Mag-log inกษิดิฐจัดการเงินที่หญิงสาวตรงหน้าคนนี้ต้องการ ในตอนที่เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นทำให้เขมจิราจ้องมองข้อความที่บอกว่ามียอดเงินเข้ามาในบัญชีของเธอ อย่างน้อยเงินนี้ก็สามารถช่วยชีวิตมารดาของเธอได้ ต่อให้ต้องขายศักดิ์ศรีเธอก็ยอม
“เริ่มงานสิ” แต่คำพูดของชายหนุ่มที่เอ่ยออกมานั้น มันทำให้หญิงสาวชะงักนิ่งไปทันที เพราะไม่คิดว่าเขาจะให้เธอเริ่มงานในคืนนี้ อีกอย่างเธอยังมีเรื่องต้องไปทำ ยังมีเรื่องที่ต้องห่วงอยู่
“ไม่ได้ยินเหรอ?”
“เขมขอได้ไหมคะ วันนี้เขมไม่สะดวก เขมจะไปโรงพยาบาล”
“ไปแล้วยังไง เธอช่วยหมอผ่าตัดงั้นเหรอ บอกชื่อแม่เธอมา อยู่โรงพยาบาลไหน” คำพูดเหมือนไม่แยแสของคนตัวสูงเผยออกมาให้ได้ยิน ทำเอาเขมจิราเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น แต่เธอก็บอกชื่อมารดาให้กับชายหนุ่ม
คนตัวสูงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาใครก็ไม่รู้ ก่อนที่เขาจะพูดคุยกับคนในสาย หญิงสาวที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่ตั้งใจฟังว่าเขากำลังพูดคุยกับใครจนกระทั่งได้ยินกษิดิฐบอกคนในสายว่าให้ดูแลมารดาของเธอให้ดี เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จให้ย้ายโรงพยาบาลมายังโรงพยาบาลเอกชนที่กษิดิฐมีหุ้นส่วนทันที
คนตัวเล็กที่ได้ยินอย่างนั้นก็นับว่าเบาใจขึ้นมาเป็นอย่างมาก เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความไปบอกน้องสาวว่าให้กลับไปที่บ้านก่อน เรื่องแม่ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวอีกสักพักเธอกลับไปที่บ้าน เอมมิกายังต้องไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้ เธอจึงไม่อยากให้น้องคิดมากไปกว่านี้ด้วย
“ฉันสั่งให้เพื่อนดูแลแม่เธอเป็นพิเศษแล้ว หายห่วงได้หรือยัง”
“ขอบคุณนะคะท่านประธาน”
“เปลี่ยนคำขอบคุณของเธอมาบำเรอฉันให้ดีดีกว่านะ” ถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าที่ผู้ชายคนตรงหน้าเธอนี้ช่วยเหลือเธอเพราะเหตุใดก็เถอะ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะทำให้เขมจิรารู้สึกขอบคุณชายหนุ่มอยู่ดี เธอยอมเขาแล้ว ยอมแล้วทุกอย่าง เพื่อที่จะทำให้ผู้ชายคนนี้พอใจ เธอยอมทำ
ร่างบางอรชรขยับกายเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม เธอเผยสีหน้าเคอะเขินออกมาเพียงเล็กน้อย พยายามเก็บซ่อนความเขินอายเอาไว้ แสร้งบอกตัวเองให้ใจกล้ามากกว่านี้ แต่มันก็ไม่ง่ายเลยสักนิด มือเรียวสวยของเขมจิรายกขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มของชายหนุ่มอย่างสั่นเทา เธอสูดลมหายใจเข้าปอดอีกรอบ ก่อนจะค่อย ๆ ปลดกระดุมชายหนุ่มออก
สายตาเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวตรงหน้า ยิ่งได้สำรวจใบหน้าของเธอมันก็ยิ่งทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้น เขมจิราไม่ใช่ผู้หญิงขี้ริ้วขี้เหร่
