Share

บทที่ 9

last update Last Updated: 2025-08-21 12:27:43

"เสี่ยครับคุณสินธุมาขอพบครับ"

"ให้เข้ามา"

"เชิญข้างในครับ" คนของเสี่ยภูริพาสินธุพ่อของข้าวสวยเข้ามาส่งแล้วก็ออกไป

"ตอนนี้มีความคืบหน้ายังไงบ้างครับเสี่ย" สินธุร้อนใจมากเรื่องที่ลูกสาวหายตัวไป

"เชิญนั่งก่อนสิคุณสินธุ เรื่องนั้นคุณอย่ากังวลให้มากยังไงผมก็ตามให้ถึงที่สุดอยู่แล้ว"

ทีแรกภูริก็ไม่พอใจมากเรื่องที่ณภัทรเปลี่ยนตัวเจ้าสาว เพราะตอนแรกพูดกันไว้ว่าเจ้าสาวคือบุตรสาวแท้ๆ ของณภัทร ต่อมาเปลี่ยนเป็นลูกสาวของหุ้นส่วนที่ชื่อสินธุ แต่พอเจอหน้าสินธุก็จำได้ในทันทีว่าเขาคนนี้เคยช่วยชีวิตตนเมื่อสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น เพราะตอนนั้นกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวศัตรูมีรอบด้าน สินธุนี่แหละเสี่ยงชีวิตช่วยจนได้มาเป็นใหญ่ทุกวันนี้ เพราะแบบนี้แหละภูริถึงไม่ปฏิเสธบุตรสาวของสินธุ

"ลูกสาวผมยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมครับ"

เรื่องนี้ภูริยังให้คำตอบไม่ได้เพราะเธอหายออกไปจากบ้านโดยไร้ร่องรอย ถ้าถูกลักพาตัวออกไปคนที่พาไปต้องเป็นคนใกล้ตัวถึงสามารถหลบเลี่ยงกล้องวงจรปิดได้ทุกมุมเลย หรืออีกอย่างเธออาจจะหนีงานแต่งถึงได้ไม่มีร่องรอยให้สืบหาได้เลย

"ผมมีลูกสาวแค่คนเดียวฝากเสี่ยช่วยตามหาหน่อยนะครับ" ที่จริงสินธุจำไม่ได้หรอกว่าเคยช่วยชีวิตเสี่ยภูริไว้ในสมัยนั้น เพราะไม่ว่าใครเดือดร้อนท่านก็ยื่นมือเข้ามาช่วยแทบจะทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนเลว แต่ถ้าเป็นคนไม่ดีสินธุก็จะให้แง่คิดที่ดีเพื่อไปตั้งต้นชีวิตใหม่

"เรื่องนี้ผมไม่ทิ้งอยู่แล้ว ว่าแต่การร่วมลงทุนของสองบริษัทเรา.."

"ถ้าเป็นเรื่องการร่วมลงทุนผมต้องประสานไปที่คุณณภัทรอีกทีครับ เพราะหุ้นของผมมีไม่มากพอที่จะเข้าไปร่วมบริหารในบริษัท" ไม่ใช่แค่ภูริหรอกที่สินธุเคยช่วย แม้แต่ณภัทรสินธุก็เคยช่วย ณภัทรเลยตอบแทนด้วยหุ้นของบริษัทแต่ก็ให้ไม่มากตามแบบฉบับคนเห็นแก่ตัว

"อะไรนะ?" เรื่องนี้ภูริไม่รู้เลยคิดว่าสินธุมีหุ้นในบริษัทนั้นรองจากณภัทร

เย็นวันนั้น.. ข้าวสวยก็ต้องกลับมานั่งจับเข่าอยู่ที่บ้านไม้หลังเดิม แต่วันนี้เธอมีความหวังขึ้นมากภาวนาขออย่าให้เขาเปลี่ยนใจเท่านั้นพอ

ก๊อกแก๊ก~ 

เสียงอะไร? หญิงสาวที่กำลังนั่งคิดอะไรอยู่ก็ได้ยินเสียงดังมาจากทางหน้าต่างเหมือนมีใครมางัด

ก๊อกแก๊ก~

"ใคร?" ครั้งนี้เสียงชัดเลย ด้วยความตกใจเธอเลยตะโกนออกไปถาม

"ฉันเองมะนาว"

"มะนาวเหรอเธอมาทำอะไรตรงนี้" ไม่นานหน้าต่างที่มะนาวแงะอยู่ด้านหลังก็เปิดออกได้

"เธออยากจะหนีไหม"

"หนีเหรอ?"

