Share

บทที่ 8

last update Last Updated: 2025-05-15 22:50:51

"พี่ขอไปไล่ดูตารางคิวจากเลขาก่อนนะครับว่าวันนั้นว่างหรือเปล่า แล้วพี่ค่อยมาให้คำตอบกับน้องพิณอีกที" ภาคินไม่ชอบงานสังคมที่ต้องยืนปั้นหน้าตีตราแสร้งยิ้มมากที่สุด! เพราะมันโคตรของโคตรความน่าเบื่อ แล้วยิ่งหากให้เขาควงไฮโซสาวอย่างพิรญาณ์ออกหน้าออกตาอาจแสดงให้เห็นทันทีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราอาจมีแนวโน้มพัฒนาไปข้างหน้า...คราวนี้ล่ะก็คุณดำเกิงคงไม่ยอมปล่อยง่ายๆคงต้องเร่งรัดถึงที่สุด

"ค่ะ" พิรญาณ์ยิ้มแห้งๆ เพราะรู้ดีว่าต่อให้ภาคินว่างเขาก็จะไม่มีทางปลีกตัวให้หล่อนยืมควงเดินในงานเลี้ยงค็อกเทลแน่ๆ แต่หล่อนไม่ได้คาดหวังกับคำตอบของเขาสักเท่าไหร่เนื่องจากแม้มันจะออกมาเป็นเช่นไร...หล่อนก็ค่อนข้างมั่นใจว่าวันนั้นหล่อนจะเป็นนางพญาหงส์ที่ยืนอยู่ข้างๆราชสีห์อย่างภาคินแน่นอน

@บ้านเดชาบวรสกุล

บนโต๊ะขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าในวันนี้เต็มไปด้วยอาหารหรูหราราคาแพงทั้งที่นิยมขึ้นชื่อของไทยและชาติฝั่งตะวันตก...ล้วนใช้วัตถุดิบล้ำค่าปรุงแต่งจากแม่บ้านสาวสุดสวยที่การันตีด้านฝีมือว่าไม่เป็นสองรองใคร

บริเวณหัวโต๊ะคือคุณดำเกิง ไล่ลงมาปีกโต๊ะฝั่งซ้ายภรรยาแต่งอย่างคุณหญิงจารวีแสร้งยิ้มหน้าระรื่นเพราะอันที่จริงแล้วตนนั้นอยากได้หนูพิรญาณ์มาเป็นสะใภ้คนโตมากกว่า แต่ทางฝั่งนั้นดันชื่นชอบและพึงพอใจในตัวของภาคินหล่อนก็เลยไม่สามารถขัดข้องได้...ถัดไปบุตรชายของเจ้าหล่อน ภาคี...ซัดมาปีกโต๊ะด้านขวา ภาคิน และ แขกรับเชิญสุดสวยอย่างพิรญาณ์

แน่นอนว่าบรรยากาศวันนี้เต็มไปด้วยความอิ่มเอิบใจของคุณดำเกิงยิ่งนัก...เขาปรารถนาดี อยากจะให้ลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝาและออกเรือนไปกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งสกุลรุนชาติ ทั้งฐานะทางสังคม...หากภาคินตกแต่งกับหนูพิรญาณ์เป็นอันว่าคงสบายทั้งชาติ เขาก็จะได้ไม่ต้องมาพะวงกลัวลูกชายคนเล็กจะไปคว้าผู้หญิงกำพืดต่ำเข้ามาเป็นสะใภ้ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล...