อะไร เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยน่ารักคนหนึ่งถึงแม้จะไม่ได้สวยเหมือนดารานางแบบแต่เธอก็ชวนมองพอสมควร“ถอดเสื้อผ้าของเธอสิ หรือจะให้ฉันถอดให้”
“ขะ เขมถอดเองค่ะ” เธอบอกออกไปหลังจากที่ถอดเสื้อให้อีกฝ่ายเสร็จเรียบร้อย ยังดีที่เขาพูดขึ้นมาก่อนเพราะงั้นเธอก็คงไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อเพราะไม่ต้องการที่จะถอดกางเกงให้กับอีกฝ่าย
“เดี๋ยวสิ ถอดให้เสร็จก่อนแล้วค่อยถอดของเธอ” แต่ทว่าชายหนุ่มก็พูดขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวหยุดการกระทำกับร่างกายของเขา
เขมจิราเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง เธอค่อย ๆ เอื้อมมือไปจับเข็มขัดหนังราคาแพงของชายหนุ่มก่อนจะปลดมันออกด้วยหัวใจที่เต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ เธอไม่เคยถอดเสื้อผ้าให้บุรุษเพศคนไหนผู้ชายคนนี้คือคนแรก ไม่แปลกถ้าเธอจะตื่นเต้นมากขนาดนี้
กษิดิฐอมยิ้มขึ้นมา เขาเห็นท่าทางของเธอก็ยิ่งพอใจ ท่าทางที่สั่นไม่ต่างจากเจ้าเข้ามันช่างชวนตลกเสียจริง เขมจิราตัดสินใจถอดกางเกงอีกฝ่ายออกให้เสร็จอย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้จ้องมองตรง ๆ พยายามหลบสายตาไปทางอื่น
“อุ๊ย ท่านประธาน” เขมจิราตกใจที่ถูกที่ฝ่ายดึงเข้ามาแนบชิด จนเธอรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่โดนต้นขาของเธออยู่
“เรียกผมว่าคุณดิฐ นอกเวลางานไม่ต้องเรียกว่าท่านประธานแล้ว”
“เอ่อ ค่ะคุณดิฐ คุณช่วยปล่อยเขมก่อนได้ไหมคะ” การที่เขากอดเธอแน่นแบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่น้อย
“ทำไมฉันต้องปล่อย กอดไม่ได้เหรอ”
“กะ ก็ได้ค่ะ” เขาพูดขนาดนี้จะให้เธอปฏิเสธได้ยังไง ในเมื่อรับเงินเขามาแล้วก็ต้องยอมเขาสิ ต่อให้เขาจะกอดจะทำอะไรเธอก็ต้องยอมเพราะมันเป็นสิ่งที่เธอเลือกแล้ว
“หึ” ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาวที่ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเขาออกมา
กษิดิฐเลื่อนมือมาปลดกระดุมเสื้อของเธออย่างช้า ๆ จ้องมองอาการของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างพอใจ ใบหน้าสวยหวานในยามนี้แดงก่ำไม่ต่างจากลูกตำลึงสุก เขาเริ่มหายใจติดขัดเมื่อเสื้อตัวนอกของคนตัวเล็กถูกเขาถอดออก เมื่อคืนนั้นเขาจำได้ราง ๆ พอได้เห็นความสวยงามตรงหน้ามันก็ทำให้เขาครางพอใจออกมา
“อื้อ” เขมจิราส่งเสียงดังออกมาให้ได้ยิน เมื่อจู่ ๆ คนตัวสูงก็แนบริมฝีปากมาประกบปากของเธออย่างที่เธอไม่ตั้งได้ตั้งตัว
