Home / โรแมนติก / พันธะร้ายดีไซน์รัก / พันธะร้าย บทที่ 4 : เชื้อพระวงศ์

Share

พันธะร้าย บทที่ 4 : เชื้อพระวงศ์

last update Last Updated: 2025-08-29 12:28:13

เขาเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดลิฟต์ค้างไว้ เพื่อรอให้ฉันเป็นฝ่ายเดินเข้าไป นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ได้จะออกไหนอีก แต่ตั้งใจลงมาพร้อมลิฟต์อีกครั้ง

"..." จะเล่นมุกอะไรอีกดีล่ะ ฉันไม่อยากเข้าไปในนั้นนิ

"..." เขาเองก็เงียบและมองฉันที่ยังยืนนิ่งไม่ขยับ

"..." ฉันได้แต่มองซ้ายมองขวา เพื่อหาตัวช่วยแต่มันไม่มีใครเลยหรือไง ไม่มีแม้แต่ผู้ร่วมชะตากรรมเลยสักคน ใครก็ได้ที่มาตอนนี้แล้วฉันจะได้ไม่ต้องอยู่ในลิฟต์กับเขาเพียงลำพัง

"ไม่เข้ามาเหรอ" เมื่อยืนรออยู่นาน จึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

"ไปก่อนก็ได้ค่ะ" เหตุการณ์เมื่อเช้าวนมาอีกครั้ง

"เข้ามาสิ"

"ไม่เป็นไรค่ะ เจ้าชายไปก่อนเลย"

"เข้ามาเถอะ" ฉันไม่อยากอยู่ใกล้พวกเขา พูดออกไปก็ไม่ได้ มีหวังตายทั้งตระกูลแน่ เอาไงดี

"เจ้าชายขึ้นไปก่อนเลย" ครั้งนี้ฉันพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้เขา มือเล็กกำหูกระเป๋าไว้แน่น รีบขึ้นไปสักทีฉันหิวข้าว!

"เข้า มา" น้ำเสียงเริ่มบ่งบอกถึงความหงุดหงิด ครั้งนี้เขาเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน

"..." น่ารำคาญจัง หลบหลีกมาได้ตลอดแล้ววันนี้เป็นอะไรเจอสองรอบแล้วด้วย

"เร็ว" เขาเอ่ยปากเร่งเมื่อเห็นว่าฉันยังยืนนิ่ง แค่ชั้นหกสิบ แป๊บเดียวไม่ถึงห้านาที ฉันรู้ดีว่าลิฟต์ที่นี่ไวแค่ไหน เข้าก็ได้! เออ ยอมแพ้หิวมากด้วย ไม่ไหวแล้ว

ตึก ตึก ตึก!

ร่างบางเดินเข้าไปหยุดยืนในลิฟต์ด้วยสีหน้าบึ้งตึง นิ้วเรียวจิ้มกดไปที่ชั้นหมายเลข 60 ก่อนจะกดปิดประตูลิฟต์ ก่อนจะเดินหลบไปยืนอยู่ตรงมุมอีกฝั่งพร้อมเล่นโทรศัพท์มือถือค่าเวลา เขาแอบเหลือบมองไปยังหญิงสาวที่สนใจแต่โทรศัพท์ในมือ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้สนใจเขา นิ้วเรียวก็เอื้อมไปกดย้ำอีกครั้งที่เลข 60 ตอนนี้ลิฟต์กำลังดิ่งขึ้นไปยังชั้นสูงสุดของที่นี่

คนตัวสูงมองไปยังเลขชั้นที่เลื่อนขึ้นไปด้วยความเร็ว ที่เขากลับลงมาอีกครั้งเพราะอยากเช็กให้มั่นใจ เพราะเธอน่ะพยายามหลีกเลี่ยงการพบเจอพวกเรามาตลอด ทั้งที่ตัวเองก็มีหน้าที่สำคัญต้องสืบต่อแท้ ๆ แล้วสิ่งที่เขาคิดเอาไว้ก็คือเรื่องจริง ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเราแทบจะไม่ค่อยได้พบเจอกันสักเท่าไหร่ เพราะเธอจะออกไปตอนเที่ยงและกลับมาในตอนดึกแบบนี้เสมอ แต่เขาก็แค่อยากรู้ให้แน่ใจก็แค่นั้น

ติ้ง!

