Mag-log inเขมจิราแทบหูดับกับค่ารักษาที่ได้ยินคร่าว ๆ จากคุณหมอตรงหน้า เงินเก็บเธอแทบไม่มีเลย เงินเดือนในแต่ละเดือนก็พอได้ใช้จ่ายหมุนไปทุกเดือนก็เท่านั้น เธอไม่อาจปล่อยให้มารดาเป็นอะไรไปได้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาเงินมารักษาท่านให้ได้ คนตัวเล็กตอบตกลงที่จะรักษา เธอให้เอมมิกาเฝ้าอยู่ที่นี่ก่อน ส่วนเธอออกมาทำธุระสำคัญก่อน
คนตัวเล็กมองเบอร์โทรศัพท์ที่ได้มาจากข้อมูลในบริษัท นั้นคือเบอร์ของกษิดิฐ เธอยังคงใช้ความคิดต่าง ๆ นานา แต่มีเพียงทางนี้เท่านั้นจะพอทำให้เธอผ่านไปได้ ถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายดูถูกเธอมากแค่ไหนก็ตาม ชีวิตของมารดาของเธอนั้นสำคัญสำหรับเธอมาก ๆ มันจึงทำให้เธอยอมที่จะรับข้อเสนอที่อีกฝ่ายเคยให้ก่อนหน้านั้น
สิ้นความคิดหญิงสาวก็ไม่รอช้า กดเบอร์โทรออกทันที เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย ตอนที่ได้ยินเสียงเรียบนิ่งของชายหนุ่มเอ่ยแออกมามันทำให้เธอนิ่งชะงักไป เธอหาเสียงของตัวเองแทบไม่เจอ แต่พอได้ยินน้ำเสียงเรียบนิ่งของอีกฝ่ายที่บอกว่าถ้าไม่พูดจะวางสาย เขมจิราก็รีบเปล่งเสียงออกมาทันที
“เอ่อ คุณกษิดิฐคะ ดิฉันเขมจิรา” คนในสายพอได้ยินเสียงหวานตอบกลับมา เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรอีก
“อืม”
“ข้อเสนอที่คุณเคยบอกเขม คุณพูดจริงใช่ไหมคะ?” ได้ยินคำถามของหญิงสาว รอยยิ้มมุมปากของชายหนุ่มก็เผยขึ้น เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะกลับมาไวขนาดนี้ ไม่คิดเลยจริง ๆ
“ข้อเสนออะไร?” กษิดิฐแสร้งถามกลับ เขาได้รับความเงียบจากปากของคนตัวเล็กแทน ไม่ต้องเห็นหน้าก็พอเดาได้ว่าเจ้าหล่อนไม่พอใจเขาอยู่แต่แล้วยังไง เขาไม่คิดสนใจอยู่แล้ว
“ไม่ตอบ?”