ลิ้นร้อนของคนตัวสูงสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากอวบอิ่มของหญิงสาว ความหวานที่ได้รับมันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกพอใจไม่น้อยเลยทีเดียว ความประสีประสาของหญิงสาวที่เผยออกมานั้นมันทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นครูสอนชั่วคราว เขาจูบเธออยู่นานสองนาน จนกระทั่งรู้สึกถึงแรงดึงของหญิงสาวเหมือนว่าเธอจะเริ่มหายใจติดขัดนั้นจึงทำให้ชายหนุ่มยอมถอนจูบจากริมฝีปากของเธอ
“มานี่สิ” เขาพูดพร้อมจับมือเธอเดินเข้าไปในห้องนอนของตนเอง ก่อนหน้านี้พวกเขากอดจูบลูบคลำกันอยู่ห้องโถงของคอนโดมิเนียมหรูแห่งนี้
ใบหน้าสวยแดงระเรื่อออกมา ในยามที่ชายหนุ่มนั่งลงที่ปลายเตียงบอกให้เธอคุกเข่าลงระหว่างขาของเขานั้น นั่นจึงทำให้เธอจับจ้องมองแก่นกายลำใหญ่ของอีกฝ่ายที่กำลังชี้หน้าเธออยู่ เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างเกร็ง ๆ ถึงแม้เธอจะไม่ได้เจนจัดในเรื่องพวกนี้แต่เธอก็รู้ดีว่าไอ้ท่าทางของเขานั้นกำลังต้องการให้เธอทำอะไร
“เขมทำไม่เป็นค่ะ” เธอบอกออกไปตรง ๆ เพราะเธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
“ทำเหมือนเธอกำลังกินไอศกรีมนั่นแหละ จับแล้วเลียมันแล้วค่อย ๆ เอาเข้าปาก อยากให้โดนฟันก็เท่านั้นเองยากตรงไหน” เขาก็พูดง่ายสิไม่ใช่เป็นคนทำแบบเธอซะหน่อย หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาแต่ท้ายที่สุดเธอก็ยอมทำตามที่เขาสั่งไม่งั้นก็คงไม่ได้กลับบ้านง่าย ๆ แน่
คนตัวเล็กยกมือขึ้นมากอบกุมแก่นกายของชายหนุ่มอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เธอรูดชักลงช้า ๆ เพียงแค่นั้นมันก็สร้างความเสียวซ่านให้กับคนตัวสูงเสียแล้ว มือของเขมจิรานุ่มมากเสียจริง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะรู้สึกดีกับอีแค่มือนุ่ม ๆ ของผู้หญิงคนนี้
“เขม อมหน่อย” เขาเร่ง พอคนตัวเล็กได้ยินอย่างนั้นเธอก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้ สูดลมหายใจเข้าปอดอย่างชั่งใจเพียงครู่ หญิงสาวอ้าปากกลืนกินแก่นกายของชายหนุ่มอย่างช้า ๆ เธอรู้สึกคับแน่นจนพูดไม่ออก พอจะถอยหนีคนตัวสูงก็จับศีรษะของเธอเอาไว้เสียก่อนไม่ยอมให้เธอถอยได้ง่าย ๆ
“อมขึ้นอมลง ตวัดลิ้นเลียหน่อย” คนตัวเล็กทำอย่างว่าง่าย เธอค่อย ๆ เรียนรู้ตามที่อีกฝ่ายบอกสอนพอได้ยินเสียงทางต่ำของชายหนุ่มที่เปล่งออกมามันก็ทำให้หญิงสาวจับอารมณ์ของอีกฝ่ายได้ว่าเขากำลังพอใจกับการกระทำของเธอ
เขมจิราลืมอายไปแล้ว เธอตั้งอกตั้งใจทำให้กับชายหนุ่มจนกระทั่งอีกฝ่ายกระแทกสวนกลับมา นั้นจึงทำให้คนตัวเล็กเบิกตาโพลงกว้างด้วยความตกใจ เธอจับต้นขาของอีกฝ่ายเอาไว้พร้อมตีเบา ๆ ส่งสัญญาณว่าเธอไม่ไหว แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดหยุด เขาใกล้ถึงฝั่งฝันแล้วใครจะโง่ปล่อยง่าย ๆ เพียงไม่นานสักเท่าไรนัก หญิงสาวก็รับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ถูกปลดปล่อยเข้ามาในปากของเธอ เธอสะบัดตัวจนถอยห่างจากคนตัวสูงออกมาได้ในที่สุด เสียงไอของเขมจิราดังขึ้นมา เธอหน้าดำหน้าแดงสำลักจนน้ำตาคลอเบ้า รสชาติแปลกใหม่มันทำให้เธอไม่คุ้นชินเลยสักนิด