เสียงสัญญาณบอกว่าถึงที่หมายพร้อมกับประตูลิฟต์ที่เปิดออก ร่างบางละสายตาจากโทรศัพท์ในมือและก้าวเท้าเดินออกจากลิฟต์ทันที โดยที่ไม่คิดจะหันไปกล่าวลาผู้ที่อยู่ด้วยอีกคน

"เดี๋ยวนะ!"

ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเท้าออกพ้นประตู สายตาก็สะดุดกับภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ กลุ่มคนจำนวนหนึ่งต่างหันมามองฉันอย่างพร้อมเพรียง และรูปแบบการตกแต่งโทนสีดำหรูหราตรงหน้า มันไม่ใช่ห้องฉันนิ!

ปึก! เพราะความรีบร้อน ฉันกลับหันหลังเพื่อที่จะเข้าไปมองเลขชั้นในลิฟต์ ก็ปะทะเข้ากับอกกว้างของคนที่เดินตามมา

"เจ็บ!" ฉันกุมจมูกตัวเองไว้ด้วยความเจ็บปวดและเงยหน้ามองผู้ชายตรงหน้า

"เธอมาทำอะไรที่ห้องฉันเหรอ" เขาถามกลับด้วยสีหน้างุนงง ฉันก็งง! ก็กดเลือกชั้นห้องตัวเองแล้วนะ

"เอ่อ คือ" ยังไงเนี่ยเคท! ฉันลืมกดเหรอฉันไม่ใช่คนขี้ลืมนะ จำได้ว่ากดแล้วด้วย แต่ทำไมขึ้นมาถึงนี่ได้ล่ะ

"พี่เคทนิ พี่เคท!" เสียงหวานตะโกนเรียกชื่อฉันจากด้านหลัง หญิงสาวในวัยยี่สิบปี วิ่งตรงเข้ามาทางฉัน เธอคือเจ้าหญิงลำดับที่สิบ

"วานิสอย่าวิ่ง" เสียงเข้มเอ่ยดุเด็กสาวทำให้เธอหยุดชะงักอยู่กับที่ทันที

"ดุจังเลยพี่เอเดน" เธอหันไปโวยวายพี่ชายของตัวเอง เขาเจ้าชายลำดับที่ห้า ฉันยืนมองทั้งคู่โต้เถียงกัน ท่ามกลางสายตาของคนอื่น ๆ

'กฎข้อที่ 7 ของราชวงศ์ พระนามจริงจะถูกปิดเป็นความลับ เมื่อใดก็ตามที่มีผู้ล่วงรู้ เขาหรือเธอผู้นั้นจะต้องตกเป็นคนของพระองค์โดยไม่มีทางปฏิเสธได้'

แล้วชื่อที่พวกเขากำลังเรียกกันอย่างไม่เกรงใจฉัน ก็คือ พระนามแฝง ฉันรู้การละเล่นของพวกเขาดี เหล่าราชวงศ์มักปั่นหัวผู้คนที่อยากเข้ามาพัวพันด้วยการบอกชื่อปลอมอยู่เสมอ เพราะชื่อจริงของพวกเขา มีไว้เพื่อมอบให้แก่ เขาหรือเธอผู้เป็นที่รักเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะมันคือ กฎซ้อนกฎอีกที ฉันท่องกฎของพวกเขามาทั้งชีวิตแล้ว ทุกอย่างมักมีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้กฎเหล่านั้นทุกข้อ

ฉันเบี่ยงตัวหลบและถอยหลังกลับเข้าไปในลิฟต์อย่างช้า ๆ ต้องใช้จังหวะนี้แหละที่จะหนีพวกเขาได้ แต่ไม่สามารถหลบความสนใจของผู้ชายที่อยู่ด้านหลังไปได้

