Share

บทที่ 7

last update Last Updated: 2025-05-15 22:50:27

"ไม่มีทาง!!" ภาคินตอบเสียงแข็งกร้าว เพราะข้อต่อรองในการรับตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปนั่นก็คือ คุณดำเกิงจะต้องเลิกยุ่งวุ่นวายกับคุณอรุณีซึ่งเป็นภรรยาน้อยอย่างเด็ดขาด! ซึ่งคุณดำเกิงก็ทำตามสัจจะมาได้ดีโดยตลอด นับแต่นั้นชีวิตของมารดาเขาก็ค่อนข้างสงบสุขไม่มีมารผจญเหมือน 10 กว่าปีที่ผ่านมา...

(งั้นแกก็ไปรับหนูพิรญาณ์เดี๋ยวนี้! แล้วขอโทษหนูพิรญาณ์ด้วย จะบอกว่ารถเสียหรือว่ากำลังเคลียร์งานอยู่อะไรก็ช่าง ทำยังไงก็ได้ให้หนูพิรญาณ์สบายใจที่สุด นี่คือคำสั่ง อีก 20 นาทีแกต้องมาถึงที่บ้าน)

"ครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปรับน้องพิณ"

ตู้ดๆ สายถูกตัดไปแล้ว

ในที่สุด...จากเดิมทีที่ภาคินคิดจะหนีปัญหาแล้วมาหมกอยู่ในบ้านจัดสรรหลังนี้ที่เคยใช้มันหลบๆซ่อนๆผู้หญิงอย่างมินตรา ก็ไม่พ้นเพราะพ่อเขาดันใช้แม่เข้ามาต่อรองเหมือนทุกๆครั้งไม่มีผิด!

ทางฝ่ายของมินตราแอบหลบยืนฟังอยู่บนบันไดบ้าน...มาทันเวลาพอดีตอนที่ได้ยินประโยคสุดท้ายนั่นก็คือผมจะเข้าไปรับน้องพิณ แสดงว่าข่าวลือที่คุณดำเกิงกำลังจะจับคู่คลุมถุงชนให้คุณภาคินกับคุณพิรญาณ์เป็นความจริงน่ะสิ

หากเป็นเช่นนั้นแล้วเธอล่ะ? เธอจะต้องอยู่ส่วนไหนในชีวิตเขา เป็นเมียเก็บลับๆ ตุ๊กตาหน้ารถที่เอาไว้เชยชมเพื่อบำบัดอารมณ์ทางกาม อยู่ในที่เล็กๆแคบๆไม่มีตัวตนสำหรับเขางั้นเหรอ?

"คุณภาคินจะไปไหนเหรอคะ" มินตราทำน้ำเสียงสั่นๆแม้นจะรู้คำตอบที่แท้จริงของมันดีอยู่แล้ว

"ผมจะกลับบ้าน" เขาโกหกได้อย่างหน้าด้านๆ! ทั้งๆที่เขากำลังจะไปรับผู้หญิงคนนั้น

"ไม่ใช่ว่าไปรับคุณพิรญาณ์เหรอคะ?" ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเบาๆ "มินได้ยินพนักงานที่บริษัทคุยกันว่าคุณดำเกิงกำลังจะจับคู่หมั้นหมายคุณภาคินกับคุณพิรญาณ์ สรุปแล้วมันคือเรื่องจริงใช่ไหมคะ"

"นี่มินแอบฟังผมคุยโทรศัพท์เหรอ!" ภาคินบีบแขนเรียวบางแน่นหมายให้มันแหลกละเอียด "ผมบอกแล้วไงว่าไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัว! ส่วนไอ้ที่ว่าผมกำลังจะหมั้นกับน้องพิณหรือไม่ใช่ มันก็เรื่องของผม คุณไม่เกี่ยว เข้าใจไหม?"

น้ำเสียงเขาดูหยาบกระด้าง...คล้ายกับคนไม่เคยมีเยื่อใยให้กันมาก่อน มินตราอยู่กับเขามาตั้ง 1 ปี เวลา 365 วัน มันไม่มีค่าพอที่จะทำให้เขารักเธอได้เลยงั้นเหรอ? แล้วเขาจะดึงเธอเข้ามาตั้งแต่แรกทำไม! ในเมื่อไม่เคยคิดจะรักกัน!!!