“คุณจะฆ่าเขมเหรอคะ เขมบอกให้หยุดทำไมถึงไม่หยุดกัน” พอได้สติ เธอก็บ่นอีกฝ่ายออกมาทันที
“นี่ ไม่มีใครตายเพราะอมXXยหรอกนะเขมจิรา” หญิงสาวไม่พูดตอบอะไรออกมาเธอยกหลังมือขึ้นมาเช็ดริมฝีปากตัวเองแทน
“ว้าย!” เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวตกใจกับการกระทำของอีกฝ่าย เขาบอกดี ๆ ก็ได้ทำไมถึงชอบมากระชากเธออย่างนี้ด้วย
กษิดิฐดึงร่างบางอรชรให้ลุกขึ้นก่อนจะดันเธอให้นอนแนบลงไปกับเตียงกว้างสีเข้มของเขา ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ ไม่รอให้เขมจิราปรับตัวได้เลย ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มก็โน้มลงมาบดขยี้ริมฝีปากของเธออีกครั้ง ก่อนจะยกมืออีกข้างเลื่อนมาบีบขยำหน้าอกของหญิงสาวอย่างหื่นกระหาย
สี่ปีผ่านไป เสียงเด็กชายตัวน้อยดังขึ้นในขณะที่กำลังหยอกล้อกับผู้เป็นน้าสาวอยู่สนามหญ้าหน้าบ้านโดยมีปู่กับย่าและยายต่างนั่งอมยิ้มมองดูการเติบโตของเด็กชายตัวน้อยคนนี้อยู่ เอมอรนั่งอยู่ในรถเข็นที่มีพยาบาลคอยดูแลไม่ห่างในตอนนี้ร่างกายของเธอทรุดลงมากแต่ทว่าใบหน้าของเธอก็มีแต่รอยยิ้มของความสุขถ้าหากเธอตายไปเธอก็ไม่มีอะไรต้องให้เสียดายอีกแล้วเพราะในตอนนี้ความปรารถนาของเธอเป็นจริงทุกอย่าง จะเหลือก็แต่ลูกสาวคนเล็กแต่เธอก็เชื่อว่าเขมจิราจะดูแลเอมมิกาได้เป็นอย่างดีแน่นอน “น้าเอมครับ”น้องกร หรือเด็กชายกิตติวุฒิเอ่ยเรียกน้าสาวของตัวเองด้วยน้ำเสียงสดใส “เตรียมรับนะครับ”เขาบอกก่อนจะเตะลูกบอลไปทางด้านผู้เป็นน้าสาวซึ่งเอมมิกาก็เตรียมตั้งท่าที่จะรับลูกบอลของหลานชายตัวน้อยอย่างจริงจังแต่เธอก็แกล้งทำเป็นพลาดปล่อยให้ลูกบอลเข้าโกเพื่อที่จะทำให้หลานชายดีใจที่เตะบอลเข้าโกได้ “เย่ ๆ น้องกรเก่งไหมครับ” “ว้าว หลานใครเนี่ยเก่งจังเลย”เอมมิกาในวัยสวยสมวัยย่อตัวอุ้มหลานชายตัวน้อยก่อนจะพาเดินกลับไปหาผู้เ
หนึ่งเดือนผ่านไป บรรยากาศในโรงแรมสุดหรูที่ถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดงานระหว่างกษิดิฐและเขมจิรา งานในวันนี้ดูอบอุ่นมากๆ จริงๆ แถมยังเป็นเรื่องใหญ่ในแวดวงของนักธุรกิจด้วยที่ทายาทคนสำคัญอย่างกษิดิฐสละโสดแล้ว ภาพความยินดีที่เกิดขึ้นทำให้คนตัวเล็กในชุดเจ้าสาวมองอย่างมีความสุข มีทั้งเพื่อนร่วมงานที่มายินดีให้กับเธอกับคนรักในจะนักธุรกิจมากมายที่มาร่วมงานในวันนี้อีกด้วย สำคัญที่สุดก็คือมารดาของเธอที่มองเธอด้วยความสุขที่เห็นว่าเธอกำลังแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักรักเขาก็รักเธออย่างนี้ “พ่อขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขกันมากๆนะ อยู่กันด้วยเหตุและผลหนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันรู้ไหม” “ขอบคุณครับพ่อ/ขอบคุณนะคะ” “แม่ก็ขอให้ลูกชายของแม่มีความสุขมากๆ มีครอบครัวแล้วก็คิดหน้าคิดหลังดีๆแต่แม่เชื่อว่าลูกของแม่ไม่เคยทำอะไรโดยไม่คิดไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนหนูเขมแม่ดีใจนะที่ได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้ ในตอนแรกแม่ก็คิดสงสัยว่าอะไรในตัวหนูถึงทำให้ลูกชายของแม่ตกหลุมรักให้มากขนาดนี้พอแม่ได้รู้จักหนูมากขึ้นแม่ก็ไม่คิดสงสัยอะไรอีก เพราะความดีของหนูที่ทำให้ลูก
พอจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยชายหนุ่มก็พาแม่ยายของตนเองกลับมาที่บ้าน เขาตั้งใจว่าจะต่อเติมที่นี่ไหมในเมื่อหญิงสาวยังใช้เวลาอยู่กับผู้เป็นแม่เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่เขาจะย้ายมาอยู่ที่นี่เอง ในตอนแรกว่าจะซื้อบ้านหลังใหม่แล้วพาครอบครัวของเขมจิราไปอยู่ด้วย แต่พอมารู้ว่าแม่ยายของเขานั้นเป็นคนรักบ้านหลังนี้มากเพราะเป็นบ้านที่พ่อของเธอซื้อเอาไว้ให้ เขาจึงยอมที่จะเป็นฝ่ายย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วก็ให้ช่างว่ารีโนเวทบ้านใหม่ “ช่วงนี้อาจจะมีช่างก่อสร้างเข้ามาทำให้เสียงดังหน่อยนะครับคุณแม่” “ไม่เป็นไรจ๊ะพ่อหนุ่ม”นางเอมอรได้ยินสรรพนามใหม่ที่ลูกเขยของเธอเอ่ยเรียกเธอก็ยิ้มพอใจออกมา “นี่เอมมีพี่เขยรวยขนาดนี้เลยหรอคะ”เอมมิกาที่กลับมาจากค่ายภาษาอังกฤษพอที่รู้เรื่องราวทุกอย่างก็ทั้งตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน “เรานี่”เป็นนางเอมอรที่อื่นดุลูกสาวที่พูดออกมาอย่างนี้ “ไม่เป็นไรครับคุณแม่อีกอย่างมันเป็นเรื่องจริงต่อไปนี้น้องเอมอยากได้อะไรก็บอกพี่ได้เลยนะ อยากเรียนต่อต่างประเทศก็บอกพี่ได้เหมือนกันพี่จะส่งเอง” “หูย จริงนะค
ณ บ้านหลังใหญ่ ทันทีที่รถจอดนิ่งเขมจิราก็ยิ่งเผยความประหม่าออกมาให้เห็น ชายหนุ่มหันไปมองอย่างนึกเอ็นดูก่อนที่เขาจะจับกุมมือเล็กของเธอเอาไว้บอกเป็นนัยๆ ว่าไม่ต้องกลัว ก่อนเขาจะบอกให้เธอลงจากรถเข้าไปในบ้าน การมาของลูกชายแน่นอนทำให้สองสามีภรรยาสงสัยอยู่มาก เพราะก่อนหน้านี้กษิดิฐถามแค่ว่าอยู่บ้านรึเปล่าพอบอกว่าอยู่เขาก็บอกแค่ว่ากำลังจะมาหา ท่าทางนี้มีหรือจะไม่สงสัยกัน “ดิฐ แม่หนูคนนี้คือใครเป็นลูก”หลังจากที่ชายหนุ่มพาหญิงสาวอีกคนเข้ามาในบ้าน คุณหญิงกัลยาก็เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัยทันที “นี่เขมจิราครับแม่ คนรักของผม”หญิงสาวตกใจกับการแนะนำของอีกฝ่ายแต่เธอก็ยกมือไหว้พวกท่านทั้งสองอย่างท่าที่มีมารยาท “คนรัก” “ครับ ที่ผมมาในวันนี้ผมต้องการบอกพ่อกับแม่ว่าผมกับเขมเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วนะครับ” “หา!”เป็นเสียงของชายวัยกลางคนที่เอ่ยดังขึ้นยังตกใจเมื่อได้ยินว่าลูกชายของเขานั้นจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนี้แล้ว “เขมเป็นพนักงานบริษัทของเราครับผมกับเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ครั้งแรกเป็นความ