"เธอยังไม่ตอบเลยนะว่าขึ้นมาห้องฉันทำไม" คำถามของเขาทำให้ทุกคนต่างหันมาสนใจอีกครั้ง

"ขอโทษด้วยค่ะ คงลืมกดเลือกชั้น" ฉันกล่าวขอโทษออกไปและก้มหัวเพื่อเป็นการขอโทษเขาอีกที

"อย่าดุพี่เคทเลยนะ" เจ้าหญิงวานิสพยายามช่วยพูดอีกแรง แต่สิ่งที่ฉันอยากให้เกิดขึ้นคือ ทุกคนอย่าสนใจฉันเลยได้โปรด

"พี่ไม่ได้ดุ พี่ก็แค่ถาม"

"ขอโทษเจ้าชายอีกครั้งค่ะ ขอตัวนะคะ" พูดจบก็รีบเดินเข้าไปใจลิฟต์ทันที แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ยอมให้ฉันได้จากไปง่าย ๆ

"พี่เคท เราแทบจะไม่ได้เจอกันเลยนะคะ มาปาร์ตี้กับเราไหม" คืนปาร์ตี้ลับของพวกเขาเหรอเนี่ย

"พอดีพี่ไม่ค่อยสบายเอาไว้ครั้งหน้านะคะเจ้าหญิง" เธอยิ้มกว้างด้วยความน่าเอ็นดูและพยักหน้าอย่างเข้าใจง่าย

ส่วนเขาเจ้าชายลำดับที่สอง เดินพ้นประตูลิฟต์ออกไป ฉันก็รีบกดปิดลิฟต์และลงไปยังห้องตัวเองทันที ก่อนประตูจะปิดสนิทลง สายตาของคนอื่นที่ยืนอยู่ต่างหันกลับมามองที่ฉัน ยกเว้นซะแต่คนที่ขึ้นลิฟต์มาพร้อมกันเขายังคงยืนหันหลังให้

ติ้ง! ประตูลิฟต์ปิดสนิทลงและเลขชั้นเลื่อนลงจากชั้นที่หนึ่งร้อยถอยหลังสู่ชั้นที่หกสิบ

อะไรกัน...สายตาของพวกเหล่าเชื้อพระวงศ์น่ะ ยิ่งโตพวกเขาก็ยิ่งไม่น่าเข้าใกล้ ฉันต้องสืบตำแหน่งปู่และดูแลพวกเขางั้นเหรอ บ้าน่า...ใครจะเอาตัวเองไปวุ่นวายกับพวกคนอันตรายแบบนั้นกัน

ติ้ง!

ประตูลิฟต์ปิดเลื่อนประกบกันจนสนิท สายตาของทุกคนตรงหน้าก็เปลี่ยนเป้าหมายมาทางผู้ชายที่ยืนอยู่

"ที่บอกว่าลืมของนี่คือ..." หนึ่งในกลุ่มพี่น้องพูดขึ้นทำให้ทุกคนต่างทำสีหน้าจับผิด

"นี่ไง" เขาชูโทรศัพท์ในมือขึ้น เพราะโกหกพวกเขาว่าลงไปเอาโทรศัพท์ในรถมา

"..." แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

"พี่ฮาเซลลงไปรับพี่เคทเหรอ"

น้องเล็กสุดที่อยู่ตรงนี้ก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะความตรงไปตรงมาและคิดอะไรก็พูดทำให้ทุกคนต่างอยากจะขอบคุณเธอที่เป็นฝ่ายถามแทนในครั้งนี้

"ก็บอกว่าลืมโทรศัพท์" เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและเดินไปทางประตูเข้าห้องตัวเอง

"น่าสงสัย" น้องสาวต่างมารดาของเขายังไม่เลิกคาดคั้น

"ไม่ต้องมาหาเรื่องสงสัย แล้วทำไมเรียกชื่อจริงกันต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น" ครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายคาดคั้นพวกเขาซะเอง เอเดนและวานิสต่างหลบสายตามองไปทางอื่น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

"ไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย พี่เคทก็เป็นเพื่อนกับพี่ฮาเซลมาตั้งแต่เด็ก ก็เหมือนกับเป็นพี่สาวพวกเราด้วย"

ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ตั้งแต่เด็กจนโตเธอก็ไม่เคยปริปากเรียกชื่อพวกเราสักคน ไม่ว่าจะชื่อจริงหรือชื่อแฝง เคทระวังตัวเองไม่ให้ถูกพันธะของกฎผูกมัดเธอ แม้ว่าเขาจะเคยลองแล้วก็ตาม

"ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นเพื่อนแล้ว" ด้วยสาเหตุบางอย่าง ทำให้เธอแยกตัวออกไปตั้งแต่สูญเสียพ่อแม่ แล้วหลังจากนั้นเคทก็ทำตัวแปลกแยกไปทันที

จากเมื่อก่อนในวัยเด็กพวกเราคือเพื่อนเล่นที่เจอกันทุกวัน แล้วอยู่ ๆ การสูญเสียก็ทำให้เธอเปลี่ยนไป กลายเป็นคนเก็บตัวและพยายามหลบหน้าพวกเรามาโดยตลอด

"แต่เคทก็ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ" เขามองไปยังน้องชายต่างมารดาของตัวเอง

"เจเรมี่สนใจผู้หญิงแล้วเหรอ" คำถามของเขาทำให้ทุกคนหันไปมองที่คนถูกถามอย่างพร้อมเพรียง

"ก็ไม่เคยเกี่ยงนะ ถ้าน่ารักแบบเคทก็โอเค" ทุกคนรู้ว่าเขาไม่ได้มีรสนิยมชอบผู้หญิง แต่การเอ่ยปากชอบและสายตาที่มองมา กำลังบอกว่าเขาสนใจจริง ๆ

"แต่พี่เคทมีแฟนแล้วนะ พี่เคทเดทบ่อย" วานิสพูดขึ้น

"เดทหลอก ๆ" เอเดนพูดขึ้น

"เดทหนีการดูตัว" เจเรมี่ก็พูดอย่างรู้ทัน

"อ่อนต่อโลกอย่างเคทเนี่ยนะมีแฟน" และเขาพูดจบก็เดินผ่านทุกคนเข้าห้องไปทันที ทุกสายตาของบรรดาพี่น้องร่วมราชวงศ์ต่างมองเขาเป็นตาเดียว

"พี่ฮาเซลจะกลับมาสนิทกับพี่เคทอีกไหมนะ" วานิสหันไปถามพี่ ๆ ของเธอ ทุกต่างยิ้มให้กับเจ้าหญิงตัวน้อย ก่อนที่จะพูดขึ้นพร้อมกัน

"ไม่มีทาง!!"

พวกเขารู้ว่าพี่ของตัวเองเป็นยังไง รอยยิ้มอบอุ่น ใจดี สุภาพก็แค่เปลือกนอก ส่วนเคท เธอดูนิ่มนวลและอ่อนหวาน เคารพและกลัวพวกเขา แต่นั่นก็แค่เปลือกนอกเช่นกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก     (The End)พันธะร้าย บทที่ 60 : ท้องฟ้าโอบกอดสายรุ้ง