"อาหารวันนี้อร่อยมากเลยค่ะคุณป้า" พิรญาณ์ตีตัวประชิดคุณหญิงจารวีเพื่อเอาอกเอาใจและเข้าทางว่าที่แม่สามีอีกคน เพราะประจักษ์แจ้งแก่ใจว่าอย่างไรเสียคุณดำเกิงก็อยู่ฝั่งหล่อนแน่นอน

"ถ้าอร่อยก็มาทานข้าวที่บ้านป้าบ่อยๆนะจ๊ะหนูพิณ เดี๋ยวป้าจะให้ตาภาคินไปรับที่บ้าน ดีไหมจ๊ะ" คุณหญิงจารวีเล่นตามบทบาท ถึงเช่นไรหากได้เกี่ยวดองกับครอบครัวฝั่งโน้นแม้เป็นบุตรคนเล็กที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขแต่หล่อนก็รักเหมือนลูกแท้ๆคงจะไม่ได้เสียหายอะไร

"พิณเกรงว่าจะรบกวนพี่ภาคินเปล่าๆน่ะคะ"

"น่ารักเสียจริงๆ ใช่ไหมภาคิน" แววตาของหล่อนบีบบังคับและล็อคคำตอบเอาไว้แล้วว่าจะต้องออกมาในรูปแบบใด

"ครับ"

"ขอบคุณค่ะ เอ่อ...นี่ก็ดึกมากแล้ว พิณต้องกราบขอตัวกลับก่อนนะคะคุณป้า คุณลุง ประเดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่จะเป็นห่วงแย่" นี่คงจะเป็นเรื่องดีและเป็นที่พึงพอใจในสายตาของคุณหญิงจารวีนั่นก็คือ...การวางตัวของพิรญาณ์ที่แสดงให้เห็นเด่นชัดว่าผ่านการอบรมสั่งสอนหรือเข้าเรียนคอร์สมารยาทงามมาอย่างดี สมแล้วที่เป็นลูกสาวคนเดียวหัวแก้วหัวแหวนของคุณหญิงชไมพรกับคุณเกริกพล

"จ๊ะ ไปส่งน้องให้ถึงบ้านนะภาคิน แล้วรีบกลับมาพ่อกับแม่มีเรื่องจะคุยด้วย"

ภาคินพยักหน้า แล้วเรียนเชิญตัวพิรญาณ์เพื่อขับรถสปอร์ตคันหรูพาเจ้าหล่อนไปส่งถึงหน้าประตูบ้านตามคำสั่งของคุณหญิงจารวี...

...

"พ่อกับแม่ใหญ่มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ" ภาคินหย่อนสะโพกลงนั่งบนฟูกโซฟาในห้องรับรองแขกที่มีเพียงเราทั้งสามคนนั่นก็คือคุณหญิงจารวี คุณดำเกิง...เขา

"หนูพิณน่ารักไหม?" คุณหญิงจารวีเปิดถามเป็นคนแรก

"ก็น่ารัก"

"สวยใช่ไหมล่ะ"

"ครับ" ถ้าเขาบอกว่าพิรญาณ์ไม่สวยแต่เอนเอียงออกไปในทางขี้ริ้วขี้เหร่ก็คงจะดูเป็นการพูดเกินความจริงไปมาก เนื่องจากสภาพหน้าตาของหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนได้รับการบำรุงอบร่ำมาอย่างดีจนสะอาดเนียนละออไร้ที่ติเชียว

"แล้วกิริยามารยาทล่ะ?"

"ไม่รู้สิครับ เรื่องพรรค์นี้ต้องดูกันไปนานๆว่าสิ่งที่สร้างออกมาเป็นตัวตนจริงๆหรือแค่เสแสร้ง เพราะหากเทียบจากประสบการณ์โดยตรงของผมเนี่ย ตอนแรกบางคนก็นึกว่าดีแสนดี สุดท้ายแล้วดีแตก เป็นนางมารร้ายที่ใจไม้ไส้ระกำในคราบนางฟ้าผู้ไร้เดียงสา" ภาคินตอบ และคุณหญิงจารวีก็รู้ดีว่าเขาต้องการพูดจาเหน็บแนมหล่อน...