มินตรายอมทนอยู่เงียบๆไม่ไหวตัวไม่เคยแสดงตัวตนหรือทำให้ภาคินต้องลำบากใจมาตลอดระยะเวลา 1 ปี เธอเป็นคู่นอน เป็นนางบำเรอ เป็นทาสรับใช้ที่ดีให้เขายังไม่มีขาดตกบกพร่อง เขานี่สิไม่เคยถนอมแม้กระทั่งน้ำใจเธอ...

"เข้าใจค่ะ..."

"เข้าใจก็ดีเพราะผมไม่ชอบคนที่พูดไม่รู้ความ แล้วอยากทำตัวล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของผมแบบนี้อีก! เพราะตอนนี้คุณอยู่ในสถานะอะไร คุณก็น่าจะรู้ดี" ภาคินทิ้งท้ายด้วยประโยคถากถางทำร้ายจิตใจก่อนจะคว้ากุญแจรถสปอร์ตแล้วขับออกไปจากบ้านจัดสรรหลังนี้ทันที

สถานะเมียเก็บ ใช่...ตอนนี้เธออยู่ในสถานะเมียเก็บ

"ฮื่อ..." มินตราปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าเธอช่างอ่อนแอและบอบบางเสียเหลือเกิน...แต่อีกความคิดวูบหนึ่งเธอก็เข้มแข็งใช่ย่อยที่ทนอยู่ในสถานะแบบนี้มาได้ตั้ง 1 ปีกว่า เพราะอะไรน่ะเหรอ...รักน่ะสิรักคำเดียวเท่านั้น

รักที่ไม่ได้คาดหวัง...รักที่ขอเพียงแค่ได้อยู่ดูแลและได้อยู่ใกล้ๆภาคินก็เท่านั้น

วันนี้คำพูดร้ายๆของเขามันได้แปรเปลี่ยนเป็นเข็มพันเล่มจิ้มปักเข้ามาบนก้อนเนื้อบริเวณหน้าอกข้างซ้ายจนกลายเป็นแผลเหวอะหวะที่ได้เชือดเฉือนและบีบขยำความรู้สึกของเธอจนป่นปี้แหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี

เธอต้องเข้มแข็งกว่านี้!

...

@บ้านของพิรญาณ์

"อ้าว!! คุณภาคินมาพอดีเลยลูก" คุณหญิงชไมพรภรรยาของคุณเกริกพลเพื่อนสนิทคุณดำเกิงรีบดันตัวลูกสาวเพียงคนเดียวให้ลุกขึ้นเพื่อรอต้อนรับว่าที่ลูกเขยที่จะเข้ามาเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน

"สวัสดีครับคุณน้า" ภาคินยกมือไหว้ผู้อาวุโสตรงหน้าด้วยความเคารพ อย่างไรเสียหล่อนก็เป็นคนสนิทของคุณดำเกิงพ่อเขานั่นเอง...

"ไหว้พระเถอะลูก น้องรออยู่พอดีเลย"

"สวัสดีค่ะพี่ภาคิน" ภาคินไล่ตามองเสียงหวานของพิรญาณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหน้าตาของเจ้าหล่อนสะสวยรวมทั้งเรือนร่างทรวดทรงองค์เอวเอสเข้ากั๊นเข้ากัน...ยิ่งใส่เป็นเดรสสายเดี่ยวไขว้หลังระบายลูกไม้สีสะพรั่งตัดกับผิวขาวนวลละอออย่างน่าหลงใหลจับใจชาย

ดูนั่น...ไม่ว่าจะเป็นตุ้มหู เครื่องประดับ สร้อยคอ กำไรสร้อยข้อมือ รองเท้า เดรสกระโปรง หรือแม้กระทั่งกระเป๋าถือล้วนเป็นของแบรนด์เนมราคาสูงทั้งนั้น...

"สวัสดีครับ ผมต้องขอโทษคุณน้าด้วยนะครับที่มารับน้องพิณช้า บังเอิญว่ารถผมเสียก็เลบต้องเอาไปซ่อมที่อู่ ผมต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ" ภาคินทำตามคำสั่งของบิดาอย่างไม่มีขัดข้อง

"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ" ขอแค่ภาคินมีท่าทีสนใจบุตรสาวของตัวเองอยู่เพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในการเกี่ยวดองระหว่างสองครอบครัวแล้ว

ประเดี๋ยวเดียวหากทั้งสองคนออกไป หล่อนคงจะรีบวิ่งแจ้นโทรหาคุณดำเกิงเพื่อรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าแหงๆเลย