"ใช่ฉันจะพาเธอหนี"

"เธอเนี่ยนะจะพาฉันหนี?"

"ตกลงจะหนีไหมล่ะ"

เราจะเอายังไงดี เขาบอกว่าจะปล่อยเราไปแล้วนี่ แต่เขาจะปล่อยเราจริงไหมหรือแค่หลอก

"มัวคิดอะไรอยู่ถ้าจะหนีก็ปีนลงมา"

"ถ้าหนีไปแล้วเราจะรอดเหรอ"

"แสดงว่าไม่อยากหนีแล้ว"

เอาวะโอกาสมาถึงแล้วก็ต้องรีบฉวยไว้​ ดีกว่ารอโอกาสที่ไม่แน่ว่าเขาจะให้อิสระเธอจริงไหม

ข้าวสวยเลยปีนลงหน้าต่างที่มะนาวเอาบันไดมาพาดไว้

"?" แต่พอปีนลงมาถึงพื้นดินเท่านั้นแหละก็เห็นว่ามะนาวไม่ได้อยู่คนเดียว "เธอ?" แค่มองก็รู้แล้วว่าเธอติดกับดัก

แต่พอจะเปลี่ยนใจปีนกลับขึ้นไปก็ถูกคนของเขาเดินมากระชากตัว 

"โอ๊ยเจ็บปล่อยนะ"

"หึ! แค่นี้เธอยังทำให้ฉันเชื่อไม่ได้" ใช่แล้วมันคือแผนของภูเบศ เขาอยากรู้ว่าสิ่งที่พูดกับเธอไปเธอจะเก็บมันเป็นความลับได้ไหม ด้วยเวลากระชั้นชิดเขาเลยแค่ให้มะนาวมาลองใจ และเธอก็เป็นผู้หญิงตระบัดสัตย์เชื่อไม่ได้จริงๆ

"พวกคุณเล่นแผนสกปรก"

"ใครสกปรกกว่ากันพาตัวมันไป"

"ถ้าคุณกลัวว่าฉันจะพูดเรื่องที่ถูกคุณจับตัวมาไว้ที่นี่ ฉันก็สาบานแล้วไงว่าจะไม่พูดขอแค่ให้ฉันออกไปจากที่นี่ได้ อย่าทำอะไรฉันเลยนะฉันกลัวแล้ว" หญิงสาวพยายามพูดให้เยอะที่สุดตอนที่ถูกลูกน้องของเขาลากตัวออกมา เธอไม่รู้ว่าเขาจะให้ลูกน้องเอาเธอไปที่ไหน

มะนาวมองตามหลังไปด้วยความเป็นห่วง ทีแรกก็รู้สึกไม่ชอบหน้าผู้หญิงคนนี้ แต่เห็นภาพตรงหน้าแล้วก็กลัวว่าเธอจะไม่ปลอดภัย

"พวกคุณจะพาฉันไปไหน เมื่อกี้ฉันขอโทษฉันไม่ได้คิดจะหนีเลย" หญิงสาวยังคงขัดขืนไม่อยากเดินตามไปแต่ด้วยแรงของเธอก็สู้ผู้ชายไม่ได้อยู่ดี เธอถูกพาตัวใส่รถตู้ขับออกมาจากปางไม้ แต่ออกมายังไม่พ้นป่าก็เห็นมีรถอีกคันจอดดักหน้าอยู่..

"รถใครวะ?" คนที่ทำหน้าที่ขับรถหันไปถามอีกคนที่นั่งมาด้วยกัน

"หลงทางเข้ามาหรือเปล่า" เพราะมองไปก็เห็นแล้วว่ามันเป็นรถนอน ถ้าไม่มีเงินคงซื้อรถนอนรุ่นนี้ไม่ได้

แต่พอคนบนรถตู้ลงไปเพื่อถามไถ่ไม่นานก็มีผู้ชายอีกสองคนเดินมาเปิดประตูรถตู้บอกให้ข้าวสวยลงมา โดยไม่เห็นคนขับรถตู้เมื่อสักครู่กลับมา

หญิงสาวต้องยอมทำตามเพราะเห็นว่าคนพวกนี้มีปืน แต่พอลงจากรถตู้พวกเขาก็เดินไปเปิดรถนอนให้เธอขึ้นไป

