LOGINหัวใจที่สุมด้วยไฟแค้นของมาเฟียหนุ่ม เขาแก้แค้นเธอที่ทำลายชีวิตน้องสาวที่เขารัก ด้วยการย่ำยีศักดิ์ศรีของผู้หญิงอย่างเลือดเย็น โดยไม่รู้เลยว่า…เธอได้หอบสายเลือดตัวน้อย ๆ กับหัวใจที่บอบช้ำของเธอไปด้วย
View More"ฉันยินดีกับเธอด้วยนะคาร่า เราสองคนก็จบชั้นมัธยมปลายจนได้"
"ถ้าไม่ได้เธอฉันก็คงไม่จบหรอก ก็เธอช่วยฉันไว้เยอะเลยนี่นาอิ่มเอม"
"พูดอะไรกันน่ะ มันอยู่ที่ความพยายามของเธอต่างหาก เธอจบโรงเรียนนานาชาติได้นะ แถมยังพื้นฐานแน่นกว่าของฉันอีก ตอนที่ฉันเคยดูสมุดการบ้านของเธอ ฉันยังไม่เคยเห็นการเรียนอะไรแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ เพราะที่โรงเรียนฉันไม่ได้สอนแบบนั้นน่ะสิ"
"ก็ตอนนั้นบอกแล้วไงว่าให้มาเรียนด้วยกันก็ไม่เอา ถ้ามาเรียนเธอคงจะได้พูดภาษาอังกฤษคล่องแน่"
"ไม่ไหวหรอก ค่าเทอมหลายแสนขนาดนั้นฉันจะเอาเงินจากไหนมาเรียนล่ะ"
"ก็ฉันถึงได้บอกไง ฉันรู้ว่าเธอไม่ค่อยมีเงินเพราะพี่ชายเธอก็ไม่ได้ทำงานด้วย ฉันถึงได้บอกจะให้แด๊ดช่วยออกค่าเทอมให้เธอเอง เธอก็ไม่เอา"
"เงินมากมายขนาดนั้นฉันไม่มีทางเอาของเธอหรอกนะ ว่าแต่เราเลิกพูดกันเรื่องนี้เถอะ แล้ววันนี้ว่างหรือเปล่า ฉันอยากเลี้ยงฉลองให้เธอที่เรียนจบน่ะ เราไปคาเฟ่ร้านประจำกันดีไหม วันนี้ฉันขอเลี้ยงเครื่องดื่มเธอเองนะ"
"ไม่ได้นะ วันนี้ครอบครัวของฉันจะมีเลี้ยงฉลองที่ฉันเรียนจบ แล้วแน่นอนว่าคืนนี้เธอต้องไปร่วมงานเลี้ยงกับฉันด้วยนะ เดี๋ยวรอเฮียครูซตรงนี้แหละ เฮียกำลังจะมารับฉันแล้วล่ะ พอดีเป็นทางผ่านที่เฮียมาทำธุระพอดี"
"แต่ฉันเป็นห่วงพี่ชายน่ะสิ ถ้าฉันไม่ไป..."
"ไม่ได้นะอิ่มเอม เมื่อสัปดาห์ก่อนตอนที่เธอจบการศึกษาก่อนฉันเพราะโรงเรียนของเธอแจกใบจบการศึกษาก่อน ฉันก็ยังไปร่วมยินดีกับเธอเลย วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของฉันเหมือนกันนะ ฉันก็อยากให้เพื่อนของฉันมาอยู่ร่วมดูความสำเร็จด้วย ขอร้องล่ะ แค่วันเดียวเอง"
"แต่จะไม่มีคนเตรียมอาหารเย็นให้พี่ชายฉันน่ะสิ อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต้องไปถึงที่บ้านแล้ว เพราะคนที่ดูแลพี่ฉันต้องกลับแล้วน่ะสิ"
"งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะให้เฮียไปส่งเธอที่บ้านก่อน ให้เธอเตรียมอาหารให้พี่ชายแล้วเราก็ไปกัน แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง นะอิ่มเอม"
อิ่มเอมทำท่าทางลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด ทางนั้นก็พี่ชาย ทางนี้ก็เพื่อนคนสำคัญ แต่เธอก็จะทิ้งให้พี่ชายที่นอนคิดเตียงอยู่คนเดียวไม่ได้แน่ ๆ
"เดี๋ยวฉันขอถามพี่ชายก่อนนะว่าอยู่คนเดียวสักสามสี่ชั่วโมงได้ไหม ถ้าพี่ชายฉันโอเค ฉันจะไปด้วยนะ"
"เย้...งั้นดีเลย เดี๋ยวฉันจะไปอ้อนพี่ชายเธออีกแรง มาแล้ว...รถของเฮียครูซมาแล้วล่ะ ไปกันเถอะ" คาร่าดึงแขนเรียวของเพื่อนสนิทแต่ก็ต้องชะงัก เพราะอิ่มเอมไม่ยอมไปตามแรงดึงของเธอด้วย