หล่อนเลี้ยงภาคินมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ตีนเท่าฝาหอย รักเหมือนลูกในไส้...ให้เท่าเทียมกับภาคีทุกอย่างโดยไม่ลำเอียงไม่ว่าจะเป็นของเล่น การศึกษา เสื้อผ้าต่างๆนานา จนจวบปัจจุบันนี้มันอายุ 30 ปี! ในสายตาของภาคินหล่อนก็ยังคงเป็นแม่ใหญ่ใจร้ายที่ทำลายแม่แท้ๆอยู่ดี...

ภาคินไม่เคยมองหล่อนดีเลย...ไม่เคยมองหล่อนเป็นแม่ ไม่เคยมองเห็นความหวังดีของหล่อน แต่หล่อนก็ต้องยอมรับ เมื่อก่อนหล่อนร้ายและทำลายชีวิตของคุณอรุณีเมียน้อยสามีจนป่นปี้ไม่ให้เหลือความสุขใดๆจริงๆ...ซึ่งคราวแรกภาคินก็เป็นหนึ่งในหมากที่หล่อนดึงขึ้นมาเพื่อให้นางเมียน้อยรู้สึกเจ็บปวดหัวใจที่โดนพรากลูกออกไปจากอก

ยอมรับว่าคิดแบบนั้นจริงๆ...แต่พอดีเลี้ยงดู กลับผูกพัน รักเหมือนลูกในไส้ แต่พอมันรู้ความจริงก็กลับสร้างกำแพงขึ้นมากีดกันต่อต้านสารพัด ผลักไสเขาออกจนแทบจะกระเด็นไกลวงโคจรไปเสียแล้ว

"ภาคิน..." คุณดำเกิงชำเลืองมองบุตรชายด้วยสายตาดุๆ

"ก็จริงอย่างที่ว่า..แต่...ทั้งน่ารัก สวย กิริยามารยาทงดงามดั่งผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนกวดขันมาอย่างดีโดยคุณหญิงชไมพร ซ้ำฐานะทางสังคมชาติสกุลก็เทียบเท่ากับวงศ์ตระกูลของเรา แกไม่คิดจะสนใจจริงๆเหรอ? หรือว่าผู้หญิงคนนี้สู้นังเด็กนั่นไม่ได้" ประโยคสุดท้ายทำให้ภาคินถึงกับหันขวับไปจ้องหน้าแม่เลี้ยงของตนอย่างทันควัน ซ้ำผู้เป็นบิดาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ถึงกับพลอยงงงวยด้วย

"แม่ใหญ่..."

"เด็กคนนั้นคือใคร?" คุณดำเกิงถามตาเขียวปั๊ด! พยายามคาดคั้นหาคำตอบจากบุตรชายและภรรยาแต่ทว่าทั้งสองคนเงียบสนิทไม่มีปริปากแม้แต่เอะเดียว

"ถามลูกชายคุณดูสิคะ" จากเดิมทีที่คุณหญิงจารวีมองหน้าผู้เป็นสามีอยู่ก็ย้อนกลับมาชำเลืองตาแลภาคิน "ว่า...เด็กคนนั้นคือใคร คนใกล้ตัวที่แสนจะใกล้ ใกล้ ใกล้ ใกล้เหลือเกิน"

คุณหญิงจารวีรู้ คุณหญิงจารวีเห็น เพียงแค่หล่อนไม่พูดเพราะเจ้าลูกชายและแม่นั่นยังไม่เคยแข็งข้อหรือเสนอหน้าขึ้นมามีบทบาท...ก็แค่ของเล่นชั่วครั้งชั่วคราวเอาไว้ปรนเปรอบำบัดความใคร่หาได้มีสิทธิ์ขึ้นมาเทียบเท่าเสมอภาคไม่

แต่หากวันใดภาคินคิดจะแข็งข้อ ขัดคำสั่ง และผู้หญิงคนนั้นพยายามยืดหน้ามักใหญ่ใฝ่สูงอยากจะใช้เรือนร่างเต้าไต่ขึ้นมาเป็นลูกสะใภ้คนรองของวงศ์ตระกูลเดชาสกุลอีกคน วันนั้นเราค่อยเห็นดีกัน! เพราะหล่อนจะไม่มีวันยอมให้ภาคินใช้นิสัยต่ำๆเหมือนพ่อแล้วคว้าผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าจนชื่อเสียงป่นปี้ซ้ำรอยเดิมอีกแน่ๆ

