Mag-log inวันต่อมา...
เมื่อวานสำหรับมาเฟียหนุ่มแล้วถือว่าจบวันได้ไม่ดีเท่าไรนัก เขายังไม่ได้ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของน้องสาวกับผู้ชายคนนั้นเลยแม้แต่น้อย แต่ก็แอบแปลกใจว่าทำไมโยษิตาถึงได้เก็บซ่อนทุกอย่างได้แนบเนียนถึงเพียงนั้น
โดยปกติแล้วแค่โกหกเรื่องเล็กน้อยเธอก็ยังทำไม่ได้ ทว่าเรื่องใหญ่แบบนี้กลับทำได้อย่างไม่มีพิรุธเลยสักนิด ขนาดเขาให้ลูกน้องสองสามคนคอยตามติดทุกฝีก้าวก็ยังไม่ได้ความคืบหน้าอะไรเลย
วันนี้เขาจึงตัดสินใจไปหาน้องสาวที่คอนโดเพราะเมื่อคืนเธอออกไปนอนที่คอนโดหลังจากทะเลาะกับผู้เป็นพ่อเรื่องแต่งงานเสร็จ
เขาจะไปเอาคำตอบที่เคยถามกับน้องสาวไว้ และหากน้องสาวไม่ยอมบอกเขาก็ได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว ดูสิว่าระหว่างน้องสาวกับพี่ชายอย่างเขาใครจะแน่กว่ากัน
@คอนโดโยษิตา
บรรยากาศภายในห้องของโยษิตาเป็นไปอย่างเคร่งเครียดเมื่อผู้เป็นพี่ชายอย่างแทนไทปรากฏตัวขึ้นเพราะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขามาด้วยเหตุผลอะไร
“พี่มาเอาคำตอบ” มาเฟียหนุ่มนั่งจ้องหน้าน้องสาวที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามนิ่ง ๆ นานนับนาทีก่อนเอ่ยขึ้นพลางใช้สายตากดดันอย่างหนัก
“หยกบอกแล้วให้คะ ว่าเมื่อถึงเวลาหยกจะพาเขาไปทำความรู้จักกับแด๊ดที่บ้านเอง” โยษิตายังคงยืนยันคำเดิมแม้จะรู้สึกหวั่นใจกับคำพูดที่พี่ชายขู่เอาไว้
“หยกเลือกเองนะ หลังจากนี้หากเกิดอะไรขึ้นหยกต้องรับให้ได้” มาเฟียหนุ่มเน้นย้ำผลจากการตัดสินใจของน้องสาวอีกครั้งเพื่อให้เธอกลัวและเปลี่ยนใจ
แววตาที่จ้องมองคนเป็นน้องสาวฉายแววดุร้ายจนคนถูกมองอย่างโยษิตาอดใจสั่นไม่ได้รู้จักนิสัยพี่ชายดีว่าเป็นเช่นไร แต่เธอไม่มีทางเลือกจริง ๆ
ภายในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบนานหลายนาที สองคนพี่น้องต่างนั่งมองตากันเงียบ ๆ ก่อนโยษิตาจะเอ่ยขึ้นเมื่อนึกถึงสิ่งที่สาวคนรักโทรมาบอกเมื่อวาน “เมื่อวานพี่ไปหาอลินที่บ้านใช่ไหมคะ แล้วพี่ก็ยังไปทำร้ายร่างกายเขาอีก”
“ใช่ เพื่อนเธอคงโทรมาฟ้องเรียบร้อยแล้วสินะ” มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันเหมือนที่เขาคิดไว้ไม่มีผิดว่าอลินดาต้องโทรมาฟ้องน้องสาวของเขาแน่ ๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าทั้งสองรวมหัวกันช่วยปกปิดจริง ๆ ตามที่เขาคิดไว้
“พี่ทำแบบนี้ทำไมนี่เป็นเรื่องระหว่างเรา ทำไมพี่ต้องดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวด้วย อลินเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย” โยษิตามองหน้าพี่ชายด้วยความผิดหวังไม่คิดเลยว่าแค่ต้องการรู้ว่าแฟนเธอเป็นใครพี่ชายที่เธอมองว่าเป็นสุภาพบุรุษมาตลอดถึงขนาดกล้าลงมือทำร้ายผู้หญิง สิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดมากกว่าคือคนที่พี่ชายทำร้ายเป็นคนรักของเธอ
