อย่างไรก็ตาม เจียงเหยาจิงก็เป็นคนพาผู้หญิงคนนี้มาให้เขาตั้งแต่แรก ซ่งหยุนหยุนรู้สึกเย็นชาในใจ เจียงเหยาจิงนี่เอง! “ผมมีห้องส่วนตัวของผมที่นี่ เราไปสนุกกันเถอะ จะว่าไปก็แปลก ที่เจียงเหยาจิงไม่ชอบคนสวย ๆ แบบคุณ หรือว่าเขาจะไม่ชอบผู้หญิง?” กู้ฮ่วยหัวเราะพลางมองซ่งหยุนหยุน เจียงเหยาจิงไม่เคยมีแฟน ทุกคนที่รู้จักเขารู้ดี รอบตัวเขามีแต่ผู้ชาย ไม่มีผู้หญิงเลย หลายคนบอกว่าเขาเสื่อมสมรรถภาพ บ้างก็บอกว่าเขาเป็นเกย์ แต่ที่แน่ ๆ คือเขาไม่ปกติ! ซ่งหยุนหยุนแสยะยิ้ม เขาไม่ชอบผู้หญิงตรงไหน? เขาแค่ไม่ชอบเธอ! ดูสิ เขาโกรธแค่ไหนที่เห็นเฉินเหวินเหยียนยังพัวพันกับแฟนเก่า ไม่ใช่เพราะเขาแคร์เหรอ ถึงได้โกรธขนาดนั้น? “แต่ถึงยังไง ผมก็ต้องขอบคุณเจียงเหยาจิงจริง ๆ” กู้ฮ่วยยิ้ม “ถ้าไม่มีเขา ผมจะรู้จักคุณได้ยังไงล่ะ?” ถึงแม้ว่าวันนั้นจะเจ็บตัวก็ตาม ท่าทางของผู้หญิงคนนี้ที่ข่มขู่เขาด้วยมีดทำให้เขาประทับใจเหลือเกิน ถ้าผู้หญิงไม่ยอม เธอก็แค่ร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัวไม่ใช่เหรอ? แต่เธอไม่ทำ! นัยน์ตาของซ่งหยุนหยุนเต็มเปี่ยมด้วยความเย็นชา เธอกัดฟัน “ฉันก็ต้องขอบคุณเขาเหมือนกัน!” ดวงตาขอ
ไป๋ซิวหุยสวมชุดนอนผ้าไหมเผยให้เห็นรูปร่างเย้ายวนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก เมื่อเห็นซ่งหยุนหยุน คิ้วโก่งเรียวกระตุกขึ้นพร้อมกล่าว “อ้าว หยุนหยุนนี่เอง?” ซ่งหยุนหยุนพลันก็กำหมัดแน่น ในช่วงเวลาที่แม่ป่วย เธอก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านแล้วเหรอ? สายตาจ้องเขม็งไปที่ข้อมือของไป๋ซิวหุย เธอสวมสร้อยข้อมือหยกล้ำค่า และดูเหมือนว่ามันมาจากเงินที่ตระกูลเจียงให้ ทำให้ซ่งลี่เฉิงเปลี่ยนไป เธอรู้สึกเจ็บใจมาก “ฉันมาหาซ่งลี่เฉิง” ไป๋ซิวหุยเสยผมลอนสีน้ำตาลเกาลัทแล้วพูด “พ่อของเธอไม่อยู่” ซ่งหยุนหยุนหันหลังกลับ... “เดี๋ยวก่อน” ไป๋ซิวหุยเรียก “เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอเงินใช่ไหม? เธอเป็นคุณนายตระกูลเจียงแล้ว ยังไม่มีเงินใช้อยู่อีกเหรอ? ฉันบอกไว้เลยนะ พวกเราไม่มีเงินให้เธอหรอก แค่แม่ของเธอคนเดียวก็เกินพอแล้ว” ซ่งหยุนหยุนเม้มริมฝีปาก เธอเป็นแค่เมียน้อย แต่กลับถือตัวเองเป็นนายแล้วเหรอ? “ซ่งลี่เฉิงยังไม่ได้หย่ากับแม่ของฉัน ถ้าเขาปฏิเสธที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล ฉันจะฟ้องเขา!” “เธอ...” ไป่ซิวหุยอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นคนที่กำลังเดินเข้ามา พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นมิตรทันที “ซ่งลี่เฉิงอะไรกัน เข