“ขะ ข้อเสนอที่คุณอยากให้เขมเป็นผู้หญิงของคุณ” เขมจิรารู้สึกรังเกียจตัวเองไม่น้อย แต่นี่เป็นทางเลือกเดียวที่สามารถทำให้เธอผ่านพ้นไปได้ ทำให้เธอมีเงินรักษามารดาเธอก็ยอม
“มาหาฉันที่คอนโดXXX” เสียงชายหนุ่มตอบกลับมา ก่อนที่จะวางสายไป หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอด เธอเลือกแล้วเพราะอย่างนั้นเธอห้ามเปลี่ยนใจ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญกับเธอ
ร่างบางอรชรเดินทางมายังคอนโดมิเนียมที่ชายหนุ่มเอ่ยบอก เธอเงยหน้ามองดูตึกสูงเสียดฟ้าด้วยหัวใจที่สั่นไหว คอนโดมิเนียมแห่งนี้คงราคาเกินสิบล้านแน่นอน มันช่างหรูหราทั้งยังอยู่ในย่านที่ดินแพงอีกด้วย
เขมจิราเดินเข้ามาข้างในก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดไปหาชายหนุ่มอีกครั้งเพื่อบอกว่าเธอมาถึงแล้ว คนตัวเล็กนั่งรออยู่หน้าล็อบบีด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง นึกถึงชีวิตมารดามันก็ยิ่งทำให้เธอหวั่นใจ เธอเป็นห่วงไม่น้อย เอมมิกาบอกว่าแม่กำลังผ่าตัดอยู่มันก็ยิ่งทำให้เธอร้องขอแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสารทิศปกป้องมารดาของเธอด้วย
“ตามมาสิ” เพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องอื่น หญิงสาวจึงไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มเดินมาหาเธอตั้งแต่ตอนไหน พอได้ยินเสียงเจ้าหล่อนก็หันหน้าไปมองด้วยความประหม่าก่อนจะพยักหน้าพร้อมลุกขึ้นเดินตามคนตัวสูงเข้าไปในลิฟต์
เขมจิราบีบมือเข้าหากัน มองแผ่นหลังของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกประหม่า เธอไม่อาจถอยได้แล้ว นับตั้งแต่ตัดสินใจที่จะโทรมาหาผู้ชายคนนี้ เสียงสัญญาณแจ้งว่ามาถึงยังที่หมาย พอประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็ก้าวเดินตามชายหนุ่มไปติด ๆ จนกระทั่งเข้าเปิดประตูห้องเข้าไปข้างใน
สายตาของเธอมองไปรอบ ๆ ห้องแห่งนี้ เธออดชมไม่ได้ว่าห้องของเขาเป็นระเบียบเรียบร้อยแถมตกแต่งได้สวยมาก ๆ อีกด้วย แต่พอได้สติหญิงสาวก็ก้มหน้าลงเพราะในตอนนี้สายตาของคนตัวสูงจ้องมองมาที่เธอ เขาบอกให้เธอไปนั่งลงที่โซฟาในห้องรับแขก คนตัวเล็กก็ทำตามอย่างว่าง่าย
กษิดิฐเดินมาหาพร้อมกับน้ำเปล่าในมือ เขาทิ้งตัวลงนั่งตรงหน้าของเธอพร้อมยังคงจับจ้องมองใบหน้าสวยหวานอยู่เช่นเคย ถึงแม้จะแปลกใจแต่เขาก็พอได้คำตอบอยู่ดี เพราะเงินสำคัญไง ถ้าไม่ใช่เพราะเงินผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่มาหาเขาที่นี่
“เอ่อ คือว่าเรื่องข้อเสนอที่ท่านประธานบอกเขม เขมสนใจค่ะ”
“หึ ถ้าบอกว่าฉันไม่สนใจแล้วล่ะ” พอได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายที่ดังออกมา สีหน้าของหญิงสาวก็เผยความซีดเผือดให้เห็นทันที