"เดี๋ยวไปเจอกันที่บ้านฉันเลยดีกว่านะ" อิ่มเอมอยากหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหน้าของพี่ชายเพื่อนสนิท ถึงแม้จะเคยเจอกันหลายครั้งแล้วก็ตาม ถึงจะไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าพี่ชายของคาร่าไม่พอใจที่น้องสาวของเขาต้องมาคบกับเธอ
"ไม่ได้นะ ไหน ๆ ก็มาทางเดียวกันแล้วก็ไปด้วยกันนี่แหละ เร็วสิ! เดี๋ยวพี่ชายเธอที่บ้านก็รอนานหรอก"
อิ่มเอมก็ยอมเดินไปตามแรงดึงของเพื่อนด้วยความจำใจ ก่อนจะพากันรีบเดินไปที่รถลีมูซีนหรูกันกระสุนอย่างดี โดยมีคนขับรถมาเปิดประตูให้ด้วยความนอบน้อม แล้วคาร่าก็เลือกไปนั่งเบาะหลังกับเพื่อนสนิท แทนที่จะไปนั่งตรงกลางกับพี่ชาย
"สวัสดีค่ะเฮียครูซ เดี๋ยวเฮียช่วยแวะให้หนูแถวนี้หน่อยนะคะ พอดีว่าหนูจะแวะไปทำธุระที่บ้านเพื่อนก่อนน่ะค่ะ" คาร่าพูดภาษาอังกฤษใส่พี่ชายเพราะทั้งสองเป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย จึงมักจะสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษเป็นส่วนมาก
"สวัสดีค่ะ" อิ่มเอมรีบยกมือไหว้พี่ชายของเพื่อน หลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถหรูแล้ว ส่วนฝ่ายนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรสักนิด อิ่มเอมก็รีบนั่งก้มหน้าด้วยความเกรงใจตามเดิม
"จะไปทำไมอีกล่ะ เดี๋ยวงานเลี้ยงจะเริ่มแล้วนะ"
"เฮียไปส่งหนูแป๊บเดียวนะคะ พอดีเพื่อนหนูจะต้องไปเตรียมอาหารเย็นให้พี่ชายก่อนจะไปที่บ้านเราน่ะค่ะ"
"พี่เคยบอกเราแล้วใช่ไหมว่าให้เลิกคบกับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนั้นได้แล้ว ทำไมถึงได้มีรสนิยมต่ำขนาดนี้ นี่ก็เรียนจบเกรดสิบสองแล้ว ยังไม่เลิกคบกับเพื่อนพรรค์นั้นอีกหรือไง"
"ทำไมเฮียถึงต้องว่าเพื่อนหนูแบบนี้ด้วยล่ะ หนูไม่สนหรอกนะว่าเพื่อนหนูจะจนหรืออะไร แต่อิ่มเอมคือเพื่อนที่คนสำคัญที่สุดของหนู เฮียอย่ามาพูดแบบนี้กับเพื่อนหนูอีกนะ"
"ก็เห็นคบกันมาตั้งหลายปีแล้วนี่ เลิกคบได้แล้วมั้ง เพื่อนจน ๆ จะคบให้เสียเวลาทำไม มีแต่จะทำให้ขายขี้หน้าวงศ์ตระกูลของเราเปล่า ๆ"
"เฮียอย่าพูดแบบนี้เป็นภาษาไทยให้เพื่อนหนูได้ยินนะ ดีนะที่เพื่อนหนูไม่ค่อยแข็งเรื่องภาษาอังกฤษน่ะ ไม่งั้นเพื่อนหนูจะเสียใจขนาดไหน ลุงคะ…ช่วยไปแวะที่ xxx ด้วยค่ะ" ประโยคสุดท้าย คาร่าตะโกนบอกทางที่จะไปกับคนขับรถของพี่ชาย เพื่อไปยังบ้านของเพื่อนสนิท
อิ่มเอมได้แต่นั่งนิ่งฟังการสนทนาของคนทั้งสอง เธอรู้และเข้าใจทุกอย่างที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน จริงอยู่ที่เมื่อหลายปีก่อนเธอไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลย แต่พอเธอได้เป็นเพื่อนกับคาร่า เธอก็เริ่มเรียนรู้และศึกษาภาษาอังกฤษตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ด้วยตัวเองนอกจากที่เรียนในชั้นเรียน เธอมักจะฟังการสนทนาของชาวต่างชาติและดูหนังแปลบ่อย ๆ จนสามารถฟังภาษาอังกฤษได้เข้าใจ แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเธอคงคิดว่าเธอยังฟังและพูดไม่ค่อยได้เหมือนตอนนั้น