    ณ สุสานประจำเมืองดอกบลูบอนเน็ทพลิ้วไหวตามแรงลม ดอกไม้แห่งความเศร้า การบอกลา ความเสียใจปนเหงา ความหมายของมันยังลึกซึ้งมากกว่านั้น 'แม้จะเจ็บปวด แต่จะขอจดจำเอาไว้ไม่ลืมเลือน' แม้ความหมายของมันจะเศร้าโศก แต่ความงามของดอกไม้กับชโลมใจของผู้มาเยือนได้อย่างน่าตกตะลึงกระถางดอกฮิกันบานะหรือพลับพลึงสีแดง ถูกวางลงข้างป้ายหินขนาดใหญ่ ชื่อบนป้ายสลักเคียงคู่กันสองชื่อ ฉันใช้มือลูบปัดเศษดินที่ปลิวมาเปื้อนออกและจ้องมองชื่อตรงหน้า ก่อนจะส่งยิ้มให้กับป้ายหลุมฝังศพของพ่อและแม่"ที่นี่อากาศดีไม่เปลี่ยนเลยนะคะว่ามั้ย" ปกติจะมาที่นี่คนเดียวลำพัง แต่ต่อจากนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เพราะฉันจะมีฮาเซลมาด้วยทุกครั้ง"..." ฮาเซลยืนรอเงียบ ๆ"อาทิตย์หน้าเคทจะแต่งงานแล้วนะคะ" พูดออกไปแม้ว่าจะไม่มีเสียงตอบกลับมาก็ตาม แต่ฉันก็อยากให้ทั้งคู่ได้รับรู้"..." รอบตัวเงียบสงบมีเพียงเสียงของฉันเท่านั้นที่พูดอยู่คนเดียว"ขอบคุณสิ่งที่พ่อบอกวันนั้นนะคะ...ตอนนี้เคททำตามแล้วนะ" ฉันใช้มือลูบไปตรงชื่อของพ่อและเปลี่ยนมาเป็นชื่อของแม่"อวยพรให้เคทกับฮาเซลด้วยนะคะแม่" แม้จะไม่มีคำตอบกลับมา แต่ฉันก็เชื่อว่าทั้งคู่ต้องอวยพรเราทั้งสอง

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก     พันธะร้าย บทที่ 59 : ของขวัญ

    (มาร์ชิน)(หลังจากที่โทมัสให้ของขวัญกับเคท)คอนโดใจกลางเมืองติ้ง!ตึก ตึก ตึก !เสียงฝีเท้าดังไปตามทางเดินตรงยังห้องพักของตัวเอง ร่างสูงกำกุญแจรถในมือแน่น ตอนนี้เขาคิดอยู่อย่างเดียวคือต้องออกไปเมืองนี้ให้เร็วที่สุดแม้ในใจจะอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาด แต่เงินจำนวนมหาศาลที่ไม่ว่ายังไงชาตินี้ก็ไม่มีทางหาได้ทำให้เขายอมร่วมมือกับเกรซี่ ผู้หญิงที่เข้ามาเป็นเจ้านายคนใหม่ของเขาติ้ด ติ้ด ติ้ด!เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวดังขึ้น ทำให้เขาสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ มือไม้สั่นล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูชื่อของคนโทรเข้า ก่อนจะกดรับสาย"ครับ ครับ คุณเกรซี่" ขายาวยังคงก้าวเดินไปยังห้องของตัวเองที่อยู่สุดทางเดิน(ยัยนั่นรับไหม) เสียงในสายถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"รับครับ เธอรับไปแล้ว"(ดีมาก แล้วก็รีบไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ)"ครับ ผมกำลังรีบไป" เขาหยุดยืดหน้าห้องและควานหาคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตู(นี่โทมัส...) เสียงเรียกชื่อเขาจากคนในสาย ทำให้ต้องหยุดทุกการกระทำและตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะพูด"...ครับ"(...โชคดีนะ ติ้ด!) พูดจบปลายสายก็ตัดไปทันทีตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจคำอวยพรของเธอแล้ว เพราะทุ

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก     พันธะร้าย บทที่ 58 : แก้เกมส์