"ใคร? เด็กคนนั้นคือใคร แกบอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ภาคิน"

"คนใกล้ตัว...ใกล้เสียจนคุณพ่อนึกไม่ถึงเลยล่ะครับ" ภาคินอยากจะรู้นักว่าหากคุณดำเกิงรู้ความจริงถึงเรื่องผู้หญิงที่เขาเลี้ยงไว้ว่าแท้จริงแล้ว คือ 'แม่หนูมินตรา' กิ๊กเก่าพ่อที่เคยยืนนิ่งปล่อยให้สูบเลือดสูบเนื้อและยกเงินเป็นเข่งๆเพื่อปรนเปรอบำเรอ คุณดำเกิงจะมีสีหน้าอย่างไร

เสียเงินหลายแสน...แม้แต่แขนก็ไม่ได้จับ เพราะภาคินคือคนแรกของมินตรา และเธอเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น แม้แต่กับพ่อก็ไม่มีสิทธิ์!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 20

    "ใช่ ข้อนั้นฉันยอมรับว่าส่วนหนึ่งความผิดมันก็มาจากคุณพ่อและคุณแม่ อย่างที่นายคิดแม่ของนายไม่ผิดหรอกนะที่เข้ามาเพราะท่านไม่รู้ว่าพ่อของฉันมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แล้วแม่ของฉันผิดเหรอที่ไม่พอใจ โมโห โกรธ เจ็บใจที่จู่ๆมารู้ว่าผัวตัวเองแอบไปมีเมียน้อยแถมยังมีลูกด้วยกันอีกหนึ่งคน ในมุมมองอยู่กินกันมาร่วมหลาย 10 ปีเป็นใครๆก็เสียใจ เป็นใครๆก็โมโหทั้งนั้นแหละ! หรือนายจะเถียง" "..." ภาคินเงียบ "ในตอนแรกแม่ของฉันผิดก็จริง อันนี้ฉันยอมรับ แล้วใครรู้บ้างล่ะว่าตลอดระยะเวลาที่แม่พานายมาเลี้ยง พานายมาอุ้มชู เป็นแม่กาเหว่าที่ให้อุปการะคุณลูกกา แม่ฉันน่ะทั้งรัก ทั้งเอ็นดูและให้ทุกๆอย่างกับนายเทียบเท่ากับฉัน และที่แม่พานายมาจากแม่ของนายก็เพราะอยากให้นายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยากให้นายได้ใช้ของดีๆ อยู่ในสังคมที่ดี ตอนแรกฉันก็เคยถามแม่ ท่านบอกว่าก็คิดอยากจะทำให้แม่ของนายเจ็บใจเจ็บช้ำน้ำใจที่โดนพรากลูกออกจากอก เหมือนตนโดนแย่งผัว แต่พอได้เลี้ยงนายเข้าจริงๆ ท่านก็รักนายเหมือนลูกแท้ๆอีกคนหนึ่ง นายเคยรู้บ้างหรือเปล่า!" ภาคีพยายามอธิบายให้น้องชายต่างมารดาได้เข้าใจพ้องต้องกัน "งั้นเหรอ?? ไม่ลำเอียงเลยงั้นเหรอ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 19