"เชิญครับ" หลังจากนั้นรถสปอร์ตก็ถูกขับเเล่นออกมามุ่งหน้าสู่บ้านเดชาบวรสกุล แน่นอนว่าในระหว่างทางค่อนข้างอึดอัดเพราะบรรยากาศอึมครึมที่เอ่อล้นอยู่รอบกาย...ภาคินแทบไม่เปล่งประโยคใดๆพูดคุยกับพิรญาณ์เลยแม้แต่น้อยจนเธอจำใจต้องเกริ่นเริ่มเสียเอง

"เราสองคนไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะพี่ภาคิน" พิรญาณ์พบเจอภาคินตั้งแต่สมัยเด็กๆ ก่อนที่เธอจะไปร่ำเรียนเมืองนอกเมืองนาเพื่อคว้าปริญญาโทมาฝากคุณพ่อ ซึ่งปัจจุบันนี้หล่อนอายุ 27 ปีบริบูรณ์

"ครับ น้องพิณสวยขึ้นเยอะเลย" ภาคินชักไม่แน่ใจเหมือนกัน หากครอบครัวของพิรญาณ์รู้ความจริงถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนซ่อนเงื่อนบางอย่างในวงตระกูลของเขาว่าแท้จริงแล้วภาคินเป็นเพียงแค่ลูกเมียน้อย ไม่ใช่บุตรชายคนรองของคุณหญิงจารวีดังคำร่ำลือและเป็นที่เข้าใจในแวดวงสังคม พวกเขายังอยากจะได้เขาไปเป็นลูกเขยเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่อีกหรือไม่?

เขาถูกปั้นถูกชูช่วง กลายเป็นหุ่นเชิดในนามบุตรชายของคุณหญิงจารวีและคุณดำเกิงประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ป...อยู่ภายใต้หน้ากากที่ปั้นหน้าต่อหน้าสื่อว่าต้องทำตัวเป็นรักใคร่สนิทสนมกลมเกลียวคล้ายกับแม่ลูกกันจริงๆเพื่อไม่ให้ใครอื่นเขาสงสัยแล้วย้อนกลับมาเยาะเย้ยคุณหญิงจารวีว่าโง่งมจนกระทั่งผัวไปมีเมียน้อย

"แหม พี่ภาคินก็ปากหวานจริงๆนะคะ" พิรญาณ์เขินจนแทบจะม้วนตัวเป็นเลขแปดอยู่แล้ว "เอ่อ...พี่ภาคินคะ วันศุกร์ช่วงประมาณสามทุ่มพี่ภาคินว่างหรือเปล่าคะ"

วันศุกร์ก็อีกสามวันข้างหน้าที่จะถึง...

"ทำไมเหรอครับ?"

"ถ้าพี่ภาคินว่าง พิณว่าจะชวนพี่ภาคินไปงานเลี้ยงค็อกเทลของนักการทูตและก็พวกนักธุรกิจ รวมถึงไฮโซ เซเลบดังในแวดวงสังคมหน่อยน่ะค่ะ" พิรญาณ์เหลือบมองหน้าของชายหนุ่มที่เธอหมายปองเป็นระยะระยะ "คือคอนเซ็ปต์ของงานกำหนดไว้ว่าต้องไปเป็นคู่ชายหญิง เพื่อนส่วนใหญ่ของพิณก็เป็นพวกฝรั่งมังค่าอยู่ต่างประเทศทั้งนั้น พิณก็เลยไม่รู้จะชวนใครดี แต่หากไม่เป็นการรบกวนและพี่ภาคินไม่รังเกียจพิณ ช่วยไปเป็นเพื่อนพิณหน่อยนะคะ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 20