    ย้อนกลับไปตอนเคทกำลังคุยโทรศัพท์"คิมฉันอยู่ร้านXXX คอลเลคชั่นใหม่ออกมาแล้ว"(มาจริง ๆ ด้วยสินะ มาเยอะไหม) เสียงทุ้มต่ำของฮาเซลดังผ่านโทรศัพท์ที่แนบหู"ใช่มีเยอะเลยคิม" ปากเรียกชื่อคิม แต่คนในสายไม่ใช่คิมนี่ทำเอาฉันจะหลุดปากเหมือนกันเนี่ย(นับให้หน่อยสิว่าต้องใช้กี่คน)"ได้สิ อืม~ แบบใหม่เยอะมากเลยนะเนี่ย" ฉันหันมองไปรอบร้าน สายตาก็นับจำนวนคนที่ยืนล้อมฉันอยู่(...) ปลายสายก็รออย่างตั้งใจ"ถ้าแกจะเอาหมดเลยก็ได้นะ ทั้งหมดสิบสี่แบบ" พูดจบฉันก็หันหลังให้พวกคนที่ยืนอยู่และทำเป็นเลือกชุดชั้นในต่อเดินตามกันแบบไม่เกรงใจเลยนะคนพวกนี้ ยัยเกรซี่ส่งมาแต่ละคนภายนอกก็น่ากลัวอยู่หรอก แต่ไม่เนียนเอาซะเลย(กำลังให้คนไปรอรับนะ จะมาทางไหน)"ชอปXXXไง ที่อยู่ใกล้ประตูG...ใช่ ออกคอลเลคชั่นใหม่ก่อนที่อื่นอีกนะ"(หึ! เก่งมาก เดี๋ยวจะให้รางวัลเมียคนเก่งนะครับ) คำพูดของเขาทำเอาฉันเกือบหลุดยิ้ม มันใช่เวลาไหมเนี่ย"โอเค ๆ ฉันเอาหมดเลยแล้วกันนะ"(ถ้าพ้นประตูแล้วหลับตาและปิดหูเลยนะครับ) เมื่อเขาพูดจบก็วางสายทันที แล้วเรียกพนักงานของร้านให้เข้ามาหา เพื่อสั่งให้จัดเตรียมของตามที่ต้องการ เมื่อได้ของตามที่ต้องการแล้

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก    พันธะร้าย บทที่ 57 : หักหลัง

    ณ พระราชวังประจำราชวงศ์"อีกไม่กี่วันปู่ก็ออกจากตำแหน่งแล้วใช่ไหม""ใช่" ปู่ส่งยิ้มให้ในระหว่างที่กำลังเก็บของจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน อีกไม่กี่วันจะมีประกาศเรื่องของเลขาธิการคนใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งเท่ากับว่าปู่จะได้พักผ่อนตามความต้องการอย่างแท้จริง"แล้วปู่จะกลับไปอยู่ที่บ้านหรือจะอยู่กับเคท" ฉันเดินเข้าไปกอดท่านจากด้านหลังและซบหน้าลงบนไหล่"ใครเขาจะอยู่บ้านกัน ช่วงชีวิตต่อจากนี้แหละปู่จะไปเที่ยว""ต้องแบบนี้!" ฉันไม่เคยขัดขว้างหรือไม่เห็นด้วยกับชีวิตหลังวัยเกษียณของคุณปู่ ตลอดที่ผ่านมาท่านดูแลฉันเป็นอย่างดีไม่เคยขาดตกบกพร่อง ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ปู่จะได้ทำตามใจตัวเองสักที"แล้ว...เรื่องที่แม่ของเกรซี่พูด" เมื่อนึกขึ้นได้ปู่ก็หันกลับมาถามด้วยสายตาของความเป็นห่วง"เคทรู้และเข้าใจทุกอย่างแล้วค่ะ""ปู่ขอโทษ..." ปู่จับแขนฉันที่โอบกอดท่านเอาไว้"ปู่ไม่ต้องขอโทษนะ ปู่ทำถูกแล้วไม่ว่าปู่จะทำอะไรเคทเชื่อว่าปู่ทำทุกอย่างเพื่อเคท""ไม่โกรธแม่เขานะลูก" เรื่องที่เกิดขึ้นฉันรู้ว่าไม่มีใครไม่เสียใจ ยิ่งเป็นปู่ท่านต้องเข้มแข็งต่อหน้าฉันมาตลอด"เคทไม่โกรธค่ะแล้วก็ควีนไม่เคยโกรธแม่เหมือนกัน""..." เมื่อฉัน

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก     พันธะร้าย บทที่ 56 : เหล่าคุณพ่อ