    "ต่อไปนะคะก็จะเป็นบททดสอบแรกในส่วนของคุณภาคินค่ะ ทางคู่ค้าธุรกิจเสนอโครงการด้วยบอกมาว่าข้อเสียของคุณภาคินนั่นก็คือนิ่ง ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่แต่การเจรจาคุยงานด้วยถือว่าราบรื่นเพราะเป็นคนพูดจาคล่องแคล่ว จริงจังตลอดเวลายามทำงานและที่สำคัญมีเทคนิคมีสกิลในการต่อรองราคาทำให้บริษัทได้เปอร์เซ็นต์ต้นทุนต่ำ กำไรพุ่งสูง ถือได้ว่าส่งผลดีมากๆเลยค่ะ" เลขาสาวคนสวยกล่าวรายงานหากดูจากบททดสอบแรกผู้ชนะก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากภาคิน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน แต่ข้อเสียของภาคินก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานหรือเปอร์เซ็นต์กำไรบริษัทที่จะต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินเท่ากับของภาคี ฉะนั้นหากวางให้การงานรุ่งเรืองกิจการมั่นคงก็คงจะต้องเลือกภาคิน..."มาดูบททดสอบต่อไปกันนะคะ..." หลังจากนั้นเลขาสาวคนสวยก็ใช้รีโมทคอนโทรลเลื่อนสไลด์จอผ่านไปเรื่อยๆร่วมประมาณ 20 นาทีจนมาถึงบทสรุปสุดท้ายนั่นก็คือกำไรไตรมาสของบริษัทที่เพิ่มขึ้นในโครงการของทั้งสองคน "ท้ายสุดนี้ก็จะเป็นกำไรไตรมาสบริษัทสำหรับหัวข้อโครงการทำโฆษณานะคะ หนึ่ง ส่วนของคุณภาคีจะเป็นโฆษณาแบรนด์สบู่ผลรวมทั้งหมด ดูแล้วบริษัท

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 18

    วันประกาศผลการแข่งขัน..."ไม่ว่าวันนี้ผลมันจะออกมารูปแบบใด แม่ขอให้ภาคินอย่าโกรธ อย่าเกลียดพ่อเขาเลยนะลูก เพราะพ่อเขารักลูกเท่ากันทุกคน ไม่ได้ลำเอียงรักใครมากกว่ากัน ผลการแข่งขันมันก็ต้องออกมาตามหน้างานที่ปรากฏให้เห็นว่าคนไหนเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้ประธานบริหารมากกว่า" นี่คือสิ่งที่คุณอรุณีกลัวมากที่สุดนั่นก็คือลูกชายจงเกลียดจงชังพ่อตัวเอง! หล่อนไม่อยากให้ภาคินเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ พยายามพูด พยายามเกลี้ยกล่อม พยายามหว่านล้อมสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำลายกำแพงที่กั้นอยู่ในใจของภาคินให้พังลงได้... ภาคินปลูกฝังและเห็นภาพจำซ้ำๆมาโดยตลอดว่าแม่ของเขาถูกกระทำย่ำยีจากคนบ้านนั้นอย่างไร แม่ของเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตกเป็นตุ๊กตาเริงระบำทั้งๆที่อยากจะหนีไปใจจะขาดแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะลูก คุณดำเกิงใช้ลูกเข้ามาเป็นข้ออ้างในการรั้งอรุณี กักขังหล่อนเอาไว้ในบ้านหลังมอซอเล็กเท่ารูหนูหลังนี้ และในทางกลับกันคุณดำเกิงก็มัดตัวบีบบังคับ ชี้นิ้วสั่งขีดกรอบให้ภาคินทำตามที่เขานิมิตหมายเอาไว้ในหัวโดยใช้แม่ของเขามาเป็นข้ออ้างเช่นเดียวกัน... มันจึงทำให้ภาคินเข้าใจผิดว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณดำเกิงเห็นเขาแ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 17