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์หลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น อิ่มเอมก็อยากรู้เหลือเกินว่าเพื่อนสาวของเธอเป็นยังไงบ้าง แต่เธอก็จนหนทางที่จะหาข่าวคราวของเพื่อนสนิท เพราะถึงเธอจะพยายามโทรไปหาเบอร์ส่วนตัวของคาร่ากี่ครั้งก็ไม่ติดอยู่ดี"ใกล้ได้เวลาแล้วสินะ" อิ่มเอมลุกขึ้นจากเก้าอี้ในห้องนอน แล้วส่องกระจกดูความเรียบร้อยของตัวเอง ก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างแล้วไปยังตึกแถวติดกันที่เป็นบ้านของแฟนพี่ชาย"เดี๋ยวหนูไปเรียกแท็กซี่ให้นะคะ""ไม่ต้องหรอกเอม เดี๋ยวพี่ชายพี่จะไปส่งที่สนามบินเองน่ะ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงน่าจะถึง เอมเข้ามารอข้างในด้วยกันก่อนสิ""ค่ะพี่หญิง""เอมแน่ใจนะว่าอยู่คนเดียวได้ จะไม่ไปอยู่ต่างประเทศกับพวกพี่จริง ๆ ใช่ไหม ยังไงพี่ก็เป็นห่วงเอมอยู่ดี ผู้หญิงตัวคนเดียวอยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ พี่อดเป็นห่วงไม่ได้จริง ๆ""พี่โอบจะเอาหนูไปเป็นภาระอีกหรือไงคะ ค่าใช้จ่ายที่โน่นก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย หนูอยู่ที่นี่แหละค่ะดีแล้ว เพราะพี่จะได้เก็บเงินเอาไว้รักษาขาได้เต็มที่""แต่พี่อยากให้เอมไปด้วยนะ เพราะเอมก็เรียนมหาวิทยาลัยระบบเปิดอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน ถึงเวลาก็แค่ไปสอบเท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้นก็ค่อยบินกลับ
คาร่าถึงกับพูดไม่ออกเพราะสิ่งที่ได้ยินจากปากของคนที่เธอรักมาก ทำให้ความรู้สึกที่อยากจะกอดเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปลิดชีพตัวเองหายไปเป็นปลิดทิ้ง"นี่คาร่า เวลาที่เธอเศร้าเธอจะชอบกินของหวาน งั้นเดี๋ยวฉันจะออกไปหาไอติมมาให้นะ ถ้าฉันกลับมาจะต้องมีแต่ความสดใสบนใบหน้านะเข้าใจไหม ไม่งั้นเธออดกินแน่""ขอบใจนะ ฉันจะตั้งตารอเลยล่ะ" คาร่ามองตามหลังเล็กของเพื่อนด้วยสายตาละห้อย เป็นอีกครั้งที่เพื่อนรักได้ช่วยให้เธอรู้สึกอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเธอยังจำความรู้สึกครั้งแรกที่เจอกับอิ่มเอมได้ เป็นคนแปลกหน้าคนแรกที่เธอเปิดใจอยากจะพูดเรื่องของตัวเองให้ฟัง"ถ้าเธออยากเข้มแข็งขึ้น อันดับแรกเลย จิตใจของเธอต้องเข้มแข็งก่อน แล้วก็ต้องดูสาเหตุว่าทำไมเธอถึงชอบโดนเพื่อนแกล้ง จากนั้นเราก็ต้องเข้มแข็งและอย่ากลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้น ยิ่งถ้าเธอกลัว คนพวกนั้นก็จะยิ่งได้ใจนะ"คาร่าหยิบยาที่เตรียมไว้เททิ้งลงถังขยะ ไม่รู้ทำไมเธอถึงตัดสินใจที่จะไม่ฆ่าตัวตาย เพียงแค่เธอคิดว่าถ้าอิ่มเอมกลับมาแล้วไม่เห็นหน้าเธออีกตลอดกาล เพื่อนที่เธอรักจะต้องเสียใจมากแน่ ๆ"ไอติมมาแล้ว" อิ่มเอมหิ้วถุงไอติมและขนมหวานมาถุงใหญ่
