Mag-log inจากวันนั้นก็เวลาล่วงเลยมาครึ่งเดือนเต็ม ๆ มาเฟียหนุ่มยังคงให้ลูกน้องเดินหน้าตามสืบเรื่องของน้องสาวอย่างหนักหน่วง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยสักนิด
กล้องและเครื่องดักฟังที่เขาแอบเอาไปติดในห้องน้องสาวก็ไม่ได้ทำให้เขารู้อะไรเลย มันน่าแปลกที่น้องสาวไม่แม้แต่จะโทรคุยกับแฟน หรือพาแฟนมาที่ห้องเลย นอกจากอลินดาคนเดียวที่น้องสาวมักไปมาหาสู่
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งปวดหัวกับเรื่องนี้ ไหนจะคนเป็นพ่อที่เร่งอยู่ทุกคืนวันให้เขารีบจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย
"นายจะเอายังไงต่อครับเรื่องคุณโยษิตา" เสียงถามไถ่ของมือขวาทำให้มาเฟียหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิด ดวงตาคมกริบปรายมองหน้ามือขวาเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไรออกไป
ตอนนี้เขาก็คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงดีแต่ถ้าหากทำวิธีที่เขาถนัดก็คือจับอลินดามาทรมานเค้นเอาคำตอบ ทว่าที่เขาไม่อยากใช้วิธีรุนแรงเพราะยังเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวอยู่ รอให้ทุกอย่างถึงที่สุดก่อนเขาถึงจะหยิบวิธีนี้มาใช้
"จะไปไหนก็ไป" เขาถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ก่อนจะไล่ตะเพิดมือขวาที่ยืนเสนอหน้าขวางหูขวางตาให้ออกไปให้พ้น แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูกล้องแอบถ่ายที่เขาติดไว้ในห้องน้องสาว
ทางด้านโยษิตาไม่รู้เลยว่าพี่ชายได้แอบซ่อนกล้องไว้ในห้องจึงทำให้เธอไม่ระวังตัวเพราะคิดว่าในห้องตัวเองปลอดภัย
วันนี้หลังจากเลิกงานเธอก็รีบบึ่งรถกลับมาทำอาหารเตรียมดินเนอร์ที่ห้องเพราะเป็นวันครบรอบสิบปีที่เธอกับอลินดาคบกันจึงอยากทำเซอร์ไพรส์สาวคนรักสักหน่อย
เธอเตรียมเมนูที่อลินดาชอบ และไวน์รสเลิศไว้เสร็จสรรพ สร้างบรรยากาศภายในห้องให้โรแมนติกด้วยการใช้เทียนหอมเป็นแสงสว่างแทนหลอดไฟ บนโต๊ะอาหารประดับด้วยกลีบกุหลายสวยงาม เมื่อถึงเวลาก็ต่อสายหาสาวคนรัก
"อลินเค้าปวดท้องจังเลย" เธอโกหกอลินดาไปว่าปวดท้องเพื่อหลอกให้อลินดามาหา
(อดทนไว้นะเค้าจะรีบไปหา) อลินดาที่กำลังขับรถอยู่ยิ่งเร่งความเร็วมากขึ้นเมื่อได้ยินคำบอกกล่าวจากโยษิตา เธอกำลังพาดอกไม้ช่อโต และของขวัญไปเซอร์ไพรส์แฟนสาวในวันครบรอบที่คอนโดพอดี
แต่ดูท่าตอนนี้แผนคงล้มแล้วเพราะแฟนสาวดันปวดท้อง เมื่อมาถึงคอนโดเธอก็รีบวิ่งแจ้นขึ้นห้องแฟนสาวรักทันทีแม้แต่ช่อดอกไม้ก็ไม่เอาไปเพราะรู้สึกเป็นห่วงแฟนสาวมาก
"เอ๊ะ!"