"......" ข้าวสวยแปลกใจทำไมพวกเขาถึงพาเธอมาไว้บนรถนอน รถคันนี้มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบทุกอย่างเพราะเป็นรถนอนราคาสูงลิบลิ่ว "ดะ เดี๋ยวก่อนสิคะ" แต่พอพวกมันจะปิดประตูเธอก็เรียกไว้ก่อน

"ไม่ต้องถามไม่ต้องสงสัย ข้างในมีเครื่องนุ่งห่ม อาหารและที่นอนให้เธอใช้ได้ตามสบาย"

"?" ตกลงพวกเขาเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย แล้วพวกเขาจะพาฉันไปไหน

หลังจากประตูปิดลงหญิงสาวก็เดินไปนั่งลงบนเตียงที่มีอยู่ในรถคันนี้ ในรถมีทั้งห้องน้ำเครื่องปรับอากาศ แต่พอจะเปิดหน้าต่างก็เปิดไม่ได้ และไม่นานรถก็เคลื่อนตัวออกไป

"?" พวกเขาจะพาฉันไปไหน ข้าวสวยไม่รู้เลยว่ารถคันนี้จะพาเธอไปที่ไหนเพราะหน้าต่างก็เปิดไม่ได้ ไม่นานร่างกายที่อ่อนเพลียก็เริ่มทนความง่วงไม่ไหวหลับไปขณะที่รถยังเคลื่อนตัวอยู่

[บ้านอภิวัฒนา]

"ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า"

"ทำไมครับพ่อไม่อยากเห็นผมกลับมาบ้านเหรอ" ขณะที่ให้คนพาเธอขึ้นรถตู้มาเขาก็นั่งเครื่องมาถึงที่นี่ก่อนแล้ว

"ตอนนี้แกทำธุรกิจอยู่ทางภาคเหนือเหรอ"

"?" คิดไว้แล้วเชียวว่าคงตบตาพ่อได้ไม่นาน เพราะถ้าท่านอยากรู้ก็คงมีวิธีของท่าน "พ่อเอาอะไรมาพูดครับ"

"ทางภาคเหนือก็ดีเหมือนกันนะ​ ไม่อันตรายเหมือนภาคใต้" ภูริพูดเหมือนไม่จริงจังเพราะยังคงเปิดนิตยสารในมืออ่านตอนที่คุยกับลูก แต่ถ้าทีที่ไม่จริงจังของพ่อก็ทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังได้ ถึงแม้เขาจะต่อต้านท่าน​ แต่ก็ไม่กล้าต่อต้านออกนอกหน้า​ ทุกครั้งก็จะแอบทำลับหลังแบบนี้ เพราะเขารู้จักนิสัยผู้เป็นพ่อดี ถ้าเขาไม่ใช่บุตรชายของท่านป่านนี้ไม่รู้ว่าจะไปเฝ้ารากมะม่วงต้นไหนแล้ว

"ผมมาเหนื่อยๆ ขอตัวไปพักก่อนนะครับ"

"ช่วงนี้แกอย่าเพิ่งไปไหนเพราะพรุ่งนี้พ่อจะจัดงานแต่ง"

"อะไรนะครับ?" ทำไมยังจะมีงานแต่งอยู่อีก??

"แกไม่เข้าใจคำพูดฉันประโยคไหนหรือ"

"ได้ครับผมจะอยู่ร่วมงานแต่ง" หรือว่าพ่อจะเปลี่ยนตัวเจ้าสาว ทีนี้เป็นผู้หญิงคนไหนอีกล่ะทำไมสายของเขาถึงไม่รายงาน

ภูเบศขึ้นมาถึงชั้นบนก็ติดต่อลูกน้องที่ให้พาเธอขับรถตามมา แต่ก็ติดต่อไม่ได้ เขาเลยสั่งวัลลภให้ไปดูหน่อยว่ารถมาถึงไหนแล้ว

ทำไมอยู่ดีๆ ถึงง่วงนอนขนาดนี้วะ ..ทีแรกคิดว่าจะอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นแล้วออกไปหาเพื่อนสักหน่อย แต่ยังไม่ทันอาบน้ำก็รู้สึกง่วงมาก และเขาก็ต้านทานความง่วงไม่ไหวจนหลับไปในที่สุด

บ่ายโมงของวันต่อมา..

