บทที่ 7
คนตัวโตสวมใส่ชุดกาวน์หมอสีขาวนั่งเก้าอี้ด้านข้างของเตียงกุมมือของหญิงสาวที่ตนเองนั้นรักตั้งแต่ตอนเรียน ใบหน้าน้อยซีดเซียวจนดูน่ากลัวเขาช่วยให้เธอพ้นขีดอันตรายแต่ยังคงมีไข้อ่อนๆ
"หลินหลินทำไมเธอถึงตกอยู่ในสภาพนั้น" เปลือกตาน้อยค่อยๆ ลืมตื่นขึ้นยังคงหวาดผวากับเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเองก่อนหน้านี้จนกลายเป็นเสียงละเมอร้องไห้
"หลินหลินเธอกำลังฝันร้าย" เรือนร่างบางลืมตาตื่นขึ้นตกใจผวากอดคนตรงหน้าด้วยความกลัว เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองนั้นพ้นจากอันตรายยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนัก
"หมอคิม ฮื่อๆ" มือหนาของคนตัวโตนั้นลูบหัวของร่างบางเบาๆ และโอบกอดกระชับแน่น
"ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ไม่มีใครทำอะไรเธอแล้วค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกตั้งสตินะหลินหลิน" หมอคิมจับไหล่ของหลินหลินทั้งสองข้างบอกให้เธอนั้นตั้งสติ คนตัวเล็กได้เพียงแต่ยกมือเช็ดน้ำตาตัวเองรู้สึกเจ็บที่หน้าอกแปลกๆ
"เป็นอะไรเจ็บหน้าอกเหรอค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าแล้วก็ปล่อยออกดูนะ นี่น้ำ" หมอคิมรีบคว้าหยิบแก้วน้ำมาให้กับหลินหลินดื่ม
"หลินอยากกลับบ้านค่ะ" หมอคิมส่ายหน้าไปมาปฏิเสธในสิ่งที่หลินหลินต้องการ เธอต้องให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลเพราะไม่อย่างนั้นอาการของเธอจะแย่
"หลินหลินตอนนี้เธอป่วย เธอต้องให้น้ำเกลือ"
"ก็แค่นั่งตากฝนเองไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ หมอคิมให้หลินกลับบ้านเถอะนะ เดี๋ยวสามีของหลินเข้าใจผิดที่ภรรยาของเฉินลู่ทำแบบนั้น ป่านนี้ข่าวคงออกครึกโครมไปแล้ว" หลินหลินเธอยังจำได้ว่าภรรยาของเฉินลู่ทำร้ายเธอและได้ทำการไลฟ์สดกล่าวหาว่าเธอนั้นมายั่วสามีตัวเอง หลินหลินจึงกลัวว่าธารามสามีของฌธอจะเข้าใจผิดจึงอยากกลับบ้านแต่หมอคิมไม่ยอมปล่อยให้เธอกลับบ้าน
"ไม่ได้นะหลินหลิน เธอป่วยอยู่และเธอไม่ใช่แค่เป็นไข้" หลินหลินเธอหยุดชะงักใบหน้าน้อยจ้องมองหมอคิมขมวดคิ้วเพ่งมองใบหน้าของหมอคิมที่บอกว่าเธอไม่ได้ป่วยแค่เป็นไข้
"หมอคิมหมายความว่ายังไง หลินเป็นอะไรทำไมไม่ได้เป็นแค่ไข้" หมอคิมก้มหน้าลงและถอนหายใจ
"ตับของหลินไม่ปกติและยังมีโรคหัวใจที่เพิ่งเป็นในระยะเริ่มแรก ร่างกายของหลินอาจจะยังไม่ได้แสดงอาการอะไรในตอนนี้ แต่ข้างภายในต้องรักษาไม่อย่างนั้นตับของหลินจะกลายเป็นมะเร็งและโรคหัวใจที่เกิดขึ้นด้วยแล้วจะทำให้..."