มือเรียวบีบกำเข้าหากันแน่นกว่าเดิม ทุกอย่างที่หญิงสาวแสดงออกมา มันอยู่ในสายตาของชายหนุ่มทุกอย่าง เขาเองก็จะแกล้งเธอเท่านั้น ว่าถ้าเขาบอกว่าไม่สนใจแล้วเจ้าหล่อนจะทำยังไง ในตอนแรกเล่นตัวไม่สนใจข้อเสนอเขา ท้ายที่สุดก็ซมซานกลับมาหาจนได้
“ค่ะ เขมเข้าใจแล้ว” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เธอไม่มีสิทธิ์ไปบีบบังคับให้เขาเปลี่ยนใจ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่สนใจแล้วเธอก็ไม่ว่าอะไร
“ร้อนเงิน?” ชายหนุ่มถามขึ้น หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าให้กับอีกฝ่าย มันเป็นอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ เธอกำลังร้อนเงิน
“หึ” เสียงหัวเราะในลำคอดังออกมา ให้ได้ยิน หญิงสาวรับรู้ถึงสายตาดูถูกของชายหนุ่มตรงหน้าในทันที เธอเครียดกับทุกอย่างที่เข้ามา ตัดสินใจมาหาเขาแต่ที่ได้รับก็คือการดูถูก
“เขมขออภัยที่มารบกวน ขอตัวก่อนนะคะ” เธอบอกด้วยน้ำตาสั่นเครือ ในตอนนี้หญิงสาวมีความสุขแย่ ๆ เข้ามาในหัว นั่นคือการขายตัว มันดูไร้ค่าเธอยอมรับแต่เธอมองไม่เห็นทางไหนเลยว่าจะหาเงินจำนวนมากอย่างนี้มาจากไหน เธอไม่รู้เลยจริง ๆ
“จะไปไหน หรือไปเสนอขายที่อื่น” เขาเพียงพูดเล่น ๆ เท่านั้น แต่ทว่าความเงียบของหญิงสาวมันทำให้คนตัวสูงรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก คนตัวเล็กจ้องมองมาที่เขาพร้อมเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ก่อนที่เธอจะเอ่ยออกมา
“ค่ะ เขมก็กำลังคิดอย่างนั้นอยู่” เพียงได้ยินคำพูด ใบหน้าของกษิดิฐก็เรียบตึงขึ้นทันที ผู้หญิงคนนี้นี่ต่างจากที่เขาคิดเอาไว้ในตอนแรก
ตอนเที่ยงปฏิเสธไม่ยอมขายตัวให้กับเขา มาในตอนนี้เปลี่ยนไป พอเขาปฏิเสธก็คิดจะไปขายให้กับคนอื่น ก่อนหน้านั้นคงเล่นละครสินะ ทำเป็นไม่พอใจโกรธที่เขาดูถูก ท้ายที่สุดก็แค่เล่นตัวก็เท่านั้น
“เฮอะ ของมันเคย ๆ ฉันจะจำใจซื้อเอาไว้ก็แล้วกัน นั่งลงซะ!” น้ำเสียงไม่พอใจเอ่ยบอก คนตัวเล็กจึงยอมนั่งลง เธอไม่อยากจะมีพันธะกับผู้ชายคนนี้นานหรอก ขอเพียงได้เงินจำนวนนี้มารักษามารดาก็พอแล้ว
“เขมต้องการเงินในวันนี้ห้าแสนบาท”
“รีบขนาดนั้น?”
“ค่ะ แม่เขมกำลังผ่าตัด เขมต้องใช้เงิน” พอได้ยินเหตุผล ชายหนุ่มก็ชะงักเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องจริงหรือเปล่า แต่เรื่องพวกนี้เขาให้คนสืบได้อยู่แล้ว แต่จากที่เห็นแววตาของเธอมันทำให้เขามั่นใจว่าเธอพูดเรื่องจริง เพราะแบบนี้สินะที่เจ้าหล่อนยอมเปลี่ยนไป
“ได้ แต่หลังจากนี้เธอต้องทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง ทุกครั้งที่ต้องการเธอต้องมาหาห้ามปฏิเสธ”
“นานแค่ไหนคะ?”