"ตื่นแล้วเหรอ"

"พ่อ?" ภูเบศมองไปรอบๆ ห้อง แล้วก็หันมามองพ่ออีกที "มีอะไรครับ" ไม่คิดว่าตื่นขึ้นมาในห้องนอนของตัวเองจะเจอพ่อ แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วทำไมข้างนอกถึงแดดจ้าขนาดนี้

"อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดที่พ่อเตรียมมาให้แล้วก็ตามลงมาข้างล่าง"

พ่อกำลังคิดจะทำอะไร เมื่อคืนนี้เขาหลับเพราะความเพลียหรือหลับเพราะอะไรกันแน่​ ทำไมถึงหลับนานได้ขนาดนี้ ..เขาอาจจะคิดว่าตัวเองก้าวนำหน้าพ่อไปแล้ว แต่กว่าที่ภูริจะขึ้นมายืนอยู่จุดที่เด่นที่สุดได้ต้องผ่านอะไรมามากมายก่อนที่ลูกชายจะเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ แค่ภูเบศนี่หรือจะวัดรอยเท้าของพ่อได้

ออกมาจากบ้านภูเบศก็นั่งรถคันเดียวกับพ่อตรงมาที่โรงแรม

มาถึงโรงแรมในเครือของภูริก็เห็นว่าแขกเดินสวนกันเข้าออกหนาตามาก แต่ก็ไม่แปลกใจหรอกเพราะว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของพ่อ นักธุรกิจน้อยใหญ่ต่างก็ต้องอยากมาร่วมยินดีเผื่อว่าจะเข้าตาภูริบ้าง

"สวัสดีครับเสี่ย//สวัสดีครับ" หลายคนเห็นเสี่ยภูริมาต่างก็ไหว้อย่างนอบน้อมถ่อมตน

"สวัสดี ดื่มกินกันตามสบายเลยนะวันนี้ผมปิดโรงแรมเลี้ยงทุกคน ถ้าใครเมาอยากนอนห้องไหนก็ตามสบายเลย"

"เสี่ยใจป้ำมากเลยครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับเสี่ย"

"ฮ่าๆ ทิ้งนามบัตรไว้กับคนของผมเลย"

ภูเบศกำลังจะเดินแยกตัวออกจากพ่อเพราะรำคาญไอ้พวกชอบเลียแข้งเลียขา แต่พอเขาจะเดินแยกออกไปคนของเสี่ยภูริก็มายืนขวาง 

"พวกมึงทำอะไร"

"เสี่ยบอกให้พวกผมดูแลคุณภูเบศให้ดีครับ"

ได้ยินลูกน้องของพ่อพูดภูเบศถึงได้หันกลับไปมองพ่อ และสายตาท่านก็จ้องมาแบบเอาเรื่องมาก เขาเลยต้องทำตามโดยการเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง

เข้ามาในงานภูเบศก็หยิบไวน์มาดื่มแล้วไปนั่งอยู่มุมหนึ่งของที่นี่ เขาก็มองหาอยู่ว่าไอ้วัลลภเมื่อไรมันจะตามมาแต่ก็ไร้วี่แวว จะโทรหาใครก็ติดต่อไม่ได้สักคน

"สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ก่อนอื่นผมต้องขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่ง"

ได้ยินเสียงพ่อพูดบนเวทีภูเบศเลยมองไป

"ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงเลื่อนงานแต่ง มีเหตุจำเป็นเล็กน้อยเลยต้องมาจัดงานแต่งในวันนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นเวทีก่อนเลยดีกว่า"

เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวหมายความว่ายังไง? ภูเบศที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของงานนั้นก็สงสัย พ่อไม่ใช่เหรอที่เป็นเจ้าบ่าวแล้วจะเชิญใครอีก 

แต่ฉับพลันนั้นลูกน้องของภูริก็เดินตรงเข้ามาหาเขาที่นั่งอยู่ "คุณภูเบศครับเชิญขึ้นเวทีครับ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 19