เมื่อเจอเจียงเหยาจิงที่สำนักงาน เขาก็รีบเข้าไปหา “คุณเจียง” เจียงเหยาจิงเหลือบมองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนัก “เรื่องที่ผมให้คุณไปตรวจสอบ ได้เรื่องหรือยัง?” เขารู้ทันฮั่วซุน หรือเขามีญาณทิพย์? วันนี้เพิ่มงานให้เขาดีไหม? “ยัง...ยังครับ ผมกำลังจะไป” เขาพูดเสียงสั่น ในใจคิดว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขาถึงโกรธมากขนาดนี้? จู่ ๆ เลขาก็เดินเข้ามา “คุณเจียงคะ คุณเฉินมารอพบคุณอยู่ข้างหน้าค่ะ” “คุณเฉิน? หรือว่าจะเป็นเฉินเหวิน…” ก่อนที่ฮั่วซุนจะพูดจบ เขาก็เห็นไปใบหน้าเย็นชาผสมขุ่นเคืองของเจียงเหยาจิง เขาจึงหยุดพูด บรรยากาศอึมครึมอยู่ครู่หนึ่ง เจียงเหยาจิงพูดน้ำเสียงเย็นชา “ฮั่วซุน ไปพาเธอขึ้นมา” “ครับ” หลังจากนั้นไม่นาน ฮั่วซุนก็พาเฉินเหวินเหยียนไปที่ห้องทำงานของท่านประธาน เจียงเหยาจิงยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงาน เขาถอดเสื้อสูทออก และวางไว้บนพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบาย ๆ แล้วค่อย ๆ หันกลับมามอง เฉินเหวินเหยียนยังคงเรียบร้อยสง่างามเหมือนเดิม “ฉันมากะทันหันแบบนี้เป็นการรบกวนคุณหรือเปล่าคะ?” เธอกระซิบเบา ๆ เจียงเหยาจิงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหลังจากเกิดเรื่อง เขาก
เจียงเหยาจิงดึงคอเสื้อของเขาอย่างฉุนเฉียว พลางพ่นลมออกจากอกอย่างเย็นชา ความบริสุทธิ์ของผู้หญิงในคืนนั้น เขาสัมผัสได้อยากลึกซึ้ง เฉินเหวินเหยียนมีแฟนแล้ว ดูจากความสนิทสนมระหว่างเธอกับผู้ชายคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาไม่ใช่เหรอ “กล้องวงจรปิดในวันนั้นถูกทำลาย ไม่มีหลักฐานแน่ชัด อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ผมจะไปตรวจสอบดูอีกครั้งว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า คงจะดีถ้าตอนนั้นคุณทิ้งหลักฐานอะไรไว้…” ฮั่วซุนพลางจะไปจัดการธุระพลางพูดวิเคราะห์ “เดี๋ยว...” เจียงเหยาจิงหยุดเขา “ช่างมันเถอะ” มาคิดดูแล้ว ในสถานการณ์แบบนั้น ผู้หญิงที่มีสัมพันธ์กับใครสักคนแล้ว จะมารักนวลสงวนตัวทำไม? เธอไม่ยอมขัดขืน แล้วยังอยากให้เธอบริสุทธิ์แค่ไหนกันเชียว? เป็นเพราะความต้องการของเขาสูงเอง ตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรกับเขาแล้ว! เธอจะเป็นผู้หญิงแบบไหน เขาคงไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนตอนแรก ฮั่วซุนไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ เขาถึงกลับคำ เขาถามอย่างสงสัย “คุณเฉิน ทำอะไรให้คุณโกรธหรือเปล่าครับ?” เจียงเหยาจิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาสลัวราวกับโปรยด้วยละอองฝุ่น ข้างในดำเข้มเหมือนหยดสีน