    "ใช่ ข้อนั้นฉันยอมรับว่าส่วนหนึ่งความผิดมันก็มาจากคุณพ่อและคุณแม่ อย่างที่นายคิดแม่ของนายไม่ผิดหรอกนะที่เข้ามาเพราะท่านไม่รู้ว่าพ่อของฉันมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แล้วแม่ของฉันผิดเหรอที่ไม่พอใจ โมโห โกรธ เจ็บใจที่จู่ๆมารู้ว่าผัวตัวเองแอบไปมีเมียน้อยแถมยังมีลูกด้วยกันอีกหนึ่งคน ในมุมมองอยู่กินกันมาร่วมหลาย 10 ปีเป็นใครๆก็เสียใจ เป็นใครๆก็โมโหทั้งนั้นแหละ! หรือนายจะเถียง" "..." ภาคินเงียบ "ในตอนแรกแม่ของฉันผิดก็จริง อันนี้ฉันยอมรับ แล้วใครรู้บ้างล่ะว่าตลอดระยะเวลาที่แม่พานายมาเลี้ยง พานายมาอุ้มชู เป็นแม่กาเหว่าที่ให้อุปการะคุณลูกกา แม่ฉันน่ะทั้งรัก ทั้งเอ็นดูและให้ทุกๆอย่างกับนายเทียบเท่ากับฉัน และที่แม่พานายมาจากแม่ของนายก็เพราะอยากให้นายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยากให้นายได้ใช้ของดีๆ อยู่ในสังคมที่ดี ตอนแรกฉันก็เคยถามแม่ ท่านบอกว่าก็คิดอยากจะทำให้แม่ของนายเจ็บใจเจ็บช้ำน้ำใจที่โดนพรากลูกออกจากอก เหมือนตนโดนแย่งผัว แต่พอได้เลี้ยงนายเข้าจริงๆ ท่านก็รักนายเหมือนลูกแท้ๆอีกคนหนึ่ง นายเคยรู้บ้างหรือเปล่า!" ภาคีพยายามอธิบายให้น้องชายต่างมารดาได้เข้าใจพ้องต้องกัน "งั้นเหรอ?? ไม่ลำเอียงเลยงั้นเหรอ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 19

    "ต่อไปนะคะก็จะเป็นบททดสอบแรกในส่วนของคุณภาคินค่ะ ทางคู่ค้าธุรกิจเสนอโครงการด้วยบอกมาว่าข้อเสียของคุณภาคินนั่นก็คือนิ่ง ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่แต่การเจรจาคุยงานด้วยถือว่าราบรื่นเพราะเป็นคนพูดจาคล่องแคล่ว จริงจังตลอดเวลายามทำงานและที่สำคัญมีเทคนิคมีสกิลในการต่อรองราคาทำให้บริษัทได้เปอร์เซ็นต์ต้นทุนต่ำ กำไรพุ่งสูง ถือได้ว่าส่งผลดีมากๆเลยค่ะ" เลขาสาวคนสวยกล่าวรายงานหากดูจากบททดสอบแรกผู้ชนะก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากภาคิน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน แต่ข้อเสียของภาคินก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานหรือเปอร์เซ็นต์กำไรบริษัทที่จะต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินเท่ากับของภาคี ฉะนั้นหากวางให้การงานรุ่งเรืองกิจการมั่นคงก็คงจะต้องเลือกภาคิน..."มาดูบททดสอบต่อไปกันนะคะ..." หลังจากนั้นเลขาสาวคนสวยก็ใช้รีโมทคอนโทรลเลื่อนสไลด์จอผ่านไปเรื่อยๆร่วมประมาณ 20 นาทีจนมาถึงบทสรุปสุดท้ายนั่นก็คือกำไรไตรมาสของบริษัทที่เพิ่มขึ้นในโครงการของทั้งสองคน "ท้ายสุดนี้ก็จะเป็นกำไรไตรมาสบริษัทสำหรับหัวข้อโครงการทำโฆษณานะคะ หนึ่ง ส่วนของคุณภาคีจะเป็นโฆษณาแบรนด์สบู่ผลรวมทั้งหมด ดูแล้วบริษัท

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 18

    วันประกาศผลการแข่งขัน..."ไม่ว่าวันนี้ผลมันจะออกมารูปแบบใด แม่ขอให้ภาคินอย่าโกรธ อย่าเกลียดพ่อเขาเลยนะลูก เพราะพ่อเขารักลูกเท่ากันทุกคน ไม่ได้ลำเอียงรักใครมากกว่ากัน ผลการแข่งขันมันก็ต้องออกมาตามหน้างานที่ปรากฏให้เห็นว่าคนไหนเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้ประธานบริหารมากกว่า" นี่คือสิ่งที่คุณอรุณีกลัวมากที่สุดนั่นก็คือลูกชายจงเกลียดจงชังพ่อตัวเอง! หล่อนไม่อยากให้ภาคินเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ พยายามพูด พยายามเกลี้ยกล่อม พยายามหว่านล้อมสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำลายกำแพงที่กั้นอยู่ในใจของภาคินให้พังลงได้... ภาคินปลูกฝังและเห็นภาพจำซ้ำๆมาโดยตลอดว่าแม่ของเขาถูกกระทำย่ำยีจากคนบ้านนั้นอย่างไร แม่ของเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตกเป็นตุ๊กตาเริงระบำทั้งๆที่อยากจะหนีไปใจจะขาดแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะลูก คุณดำเกิงใช้ลูกเข้ามาเป็นข้ออ้างในการรั้งอรุณี กักขังหล่อนเอาไว้ในบ้านหลังมอซอเล็กเท่ารูหนูหลังนี้ และในทางกลับกันคุณดำเกิงก็มัดตัวบีบบังคับ ชี้นิ้วสั่งขีดกรอบให้ภาคินทำตามที่เขานิมิตหมายเอาไว้ในหัวโดยใช้แม่ของเขามาเป็นข้ออ้างเช่นเดียวกัน... มันจึงทำให้ภาคินเข้าใจผิดว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณดำเกิงเห็นเขาแ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 17