“แน่ใจเหรอว่าเพื่อนหยกไม่รู้เรื่องด้วย ไม่ใช่ว่ารวมหัวกันโกหกพี่เหรอ” มาเฟียหนุ่มไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิดกับสายตาของน้องสาวที่มองมาอย่างผิดหวัง
เรื่องนี้เขาไม่ได้ผิดหากน้องสาวยอมบอกดี ๆ เขาก็คงไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ และคนอื่นคงไม่เดือดร้อนไปด้วย
โยษิตาอดหวั่นใจไม่ได้กับคำพูดของคนเป็นพี่ชายแอบกลัวว่าเขาจะไปยุ่งวุ่นวายกับสาวคนรักอีกเพราะดูเหมือนเขาจะเชื่อไปแล้วว่าเธอกับสาวคนรักรวมหัวกันหลอก
เธอลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่พยายามข่มความกังวลที่เกิดขึ้นในใจเอาไว้ แล้วเปล่งเสียงสั่งพี่ชายด้วยสีหน้าเคร่งขรึมน้ำเสียงเด็ดขาด “อลินไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย เพราะฉะนั้นพี่ห้ามไปยุ่งกับเธออีก”
“ดูหยกเป็นห่วงเพื่อนคนนี้มากเลยนะ พี่แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลย” นาน ๆ ทีมาเฟียหนุ่มจะเห็นน้องสาวในมุมจริงจังและเด็ดขาดแบบนี้จนเขาเองอดแปลกใจไม่ได้มันแสดงให้เห็นว่าอลินดามีความสำคัญมาก ๆ น้องสาวของเขาถึงได้ดูเป็นห่วงเป็นใยจนออกนอกหน้าขนาดนี้
“หากอลินดาเป็นผู้ชายพี่คงคิดว่าเป็นแฟนกับหยกไปแล้ว”
มาเฟียหนุ่มแค่พูดไปแบบนั้นไม่ได้คิดอะไรเป็นจริงเป็นจังแต่คนฟังอย่างโยษิตาถึงหัวใจกระตุกวูบนี่เธอแสดงอะไรออกไปมากเกินจนทำให้พี่ชายคิดแบบนั้นเลยเหรอ เธอลอบกลืนน้ำลายลงคออึกครั้งก่อนจะทำน้ำเสียงขึงขังกลบเกลื่อนพิรุธ “ก็อลินเขาเป็นเพื่อนรักหยกนิ”
“สรุปหยกจะไม่บอกพี่จริง ๆ ใช่ไหมว่าแฟนเป็นใคร” มาเฟียหนุ่มไม่ได้ต่อปากต่อคำน้องสาวอีก แต่เลือกจะวนกลับมาถามคำถามเดิมที่เขาถามเมื่อมาถึงด้วยหวังว่าน้องสาวจะเปลี่ยนใจ
“หยกว่าหยกบอกพี่ไปชัดเจนแล้วนะคะ” โยษิตายังคงยืนยันคำเดิม
“โอเคพี่จะไม่ถามอีก” ซึ่งมาฟียหนุ่มก็ไม่คิดจะคาดคั้นอีกต่อไป ยังไงเสียถึงน้องสาวไม่บอกเขาก็ต้องหาวิธีรู้ให้จนได้
เขามองหน้าน้องสาวนิ่ง ๆ นานนับนาทีก่อนล้วงไปหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาส่งข้อความหาใครบางคน จากนั้นก็เก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิมครั้นคุยเสร็จ สายตาตวัดมองหน้าน้องสาวอีกครั้ง
โยษิตาเองก็มองสบตาพี่ชายเช่นกัน ระหว่างสองคนพี่น้องตกอยู่ในความเงียบนานหลายนาทีจนโยษิตาเริ่มรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ในตอนนี้จึงเอ่ยขึ้น “พี่กลับไปได้แล้วหยกจะพักผะ..”