สองวันต่อมาอิ่มเอมก็มาโผล่ที่ต่างจังหวัดจนได้เพราะเธอก็รู้สึกผิดที่เป็นฝ่ายตีตัวออกห่างจากเพื่อนแบบนี้ ท่ามกลางสายตาที่ไม่พอใจของเพื่อนคาร่าที่มาด้วยอีกสามคน คนเหล่านั้นก็ทำได้แค่เพียงเขม่นมองดูด้วยสายตาไม่พอใจเท่านั้น เพราะไม่สามารถขัดความต้องการของคาร่าได้"คิดถึงเธอจังเลยอิ่มเอม สามวันนี้เรามาสนุกกันให้สุดเหวี่ยงไปเลยนะ""คาร่า…เธอเป็นอะไรไปหรือเปล่า ถึงเราจะไม่ได้เจอกันบ่อย แต่ฉันก็พอจะดูออกนะว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจ""ก็นิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวให้แม่บ้านเอาของไปไว้ที่ห้องก่อน เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง คืนนี้เธอนอนกับฉันได้ไหม""ได้สิ เรื่องแค่นี้เอง งั้นเราขึ้นไปกันเถอะ" อิ่มเอมมองตามเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันมาสักพักใหญ่ เธอก็ไม่รู้เลยว่าจิตใจของคาร่าในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง"คาร่า เล่นน้ำค่อยเล่นพรุ่งนี้ได้ไหม ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอเยอะเลย""ไม่รู้ว่าเพื่อนฉันจะโอเคหรือเปล่าน่ะสิ งั้นเดี๋ยวฉันลองไปถามดูก่อนนะ""ไม่ต้องหรอกคาร่า เดี๋ยวฉันไปถามเอง ห้องของเพื่อนเธออยู่ข้าง ๆ นี่เองใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวฉันไปบอกให้นะ เธอนั่งรอก่อนเถอะ"อิ่มเอมเคาะประตูห้องสองครั้ง แล้วก็เป็น
"พี่ว่าไงนะคะ พี่โอบกับพี่หญิงจะแต่งงานกัน""ใช่…พี่คิดกันมาสักพักแล้วล่ะ พี่กับหญิงก็ดูใจกันมานานแล้ว ตอนแรกพี่ก็กลัวว่าหญิงจะใจตรงกันกับพี่หรือเปล่า จะรังเกียจที่พี่ต้องพิการแบบนี้ จะเป็นภาระกับคนที่พี่รักไหม แต่ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่พี่จะต้องบอกเอมสักที""เป็นข่าวดีในรอบที่สองของวันเลยค่ะพี่ หนูดีใจมากเลยที่พี่ทั้งสองจะแต่งงานกัน แต่ว่าพี่หญิงคะ การที่พี่แต่งงาน นั่นก็หมายถึงพี่ต้องดูแลพี่ชายหนูแบบนี้ไปตลอดเลยนะคะ จะทำให้พี่ลำบากหรือเปล่า พี่โอเคหรือเปล่าคะ""รู้สิ พี่รู้ว่าถ้าแต่งงานแล้วพี่ต้องทำอะไร พี่ชายเอมไม่ได้พิการถึงขั้นที่ว่ารักษาไม่ได้สักหน่อย เดี๋ยวถ้าพี่หาเงินได้มากพอ พี่ค่อยพาพี่ชายเอมไปทำกายภาพบำบัดก็น่าจะดีขึ้นนะ หมอที่ดูแลก็บอกอยู่ไม่ใช่หรือไงว่าถ้าได้รับการรักษาและทำกายภาพบำบัดแล้ว ก็มีโอกาสกลับมาหายเป็นปกติน่ะ""ก็ใช่ค่ะ แต่ว่าหนูไม่อยากให้พี่หญิงลำบากเพราะหนูเกรงใจ""เอมคิดว่าถ้ามันลำบากจริง พี่จะยอมแต่งงานกับพี่ชายเอมหรือไง การที่พี่ตัดสินใจแบบนี้ นั่นก็หมายถึงพี่ยอมรับทุกอย่างในตัวของพี่ชายเอมได้ เพราะฉะนั้นอย่าห่วงเลย ส่วนเอมก็ใกล้จะเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว จะได้