    ด้วยความที่เมื่อคืนดื่มหนักพอขึ้นเครื่องเขาก็หลับ เพราะแบบนี้แหละบนเครื่องบินส่วนตัวของเขาเลยต้องมีเตียงนอนไว้ให้ด้วย และเดินทางไม่นานก็มาถึงที่หมาย"นี่คุณภูเบศตื่นได้แล้วค่ะ""อืมม!" ชายหนุ่มพลิกตัวแล้วเอาหมอนขึ้นมาปิดหูตัวเองไว้"จะนอนอยู่นี่ใช่ไหม ถ้างั้นฉันไปคนเดียวก็ได้""อะไรของเธอวะ!" เขาเลยจำเป็นต้องลุก เดินลงมาจากเครื่องก็มีรถมาจอดรอรับอยู่แล้ว"สวัสดีครับนายหัว""โผล่หัวมาได้แล้วหรือพวกมึง""ขอโทษครับนายหัวพวกเราถูกคุมกำเนิดครับ""เดี๋ยวกูไล่ออกให้หมดเลยนี่ พวกมึงเป็นลูกน้องใครกันแน่วะระหว่างกูกับพ่อกู""เป็นลูกน้องนายหัวครับ​ แต่ไม่กล้างัดข้อกับเสี่ยครับ"เธอก็อยากรู้อยู่หรอกว่าอีตาบ้าเนี่ยไปมีเรื่องมีราวอะไรกับพ่อตัวเอง เพราะเธอก็เห็นอยู่ว่าพ่อของเขารักเขามากขนาดไหนใช้เวลานั่งรถมาร่วมชั่วโมงก็มาถึงปางไม้ตอนรถวิ่งเข้ามาเธอก็รู้สึกใจคอไม่ดี เพราะเหตุการณ์ครั้งแรกที่ถูกเขาพาตัวมาอยู่ที่นี่มันยังคงฝังใจ แต่ครั้งนี้เธอมาในฐานะภรรยาของเขา คงไม่เป็นแบบครั้งนั้นหรอกมั้ง"นายหัวคะ" เห็นรถที่ออกไปรับนายหัววิ่งเข้ามามะนาวก็รีบมารับหน้า "?" แต่พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นติ

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 18

    "ขอโทษครับนาย" มาถึงวัลลภก็โค้งลำตัวขอโทษยกใหญ่เลย"มึงได้รับโทษแน่" ตอนนี้อยู่ที่สาธารณะถ้าทำอะไรลงไปเดี๋ยวคนก็มองเลยต้องทดไว้ในใจก่อน"แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ""มึงติดต่อรถพยาบาลมาหรือยัง""ติดต่อมาแล้วครับเดี๋ยวก็คงมาถึง""ให้รถพยาบาลรับตัวเธอเข้าไปรักษา""ดูนายจะเป็นห่วงเธอจังเลยนะครับ""เรื่องของมึงยังไม่เคลียร์ไม่ต้องมาเสือกเรื่องคนอื่น""ขอโทษครับนายหัว" จะพูดก็พูดไม่ได้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฝีมือของเสี่ยพ่อของนายหัวนั่นแหละ เพราะภูริสั่งไว้ห้ามพูดให้ลูกชายฟัง รวมไปถึงเรื่องสถานที่ที่ถูกจัดไว้ให้ก็เป็นฝีมือของเสี่ยภูริเช่นกันข้าวสวยถูกพาตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในตัวกรุงเทพฯ ส่วนภูริก็แยกจากเธอตั้งแต่ตอนที่รถพยาบาลมารับตัวแล้ว"เป็นไงบ้างวะชีวิตมีความสุขดีอยู่หรือเปล่า""ก็เรื่อยๆ""วันนี้ต้องการเด็กกี่คนบอกมาได้เลยเดี๋ยวจัดให้""กูแค่อยากมาดื่ม มึงมาดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อยสิวะ""มีเรื่องกับพ่ออีกแล้วใช่ไหมเนี่ย""เปล่าหรอก""ถ้างั้นเดี๋ยวกูไปเคลียร์งานก่อนจะมานั่งดื่มเป็นเพื่อน อย่าเพิ่งเมาก่อนแล้วกัน" ว่าแล้วอัศวินก็ออกจากห้อง VIP ไป ที่ห้องทำงานส่วนทางด