หมอคิมไม่ได้พูดต่อหลินหลินเธอก้มหน้าลงชีวิตไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอกับโรคร้ายไม่เคยคิดว่าชีวิตเธอจะมาอยู่ที่จุดนี้ได้
"ไม่ต้องเสียใจนะหลินหลิน และไม่ต้องกลัวพี่เป็นหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับโรคนี้เลย พี่ไม่มีวันปล่อยให้ผู้หญิงที่พี่รักเป็นอะไรแน่นอน หลินหลินให้ความร่วมมือรักษาโรคที่เป็นอยู่ให้หายก่อนนะ เรื่องอื่นช่างมันก่อน" หมอคิมกุมมือของหลินหลินเอาไว้แล้วขอให้เธอนั้นร่วมมือกับเขาเพื่อรักษาโรคให้หายก่อน
หลินหลินนั้นดึงมือตัวเองออกจากมือหมอคิมและยิ้มให้เขาเหมือนกับคนที่ไม่กลัวกับโรคที่เป็นอยู่ในตอนนี้
"หมอคิมบอกว่าหลินเพิ่งจะเป็นระยะเริ่มเเรกไม่ใช่เหรอ แสดงว่าหลินก็ยังมีเวลาเอาไว้หลินจะมารักษานะคะ ช่วงนี้ขอจัดการเรื่องบางเรื่องก่อน สามีหลินเขางอนมากต้องง้อสามีให้สำเร็จก่อน" หลินหลินเธอยิ้มให้กับหมอคิมแต่เขานั้นกลับส่ายหน้าไปมาในความที่ไม่ห่วงตัวเองของหลินหลินที่จะไปง้อสามีของเธอก่อน
"ไม่ได้นะหลินหลินจะปฏิเสธการรักษาแบบนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าโรคที่เป็นอยู่จะรักษาให้หายได้ง่ายๆ นะ จะปล่อยให้มันลุกลามหรือยังไง อีกอย่างคุณธารามสามีของหลินนั้นเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ได้รักหลินหรอก" หมอคิมจับมือของหลินหลินและพยายามอธิบายเพื่อให้เธอรักษาตัวเองก่อนรวมทั้งพูดถึงสามีของเธอจึงทำให้หลินไม่พอใจจนกระชากมือออก
"ขอโทษนะคะ หลินขอบคุณพี่หมอคิมมากๆ แต่อย่าพูดถึงสามีของหลินแบบนี้อีกเพราะเขาเป็นคนดีแน่นอน ที่เขาเป็นแบบนั้นมันมีเรื่องบางเรื่องที่ทำให้เขาเข้าใจผิดแน่ๆ"
หลินหลินเธอลงจากเตียงจับสายน้ำเกลือกระชากออกเองเพราะเธอเป็นคนดื้อรั้นและเอาแต่ใจมาโดยตลอดจึงไม่ยอมฟังในสิ่งที่หมอคิมบอกด้วยความเป็นห่วงแต่กลับเดินออกมาจากโรงพยาบาลในสภาพร่างกายทรุดโทรม
"อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง" หมอคิมถึงแม้ว่าในใจนั้นจะรู้สึกนอยส์หลินหลินแต่เขาไม่สามารถโกรธผู้หญิงคนนี้ได้ลงและยังคงเป็นห่วงหลินหลินเอามากๆ ซึ่งเวลานี้ก็ดึกมากแล้วหมอคิมจึงวิ่งตามออกมาและบอกว่าจะไปส่ง
"ผู้หญิงแบบเธอมันไร้ยางอายจริงๆ ฉันล่ะขยะแขยงในตัวของเธอที่สุด" เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหน้านั่นเสียงที่คุ้นเคยเป็นเสียงสามีของเธอเอง ธารามมองมาที่หลินหลินและเห็นหมอคิมในขณะที่หมอคิมจับมือของหลินหลินบอกว่าจะไปส่งเธอพอดี
หมอคิมปล่อยมือของหลินหลินเขาจ้องมองไปยังธารามด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