    ภาคินสั่งลูกน้องคนสนิทให้ช่วยกระจายข่าวและติดต่อนักสืบค้นหาตัวมินตรา ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหรือมุดน้ำข้ามทะเล ข้ามภูเขาสุดสีทันดรอย่างไรเขาก็จะทำ มันไม่ใช่เขารักหรือรู้สึกพิศวาสในตัวของมินตราจนกระทั่งยอมลงทุนเงินและอยากจะไขว่คว้าตัวเธอกลับมาหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะความรู้สึกอยากเอาชนะที่โดนเธอหักหน้าและเป็นฝ่ายทิ้งเขาก่อนต่างหาก! "คิดว่าจะหนีพ้นฉันงั้นเหรอมินตรา!" ตอนนี้มินตราเป็นผู้หญิงของเขา เขาซื้อมินตรามาด้วยเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง แล้วไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ เงินที่ใช้สอยในแต่ละเดือน รถสปอร์ตที่ให้เธอขับทุกๆวันและบ้านหลังนี้ที่ใช้อยู่อาศัยตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีอีก...ถ้าเทียบกับตัวเธอที่เขาเคยระบายความเงี่ยนลงครั้งแล้วครั้งเล่ามันยังไม่ได้เศษเสี้ยวสักนิดที่เขาเสียไปด้วยซ้ำ ฉะนั้นมินตราจะต้องกลับมาชดใช้ให้เขาอย่างสาสม จนกว่าเขาจะรู้สึกพึงพอใจและไม่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบคดโกงระหว่างเงินจำนวนหลักล้านที่เสียไปและเรือนร่างของเธอ ... @ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รุ่งเช้าวันถัดมาอันแสนเบื่อหน่าย ภาคินต้องแสร้งตีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นสุภาพบุรุษในคราบของพญามารผู้ยิ่งใหญ่ยโสโอหังขับรถสปอร์ตคันหรูที

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 16

    ภาคินกลับมาจากทำงานด้วยสภาพเหนื่อยหน่ายเนื่องด้วยไปเจรจาทุนกับคู่ค้าคนสำคัญเพื่อพิชิตภารกิจสุดท้ายว่าแท้จริงแล้วผู้ใดเหมาะสมจะได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาสกุลกรุ๊ป...การตัดสินนั้นไซร้ถูกรวบรัดให้เร็วขึ้นนั่นก็คือ 4 วันข้างหน้า...ไตรมาสกำไรจะถูกหยิบยกมาพูดเจรจากันในห้องประชุมและดูว่าผู้ใดมีสมรรถภาพมากพอในการบริหารให้เดชาบวรสกุลกรุ๊ปคงขึ้นแท่นบริษัทโฆษณาอันดับหนึ่งของเมืองไทยอยู่... ภาคินถอดเสื้อสูทตัวนอกวางพาดบนโซฟาไล่ตามองรอบๆบ้านที่บัดนี้มันถูกปิดมืดสนิทดำเป็นสีประกายนิลคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าไม่มีคนอยู่แต่เขาสันนิษฐานมินตราอาจจะเพลียและนอนหลับไปแล้วก็เป็นได้...เขาจึงก้าวฉับๆขึ้นชั้นบนของบ้านทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า บนเตียงนุ่มนั้นมีหมอน 2 ใบขนาดใหญ่ส่วนผ้านวมผืนนุ่มก็ถูกขึงสี่ทิศให้เนี๊ยบจนเหรียญเด้งคล้ายกับความชำนาญเหมือนพนักงานในโรงแรมหรือรีสอร์ทดังที่ผ่านการร่ำเรียนมาอย่างดี... "ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน!" ยอมรับว่าเขาค่อนข้างหัวเสียเมื่อกลับมาแล้วไม่เจอมินตราอยู่ที่บ้าน เขาเคยสั่งแล้วสั่งเล่าหลังสองทุ่มเป็นต้นไปเธอจะไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนได้อีก น่าแปลกใ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 15