    ภาคินสั่งลูกน้องคนสนิทให้ช่วยกระจายข่าวและติดต่อนักสืบค้นหาตัวมินตรา ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหรือมุดน้ำข้ามทะเล ข้ามภูเขาสุดสีทันดรอย่างไรเขาก็จะทำ มันไม่ใช่เขารักหรือรู้สึกพิศวาสในตัวของมินตราจนกระทั่งยอมลงทุนเงินและอยากจะไขว่คว้าตัวเธอกลับมาหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะความรู้สึกอยากเอาชนะที่โดนเธอหักหน้าและเป็นฝ่ายทิ้งเขาก่อนต่างหาก! "คิดว่าจะหนีพ้นฉันงั้นเหรอมินตรา!" ตอนนี้มินตราเป็นผู้หญิงของเขา เขาซื้อมินตรามาด้วยเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง แล้วไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ เงินที่ใช้สอยในแต่ละเดือน รถสปอร์ตที่ให้เธอขับทุกๆวันและบ้านหลังนี้ที่ใช้อยู่อาศัยตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีอีก...ถ้าเทียบกับตัวเธอที่เขาเคยระบายความเงี่ยนลงครั้งแล้วครั้งเล่ามันยังไม่ได้เศษเสี้ยวสักนิดที่เขาเสียไปด้วยซ้ำ ฉะนั้นมินตราจะต้องกลับมาชดใช้ให้เขาอย่างสาสม จนกว่าเขาจะรู้สึกพึงพอใจและไม่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบคดโกงระหว่างเงินจำนวนหลักล้านที่เสียไปและเรือนร่างของเธอ ... @ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รุ่งเช้าวันถัดมาอันแสนเบื่อหน่าย ภาคินต้องแสร้งตีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นสุภาพบุรุษในคราบของพญามารผู้ยิ่งใหญ่ยโสโอหังขับรถสปอร์ตคันหรูที

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 16

    ภาคินกลับมาจากทำงานด้วยสภาพเหนื่อยหน่ายเนื่องด้วยไปเจรจาทุนกับคู่ค้าคนสำคัญเพื่อพิชิตภารกิจสุดท้ายว่าแท้จริงแล้วผู้ใดเหมาะสมจะได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาสกุลกรุ๊ป...การตัดสินนั้นไซร้ถูกรวบรัดให้เร็วขึ้นนั่นก็คือ 4 วันข้างหน้า...ไตรมาสกำไรจะถูกหยิบยกมาพูดเจรจากันในห้องประชุมและดูว่าผู้ใดมีสมรรถภาพมากพอในการบริหารให้เดชาบวรสกุลกรุ๊ปคงขึ้นแท่นบริษัทโฆษณาอันดับหนึ่งของเมืองไทยอยู่... ภาคินถอดเสื้อสูทตัวนอกวางพาดบนโซฟาไล่ตามองรอบๆบ้านที่บัดนี้มันถูกปิดมืดสนิทดำเป็นสีประกายนิลคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าไม่มีคนอยู่แต่เขาสันนิษฐานมินตราอาจจะเพลียและนอนหลับไปแล้วก็เป็นได้...เขาจึงก้าวฉับๆขึ้นชั้นบนของบ้านทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า บนเตียงนุ่มนั้นมีหมอน 2 ใบขนาดใหญ่ส่วนผ้านวมผืนนุ่มก็ถูกขึงสี่ทิศให้เนี๊ยบจนเหรียญเด้งคล้ายกับความชำนาญเหมือนพนักงานในโรงแรมหรือรีสอร์ทดังที่ผ่านการร่ำเรียนมาอย่างดี... "ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน!" ยอมรับว่าเขาค่อนข้างหัวเสียเมื่อกลับมาแล้วไม่เจอมินตราอยู่ที่บ้าน เขาเคยสั่งแล้วสั่งเล่าหลังสองทุ่มเป็นต้นไปเธอจะไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนได้อีก น่าแปลกใ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 15