ทว่าเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความแปลกใจกับบรรยากาศภายในห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นเทียนหอมมีเพียงแสงสว่างจากเทียนให้ความสว่างน้อย ๆ
รอยยิ้มบาง ๆ พลันผุดขึ้นประดับใบหน้าเรียวเมื่อพอจะเดาออกว่าอะไรเป็นอะไร หากคิดไม่ผิดแฟนสาวคงเซอร์ไพรส์เธอสินะแสบจริง ๆ โกหกเธอเสียเนียนเลย
"สุขสันต์วันครบรอบสิบปีของเรานะที่รัก" โยษิตาเดินออกมาจากมุมมืดของห้องโผล่เข้ากอดสาวคนรักจากด้านหลัง
อลินดาถึงกับหลุดยิ้มออกมากับคำพูดและการกระทำแสนน่ารักของแฟนสาว ก่อนจะหันไปสวมกอดแฟนสาวตอบ "สุขสันต์วันครบรอบค่ะคนดีของอลิน"
ทั้งสองแสดงความรักกันอย่างหวานซึ้งโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำทุกอย่างมีใครบางคนมองผ่านกล้องที่แอบอยู่ภายในห้อง
ทั้งภาพทั้งเสียงมาเฟียหนุ่มได้ยินได้เห็นชัดแจ๋ว เข้าใจทุกอย่างอย่างถ่องแท้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ขบกรามแน่นจนเสียงดังกรอด
ที่แท้แฟนของน้องสาวก็เป็นคนใกล้ตัวที่เขาคาดไม่ถึงนี่เองมิน่าทั้งสองถึงรวมหัวกันช่วยปิดบัง เขาถูกทั้งสองหลอกจนไม่เหลือชิ้นดี
เขาโกรธที่โดนทั้งสองหลอกยังไม่พอไหนจะช็อคเรื่องน้องสาวคบกับผู้หญิงด้วยกันอีก บอกตามตรงว่าเขารับไม่ได้ที่สุด และเชื่อว่าพ่อกับแม่ก็คงรับไม่ได้เช่นกันเพราะฉะนั้นเขาจะทำทุกวิธีทางเพื่อแยกทั้งสองออกจากกัน
"มีความสุขกันให้พอนะอลินดา โยษิตาเพราะนี่จะเป็นคืนสุดท้ายที่เธอทั้งสองจะได้แสดงความรักกัน" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างเยือกเย็น ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองภาพคนทั้งสองที่กำลังพลอดรักกันหวานชื่นบนหน้าจอราวกับจะทะลุเข้าไปด้านใน
แต่คืนนี้เขาจะใจดีปล่อยทั้งสองให้ได้ร่ำลากันให้หนำใจเพราะหลังจากวันนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว เขาจะคิดบัญชีกับทั้งสองไม่ให้พลาดสักดอกไม่เว้นแม้แต่โยษิตาซึ่งเป็นน้องสาว
วันต่อมา ทั้งสองก็พากันไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล แล้วไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานทะเบียนต่อ"เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะ ต่อจากนี้ห้ามชายตามองผู้ชายคนไหนแม้แต่นิดเดียว" ทันทีที่ใบทะเบียนสมรสที่มีลายลักษณ์อักษรของหญิงสาวกับตัวเองอยู่ในมือมาเฟียหนุ่มก็ยืดออกแสดงความความเป็นเจ้าของอย่างเต็มภาคภูมิ"แค่ดูเป็นอาหารตาก็ไม่ได้เหรอคะสามี" อลินดาพูดหยอกสามีป้ายแดงด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มบาง ๆ ขณะกำลังจูงมือกันเดินออกจากสำนักงานทะเบียน"มีผัวหล่อขนาดนี้แล้วจะไปมองผู้ชายคนอื่นทำไม มองผัวนี่แหละครับเป็นอาหารตาชั้นดี" เธอได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ พอได้ยินคำพูดจาหลงตัวเองของคนเป็นสามีเธอเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเขาก็หลงตัวเองเหมือนกัน ต่อให้ที่เขาพูดมาจะจริงก็เถอะ ด้วยความมันเขี้ยวอดพูดแกล้งเขาไปไม่ได้ "พี่หล่อก็จริง แค่มองทุกวันมันก็เบื่อเหมือนกันนะ"คำพูดจากริมฝีปากอิ่มทำคนฟังหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่ชอบใจ พลันหยุดเดินอัตโนมัติแล้วหันไปมองหน้าร่างบางพร้อมพ่นคำพูดออกไประรัว"อย่าแม้แต่จะคิด ห้ามเบื่อ ห้ามเลิกรัก ห้ามมองผู้ชายคนอื่น ห้ามทิ้งกัน ห.."อลินดาฟังแทบไม่ทันจนเธอต้องรีบยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก
เมื่อกลับมาถึงคอนโดเธอยังคงทำตัวปกติรอจนมาเฟียหนุ่มหลับจึงแอบเอาที่ตรวจครรภ์ไปตรวจในห้องน้ำ หัวใจดวงน้อย ๆ เต้นแรงแทบจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอกระหว่างที่กำลังรอผลตรวจ มันลุ้นเสียยิ่งกว่าลุ้นเสียอีก หากถามว่าเธอพร้อมมีลูกในตอนนี้ไหมตอบเลยว่าไม่ แต่หากว่าลูกมาแล้วจริง ๆ เธอก็คงต้องพร้อมให้ได้ "อึก.." เธอลอบกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ ก่อนจะยื่นมือที่สั่นเพราะความตื่นเต้นไปหยิบที่ตรวจครรภ์ที่วางบนอ่างล้างหน้าขึ้นมาดู "อ่า..ทำไมรีบมาจังลูกแม่ยังใช้ชีวิตวัยรุ่นไม่คุ้มเลย" พอเห็นผลตรวจที่ขึ้นสีแดงสองขีดเธอถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับความรู้สึกมันตีกันมั่วไปหมด ใจหนึ่งเธอก็ดีใจแต่อีกใจก็นึกกังวลอะไรหลาย ๆ อย่าง เธอหลับตาลงพยายามตั้งสติ ขจัดความรู้สึกไม่ดีออกไป จากนั้นก็กำที่ตรวจครรภ์ไว้ในมือแน่นแล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องน้ำ เดินไปหย่อนก้นนั่งบนเตียงข้าง ๆ ร่างสูงที่นอนหลับอยู่ สายตาจ้องมองใบหน้าคมคายด้วยความรู้สึกมันเขี้ยวที่เธอท้องคงจะสมใจเขาแล้วสิ นิ้วเรียวยื่นไปกรีดกรายตามแนวคิ้วโก้งทั้งสอง แล้วค่อย ๆ ลากลงตามจมูกโด่งเป็นสันมาหยุดที่ริมฝีปากหยักสีชมพูพลางครุ่นคิดในใจว่าหากเป็นล
เป็นเพราะเธอที่เข้ามาทำให้โลกอันดำมืดของเขาสว่างไสว เธอเป็นคนที่เข้ามาเติมทุกอย่างที่เขาขาดหายให้เต็มแล้วแบบนี้จะไม่ให้เขารัก และขอบคุณเธอได้ยังไงกันสองสายตามองสบประสานกันอย่างลึกซึ้งส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ก่อนทั้งสองจะละสายตาจากกันเมื่อหมอวัยกลางคนเดินเข้ามา มีแค่มีที่ยังกอบกุมกันไว้แน่นด้วยลุ้นระทึกกับผลตรวจที่อยู่ในมือหมอ"ผลตรวจร่างกายของคนไข้ปกติทุกอย่างครับ ไม่มีอะไรต้องกังวล" พอได้ฟังผลตรวจทั้งมาเฟียหนุ่มกับอลินดาก็ถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้วยรู้สึกโล่งอกที่ผลออกมาปกติ ทว่าอีกใจก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีกับอาการที่เป็นอยู่"แล้วอาการที่ผมเป็นอยู่นี่ล่ะครับ" มาเฟียหนุ่มถามไถ่ไป"จากอาการที่คนไข้บอกมาถ้าร่างกายปกติก็มีเพียงอย่างเดียวครับ" หมอวัยกลางคนกล่าวยิ้ม ๆ แล้วเงียบไปชั่วครู่จึงเอ่ยต่อ "แพ้ท้องแทนภรรยา""ห๊ะ!!"สิ้นคำบอกกล่าวจากหมอมาเฟียหนุ่มกับอลินดาถึงกับตาเบิกกว้างร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจระคนฉงน พลันหันมองหน้ากันอัตโนมัติ"ประจำเดือนน้องอลินมารึยังเดือนนี้" มาเฟียหนุ่มรีบถามไถ่ด้วยความตื่นเต้นพลางก้มมองหน้าท้องของคนรัก ลึก ๆ ในใจเขาอยากให
หนึ่งเดือนต่อมา.."พี่แทนลุกขึ้นมากินข้าวอย่าเอาแต่นอนแบบนี้" อลินดาเขย่าเรียกคนตัวโตที่เอาแต่นอนตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงข้าวปลาก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาทานด้วยความเป็นห่วงช่วงหนึ่งอาทิตย์มานี้เขาเอาแต่นอน ข้าวปลาก็ไม่ค่อยทานบอกว่าเบื่อจนน้ำหนักลดลงไปหนึ่งกิโลแล้ว หนำซ้ำยังมีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้องปวดหลังราวกับผู้หญิงมีประจำเดือนยังไงยังงั้น แต่พอพาไปหาหมอหมอกลับบอกว่าปกติทุกอย่างถามว่าเขามีความเครียดหรือเปล่าเขาก็บอกว่าไม่เลย เขามีความสุขที่สุดด้วยซ้ำเพราะได้อยู่กับเธอแทบทุกวันทุกคืนตั้งแต่วันที่ไปหาพ่อแม่ของเธอด้วยกัน ได้พูดคุยจนเข้าใจเธอกับเขาก็ไปมาหาสู่ และอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นซึ่งมาเฟียหนุ่มจะมาอยู่ที่คอนโดของเธอเรียกได้ว่าตอนนี้เขาครองห้องเธอไปแล้ว ส่วนเธอก็มีบางคืนที่กลับไปนอนที่บ้านบ้างเพื่อไม่ให้พ่อแม่ว่าเอาได้ว่าอยู่แต่กับผู้ชายจนลืมบ้านลืมช่อง "พี่แทนลุกขึ้นมากินอะไรสักนิดก่อน แล้วค่อยนอนต่อ" เธอเขย่าคนตัวโตแรงกว่าเดิมเมื่อเขายังคงนอนหลับต่อ "ตื่นแล้วครับ" ในที่สุดคนถูกปลุกก็ต้องลืมตาตื่นด้วยความจำใจ เขายกมือทั้งสองขยี้ตาไล่อาการงัวเงียออก ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกที่
ภายในห้องน้ำเปลี่ยนเป็นสมรภูมิรักของคนทั้งสองไปแล้วน้ำที่ว่าเย็นก็ดับความร้อนแรงนี้ไม่ได้ มาเฟียหนุ่มเดินหน้ากระแทกไม่หยั่ง อีกคนก็รอรับด้วยความกระสันเสียวและสุขสม กว่าจะอิ่มหนำก็ใช้เวลาไปไม่น้อยอลินดาถึงกับขาอ่อนยืนไม่ไหวเป็นมาเฟียหนุ่มที่ต้องคอยดูแลจัดการอาบน้ำถูสบู่ และสระผมให้ แล้วอุ้มออกมาวางบนเตียง"หึ" มาเฟียหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างนึกเอ็นดูคนตัวเล็กที่นั่งตาปอยอยู่ริมเตียง ก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบหน้าผากมนเบา ๆ แล้วเดินไปเอาผ้าขนหนูอีกผืน จากนั้นก็กระโดดขึ้นเตียงไปนั่งข้างหลังเธอจัดการเช็ดผมให้อลินดายกยิ้มออกมาน้อย ๆ กับการกระทำแสนอ่อนโยนของคนตัวโตใครจะคิดว่ามาเฟียหนุ่มอย่างเขาจะมีมุมอ่อนโยนด้วย เขาอ่อนโยนจนบางทีเธอก็คิดไม่ถึง"ขอบคุณค่ะ" ครั้นเขาเช็ดผมให้เสร็จเธอก็เอี้ยวหน้าไปขอบคุณพร้อมทั้งฉีกยิ้มให้เขาจนตายี มาเฟียหนุ่มจึงใช้จังหวะนั้นจุบปากเธอไปหนึ่งทีถือเป็นค่าเช็ดผม แล้วจึงลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อให้เธอใส่ เขายืนเลือกอยู่สักพักโดยมีอลินดานั่งมองที่เตียง เมื่อเลือกได้ก็พาไปยื่นให้ "ใส่ไปก่อนครับ เดี๋ยวชุดน้องอลินพี่ให้แม่บ้านเอาไปซักให้"อลินดามองเสื
ทั้งสองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงค่ำ ๆ หลังจากนอนพักเอาแรงกันจนอิ่มแล้วมาเฟียหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมาเปิดหน้าจอดูเวลา เมื่อเห็นว่าใกล้สองทุ่มแล้วจึงบอกกล่าวกับร่างบางในอ้อมกอด "ลุกขึ้นไปอาบน้ำครับจะได้ไปหาอะไรกินกัน""ขอนอนนิ่ง ๆ แบบนี้อีกสักพักได้ไหม" อลินดาแสดงท่าทีงอแงเพราะรู้สึกง่วง ๆ และขี้เกียจน้อย ๆ ซึ่งมาเฟียหนุ่มก็ไม่คิดขัดใจปล่อยให้เธอนอนกอดเขาต่อไปไม่คิดจะลุกหนีผ่านไปราว ๆ ยี่สิบนาทีจึงเรียกเธออีกครั้ง "พี่ว่าลุกขึ้นได้แล้วครับน้องอลิน""หือ.." อลินดาถึงกับตาโตหูผึ่ง ผงกหน้าขึ้นมองคนตัวโตด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินคำเรียกที่เขาเรียกแทนตัวเองและเธอ มันฟังดูละมุนจนรู้สึกจักกะจี้ในหัวใจ ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย"หืออะไรครับ ต่อไปนี้เราจะเรียกกันแบบนี้โอเคไหมครับ" "โอเคก็ได้ค่ะ" อลินดาพยักหน้าเอออออย่างว่าง่ายแม้จะรู้สึกเขอะเขิน และไม่ชินหูก็ตาม"น่ารักที่สุด" มาเฟียหนุ่มก้มลงหอมหน้ามนฟอดใหญ่ ก่อนจะเคลื่อนลงหอมแก้มซ้ายขวาของเธอต่อด้วยความรักใคร่เอ็นดู ขณะที่คนถูกหอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากเธอตัดสินใจวางทิ้งความรู้ไม่ดีต่อมาเฟียหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องในอดีต และท