ครืดดด~
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยจบเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อนทำให้เธอหยุดชะงัก ก่อนจะก้มมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างตัวเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์นิติของคอนโดจึงหยิบมากดรับสาย
“ว่าไงค่ะลุงพล”
(รถของคุณหยกจอดกีดขวางทางอยู่ครับช่วยมาเลื่อนให้หน่อยครับ)
โยษิตาขมวดคิ้วชนกันเล็กน้อยครั้นได้ยินคำบอกกล่าวจากปลายสายเพราะเธอจำได้ว่าตัวเองจอดรถไว้ดีแล้ว ทว่าทำไมนิติยังบอกว่าเธอจอดรถกีดขวาง ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้แล้วตอบรับปลายสายไป
“ได้ค่ะ หยกจะรีบลงไป”
ว่าจบเธอก็กดวางสายแล้วรีบลุกเดินออกจากห้องไปโดยไม่คิดเอะใจสักนิด
มาเฟียหนุ่มมองตามหลังน้องสาวจนประตูห้องปิดลง ก่อนเขาจะเค้นหัวเราะออกมาเบา ๆ ความจริงรถของน้องสาวไม่ได้จอดกีดขวางทางแต่อย่างใดเลย แต่เป็นเขาที่ส่งข้อความไปบอกนิติของคอนโดเมื่อกี้ว่าให้โทรตามน้องสาวออกไปจากห้องเพื่อที่เขาจะได้ติดตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องนี้ได้
เขาจัดการติดกล้องแอบถ่าย และเครื่องดักฟังไว้ทุกมุมของห้องเผื่อว่าน้องสาวจะพาใครเข้ามา หรือโทรพูดคุยอะไรกับใครบ้างอาจจะเป็นประโยชน์ในการสืบหาแฟนของเธอ
ครั้นติดเสร็จเรียบร้อยเขาก็ออกจากห้องไปทันทีไม่รอให้เจ้าของห้องกลับมาเพราะเขาทำสิ่งที่ต้องการสำเร็จแล้วจึงไม่มีประโยชน์ที่ต้องอยู่อีก
วันต่อมา ทั้งสองก็พากันไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล แล้วไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานทะเบียนต่อ"เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะ ต่อจากนี้ห้ามชายตามองผู้ชายคนไหนแม้แต่นิดเดียว" ทันทีที่ใบทะเบียนสมรสที่มีลายลักษณ์อักษรของหญิงสาวกับตัวเองอยู่ในมือมาเฟียหนุ่มก็ยืดออกแสดงความความเป็นเจ้าของอย่างเต็มภาคภูมิ"แค่ดูเป็นอาหารตาก็ไม่ได้เหรอคะสามี" อลินดาพูดหยอกสามีป้ายแดงด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มบาง ๆ ขณะกำลังจูงมือกันเดินออกจากสำนักงานทะเบียน"มีผัวหล่อขนาดนี้แล้วจะไปมองผู้ชายคนอื่นทำไม มองผัวนี่แหละครับเป็นอาหารตาชั้นดี" เธอได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ พอได้ยินคำพูดจาหลงตัวเองของคนเป็นสามีเธอเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเขาก็หลงตัวเองเหมือนกัน ต่อให้ที่เขาพูดมาจะจริงก็เถอะ ด้วยความมันเขี้ยวอดพูดแกล้งเขาไปไม่ได้ "พี่หล่อก็จริง แค่มองทุกวันมันก็เบื่อเหมือนกันนะ"คำพูดจากริมฝีปากอิ่มทำคนฟังหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่ชอบใจ พลันหยุดเดินอัตโนมัติแล้วหันไปมองหน้าร่างบางพร้อมพ่นคำพูดออกไประรัว"อย่าแม้แต่จะคิด ห้ามเบื่อ ห้ามเลิกรัก ห้ามมองผู้ชายคนอื่น ห้ามทิ้งกัน ห.."อลินดาฟังแทบไม่ทันจนเธอต้องรีบยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก
เมื่อกลับมาถึงคอนโดเธอยังคงทำตัวปกติรอจนมาเฟียหนุ่มหลับจึงแอบเอาที่ตรวจครรภ์ไปตรวจในห้องน้ำ หัวใจดวงน้อย ๆ เต้นแรงแทบจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอกระหว่างที่กำลังรอผลตรวจ มันลุ้นเสียยิ่งกว่าลุ้นเสียอีก หากถามว่าเธอพร้อมมีลูกในตอนนี้ไหมตอบเลยว่าไม่ แต่หากว่าลูกมาแล้วจริง ๆ เธอก็คงต้องพร้อมให้ได้ "อึก.." เธอลอบกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ ก่อนจะยื่นมือที่สั่นเพราะความตื่นเต้นไปหยิบที่ตรวจครรภ์ที่วางบนอ่างล้างหน้าขึ้นมาดู "อ่า..ทำไมรีบมาจังลูกแม่ยังใช้ชีวิตวัยรุ่นไม่คุ้มเลย" พอเห็นผลตรวจที่ขึ้นสีแดงสองขีดเธอถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับความรู้สึกมันตีกันมั่วไปหมด ใจหนึ่งเธอก็ดีใจแต่อีกใจก็นึกกังวลอะไรหลาย ๆ อย่าง เธอหลับตาลงพยายามตั้งสติ ขจัดความรู้สึกไม่ดีออกไป จากนั้นก็กำที่ตรวจครรภ์ไว้ในมือแน่นแล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องน้ำ เดินไปหย่อนก้นนั่งบนเตียงข้าง ๆ ร่างสูงที่นอนหลับอยู่ สายตาจ้องมองใบหน้าคมคายด้วยความรู้สึกมันเขี้ยวที่เธอท้องคงจะสมใจเขาแล้วสิ นิ้วเรียวยื่นไปกรีดกรายตามแนวคิ้วโก้งทั้งสอง แล้วค่อย ๆ ลากลงตามจมูกโด่งเป็นสันมาหยุดที่ริมฝีปากหยักสีชมพูพลางครุ่นคิดในใจว่าหากเป็นล
เป็นเพราะเธอที่เข้ามาทำให้โลกอันดำมืดของเขาสว่างไสว เธอเป็นคนที่เข้ามาเติมทุกอย่างที่เขาขาดหายให้เต็มแล้วแบบนี้จะไม่ให้เขารัก และขอบคุณเธอได้ยังไงกันสองสายตามองสบประสานกันอย่างลึกซึ้งส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ก่อนทั้งสองจะละสายตาจากกันเมื่อหมอวัยกลางคนเดินเข้ามา มีแค่มีที่ยังกอบกุมกันไว้แน่นด้วยลุ้นระทึกกับผลตรวจที่อยู่ในมือหมอ"ผลตรวจร่างกายของคนไข้ปกติทุกอย่างครับ ไม่มีอะไรต้องกังวล" พอได้ฟังผลตรวจทั้งมาเฟียหนุ่มกับอลินดาก็ถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้วยรู้สึกโล่งอกที่ผลออกมาปกติ ทว่าอีกใจก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีกับอาการที่เป็นอยู่"แล้วอาการที่ผมเป็นอยู่นี่ล่ะครับ" มาเฟียหนุ่มถามไถ่ไป"จากอาการที่คนไข้บอกมาถ้าร่างกายปกติก็มีเพียงอย่างเดียวครับ" หมอวัยกลางคนกล่าวยิ้ม ๆ แล้วเงียบไปชั่วครู่จึงเอ่ยต่อ "แพ้ท้องแทนภรรยา""ห๊ะ!!"สิ้นคำบอกกล่าวจากหมอมาเฟียหนุ่มกับอลินดาถึงกับตาเบิกกว้างร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจระคนฉงน พลันหันมองหน้ากันอัตโนมัติ"ประจำเดือนน้องอลินมารึยังเดือนนี้" มาเฟียหนุ่มรีบถามไถ่ด้วยความตื่นเต้นพลางก้มมองหน้าท้องของคนรัก ลึก ๆ ในใจเขาอยากให
หนึ่งเดือนต่อมา.."พี่แทนลุกขึ้นมากินข้าวอย่าเอาแต่นอนแบบนี้" อลินดาเขย่าเรียกคนตัวโตที่เอาแต่นอนตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงข้าวปลาก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาทานด้วยความเป็นห่วงช่วงหนึ่งอาทิตย์มานี้เขาเอาแต่นอน ข้าวปลาก็ไม่ค่อยทานบอกว่าเบื่อจนน้ำหนักลดลงไปหนึ่งกิโลแล้ว หนำซ้ำยังมีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้องปวดหลังราวกับผู้หญิงมีประจำเดือนยังไงยังงั้น แต่พอพาไปหาหมอหมอกลับบอกว่าปกติทุกอย่างถามว่าเขามีความเครียดหรือเปล่าเขาก็บอกว่าไม่เลย เขามีความสุขที่สุดด้วยซ้ำเพราะได้อยู่กับเธอแทบทุกวันทุกคืนตั้งแต่วันที่ไปหาพ่อแม่ของเธอด้วยกัน ได้พูดคุยจนเข้าใจเธอกับเขาก็ไปมาหาสู่ และอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นซึ่งมาเฟียหนุ่มจะมาอยู่ที่คอนโดของเธอเรียกได้ว่าตอนนี้เขาครองห้องเธอไปแล้ว ส่วนเธอก็มีบางคืนที่กลับไปนอนที่บ้านบ้างเพื่อไม่ให้พ่อแม่ว่าเอาได้ว่าอยู่แต่กับผู้ชายจนลืมบ้านลืมช่อง "พี่แทนลุกขึ้นมากินอะไรสักนิดก่อน แล้วค่อยนอนต่อ" เธอเขย่าคนตัวโตแรงกว่าเดิมเมื่อเขายังคงนอนหลับต่อ "ตื่นแล้วครับ" ในที่สุดคนถูกปลุกก็ต้องลืมตาตื่นด้วยความจำใจ เขายกมือทั้งสองขยี้ตาไล่อาการงัวเงียออก ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกที่
ภายในห้องน้ำเปลี่ยนเป็นสมรภูมิรักของคนทั้งสองไปแล้วน้ำที่ว่าเย็นก็ดับความร้อนแรงนี้ไม่ได้ มาเฟียหนุ่มเดินหน้ากระแทกไม่หยั่ง อีกคนก็รอรับด้วยความกระสันเสียวและสุขสม กว่าจะอิ่มหนำก็ใช้เวลาไปไม่น้อยอลินดาถึงกับขาอ่อนยืนไม่ไหวเป็นมาเฟียหนุ่มที่ต้องคอยดูแลจัดการอาบน้ำถูสบู่ และสระผมให้ แล้วอุ้มออกมาวางบนเตียง"หึ" มาเฟียหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างนึกเอ็นดูคนตัวเล็กที่นั่งตาปอยอยู่ริมเตียง ก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบหน้าผากมนเบา ๆ แล้วเดินไปเอาผ้าขนหนูอีกผืน จากนั้นก็กระโดดขึ้นเตียงไปนั่งข้างหลังเธอจัดการเช็ดผมให้อลินดายกยิ้มออกมาน้อย ๆ กับการกระทำแสนอ่อนโยนของคนตัวโตใครจะคิดว่ามาเฟียหนุ่มอย่างเขาจะมีมุมอ่อนโยนด้วย เขาอ่อนโยนจนบางทีเธอก็คิดไม่ถึง"ขอบคุณค่ะ" ครั้นเขาเช็ดผมให้เสร็จเธอก็เอี้ยวหน้าไปขอบคุณพร้อมทั้งฉีกยิ้มให้เขาจนตายี มาเฟียหนุ่มจึงใช้จังหวะนั้นจุบปากเธอไปหนึ่งทีถือเป็นค่าเช็ดผม แล้วจึงลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อให้เธอใส่ เขายืนเลือกอยู่สักพักโดยมีอลินดานั่งมองที่เตียง เมื่อเลือกได้ก็พาไปยื่นให้ "ใส่ไปก่อนครับ เดี๋ยวชุดน้องอลินพี่ให้แม่บ้านเอาไปซักให้"อลินดามองเสื
ทั้งสองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงค่ำ ๆ หลังจากนอนพักเอาแรงกันจนอิ่มแล้วมาเฟียหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมาเปิดหน้าจอดูเวลา เมื่อเห็นว่าใกล้สองทุ่มแล้วจึงบอกกล่าวกับร่างบางในอ้อมกอด "ลุกขึ้นไปอาบน้ำครับจะได้ไปหาอะไรกินกัน""ขอนอนนิ่ง ๆ แบบนี้อีกสักพักได้ไหม" อลินดาแสดงท่าทีงอแงเพราะรู้สึกง่วง ๆ และขี้เกียจน้อย ๆ ซึ่งมาเฟียหนุ่มก็ไม่คิดขัดใจปล่อยให้เธอนอนกอดเขาต่อไปไม่คิดจะลุกหนีผ่านไปราว ๆ ยี่สิบนาทีจึงเรียกเธออีกครั้ง "พี่ว่าลุกขึ้นได้แล้วครับน้องอลิน""หือ.." อลินดาถึงกับตาโตหูผึ่ง ผงกหน้าขึ้นมองคนตัวโตด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินคำเรียกที่เขาเรียกแทนตัวเองและเธอ มันฟังดูละมุนจนรู้สึกจักกะจี้ในหัวใจ ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย"หืออะไรครับ ต่อไปนี้เราจะเรียกกันแบบนี้โอเคไหมครับ" "โอเคก็ได้ค่ะ" อลินดาพยักหน้าเอออออย่างว่าง่ายแม้จะรู้สึกเขอะเขิน และไม่ชินหูก็ตาม"น่ารักที่สุด" มาเฟียหนุ่มก้มลงหอมหน้ามนฟอดใหญ่ ก่อนจะเคลื่อนลงหอมแก้มซ้ายขวาของเธอต่อด้วยความรักใคร่เอ็นดู ขณะที่คนถูกหอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากเธอตัดสินใจวางทิ้งความรู้ไม่ดีต่อมาเฟียหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องในอดีต และท