    @สามวันผ่านไป มินตราลาหยุดหนึ่งวันเพื่อออกไปทำธุระเยี่ยมเยือนมารดาซึ่งอยู่ต่างจังหวัดและไล่ตระเวนหางานทำที่มั่นคงพอประทังชีวิตหากโดนเฉดหัวทิ้งจากภาคินไว้บ้าง...โดยใช้เหตุผลอ้างกับเจ้านายว่าเธอรู้สึกปวดหัวไม่ค่อยสบาย แต่เขาน่ะหรือที่จะสนใจคอยมาดูแลประคบประหงมเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมาเพราะเธอได้รับเพียงประโยคถากถางน้ำใจ กระแนะกระแหน 'เรียกร้องความสนใจ' 'สำออย!' แต่เธอก็กล้ำกลืนฝืนทน...ยิ้มสู้ ปล่อยประโยคของเขาให้กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น ทำหูทวนลม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่ได้ยิน... มินตราพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่บนฟูกเตียงนุ่ม ขณะเวลา 9 นาฬิกา 30 นาที แล้วหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าที่เก็บเงินสะสมซื้อมาด้วยตัวเองขึ้นเปิดแอพพลิเคชันอากู๋ เพราะเพิ่งจะทราบจากปากของเขาเมื่อวานว่าถุงยางอนามัยที่ใช้มาตลอดระยะสามเดือนหมดอายุแล้วทั้งสิ้นเพราะมันคือแพ็คเดียวกันอยู่ในล็อตเดียวกันซึ่งเขาสั่งมาทั้งหมดเกือบ 20 กล่อง... บ้าชะมัด! ร้านนั่นขายถุงยางหมดอายุได้ยังไง 'ใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุไปแล้ว 11 เดือนส่งผลอย่างไรบ้าง' ปรากฏว่า...'ข้อที่หนึ่ง อาจทำให้ถุงยางอนามัยปริ แตก ฉีกขาด รั่วซึม ในขณะที่กำลัง

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 14

    "ค่ะ" มินตราไม่มีทางเลือก อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา คงจะต้องชดใช้จนกว่าเขาจะพึงพอใจนั่นแหละภาคินถึงยอมปล่อยไปแต่โดยดี เธอลุกขึ้นยืนแล้วปลดเปลื้องเสื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาเหม่อลอย เมื่อเรือนร่างอรชรผิวขาวเนียนดุจน้ำนมยิ่งกว่าหยวกกล้วยได้เปลือยเปล่าต่อสายตาของเขาทุกกระเบียดนิ้วแล้ว อีกฝ่ายก็ยกยิ้มอย่างภูมิใจฉุดกระชากลากถูตัวเธอแล้วโยนทิ้งลงบนโซฟา ก่อนใช้ฝ่ามือสัมผัสมันทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นไหปลาร้า ไหล่ลาดเนียนสวย เต้าอกอวบอิ่ม เอวคอดกิ่ว บั้นสะโพกกลมมน หรือจุดสงวนใจกลางกายซึ่งเคยผ่านมือเขาและปลายลิ้นของเขามาแล้วทั้งสิ้น... มินตรานอนตัวแข็งทื่อปล่อยอารมณ์ให้ไหลตามเขาในขณะที่น้ำตายังคงหลั่งรินพรั่งพรูลงมาไม่ขาดสาย เกิดภาพเสมือนร่างไร้วิญญาณปล่อยให้เขากระทำชำเราตามอำเภอใจเมื่อเสร็จสรรพแล้วก็ค่อยแยกย้ายเช่นทุกๆครั้งที่ผ่านมา... "เชี้ย! ถุงแตก" ภาคินสบถด่าด้วยถ้อยคำหยาบโลนอย่างตกใจแล้วรีบดึงความเป็นชายออกมาในสภาพใบหน้าซีดเผือก แต่เมื่อพลิกดูข้างกล่องถุงยางอนามัยที่เขาพกเป็นแพ็คและหยิบใช้เป็นประจำก็ปรากฏว่ามันได้หมดอายุไปตั้งแต่เมื่อสิบเอ็ดเดื