"คุณพูดเกินไปหรือเปล่า" หมอคิมจ้องมองหน้าของธารามด้วยความโมโหไม่พอใจในคำพูดที่ดูถูกหลินหลิน แต่ธารามนั้นโมโหมากกว่าปากบอกว่ารังเกียจขยะแขยงแต่พอเห็นหมอคิมจับมือของหลินหลินกับโกรธจนใบหน้าแดงไปถึงก็ใบหู ธารามพุ่งตัวกำหมัดแน่นต่อยเข้าใบหน้าหมอคิมจนล้มลงไปกองกับพื้น
"หยุดนะคะคุณ คุณธารามหยุด" หมอคิมล้มลงไปกองกับพื้นแล้วธารามยังคงตามไปต่อยซ้ำอีก หลินหลินจึงห้ามเอาไว้เธอผลักหน้าอกของธารามและพยยามแทรกตัวเข้าไประหว่างกลางกันหมอคิมไว้
"อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ผู้หญิงแบบเธอมันน่าขยะแขยง ฉันควรเอะใจตั้งแต่แรกว่าเธอเป็นผู้หญิงสำส่อนแต่ฉันก็ไม่เคยคิดว่าเธอจะสำส่อนได้ขนาดนี้" น้ำเสียงตะคอกใบหน้าตะเบ็งเสียงใส่จนคอสั่นเอ่ยด่าว่าให้กับหลินหลินว่าสำส่อน
"คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะธาราม" หลินหลินยังคงพยายามที่จะอธิบายให้กับสามีฟัง แต่เขาไม่ฟังสะบัดมือออกจนหลินหลินล้มลงไปกองกับพื้นอีกคน หมอคิมจึงขยับเข้าไปประคองหลินหลินเอาไว้
"หลินเป็นอะไรหรือเปล่า" สายตาของธารามมองมาที่หมอคิมกับหลินหลินเขาเงยหน้าขึ้นพยายามสูดลมหายใจเพื่อระงับสติตัวเอง
"ก็เหมาะสมกันดีนี่ อยากได้เหรออยากได้เมียคนอื่นมากใช่ไหมชอบกินของมือสองหรือว่าของเหลือเดน หึ ก็เอาไปสิ เอาไปเลยกูขยะแขยงผู้หญิงคนนี้ที่สุดแล้ว" ผู้ชายที่เคยแสนดีวันนั้นเขาหายไปไหนแล้วทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ไม่ยอมฟังอะไรและยังใจร้ายกับเธอ
หลังจากที่เขาบอกว่ายกหลินหลินให้หมอคิมเขาหันหลังและเดินหนีออกไปทันที
"ฮื่อๆ ธาราม คุณกำลังเข้าใจฉันผิดกลับมาก่อนกลับมาก่อนได้ไหม คุณกำลังเข้าใจฉันผิด" หลินหลินที่นั่งอยู่กับพื้นพยายามเอื้อมมือและร้องเรียกให้สามีตัวเองนั้นหันกลับมาหาตัวเองแต่เขาเดินออกไปอย่างไร้เยื่อใย
"หลินหลินเขาเป็นคนไม่ดีเห็นแล้วใช่ไหมเลิกกับเขาเถอะ" หมอคิมจับมือของหลินหลินและบอกให้เธอเลิกกับสามีแต่หลินหลินสะบัดมือออกด้วยความไม่พอใจ
"เขาเป็นคนดี เขาแค่แกล้งเพราะว่าโมโหเขาคงหึง ฮึ๊ก หลินขอกลับบ้านก่อนนะ" หลินหลินเธอลุกขึ้นวิ่งตามธารามมาที่รถ เขาสตาร์ทรถแล้วปิดประตูรถทันทีไม่ให้เธอขึ้น หลินหลินเธอจึงอ้อมมาตรงกระจกของคนขับ
"คุณธาราม คุณเปิดประตูให้ฉันหน่อยฉันต้องการอธิบายให้คุณฟัง มันไม่ใช่แบบนั้นเลย" ธารามไม่ได้เปิดประตูรถ ใบหน้าที่เคร่งขรึมจับพวงมาลัยและเบิ้ลเครื่องยนต์ เขาได้เพียงแต่ลดกระจกประตูรถลงเพียงเล็กน้อย
"คุณธารามเปิดประตูให้ฉันก่อนสิ ฮึ้ก ฉันรู้ว่าคุณหึงฉันคุณโกรธ ขอให้ฉันได้อธิบายก่อนนะ มันไม่ใช่แบบนั้น" ในแววตาแดงก่ำหันมามองหลินหลินจนดูน่ากลัว
"ผู้หญิงสกปรกแบบเธอไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ไปหย่าให้ฉันแล้วจะไปไหนก็ไป" รถที่จอดอยู่นั้นขับออกจนหลินหลินเธอต้องปล่อยมือไม่อย่างนั้นต้องถูกรถเขาเหยียบแน่ๆ