“อะไรกัน ยังไม่ทันเริ่มก็ถามถึงระยะเวลาแล้วงั้นเหรอ?” เขมจิราเม้มริมฝีปากอีกครั้ง
“ฉันเบื่อเมื่อไหร่ เมื่อนั้นฉันจะเลิกยุ่งกับเธอเอง ทุกเดือนฉันจะมีเงินเดือนให้ รายละเอียดจะเอามาให้อ่านในตอนเซ็นสัญญา วันนี้ฉันจะให้เงินที่เธอต้องการไปก่อนแล้วกัน อ๋อไม่ต้องถามว่าไม่กลัวเธอโกงเหรอ ถ้าเธอโกงฉันและหนีไปจริง ๆ ฉันมีปัญญาตามเธออยู่แล้ว และผลของการทรยศรับรองเธอคาดไม่ถึงแน่นอน” เขาร้องขู่ ด้วยน้ำเสียงดุดัน
เขมจิรากลืนน้ำลายลงคอ เธอรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แค่ขู่เธอเท่านั้น เขาสามารถทำได้อย่างที่พูดจริง ๆ แต่เธอก็ไม่คิดที่จะโกงชายหนุ่มอยู่แล้ว เธอยังต้องทำงานที่บริษัทของเขา ยังต้องหาเลี้ยงชีพต่อไป ไม่ยอมทำตัวเองพังหรอก เธอยอมรับข้อเสนอของเขาทุกอย่าง บอกตามตรงหนทางนี้หนทางเดียวที่สามารถช่วยเหลือเธอได้ เพราะงั้นเธอยอมแล้วทุกอย่าง
“ไม่ต้องห่วงนะคะ เขมไม่คิดเปลี่ยนใจ”
“ก็ดี”
สี่ปีผ่านไป เสียงเด็กชายตัวน้อยดังขึ้นในขณะที่กำลังหยอกล้อกับผู้เป็นน้าสาวอยู่สนามหญ้าหน้าบ้านโดยมีปู่กับย่าและยายต่างนั่งอมยิ้มมองดูการเติบโตของเด็กชายตัวน้อยคนนี้อยู่ เอมอรนั่งอยู่ในรถเข็นที่มีพยาบาลคอยดูแลไม่ห่างในตอนนี้ร่างกายของเธอทรุดลงมากแต่ทว่าใบหน้าของเธอก็มีแต่รอยยิ้มของความสุขถ้าหากเธอตายไปเธอก็ไม่มีอะไรต้องให้เสียดายอีกแล้วเพราะในตอนนี้ความปรารถนาของเธอเป็นจริงทุกอย่าง จะเหลือก็แต่ลูกสาวคนเล็กแต่เธอก็เชื่อว่าเขมจิราจะดูแลเอมมิกาได้เป็นอย่างดีแน่นอน “น้าเอมครับ”น้องกร หรือเด็กชายกิตติวุฒิเอ่ยเรียกน้าสาวของตัวเองด้วยน้ำเสียงสดใส “เตรียมรับนะครับ”เขาบอกก่อนจะเตะลูกบอลไปทางด้านผู้เป็นน้าสาวซึ่งเอมมิกาก็เตรียมตั้งท่าที่จะรับลูกบอลของหลานชายตัวน้อยอย่างจริงจังแต่เธอก็แกล้งทำเป็นพลาดปล่อยให้ลูกบอลเข้าโกเพื่อที่จะทำให้หลานชายดีใจที่เตะบอลเข้าโกได้ “เย่ ๆ น้องกรเก่งไหมครับ” “ว้าว หลานใครเนี่ยเก่งจังเลย”เอมมิกาในวัยสวยสมวัยย่อตัวอุ้มหลานชายตัวน้อยก่อนจะพาเดินกลับไปหาผู้เ
หนึ่งเดือนผ่านไป บรรยากาศในโรงแรมสุดหรูที่ถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดงานระหว่างกษิดิฐและเขมจิรา งานในวันนี้ดูอบอุ่นมากๆ จริงๆ แถมยังเป็นเรื่องใหญ่ในแวดวงของนักธุรกิจด้วยที่ทายาทคนสำคัญอย่างกษิดิฐสละโสดแล้ว ภาพความยินดีที่เกิดขึ้นทำให้คนตัวเล็กในชุดเจ้าสาวมองอย่างมีความสุข มีทั้งเพื่อนร่วมงานที่มายินดีให้กับเธอกับคนรักในจะนักธุรกิจมากมายที่มาร่วมงานในวันนี้อีกด้วย สำคัญที่สุดก็คือมารดาของเธอที่มองเธอด้วยความสุขที่เห็นว่าเธอกำลังแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักรักเขาก็รักเธออย่างนี้ “พ่อขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขกันมากๆนะ อยู่กันด้วยเหตุและผลหนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันรู้ไหม” “ขอบคุณครับพ่อ/ขอบคุณนะคะ” “แม่ก็ขอให้ลูกชายของแม่มีความสุขมากๆ มีครอบครัวแล้วก็คิดหน้าคิดหลังดีๆแต่แม่เชื่อว่าลูกของแม่ไม่เคยทำอะไรโดยไม่คิดไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนหนูเขมแม่ดีใจนะที่ได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้ ในตอนแรกแม่ก็คิดสงสัยว่าอะไรในตัวหนูถึงทำให้ลูกชายของแม่ตกหลุมรักให้มากขนาดนี้พอแม่ได้รู้จักหนูมากขึ้นแม่ก็ไม่คิดสงสัยอะไรอีก เพราะความดีของหนูที่ทำให้ลูก
พอจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยชายหนุ่มก็พาแม่ยายของตนเองกลับมาที่บ้าน เขาตั้งใจว่าจะต่อเติมที่นี่ไหมในเมื่อหญิงสาวยังใช้เวลาอยู่กับผู้เป็นแม่เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่เขาจะย้ายมาอยู่ที่นี่เอง ในตอนแรกว่าจะซื้อบ้านหลังใหม่แล้วพาครอบครัวของเขมจิราไปอยู่ด้วย แต่พอมารู้ว่าแม่ยายของเขานั้นเป็นคนรักบ้านหลังนี้มากเพราะเป็นบ้านที่พ่อของเธอซื้อเอาไว้ให้ เขาจึงยอมที่จะเป็นฝ่ายย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วก็ให้ช่างว่ารีโนเวทบ้านใหม่ “ช่วงนี้อาจจะมีช่างก่อสร้างเข้ามาทำให้เสียงดังหน่อยนะครับคุณแม่” “ไม่เป็นไรจ๊ะพ่อหนุ่ม”นางเอมอรได้ยินสรรพนามใหม่ที่ลูกเขยของเธอเอ่ยเรียกเธอก็ยิ้มพอใจออกมา “นี่เอมมีพี่เขยรวยขนาดนี้เลยหรอคะ”เอมมิกาที่กลับมาจากค่ายภาษาอังกฤษพอที่รู้เรื่องราวทุกอย่างก็ทั้งตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน “เรานี่”เป็นนางเอมอรที่อื่นดุลูกสาวที่พูดออกมาอย่างนี้ “ไม่เป็นไรครับคุณแม่อีกอย่างมันเป็นเรื่องจริงต่อไปนี้น้องเอมอยากได้อะไรก็บอกพี่ได้เลยนะ อยากเรียนต่อต่างประเทศก็บอกพี่ได้เหมือนกันพี่จะส่งเอง” “หูย จริงนะค
ณ บ้านหลังใหญ่ ทันทีที่รถจอดนิ่งเขมจิราก็ยิ่งเผยความประหม่าออกมาให้เห็น ชายหนุ่มหันไปมองอย่างนึกเอ็นดูก่อนที่เขาจะจับกุมมือเล็กของเธอเอาไว้บอกเป็นนัยๆ ว่าไม่ต้องกลัว ก่อนเขาจะบอกให้เธอลงจากรถเข้าไปในบ้าน การมาของลูกชายแน่นอนทำให้สองสามีภรรยาสงสัยอยู่มาก เพราะก่อนหน้านี้กษิดิฐถามแค่ว่าอยู่บ้านรึเปล่าพอบอกว่าอยู่เขาก็บอกแค่ว่ากำลังจะมาหา ท่าทางนี้มีหรือจะไม่สงสัยกัน “ดิฐ แม่หนูคนนี้คือใครเป็นลูก”หลังจากที่ชายหนุ่มพาหญิงสาวอีกคนเข้ามาในบ้าน คุณหญิงกัลยาก็เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัยทันที “นี่เขมจิราครับแม่ คนรักของผม”หญิงสาวตกใจกับการแนะนำของอีกฝ่ายแต่เธอก็ยกมือไหว้พวกท่านทั้งสองอย่างท่าที่มีมารยาท “คนรัก” “ครับ ที่ผมมาในวันนี้ผมต้องการบอกพ่อกับแม่ว่าผมกับเขมเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วนะครับ” “หา!”เป็นเสียงของชายวัยกลางคนที่เอ่ยดังขึ้นยังตกใจเมื่อได้ยินว่าลูกชายของเขานั้นจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนี้แล้ว “เขมเป็นพนักงานบริษัทของเราครับผมกับเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ครั้งแรกเป็นความ
