณเล่นบ้าอะไรล่ะ""ถ้าไม่ทำแบบนี้เธอจะลงมางมหอยช่วยฉันเหรอ""ใครจะลงมางมหอยช่วยคุณ" ที่จริงเธอไม่ได้กระโดดลงมาดูเขาด้วยซ้ำแต่ลื่นตกลงมาเอง ข้าวสวยกำลังจะปีนขึ้นไปแต่ถูกเขาดึงตัวกลับลงมาจนผ้าถุงที่เธอใส่อยู่หลุดออก"กรี๊ดดด" หญิงสาวรีบคว้าดึงผ้าถุงไว้ แต่เขาก็ยังแกล้งดึงปลายผ้าถุงไม่ให้เธอใส่กลับคืนไปได้"คุณภูเบศอย่าเล่นแบบนี้สิ!""จะช่วยฉันเก็บหอยไหมล่ะ""ช่วยก็ได้ปล่อยผ้าถุงฉันก่อน" เขาเลยยอมปล่อยผ้าถุงให้เธอใส่มันให้เรียบร้อยทั้งสองช่วยกันงมหอย ภูเบศงมน้ำลึกหน่อยส่วนเธองมช่วงริมตลิ่ง"กรี๊ดดด" ขณะที่ใจจดใจจ่อกับการงมหอยอยู่ดีๆ ขาของเธอก็เหมือนมีอะไรมาจับ"อ้าว ฉันนึกว่าได้ปลา ที่ไหนได้ขาคนหรือนี่""คนบ้าฉันตกใจหมดเลย!""ฮ่าาๆ" ที่จริงเขามองเห็นแล้วล่ะ ตั้งใจอยากจะแกล้งมากกว่า "อ้าวแล้วนั่นจะไปไหน""จะขึ้นน่ะสิ""พอแล้วเหรอ""คุณงมต่อไปเลยนะ!" ข้าวสวยเอาที่เขางมได้ขึ้นมาด้วย พอเดินมาถึงบ้านเธอก็หุงข้าวทิ้งไว้ก่อนเลยระห
อืมมม ทานเข้าไปคำแรกก็รู้สึกถึงความเผ็ดของพริกและกระเทียม แต่ก็ตัดเค็มด้วยน้ำปลามะนาวแถมยังมีรสหวานติดปลายลิ้นเล็กน้อยข้าวสวยก็ไม่ได้มองเขาแบบเต็มตาหรอกแค่แอบชำเลืองมอง เห็นว่าเขาเริ่มตักคำที่สอง คำที่สามคิดว่าเขาคงกินได้แหละแบบนี้ก็กินได้ด้วยเหรอ กินไปจนข้าวจะหมดจานก็ยังมีคำถามเดิมผุดเข้ามาในหัว แสดงว่าชาวบ้านที่ไม่มีกำลังทรัพย์ที่อยู่ตามหัวไร่ปลายนาเขาหากินกันแบบนี้เองเหรออิ่มแล้วข้าวสวยก็ยกเอาถ้วยข้าวตัวเองเข้าไปล้าง พอออกมาก็เห็นว่าเขาอิ่มแล้วเช่นกัน แต่เขาไม่เก็บถ้วยชามที่เหลือ "นี่คุณกินทิ้งไว้แบบนั้นไม่คิดจะเก็บเลยหรือไง" "ก็เก็บเองสิ""ที่นี่ไม่มีคนรับใช้ใครกินก็ต้องเก็บ ของที่เหลือคุณกินเสร็จคนสุดท้ายคุณก็ต้องเก็บ""เรื่องอะไร" ว่าแล้วภูเบศก็เดินออกไปจากบ้าน เขาเดินดูบรรยากาศรอบๆ ทำไมไอ้วัลลภถึงหาที่แบบนี้ได้เร็วจัง เรื่องนี้เขาก็คิดอยู่หรอก เพราะที่นี่มันบรรยากาศดีมากเลย แถมเครื่องอำนวยความสะดวกก็มีครบถึงแม้บ้านจะเป็นแค่บ้านไม้ชั้นล่างเปิดโล่งแต่ก็มีห้องครัวไว้ทำอาหาร ไม้ผนังห้องครัวยังใหม่ๆ อยู่เลยเห็นเขาไม่เก็บถ้วยชามข้าวสวยเลยต้องเป็นคนเก็บเอง เก็บเสร็จเธอก็ขึ้นไป
"ตามไปใช่ไหมครับ" เห็นนายหัวเดินมาขึ้นรถก็รู้แล้วว่าต้องตามรถคันนั้นไป "รู้แล้วมึงจะถามทำไมรีบตามไปสิ""แต่คนของเสี่ยคุ้มกันแน่นหนาเลยนะครับ""ตามไปก่อน ค่อยหาโอกาสอีกที""ครั้งนี้ถ้าเสี่ยรู้ว่านายหัวทำแบบเดิมผมกลัวว่า..""มึงไม่ต้องพูดมากได้ไหมกูบอกให้ตามไง!"รถคนของพ่อเขาขับพาเธอมาที่บริษัทแห่งหนึ่ง และภูเบศก็ตามมาจนถึงที่นี่"มาทำไมที่นี่วะ""ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ""สวัสดีค่ะคุณหนู" พนักงานต้อนรับรีบออกมาต้อนรับเหมือนเช่นเคย"สวัสดีค่ะ"ทุกครั้งคนของเสี่ยมาส่งที่นี่ก็จะรออยู่แถวนี้ แต่ครั้งนี้รถทั้งสองคันขับออกไป เลยเป็นโอกาสให้วัลลภได้เข้ามาสอบถามด้วยความกะล่อนของวัลลภถึงแม้พนักงานจะบ่ายเบี่ยงแต่ก็ยังชวนคุยจนรู้ว่าผู้หญิงที่เข้าไปเมื่อสักครู่เป็นลูกสาวของท่านประธาน และรู้ไปอีกว่า ท่านประธานคนนี้คือคนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่ง"หึ! คงจะเข้ามาเสพสุขกันทั้งครอบครัวเลยสิ ถึงกับยกบริษัทให้เลย""แล้วนายหัวจะเอายังไงต่อดีครับ""ครั้งนี้กูว่าลากลงใต้เลยดีกว่าไหม""จะใต้หรือเหนือตอนนี้เสี่ยก็รู้ที่กบดานของเราแล้วครับ""มึงมีหัวไว้กั้นหูเฉยๆ หรือวะช่วยกูคิดหน่อยสิ"หลังจากคุยกับพ่ออยู่ไม่นานข