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 13

    "มินขอถามคุณภาคินจริงๆเถอะค่ะ คุณภาคินเคยรักมินบ้างไหมคะ" น้ำเสียงเจือแววสะอึกสะอื้นกล้ำกลืนความชอกช้ำเข้าไปในลำคอเป็นช่วงๆ พร้อมกับหยาดน้ำอุ่นร้อนหลั่งรินลงมาด้วยอาการเจ็บปวดรวดร้าวที่มันกำลังกัดกินก้อนเนื้อหัวใจดวงน้อย..."หัดส่องกระจกชะโงกดูเงาบ้างนะมินตราว่าเธอมีค่าพอหรือเปล่าที่จะให้ฉันลดตัวลงไปรัก" มันเหมือนกับมีมีดปลายแหลมปักเข้ากลางอก เลือดสีแดงสดไหลทะลักอาบเรือนร่างขาวเนียนจนแทบแลไม่เห็นผิวหนังมังสา "ผู้หญิงอย่างเธอมากที่สุดก็เป็นแค่นางบำเรอช่วยปรนเปรอฉัน ตอนที่ฉันอยากก็เท่านั้นแหละ อย่าสำคัญ อย่าสำเหนียกตัวเองมากเกินไปว่าที่ฉันทนอยู่กับเธอมาจนถึงทุกวันนี้เพราะรัก" ยัง...ยังไม่พอหรือไง แค่ประโยคแรกหัวใจของเธอก็ป่นปี้บอบสลายไม่เหลือชิ้นดีอยู่แล้ว แต่นี่เขายังพูดจาถมเถตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าหมายจะให้เนื้อที่เป็นแผลพุพองติดเชื้อเข้ากระแสเลือดจนสาหัสและเจียนตายเลยหรือ? "หากคุณไม่ได้รู้สึกดีด้วย.แล้วคุณจะดึงมินเข้ามาตั้งแต่แรกทำไม!" มินตราทรุดตัวลงนั่งบนพื้นกระเบื้องด้วยความรู้สึกซับซ้อนซ่อนเงื่อนพัวพันกันมั่วไปหมดในสมอง เขาไม่เคยรักเธอเลยสักนิดหรือไง? แล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามัน

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 12

    "เชิญครับคุณมินตรา นี่ก็ถึงเวลาทำงานแล้ว กรุณาเหน็ดเหนื่อยให้สมกับเงินเดือนที่ทางบริษัทจ่ายไปให้คุณด้วย" ภาคินกดน้ำเสียงต่ำแกมบังคับบีบให้มินตราค่อยๆหลุบลงมองพื้นแล้วถอนตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามบิดาเพื่อกระเถิบตัวตั้งท่าเตรียมรอออกจากห้อง "งั้นหนู...เอ่อ..." มินตราเหลือบขึ้นไปมองสายตาดุ กร้าวของภาคินเมื่อเธอหลุดใช้สรรพนามแทนการเรียกชื่อที่แสนจะคุ้นเคยกับคุณลุงดำเกิง "งั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะท่านประธาน" "ตามสบายเลยจ้ะ" เมื่อเป็นเช่นนั้นมินตราจึงขออนุญาตปลีกตัวออกไปจากห้องประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปเพื่อประจำยังโต๊ะทำงานของตนซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องของภาคินนั่นเอง @ห้องทำงานภาคิน "เข้าไปคุยกับผมในห้อง" ภาคินพูดในขณะที่กำลังเดินผ่านโต๊ะทำงานของมินตรา แกร๊ก!"ไปเสนอตัวให้พ่อผมถึงห้องเลยเหรอ?" ภาคินรั้งตัวร่างบางกระชากเข้าหากายพร้อมกับใช้ฝ่ามือของเขาบีบแขนเรียวบางของเธอจนเนื้อนุ่มบุ๋มยุบตัว "เงินที่ผมให้ใช้ในแต่ละเดือนมันขาดเหลือจนกระทั่งต้องยอมนอนกับผู้ชายที่มีสามีแล้วงั้นเหรอ?" "คุณภาคินพูดอะไรคะ? มินไม่เห็นจะเข้าใจเลย" มินตราไม่รู้ว่าตนจะต้องแสดงความ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status