หลังจากที่ชายหนุ่มถอนจูบเขาก็กอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทำให้หญิงสาวนึกสับสนมากจริงๆ เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยปากถามในสิ่งที่อยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอกันแน่แล้วเรื่องผู้หญิงคนนี้จริงหรือเปล่าที่เขาไม่รู้สึกอะไรกับเธอจริงๆ “คุณดิฐคิดยังไงกับเขม” “ถามได้เมียทั้งคน จะไม่รักได้ไง ที่ฉันไม่ปล่อยไม่ใช่เพราะเห็นแก่ตัวอยากรั้งให้เธออยู่เป็นนางบำเรอของฉันนะเขม แต่เพราะฉันรักเธอไงอยากให้เธออยู่เป็นเมียฉันตลอดไป”เขาก็เคยสับสน ถามตัวเองมาหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งนึกภาพในอนาคตที่มีเธออยู่ข้างๆ อยากมีครอบครัวที่อบอุ่นมีลูกกับเธอคนนี้ ถ้าหากเขาคิดถึงขั้นนี้ก็แปลว่าเขารู้สึกกับเธอไปแล้วจริงๆ และนั้นก็ทำให้เขามั่นใจหลังจากที่เห็นใบลาออกของหญิงสาวเขาก็ยิ่งทนไม่ได้ที่เธอจะไปจากเขาอย่างนี้ “คุณรักเขมจริงๆ งั้นเหรอคะ” “คำพูดฉันมันดูไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรอ”ชายหนุ่มถามกลับเมื่อยังเห็นแววตาของหญิงสาวที่มองมาที่เขาด้วยความสับสนอยู่เหมือนเดิม คนตัวเล็กก้มหน้าลงก่อนจะพยักหน้าไปมา ทำเอาท่านประธานหนุ่มถึงกับถอนหายใจออกมาท
ตกตอนเย็น เขมจิราเดินทางมาที่โรงพยาบาล เธอเข้ามาในห้องพักฟื้นของมารดาที่ในตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง พอเห็นลูกสาวคนโตมาเยี่ยมนางเอมอรก็เผยรอยยิ้มออกมาทันที ถึงแม้จะยังรู้สึกเจ็บกับการผ่าตัดแต่เธอก็พยายามขยับกายลุกขึ้นเพื่อที่จะนั่งคุยกับลูกสาวของตน “แม่ ไม่ต้องลุกขึ้นหรอกค่ะ นอนพักเถอะ” “แม่นอนทั้งวันแล้วลูก อยากขยับแข้งขยับขาบ้าง อีกอย่างตอนนี้แม่ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว คุณหมอเขาก็บอกว่าอีกไม่นานก็คงกลับไปรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้” “ถ้าอยู่ที่นี่มีนางพยาบาลคอยดูแลนะคะ” “เฮ้อ แม่รู้แต่แม่เบื่อ อยากกลับไปอยู่บ้านน่ะเขม”เธอเข้าใจว่าคนแก่ชอบกลับไปอยู่บ้าน พออยู่โรงพยาบาลไม่เท่าไรก็งอแงจะไม่อยากอยู่แล้ว “งั้นเอาไว้ให้ดีขึ้นกว่านี้เขมจะพาแม่กลับนะคะ” “ได้ลูก แล้วนี่เขมเป็นไงบ้างสบายดีหรือเปล่า ทำงานหนักมากเลยใช่ไหมช่วงนี้ดูลูกสูบผอมไปนะ”คำถามที่เป็นห่วงเป็นใยของมารดาทำเอาคนตัวเล็กเกือบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวแต่เธอก็พยายามไม่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าคนเป็นแม่เพราะไม่อยากให้แม่ของเธ