"ฮื่อๆ ธารามกลับมาก่อนกลับมาให้ฉันอธิบายให้คุณฟังก่อนได้ไหม" ร้องไห้จนสุดเสียงพยายามเรียกให้สามีนั้นกลับมาหาตัวเอง แต่กลับไร้วี่แววเธอได้เพียงแต่ยืนเช็ดน้ำตาให้กับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
บทที่ 493 วันผ่านไปหลินหลินเธอให้โอกาสธารามสามีของตัวเอง สามวันที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเวลามันจะผ่านมาไม่นานแต่การกระทำของเขาที่เหมือนเมื่อก่อนนั้นกลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาดูแลเอาใจใส่ทั้งลูกและก็เธอทั้งๆ ที่อยู่ในบ้านหลังเล็กไม่มีอะไรอำนวยความสะดวกไม่มีแม่บ้านแต่ธารามก็ยังสามารถอยู่กับเธอได้ดูแลเธอกับลูกทำกับข้าวให้ทานทุกๆ วัน เล่นกับลูกปล่อยให้เธอได้มีโอกาสนอนพัก ส่วนเรื่องกลางคืนเขาก็ขยันทำการบ้านต่อแข้งต่อขาให้กับลูกในทุกๆ คืน"หม่ามี๊เป็นอะไรเหรอครับ" ในขณะที่หลินหลินนั้นนั่งอยู่ที่เตียง เด็กผู้ชายตัวเล็กเดินเข้ามาถามด้วยความสงสัยที่หน้าของผู้เป็นแม่นั้นไม่ค่อยยิ้ม"เป็นคนโสดที่อยากได้เป็ดครับ" หลินหลินเธอตั้งใจที่จะล้างห้องน้ำเพราะวันนี้หมอคิมจะมาทานข้าวที่บ้านด้วย และบังเอิญที่ธารามนั้นเปิดประตูมาได้ยิน ตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมาหลินหลินก็ยังไม่ได้บอกกับเขาว่าให้โอกาสแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม ธารามก็ยังคงคิดว่าภรรยานั้นงอนจึงแอบฟังว่าภรรยาคุยอะไรกับลูก"โสด? กระแทกเด้าจนเอวเคล็ดยังบอกว่าโสดอีก ชิ...เดี๋ยวนะอย่าได้เป็ด?"เขาบ่นพึมพำกับตัวเองในขณะที่แอบฟังภรรยากับลูกคุยกันจนกระทั่งได้
บทที่ 48เรียวปากบางถูกบดขยี้จู่โจมด้วยมือหนานั้นลูบคลำเข้าไปยังใต้เสื้อตัวบางเล้าโลมจนเรือนร่างบางอ่อนระทวยเสียงครางเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ"ผมรักคุณนะ" คนโตที่อยู่บนเรือนร่างน้อยนั้นจับเสื้อของเธอถอดออกเหลือเพียงแต่บราลูกไม้ด้าน เสื้อผ้าถูกมือหนาจับออกได้ทีละชิ้นจนกระทั่งมันหลุดลงไปอยู่ที่ช่วงไหล่สายตาดั่งนกเหยี่ยวกวาดมองเรือนร่างของภรรยาที่สวยงาม เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนที่จะลิ้มรสความหวานของผิวนุ่มเบาๆ อย่างอ่อนโยนปากอันร้อนผ่าวสัมผัสเนื้ออกขาวอวบอิ่มอมชมพูหัวนมชูชันดั่งกับเม็ดบัว เขาค่อยๆ งับและดูดใช้ลิ้นตวัดในโพรงปากตัวเองสลับทั้งซ้ายและขวามือหนาเลื่อนเข้าไปแผ่นหลังและปลดบราลูกไม้นั้นออกก่อนที่จะเหวี่ยงมันลงพื้นมือหนาลูบไปยังหน้าท้องเลื่อนต่ำลงไปด้านล่างปลดกางเกงด้านนอกนั้นออกเหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วด้านใน เขาไม่รอช้าที่จะใช้มือสัมผัสจับโหนกนูน ด้วยความซุกซนของมือที่ดื้อลูบไปยังโหนกนูนสอดเข้าไปด้านล่างเขี่ยจุดเสียวขยี้แรงๆ"อ๊ะ" จังหวะที่เธออ้าปากร้องคนตัวโตประกบจูบพร้อมกับขยี้มือตัวเองตรงจุดเสียวให้เรือนร่างบางสั่นสะท้านเสียงครางในลำคอและสะโพกที่ส่ายไปมามือน้อยจับไหล่ของสามีเอาไว้