    @สามวันผ่านไป มินตราลาหยุดหนึ่งวันเพื่อออกไปทำธุระเยี่ยมเยือนมารดาซึ่งอยู่ต่างจังหวัดและไล่ตระเวนหางานทำที่มั่นคงพอประทังชีวิตหากโดนเฉดหัวทิ้งจากภาคินไว้บ้าง...โดยใช้เหตุผลอ้างกับเจ้านายว่าเธอรู้สึกปวดหัวไม่ค่อยสบาย แต่เขาน่ะหรือที่จะสนใจคอยมาดูแลประคบประหงมเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมาเพราะเธอได้รับเพียงประโยคถากถางน้ำใจ กระแนะกระแหน 'เรียกร้องความสนใจ' 'สำออย!' แต่เธอก็กล้ำกลืนฝืนทน...ยิ้มสู้ ปล่อยประโยคของเขาให้กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น ทำหูทวนลม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่ได้ยิน... มินตราพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่บนฟูกเตียงนุ่ม ขณะเวลา 9 นาฬิกา 30 นาที แล้วหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าที่เก็บเงินสะสมซื้อมาด้วยตัวเองขึ้นเปิดแอพพลิเคชันอากู๋ เพราะเพิ่งจะทราบจากปากของเขาเมื่อวานว่าถุงยางอนามัยที่ใช้มาตลอดระยะสามเดือนหมดอายุแล้วทั้งสิ้นเพราะมันคือแพ็คเดียวกันอยู่ในล็อตเดียวกันซึ่งเขาสั่งมาทั้งหมดเกือบ 20 กล่อง... บ้าชะมัด! ร้านนั่นขายถุงยางหมดอายุได้ยังไง 'ใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุไปแล้ว 11 เดือนส่งผลอย่างไรบ้าง' ปรากฏว่า...'ข้อที่หนึ่ง อาจทำให้ถุงยางอนามัยปริ แตก ฉีกขาด รั่วซึม ในขณะที่กำลัง

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 14

    "ค่ะ" มินตราไม่มีทางเลือก อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา คงจะต้องชดใช้จนกว่าเขาจะพึงพอใจนั่นแหละภาคินถึงยอมปล่อยไปแต่โดยดี เธอลุกขึ้นยืนแล้วปลดเปลื้องเสื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาเหม่อลอย เมื่อเรือนร่างอรชรผิวขาวเนียนดุจน้ำนมยิ่งกว่าหยวกกล้วยได้เปลือยเปล่าต่อสายตาของเขาทุกกระเบียดนิ้วแล้ว อีกฝ่ายก็ยกยิ้มอย่างภูมิใจฉุดกระชากลากถูตัวเธอแล้วโยนทิ้งลงบนโซฟา ก่อนใช้ฝ่ามือสัมผัสมันทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นไหปลาร้า ไหล่ลาดเนียนสวย เต้าอกอวบอิ่ม เอวคอดกิ่ว บั้นสะโพกกลมมน หรือจุดสงวนใจกลางกายซึ่งเคยผ่านมือเขาและปลายลิ้นของเขามาแล้วทั้งสิ้น... มินตรานอนตัวแข็งทื่อปล่อยอารมณ์ให้ไหลตามเขาในขณะที่น้ำตายังคงหลั่งรินพรั่งพรูลงมาไม่ขาดสาย เกิดภาพเสมือนร่างไร้วิญญาณปล่อยให้เขากระทำชำเราตามอำเภอใจเมื่อเสร็จสรรพแล้วก็ค่อยแยกย้ายเช่นทุกๆครั้งที่ผ่านมา... "เชี้ย! ถุงแตก" ภาคินสบถด่าด้วยถ้อยคำหยาบโลนอย่างตกใจแล้วรีบดึงความเป็นชายออกมาในสภาพใบหน้าซีดเผือก แต่เมื่อพลิกดูข้างกล่องถุงยางอนามัยที่เขาพกเป็นแพ็คและหยิบใช้เป็นประจำก็ปรากฏว่ามันได้หมดอายุไปตั้งแต่เมื่อสิบเอ็ดเดื

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 13

    "มินขอถามคุณภาคินจริงๆเถอะค่ะ คุณภาคินเคยรักมินบ้างไหมคะ" น้ำเสียงเจือแววสะอึกสะอื้นกล้ำกลืนความชอกช้ำเข้าไปในลำคอเป็นช่วงๆ พร้อมกับหยาดน้ำอุ่นร้อนหลั่งรินลงมาด้วยอาการเจ็บปวดรวดร้าวที่มันกำลังกัดกินก้อนเนื้อหัวใจดวงน้อย..."หัดส่องกระจกชะโงกดูเงาบ้างนะมินตราว่าเธอมีค่าพอหรือเปล่าที่จะให้ฉันลดตัวลงไปรัก" มันเหมือนกับมีมีดปลายแหลมปักเข้ากลางอก เลือดสีแดงสดไหลทะลักอาบเรือนร่างขาวเนียนจนแทบแลไม่เห็นผิวหนังมังสา "ผู้หญิงอย่างเธอมากที่สุดก็เป็นแค่นางบำเรอช่วยปรนเปรอฉัน ตอนที่ฉันอยากก็เท่านั้นแหละ อย่าสำคัญ อย่าสำเหนียกตัวเองมากเกินไปว่าที่ฉันทนอยู่กับเธอมาจนถึงทุกวันนี้เพราะรัก" ยัง...ยังไม่พอหรือไง แค่ประโยคแรกหัวใจของเธอก็ป่นปี้บอบสลายไม่เหลือชิ้นดีอยู่แล้ว แต่นี่เขายังพูดจาถมเถตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าหมายจะให้เนื้อที่เป็นแผลพุพองติดเชื้อเข้ากระแสเลือดจนสาหัสและเจียนตายเลยหรือ? "หากคุณไม่ได้รู้สึกดีด้วย.แล้วคุณจะดึงมินเข้ามาตั้งแต่แรกทำไม!" มินตราทรุดตัวลงนั่งบนพื้นกระเบื้องด้วยความรู้สึกซับซ้อนซ่อนเงื่อนพัวพันกันมั่วไปหมดในสมอง เขาไม่เคยรักเธอเลยสักนิดหรือไง? แล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามัน

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 12

    "เชิญครับคุณมินตรา นี่ก็ถึงเวลาทำงานแล้ว กรุณาเหน็ดเหนื่อยให้สมกับเงินเดือนที่ทางบริษัทจ่ายไปให้คุณด้วย" ภาคินกดน้ำเสียงต่ำแกมบังคับบีบให้มินตราค่อยๆหลุบลงมองพื้นแล้วถอนตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามบิดาเพื่อกระเถิบตัวตั้งท่าเตรียมรอออกจากห้อง "งั้นหนู...เอ่อ..." มินตราเหลือบขึ้นไปมองสายตาดุ กร้าวของภาคินเมื่อเธอหลุดใช้สรรพนามแทนการเรียกชื่อที่แสนจะคุ้นเคยกับคุณลุงดำเกิง "งั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะท่านประธาน" "ตามสบายเลยจ้ะ" เมื่อเป็นเช่นนั้นมินตราจึงขออนุญาตปลีกตัวออกไปจากห้องประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปเพื่อประจำยังโต๊ะทำงานของตนซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องของภาคินนั่นเอง @ห้องทำงานภาคิน "เข้าไปคุยกับผมในห้อง" ภาคินพูดในขณะที่กำลังเดินผ่านโต๊ะทำงานของมินตรา แกร๊ก!"ไปเสนอตัวให้พ่อผมถึงห้องเลยเหรอ?" ภาคินรั้งตัวร่างบางกระชากเข้าหากายพร้อมกับใช้ฝ่ามือของเขาบีบแขนเรียวบางของเธอจนเนื้อนุ่มบุ๋มยุบตัว "เงินที่ผมให้ใช้ในแต่ละเดือนมันขาดเหลือจนกระทั่งต้องยอมนอนกับผู้ชายที่มีสามีแล้วงั้นเหรอ?" "คุณภาคินพูดอะไรคะ? มินไม่เห็นจะเข้าใจเลย" มินตราไม่รู้ว่าตนจะต้องแสดงความ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status