หลังจากที่ชายหนุ่มถอนจูบเขาก็กอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทำให้หญิงสาวนึกสับสนมากจริงๆ เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยปากถามในสิ่งที่อยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอกันแน่แล้วเรื่องผู้หญิงคนนี้จริงหรือเปล่าที่เขาไม่รู้สึกอะไรกับเธอจริงๆ “คุณดิฐคิดยังไงกับเขม” “ถามได้เมียทั้งคน จะไม่รักได้ไง ที่ฉันไม่ปล่อยไม่ใช่เพราะเห็นแก่ตัวอยากรั้งให้เธออยู่เป็นนางบำเรอของฉันนะเขม แต่เพราะฉันรักเธอไงอยากให้เธออยู่เป็นเมียฉันตลอดไป”เขาก็เคยสับสน ถามตัวเองมาหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งนึกภาพในอนาคตที่มีเธออยู่ข้างๆ อยากมีครอบครัวที่อบอุ่นมีลูกกับเธอคนนี้ ถ้าหากเขาคิดถึงขั้นนี้ก็แปลว่าเขารู้สึกกับเธอไปแล้วจริงๆ และนั้นก็ทำให้เขามั่นใจหลังจากที่เห็นใบลาออกของหญิงสาวเขาก็ยิ่งทนไม่ได้ที่เธอจะไปจากเขาอย่างนี้ “คุณรักเขมจริงๆ งั้นเหรอคะ” “คำพูดฉันมันดูไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรอ”ชายหนุ่มถามกลับเมื่อยังเห็นแววตาของหญิงสาวที่มองมาที่เขาด้วยความสับสนอยู่เหมือนเดิม คนตัวเล็กก้มหน้าลงก่อนจะพยักหน้าไปมา ทำเอาท่านประธานหนุ่มถึงกับถอนหายใจออกมาท
ตกตอนเย็น เขมจิราเดินทางมาที่โรงพยาบาล เธอเข้ามาในห้องพักฟื้นของมารดาที่ในตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง พอเห็นลูกสาวคนโตมาเยี่ยมนางเอมอรก็เผยรอยยิ้มออกมาทันที ถึงแม้จะยังรู้สึกเจ็บกับการผ่าตัดแต่เธอก็พยายามขยับกายลุกขึ้นเพื่อที่จะนั่งคุยกับลูกสาวของตน “แม่ ไม่ต้องลุกขึ้นหรอกค่ะ นอนพักเถอะ” “แม่นอนทั้งวันแล้วลูก อยากขยับแข้งขยับขาบ้าง อีกอย่างตอนนี้แม่ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว คุณหมอเขาก็บอกว่าอีกไม่นานก็คงกลับไปรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้” “ถ้าอยู่ที่นี่มีนางพยาบาลคอยดูแลนะคะ” “เฮ้อ แม่รู้แต่แม่เบื่อ อยากกลับไปอยู่บ้านน่ะเขม”เธอเข้าใจว่าคนแก่ชอบกลับไปอยู่บ้าน พออยู่โรงพยาบาลไม่เท่าไรก็งอแงจะไม่อยากอยู่แล้ว “งั้นเอาไว้ให้ดีขึ้นกว่านี้เขมจะพาแม่กลับนะคะ” “ได้ลูก แล้วนี่เขมเป็นไงบ้างสบายดีหรือเปล่า ทำงานหนักมากเลยใช่ไหมช่วงนี้ดูลูกสูบผอมไปนะ”คำถามที่เป็นห่วงเป็นใยของมารดาทำเอาคนตัวเล็กเกือบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวแต่เธอก็พยายามไม่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าคนเป็นแม่เพราะไม่อยากให้แม่ของเธ