บทที่ 47หลินหลินมาหาพ่อของธารามซึ่งเธอได้ฟังเรื่องราวจากเขาหลายๆ อย่างได้ฟังเรื่องราวของคุณพ่อที่ลำบากเพื่อเธอยิ่งทำให้หลินหลินนั้นสงสารพ่อตัวเอง พ่อของธารามพยายามขอโทษและอยากให้คุณหนูนั้นให้โอกาสลูกชายเขาสักครั้งด้วยความเข้าใจผิดธารามจึงโกรธและอยากแก้แค้นความผิดทั้งหมดเกิดขึ้นจากยศน้องชายต่างสายเลือดกับแม่เลี้ยงของเดชาที่อยากได้ทุกอย่างที่เป็นของพ่อหลินหลินพร้อมกับตั้งใจใส่ร้ายเพื่อให้ธารามโกรธเกลียดเดชาพ่อของหลินหลิน"คุณหนูครับให้ผมคุกเข่ากับคุณหนูก็ได้ แต่ขอร้องคุณหนูอย่าทิ้งมันเลยนะ ผมรู้ว่าลูกชายของผมรักคุณหนูมาก มันหลงผิดคิดชั่วกับคุณหนูผมอยากจะฆ่ามันจริงๆ ความผิดทั้งหมดคงเป็นเพราะผมถ้าผมฟื้นเร็วกว่านี้ทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้"หลินหลินมองหน้าพ่อของธารามก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับมือของท่าน"อดีตที่มันผ่านมาแล้วช่างมันเถอะค่ะ คุณดูแลตัวเองรักษาตัวให้หายและกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่นะ หลินไม่เอาอะไรเลยค่ะ ขอแค่ได้อยู่กับลูกและชีวิตที่มีความสุขก็พอแล้ว""ชีวิตที่มีความสุขของคุณหนูคือการไม่มีมันใช่ไหม"หลินหลินเธอเงียบไม่กล้าสู้หน้าพ่อของธารามหลังจากที่ถูกพ่อธารามนั้นเอ่ยถามชีวิตที่มี
บทที่ 46หลินหลินเธอมาที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าที่อยู่ใกล้บ้านของตัวเองตามที่คุณพ่อของธารามพูดและเล่าเรื่องในวัยเด็กของเธอให้ฟังสถานที่แห่งนี้ทำไมถึงช่างคุ้นเคยเหมือนกับเคยเล่นและอยู่ที่นี่มาก่อนยิ่งสนามเด็กเล่นตรงนั้นมีสไลเดอร์เหมือนกับที่พ่อของเขาพูดยิ่งทำให้หลินหลินเธอปวดหัวจนต้องยกมือกุม"ขอโทษนะคะ เป็นอะไรหรือเปล่า" ผู้หญิงวัยกลางคนใบหน้าสวยสวมใส่ชุดเรียบร้อยเดินเข้ามาจับแขนของหลินหลิน"สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะ ดิฉันครูมะปรางเป็นครูสอนอยู่ที่นี่มาเกือบสามสิบปีแล้วมีอะไรปรึกษาหรือว่าต้องการให้ช่วยเหลืออะไรบอกได้นะคะ""ครูสอนที่นี่มาสามสิบปีแล้วเหรอคะ" ครูมะปรางพยักหน้าให้กับหลินหลิน"ครูรู้จักเด็กผู้หญิงที่ชื่อหลินหลินลูกของคุณเดชาที่เคยมาเล่นสถานสงเคราะห์นี้ไหมคะ"ครูมะปรางขมวดคิ้วจ้องมองหน้าของหลินหลินและทำให้เขาจำเธอได้ ครูมะปรางจับช่วงไหล่ของหลินหลินเปิดเสื้อดูซึ่งมีรอยแผลเป็นจริงๆ"หนูคือหลินหลินใช่ไหม" เขารีบพุ่งตัวกอดหลินหลินเอาไว้ทั้งดีใจและตกใจจนน้ำตาไหล ครูมะปรางร้องไห้สะอื้นครูมะปรางพาหลินหลินมานั่งไถ่ถามหลายอย่างและหลินหลินก็ได้รู้ว่าตัวเองนั้นมาเล่นที่นี่อย่างที่พ่อขอ