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 17

    "โอ๊ย กัดลงมาได้ยังไงวะ!" ขณะที่กำลังเร่งความเร็ว ข้าวสวยก็กัดลงที่ต้นแขนของเขา จนภูเบศต้องถอดมันออกก่อนเพราะหมดอารมณ์"ออกไปนะ!" เธอรีบขยับตัวให้ออกห่างเขามากที่สุด"ไม่ไปโว้ย" "ฉันบอกให้ออกไปไง!" หญิงสาวควานหาของทุ่นแรงที่จะใช้ไล่เขาออกไป แต่ในมุ้งนี้นอกจากหมอนกับพัดลมแล้วก็ไม่มีอะไร ถ้าจะเอาพัดลมปาเดี๋ยวก็ไม่มีพัดลมใช้เธอเลยต้องใช้หมอน"ไปก็ได้วะ" ภูเบศเก็บของสงวนเข้าที่ไว้ก่อน จะให้เอาอีกก็คงไม่มีอารมณ์แล้ว เจ็บก็เจ็บกัดลงมาได้ยังไง​ ดีนะเนื้อไม่ขาดติดปากไปด้วย"ไอ้บ้าไอ้เลว" ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่เสร็จสมอารมณ์หมายแต่มันก็ทำให้เธอเจ็บจุกได้ กระแทกขนาดนั้น เราจะท้องไหมเนี่ย แต่มันยังไม่ปล่อยน้ำคงไม่ท้องหรอกมั้งภูเบศลงมาข้างล่างก็เลยต้องใช้โต๊ะไม้ที่อยู่ข้างล่างเป็นที่นอน แต่โต๊ะไม้ทำขึ้นมาเพื่อนั่งพอใช้เป็นที่นอนก็อึดอัด​ เพราะความยาวของมันไม่เท่าความยาวของร่างกายเขาเลย ไอ้วัลลภมึงอย่าให้กูเจอตัวมึงนะ กูจะเอาให้มึงหยอดน้ำข้าวต้มเลยคอยดูสิ วันที่สามแล้วยังไม่เข้ามาดูเลยว่าเจ้านายเป็นยังไง แต่ขณะที่กำลังคิดโมโหให้ลูกน้องเขาก็คิดไปถึงเรื่องเมื่อสักครู่ ทำไมจะดูไม่ออกว่าเธอยังไม่มีอะไ

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 16 //18+

    "แอะๆ กรี๊ดดดด" หญิงสาวพยายามจะขึ้นจากน้ำแต่เหมือนมีคนดึงตัวเธอไว้เลยถีบเข้าให้ พอเป็นอิสระเธอก็โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ"โอ๊ยย ถีบมาได้ยังไงวะ!""คุณ?!""ก็กูน่ะสิ!!""คุณเล่นบ้าอะไรล่ะ""ถ้าไม่ทำแบบนี้เธอจะลงมางมหอยช่วยฉันเหรอ""ใครจะลงมางมหอยช่วยคุณ" ที่จริงเธอไม่ได้กระโดดลงมาดูเขาด้วยซ้ำแต่ลื่นตกลงมาเอง ข้าวสวยกำลังจะปีนขึ้นไปแต่ถูกเขาดึงตัวกลับลงมาจนผ้าถุงที่เธอใส่อยู่หลุดออก"กรี๊ดดด" หญิงสาวรีบคว้าดึงผ้าถุงไว้ แต่เขาก็ยังแกล้งดึงปลายผ้าถุงไม่ให้เธอใส่กลับคืนไปได้"คุณภูเบศอย่าเล่นแบบนี้สิ!""จะช่วยฉันเก็บหอยไหมล่ะ""ช่วยก็ได้ปล่อยผ้าถุงฉันก่อน" เขาเลยยอมปล่อยผ้าถุงให้เธอใส่มันให้เรียบร้อยทั้งสองช่วยกันงมหอย ภูเบศงมน้ำลึกหน่อยส่วนเธองมช่วงริมตลิ่ง"กรี๊ดดด" ขณะที่ใจจดใจจ่อกับการงมหอยอยู่ดีๆ ขาของเธอก็เหมือนมีอะไรมาจับ"อ้าว ฉันนึกว่าได้ปลา ที่ไหนได้ขาคนหรือนี่""คนบ้าฉันตกใจหมดเลย!""ฮ่าาๆ" ที่จริงเขามองเห็นแล้วล่ะ ตั้งใจอยากจะแกล้งมากกว่า "อ้าวแล้วนั่นจะไปไหน""จะขึ้นน่ะสิ""พอแล้วเหรอ""คุณงมต่อไปเลยนะ!" ข้าวสวยเอาที่เขางมได้ขึ้นมาด้วย พอเดินมาถึงบ้านเธอก็หุงข้าวทิ้งไว้ก่อนเลยระห