    ณ เพนท์เฮ้าส์ชั้นบนสุด"น่าจะประมาณสองปีที่พ่อใช้เวลาทั้งหมดง้อแม่" ฮาเซลกำลังเล่าถึงเรื่องราวต่อจากนั้นให้ฉันได้ฟัง ในระหว่างที่เรากำลังทานอาหารเช้า"เวลาโกรธจริงก็น่ากลัวเหมือนกันนะ""ก็ ทำให้พ่อหยุดและกลัวแม่ได้เลย" ถ้าเป็นฉันจะอดทนเพื่อรักได้เท่าเธอหรือเปล่านะ"ต้องเข้มแข็งขนาดไหนถึงอยู่จุดนั้นได้""แม่เป็นผู้หญิงที่ใจดีมากนะ แม้ว่าพ่อจะรู้สึกตัวช้าไปหน่อยก็เถอะ""อะไรกันนี่ลูกชายกำลังบ่นพ่อตัวเองเหรอเนี่ย" ฉันพยายามกลั้นขำเพราะฮาเซลไม่ได้เข้าข้างพ่อเลยสักนิด แม้จะทะเลาะหรือดื้อกับควีนแต่เขาก็อยู่ข้างแม่มาตลอด"ที่พูดมาเรื่องจริงทั้งนั้น" แม้แต่ฮาเซลยังกลั้นขำ เมื่อนินทาถึงพ่อของเขา"แล้ว...ควีนไม่โกรธจริง ๆ ใช่ไหม" คำถามของฉันทำให้มือที่กำลังยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มหยุดชะงัก เขาวางแก้วกาแฟลงบนจานรอง แล้วเท้าคางจ้องมองมาที่ฉัน"ที่ผ่านมาแม่ไม่ได้เสียใจน้อยไปกว่าใคร แล้วอีกอย่างตอนนี้น่ะเหรอ อะไร ๆ ก็เคท""หมายความว่าไง""ก็อย่างเช่นเมื่อวานที่โทรมาก็ถามหาแต่เคท เคทกลับมายัง ทำไมไม่พาเคทไปดินเนอร์บ้างและอีกมากมาย""งั้นเหรอ" ฉันอมยิ้มให้กับสิ่งที่ฮาเซลพูด"แม่คงยังไม่รู้สินะ ว่าแม่สาวนัก

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก    พันธะร้าย บทที่ 55 : เรื่องราวในอดีต (4) : ฝันร้าย

    สุดท้ายช่วงเวลาแห่งความสุขและความหวังของเขากับเคทก็หยุดลง เวลาแห่งความฝันและความรักหยุดชะงักเพียงเพราะการกระทำที่บิดเบี้ยวของบางความสัมพันธ์ตุบ!"ฉันคงไม่ต้องถามว่าคือนี่อะไร แต่ฉันจะถามว่าทำแบบนี้ทำไม!" รูปถ่ายจำนวนหนึ่งถูกปาลงบนพื้นกระจัดกระจายต่อหน้าชายผู้เป็นสามีและเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเจ้าหญิงมาเรีย เสียงพูดคุยดังเล็ดลอดออกจากห้อง ลูกชายทั้งสองคนของพวกเขายืนแอบฟังหน้าห้อง"..." ทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบ มีเพียงเสียงแม่ของเขาเท่านั้นที่พูดอยู่ฝ่ายเดียว"เป็นใครก็ได้ฉันไม่เคยสนใจ! ทำได้ยังไง เห็นฉันเป็นอะไร!""...""พระองค์ก็รู้ว่าฉันอยู่เพราะอะไร เพราะรักใข่ไหม...รู้อยู่แล้วเลยทำลายความรักของฉัน ฮึก! กี่ครั้งไม่เคยว่า แต่ครั้งนี้...ฮึก! ฉันไม่ไหวจริง ๆ" เสียงสะอื้นของแม่ทำให้ฮาเซลรู้สึกโกรธขึ้นมาทีละนิด"มาเรีย" เสียงของผู้ชายเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้องเรียกภรรยาตัวเองด้วยเสียงแผ่วเบา"อย่าเข้ามา!" เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงของแม่ตัวเองเจ็บปวดได้ขนาดนี้"ออกไปก่อนโมอา" พ่อต้องเป็นฝ่ายบอกให้แม่ของเคทออกจากห้องนี้ไป เพราะดูเหมือนว่าแม่จะไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา"...ค่ะ"

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status