บทที่ 45หมอคิมโทรหาหลินหลินบอกว่าธารามป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ให้หลินหลินมาดูอาการด้วยที่ธารามไม่ยอมกินอะไรไม่ทานอะไรไม่รักษาตัว ดูเหมือนว่าหมอคิมก็อยากให้หลินหลินสมหวังอยากให้คนที่ตัวเองรักมีความสุขกลับไปมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบหลินหลินเธอตกใจในตอนแรกเธอจะไม่มาที่โรงพยาบาล แต่หมอคิมขอให้มาเพราะไม่มีใครดูแลธาราม เธอชั่งใจอยู่พักใหญ่จนกระทั่งยอมมาที่โรงพยาบาลกับลูก"ทำไมต้องตามหลินมาค่ะพี่หมอ เขาจะเป็นจะตายยังไงก็เรื่องของเขาสิ" ปากบอกไม่อยากมาแต่ก็แอบชะเง้อมองหา หมอคิมได้เพียงแต่มองหลินหลินและแอบยิ้ม"น้องณธีครับมาหาลุงหมอเร็ว เดี๋ยวลุงหมอพาไปเล่นของเล่นที่ห้องของลุงหมอนะ ให้หม่ามี๊ไปดูป๊าก่อน" หมอคิมอยากเปิดโอกาสให้กับธารามและหลินหลินได้อยู่ด้วยกันสองคน เขาจึงจะพาน้องณธีไปที่ห้องทำงานตัวเอง"ที่รักขา อุ๊ย...นี่มันอะไรกันคะที่รักกำลังจะหมั้นอยู่แล้วนะ ทำไมถึงมาอุ้มเด็กคนนี้หรือว่านี่เป็นชู้ของที่รักไม่ยอมนะคะ หนูไม่ยอม หน้าด้านเหรอรู้ทั้งรู้ว่าเขามีคู่หมั้นอยู่แล้วยังพาลูกมายุ่งเกี่ยวอีก" เสียงแว๊ดๆ ของผู้หญิงตรงหน้าซึ่งทำให้หมอคิมนั้นไม่พอใจ เธอแต่งตัวไม่ต่างจากเด็กสก๊อยที่ซ้อนท้ายมอเต
บทที่ 44 ธารามเดินออกมาจากบ้านของหลินหลินเขาหยุดชะงักเพราะว่ามีคนเดินเข้ามานั่นคือลูกน้องคนสนิทของหลินหลินที่เคยเป็นลูกน้องตัวเอง สายตาของธารามที่มองเขาไม่ได้โกรธแต่อยากจะขอบคุณมากกว่า"คุณมองหน้าผมแบบนี้คงจะเกลียดผมสินะ ผมขอโทษด้วยแล้วกันในสิ่งที่ผมทำไม่ดีกับคุณ แต่ผมแค่อยากปกป้องคุณหนู" ธารามสูดลมหายใจและขยับเข้าไปใกล้ๆ ลูกน้องคนสนิทของหลินหลินเขายกมือตบไหล่ลูกน้องและยิ้มให้"ฉันขอบคุณนายต่างหากไม่ใช่โกรธและเกลียด ขอบคุณนะที่คอยอยู่เคียงข้างหลินหลิน ฉันมันโง่เองแหละที่เชื่อคนอื่น ฉันมันโง่เองที่จมปลักอยู่กับความแค้น ถ้าฉันลืมในสิ่งพวกนั้นและไม่ควรกลับมาแก้แค้นป่านนี้ฉันคงมีความสุขไปแล้ว" "แล้วทำไมนายถึงจะมีความสุขไม่ได้ล่ะ" ในช่วงตอนนั้นทั้งสองคนได้เพียงแต่มองหน้ากันส่วนธารามดึงมือออกจากไหล่ของลูกน้องคนสนิทของหลินหลินเตรียมที่จะเดินออกมา แต่หยุดชะงักเมื่อลูกน้องของหลินหลินเอ่ยเรียกตัวเองว่านายเหมือนเดิม ธารามหันกลับไปมองคนที่เอ่ยเรียกตัวเองว่าเจ้านาย"ผมขอโทษนะครับ ที่ผมทำไม่ดีกับคุณเคยว่าเคยด่าเคยหักหลังแต่ในสิ่งที่ผมทำก็เพราะว่าคุณหนูผมอยากให้คุณหนูหลุดพ้นจากความแค้นหลุดพ้นจากค