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 15

    อืมมม ทานเข้าไปคำแรกก็รู้สึกถึงความเผ็ดของพริกและกระเทียม แต่ก็ตัดเค็มด้วยน้ำปลามะนาวแถมยังมีรสหวานติดปลายลิ้นเล็กน้อยข้าวสวยก็ไม่ได้มองเขาแบบเต็มตาหรอกแค่แอบชำเลืองมอง เห็นว่าเขาเริ่มตักคำที่สอง​ คำที่สามคิดว่าเขาคงกินได้แหละแบบนี้ก็กินได้ด้วยเหรอ กินไปจนข้าวจะหมดจานก็ยังมีคำถามเดิมผุดเข้ามาในหัว แสดงว่าชาวบ้านที่ไม่มีกำลังทรัพย์ที่อยู่ตามหัวไร่ปลายนาเขาหากินกันแบบนี้เองเหรออิ่มแล้วข้าวสวยก็ยกเอาถ้วยข้าวตัวเองเข้าไปล้าง พอออกมาก็เห็นว่าเขาอิ่มแล้วเช่นกัน แต่เขาไม่เก็บถ้วยชามที่เหลือ "นี่คุณกินทิ้งไว้แบบนั้นไม่คิดจะเก็บเลยหรือไง" "ก็เก็บเองสิ""ที่นี่ไม่มีคนรับใช้ใครกินก็ต้องเก็บ ของที่เหลือคุณกินเสร็จคนสุดท้ายคุณก็ต้องเก็บ""เรื่องอะไร" ว่าแล้วภูเบศก็เดินออกไปจากบ้าน เขาเดินดูบรรยากาศรอบๆ ทำไมไอ้วัลลภถึงหาที่แบบนี้ได้เร็วจัง เรื่องนี้เขาก็คิดอยู่หรอก​ เพราะที่นี่มันบรรยากาศดีมากเลย แถมเครื่องอำนวยความสะดวกก็มีครบถึงแม้บ้านจะเป็นแค่บ้านไม้ชั้นล่างเปิดโล่งแต่ก็มีห้องครัวไว้ทำอาหาร ไม้ผนังห้องครัวยังใหม่ๆ อยู่เลยเห็นเขาไม่เก็บถ้วยชามข้าวสวยเลยต้องเป็นคนเก็บเอง เก็บเสร็จเธอก็ขึ้นไป

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 14

    "ตามไปใช่ไหมครับ" เห็นนายหัวเดินมาขึ้นรถก็รู้แล้วว่าต้องตามรถคันนั้นไป "รู้แล้วมึงจะถามทำไมรีบตามไปสิ""แต่คนของเสี่ยคุ้มกันแน่นหนาเลยนะครับ""ตามไปก่อน ค่อยหาโอกาสอีกที""ครั้งนี้ถ้าเสี่ยรู้ว่านายหัวทำแบบเดิมผมกลัวว่า..""มึงไม่ต้องพูดมากได้ไหมกูบอกให้ตามไง!"รถคนของพ่อเขาขับพาเธอมาที่บริษัทแห่งหนึ่ง และภูเบศก็ตามมาจนถึงที่นี่"มาทำไมที่นี่วะ""ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ""สวัสดีค่ะคุณหนู" พนักงานต้อนรับรีบออกมาต้อนรับเหมือนเช่นเคย"สวัสดีค่ะ"ทุกครั้งคนของเสี่ยมาส่งที่นี่ก็จะรออยู่แถวนี้ แต่ครั้งนี้รถทั้งสองคันขับออกไป เลยเป็นโอกาสให้วัลลภได้เข้ามาสอบถามด้วยความกะล่อนของวัลลภถึงแม้พนักงานจะบ่ายเบี่ยงแต่ก็ยังชวนคุยจนรู้ว่าผู้หญิงที่เข้าไปเมื่อสักครู่เป็นลูกสาวของท่านประธาน และรู้ไปอีกว่า ท่านประธานคนนี้คือคนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่ง"หึ! คงจะเข้ามาเสพสุขกันทั้งครอบครัวเลยสิ ถึงกับยกบริษัทให้เลย""แล้วนายหัวจะเอายังไงต่อดีครับ""ครั้งนี้กูว่าลากลงใต้เลยดีกว่าไหม""จะใต้หรือเหนือตอนนี้เสี่ยก็รู้ที่กบดานของเราแล้วครับ""มึงมีหัวไว้กั้นหูเฉยๆ หรือวะช่วยกูคิดหน่อยสิ"หลังจากคุยกับพ่ออยู่ไม่นานข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status