เธอไม่ได้เก็บเงินเลยในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เงินเดือนของเธอทั้งหมดหมดไปกับการรักษาแม่ ถ้าเป็นหมอไม่ได้ ก็คงทำได้เพียงเลือกทำงานอื่นชั่วคราว ความฝันอยากเป็นแพทย์ทหารคงต้องหยุดไว้ก่อน เธอไม่ได้ยอมแพ้ แต่เธอต้องยอมจำนนให้กับชีวิต ในอนาคตถ้ามีโอกาส เธอก็ยังอยากกลับไปทำอาชีพหมอต่อไป เธอออกจากโรงพยาบาลแล้วนั่งแท็กซี่กลับคฤหาสถ์ “คุณผู้หญิง ไม่สบายหรือเปล่าคะ? ทำไมหน้าดูซีด ๆ คะ?” ป้าหวู่ถามด้วยความห่วงใยทันทีที่เธอเดินมาถึงหน้าประตู ซ่งหยุนหยุนส่ายหน้า “เปล่าค่ะ” เธอเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินเข้าบ้าน “วันนี้คุณไม่ทำงานเหรอคะ?” ป้าหวู่ถาม ก่อนหน้านี้เธอยุ่งมาก บางวันก็ต้องเข้าเวรกลางคืน หัวใจของซ่งหยุนหยุนบีบตัวทันที เธอเงยหน้ามองป้าหวู่ จริง ๆ เธอควรจะไปทำงาน แต่... เธอระงับความขมขื่นและพูดด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ฉันหยุดค่ะ” ป้าหวู่ดีกับเธอมาก หล่อนเป็นเพียงความอบอุ่นเดียวของเธอในคฤหาสถ์แห่งนี้ เธอไม่อยากให้ป้าหวู่เป็นกังวลเรื่องของเธอ เธอพูดโอ้อวด “ฉันได้พักตั้งสองสามวันแน่ะ แถมผู้อำนวยการก็ให้ฉันหยุดด้วยนะคะ” “พัก? พักผ่อนบ้างก็ดีค่ะ ดูสิ ผอมขนาดนี้ งั้นก็ถือโอกาสนี้ดูแล
ซ่งหยุนหยุนนิ่งและไม่โต้ตอบ เธอเงยหน้าขึ้นแล้วมองเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะรู้ว่าตัวว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ไม่มีการตอบสนองใด ๆ ผู้ชายคนนี้คงพูดอะไรบางอย่างเพื่อทำให้เธอขายหน้าอีก เธอก้มหน้าลงแล้วตักข้าวคำใหญ่เข้าปาก เพื่อหวังว่าจะกินให้เสร็จเร็ว ๆ เจียงเหยาจิงขมวดคิ้วเมื่อเผชิญกับความเงียบของเธอ “ทำไมต้องกินเร็วขนาดนั้น? ไม่มีใครแย่งคุณหรอก” เขารู้สึกแปลกใจ เมื่อเห็นภาพเธอกินข้าวแบบไม่ห่วงภาพลักษณ์ เขาไม่ได้รู้สึกว่าเธอไม่มีมารยาท แต่กลับรู้สึกว่าน่ารักด้วยซ้ำ มันดูเป็นธรรมชาติมากกว่าผู้หญิงที่ชอบอวดและเสแสร้งเสียอีก ซ่งหยุนหยุนกลืมคำสุดท้ายเสร็จ พลันดื่มน้ำสองแก้วแล้วตอบกลับ “ฉันจะกินเร็วหรือช้า มันก็เรื่องของฉัน คุณจะมาสนใจทำไม?!” อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอตกงานเพราะเขา และไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวถูกเขาคุกคามอีก ให้มันแตกกันไปเลย! เจียงเหยาจิงค่อย ๆ ยกเปลือกตาขึ้นช้า ๆ พร้อมเผยแววตาเย็นชาที่อยู่ระหว่างคิ้ว “คุณอยากตายนักเหรอไง?” เธอใจกล้าบ้าบิ่นขนาดนั้นเลย? พูดสวนกลับแบบนั้นเลย? ไม่อยากทำงานแล้ว? ซ่งหยุนหยุนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ฉันรนหาที่ตาย ถ้าคุณฆ่าฉันได้โดยการใช
“คุณอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย กล้าทำก็กล้ารับหน่อยสิ? คุณผิดหวังที่ฉันโดนผู้ชายคนนี้ขืนใจไม่สำเร็จใช่ไหมล่ะ?” เธอกัดฟันกรอดเพื่อระงับอารมณ์ เจียงเหยาจิงสลัดเธอออก “ผมไม่ได้ทำ!” เธอถูกดหวี่ยงอย่างแรงจนเกือบล้ม แต่ดีที่ป้าหวู่รับไว้ทันไว้ “คุณเป็นเมียของผม ตราบใดที่คุณยังมีชีวิตอยู่ ผมจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนอื่นมาทำให้คุณด่างพร้อย และผมจะไม่ยอมให้คุณสวมเขาผมอีก!” สีหน้าของเขาบูดบึ้ง “มันเป็นใคร?” ซ่งหยุนหยุนมองเจียงเหยาจิง ตามอุปนิสัยของเขาแล้ว เขาน่าจะเป็นคนทำ จึงไม่จำเป็นต้องปฏิเสธถึงจะถูก นิสัยหยิ่งผยองขนาดนั้นไม่น่าจะเป็นคนที่ปอดแหก?! “พูดสิ มันเป็นใคร?” เจียงเหยาจิงโกรธมาก เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงโกรธมากขนาดนี้ พอรู้ว่าเธอเกือบโดนกระทำแบบนั้น! “คนเมื่อครั้งที่แล้ว...” ก่อนที่ซ่งหยุนหยุนจะพูดจบ เจียงเหยาจิงก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร ตอนที่เขาออกมาจากหลานเฉียว เขาเจอกู้ฮ่วย เขาจึงเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทันที! ไม่ว่าก่อนเกิดพายุท้องฟ้าจะมืดครึ้มแค่ไหน แต่สีหน้าของเขายิ่งกว่า เขาเดินออกไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ราวกับว่าต้องการเผชิญหน้ากับคนที่ลดค่าซ่ง
กู้ฮ่วยพยักหน้ายอมรับว่าซ่งหยุนหยุนกระตุ้นความสนใจของเขาจริง ๆ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบซ่งหยุนหยุนตรงไหน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุการณ์มันวุ่นวายจึงเข้าไม่ถึง? กล่าวโดยสรุป เขามีประทับใจผู้หญิงที่ทำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า! เจียงเหยาจิงรู้ว่ากู้ฮ่วยยังไม่ได้ล่วงเกินซ่งหยุนหยุน ความโกรธจึงลดลง แต่เมื่อรู้ว่าเขาชอบซ่งหยุนหยุน ความโกรธกลับพุ่งขึ้นอีกครั้ง แย่ยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้อีก! “คุณชอบอะไรในตัวเธอ?” เจียงหยาจิงดูไม่ออกจริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไร อะไรในตัวเธอที่ทำให้คนอื่นชอบ? จะมีอะไรอีกนอกจากใจง่าย? “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมแค่อยากได้” กู้ฮ่วยพูดโดยไม่ต้องคิด เจียงเหยาจิงขมวดคิ้ว เขารู้สึกเหมือนของของเขาถูกคนอื่นแย่งไป “อยู่ให้ห่างจากเธอซะ!” เสียงกล่าวเตือน กู้ฮ่วยสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น? เขากระซิบถาม “คุณเจียง คุณสนใจเธอด้วยหรือเปล่า?” ฮั่วซุนที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังก็หันมองไปมองเจียงเหยาจิงด้วย ดูเหมือนพฤติกรรมของเขาจะแปลก ๆ เขาคิดอย่างไรกับซ่งหยุนหยุน? เจียงเหยาจิงตกคอกเสียงจริงจัง “ผมจะไปสนใจผู้หญิงแบบนั้นได้ยังไง?” กู้ฮ่วยเม้มปาก “ทุกคนมีค